เคยลดน้ำหนักจาก 65 เหลือ 45 ใช้เวลา 5 เดือนคะ โดยการกินน้อยมากๆ ช่วง 2 เดือนแรก วันนึงประมาณ 700-900 แคลเอง พอ เดือนที่ 3 ก็กินเพิ่มเป็น 1200 แคล แล้วพอมาเดือนที่ 4 ที่ 5 ก็กิน เป็น 1500 แคล แล้วก็ออกกำลังกายทุกวัน 30 นาที - 1 ชั่วโมง ปรากฎว่าท้องผูกคะตั้งแต่วันแรกที่เริ่มลดเลย ทั้งที่เป็นคนระบบขับถ่ายดีมากกกกกกกกกกกกกก แต่พอมาลดความอ้วนกลับท้องผูก ทำให้ต้องกินยาระบายๆบ่อยๆ สวนด้วยนะบางที (แต่ทำยังไงมันก็ถ่ายไม่หมดท้อง เคยไปดีท็อกลำไส้ด้วยคะ ท้องอืดมาก ถ่ายออกมานิดเดียวเอง)  อาการเป็นประมาณว่า ไม่ปวดถ่ายเลย ต้องไปนั่งเบ่ง ให้ออก แถมถ่ายวันละนิดเดียวเองคะไม่สบายท้องเลย เลยคิดว่าน่าจะเป็นเพราะกินน้อย เลยลองกินเยอะๆวันนึงดู ซึ่งการกินเยอะวันนั้น ส่งผลให้ ตบะแตกกก  2 เดือนเต็มๆ กินวันละ 5000+ แคล น้ำหนักขึ้นมา เป็น 55 กิโล คิดว่าน่าจะเป็น Binge eating disorder กินเยอะจนแน่น พอแน่นก็ถ่ายออกวันละนิดเดียว อึดอัดมาก หาหมอมาหลายเดือนแล้วก็ไม่ดีขึ้น (หมอให้ยา forlax มากินคะ) อยากรู้ว่ามันเกิดจากอะไร จะทำยังไงดีคะให้กลับมาปวดท้องถ่ายเหมือนเดิม แล้วก็อยากเลิกอาการ Binge eating disorder นี้ด้วย ตอนนี้ไม่มีความสุขเลย คนรอบข้างก็ทักว่าอ้วนขึ้นนะ ไม่เจอกันแปปเดียวหน้าบานเท่าเดิมแล้ว ฮืออออ