คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
สติ.. ระลึกรู้...
ไม่ใช่จิต... ระลึกรู้...
จิตเพ่งตัวเอง???... คืออะไรครับ?...
ไม่เข้าใจ...
ลองตรวจดูว่า.... ลมหายใจมันแข็งกร้าวจนกลายเป็นสมถกัมมัฎฐานไปแล้วหรือเปล่าครับ?...
คิด... หยุดคิด... คิด... หยุดคิด... คิด... หยุดคิด... ==> บางทีกระบวนการที่ทำ... มันอาจไม่ใช่วิปัสสนากัมมัฎฐานนะครับ.
จะปล่อยวาง... ไม่คิด... ง่ายดายมาก สำหรับผม...
คุณ จขกท. จะลองนำไปปฏิบัติดูซักพักก็ได้... รับรองผล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วเรื่องการกำหนดสติ สงสัยต่อ เช่น ตามองเห็น เรากำหนด"เห็น" แต่ห้ามเอาไปคิดปรุงแต่งต่อใช่ป่ะ แล้วถ้าจะอ่านหนังสือ กำหนดเห็น ไม่ผ่านสมองคิด จะอ่านได้ไง นั่นคือถูกแล้วหรอ? สงสัยจะไม่ถูก เพราะถ้าทำแบบนั้นไปเรื่อย สมองจะไม่ได้ใช้เลยนะ จะโง่ลง แล้วที่ถูกต้องทำยังไง ??
________________________________________
คุณ จขกท. จะลองใช้วิธีของผมดูมั้ย?...เห็นว่า ถามวิธีการเกี่ยวกับการทำ "อานาปานสติ"
ผมใช้การรื้อเรือน...เป็นการเริ่มต้นทำ "อานาปานสติ" ...
วิธีการดูออกจะยืดยาวนิดหนึ่ง...แต่ผลที่ได้รับ...คุ้มค่า...สามารถนำไปปรับใช้กับปฏิปทาต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็น...อานาปานสติ...สติปัฎฐาน 4...หรือ สมถกัมมัฎฐานกองใดกองหนึ่งก็ได้...ใน 40 กอง
การรื้อเรือน...<ภาษาอังกฤษ ผมเรียกว่า Set Zero> มีวิธีการดังนี้
เริ่มต้นด้วยการหลับตา...นึกถึงภาพใบหน้าของตนเอง...ตอนที่ยังหนุ่ม/สาวอยู่ อายุราว ๆ 20 ต้น ๆ
จากนั้น ค่อย ๆ เพิ่มความกดดันเข้าไปในภาพนั้น...ให้ภาพนั้น...ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลง โดยการเพิ่มอายุขึ้นเรื่อย ๆ ...อาจจะฝืนความรู้สึกนิดนึง...
ค่อย ๆ ทำ...ช้า ๆ จาก 20 เป็น 25, เป็น 30, เป็น 35, เป็น 40, เป็น 45, เป็น 50, เป็น 60, เป็น 70, เป็น 80, เป็น 90 อย่าเพิ่งหยุด!
แน่นอน...ภาพที่ตั้งไว้ทีแรก จากคนหนุ่ม/สาว อายุ 20 ต้น ๆ เมื่อกลายเป็น คนสูงวัยขึ้น ก็เริ่มมีริ้วรอยที่ใบหน้า/รอบดวงตาเพิ่มมากขึ้น
ผมเผ้าหงอกขาว ฟันฟางเริ่มผุกร่อน...ไปจนกระทั่งถึงกับหักหมดปาก...เคล็ดลับก็คือ...เมื่อวัยเริ่มสูงขึ้น...ให้ตั้งสติพิจารณาเน้น ๆ ไปที่...
...ลมหายใจ ที่ผ่านปลายจมูกในขณะนั้น!
จะเห็นลมหายใจค่อย ๆ หยาบขึ้น...ความรู้สึกเริ่มเครียดขึ้น...บางทีอาจรู้สึกเศร้าจนเกือบเหมือนน้ำตาจะไหลออกมา.
ให้ค่อย ๆ ปรับลมหายใจให้แผ่วลง ๆ ๆ ๆ ละเอียด ๆ อุ่น ๆ แผ่ว ๆ ริน ๆ สบาย ๆ อยู่ที่ปลายจมูก ปรับช้า ๆ เน้นให้ช้าที่สุด
ระวังอย่าให้มีความอึดอัดอันใด ๆ ...อยู่ตลอดบริเวณ หน้าอก ลำคอ หน้าท้อง ท้องน้อย ฯลฯ
ให้ผ่อนคลายร่างกายทั้งหมดลงให้ถึงที่สุด...บางทีอาจรู้สึกว่า ร่างกายหง่อมค้อมลงไป...เป็นธรรมชาติ ไม่ต้องตกใจ!
สำหรับอายุและริ้วรอยนั้น...ให้เพิ่มขึ้นไปอีก...ดูซิ...จะปรับเพิ่มขึ้นไปอีกได้มั้ย? จาก 90 เป็น 100, เป็น 110, เป็น 120, เป็น 130, เป็น 140
ยังทำได้อยู่มั้ย?...
เมื่อถึงที่สุดแล้ว...พอแล้ว...จากนั้น...ให้ค่อย ๆ ทำ (อย่างช้า ๆ) ปรับเป็นภาพร่างกายที่...หมดเรี่ยวหมดแรง..หายใจริน ๆ สบาย ๆ
.เหลือคล้าย ๆ เป็นเพียงก้อนเนื้อเหี่ยว ๆ ก้อนหนึ่ง...ก่อนที่จะเปลี่ยนภาพเป็น ขี้เถ้าขาว ๆ
แล้วปลิวหายเป็นภัสมธุลี...ลับตาไป...ในอากาศอันเวิ้งว้าง...ว่างเปล่า!
ยังคงหมอบลงไป...ถ้ายังพอใจที่จะหมอบ...(ผมเรียกตรงนี้ว่า...บัวตูม)
แต่ถ้าเห็นว่าพอแล้ว...ให้ค่อย ๆ เงยขึ้นมา...สังเกตลมหายใจที่ปลายจมูก... ยังคงริน ๆ แผ่ว ๆ สบาย ๆ (ผมเรียกตรงนี้ว่า...บัวบาน)
ตั้งต้นจากตรงนี้...ผมจึงจะเริ่มปฎิบัติ “ภาวนา” เป็นขั้นเป็นตอน...ต่อไป...
ถ้าคุณ จขกท. ได้ปฏิบัติตามวิธีของผมมาจนถึงตรงนี้...หลังจากนั้น...คุณ จขกท. จะใช้วิธีภาวนาต่อไปอย่างไร...ก็สุดแท้แต่...
เช่น ...ทำอานาปานสติต่อไป...ดูความเกิด-ดับ ของรูป-นาม ก็ได้...หรือจะใช้วิธีเดินจงกรม ตามแนวสติปัฎฐานสี่ก็ได้ (คือ กาย-เวทนา-จิต-ธรรม)
ลองทำดู...เสียเวลาไม่กี่วัน...เพื่อทำความคุ้นเคย หลังจากนั้น...ลมหายใจโปร่งที่ปลายจมูกแบบนี้ ก็จะอยู่กับ คุณ จขกท. ไปตลอด.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลองทำซัก 1,000 ครั้งภายในระยะเวลา 1 เดือน... แล้วอีก 1 เดือนถัดไป พยายามเข้าสู่ลมหายใจโปร่ง ๆ เย็น ๆ นั้นให้ได้ทันที...(โดยไม่ต้องนึกภาพ) ... แล้วก็พยายามมากขึ้นไปอีก ด้วยการอยู่กับลมหายใจนั้นให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้... ตลอดทั้งวันทั้งคืน/ตลอด 8-6 ชั่วโมง /ตลอด 4-5 ชั่วโมง / ตลอด 1-2 ชั่วโมง / ตลอดครึ่งชั่วโมง... อะไรก็ได้ ที่ทำได้
ไม่ใช่จิต... ระลึกรู้...
จิตเพ่งตัวเอง???... คืออะไรครับ?...
ไม่เข้าใจ...
ลองตรวจดูว่า.... ลมหายใจมันแข็งกร้าวจนกลายเป็นสมถกัมมัฎฐานไปแล้วหรือเปล่าครับ?...
คิด... หยุดคิด... คิด... หยุดคิด... คิด... หยุดคิด... ==> บางทีกระบวนการที่ทำ... มันอาจไม่ใช่วิปัสสนากัมมัฎฐานนะครับ.
จะปล่อยวาง... ไม่คิด... ง่ายดายมาก สำหรับผม...
คุณ จขกท. จะลองนำไปปฏิบัติดูซักพักก็ได้... รับรองผล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วเรื่องการกำหนดสติ สงสัยต่อ เช่น ตามองเห็น เรากำหนด"เห็น" แต่ห้ามเอาไปคิดปรุงแต่งต่อใช่ป่ะ แล้วถ้าจะอ่านหนังสือ กำหนดเห็น ไม่ผ่านสมองคิด จะอ่านได้ไง นั่นคือถูกแล้วหรอ? สงสัยจะไม่ถูก เพราะถ้าทำแบบนั้นไปเรื่อย สมองจะไม่ได้ใช้เลยนะ จะโง่ลง แล้วที่ถูกต้องทำยังไง ??
________________________________________
คุณ จขกท. จะลองใช้วิธีของผมดูมั้ย?...เห็นว่า ถามวิธีการเกี่ยวกับการทำ "อานาปานสติ"
ผมใช้การรื้อเรือน...เป็นการเริ่มต้นทำ "อานาปานสติ" ...
วิธีการดูออกจะยืดยาวนิดหนึ่ง...แต่ผลที่ได้รับ...คุ้มค่า...สามารถนำไปปรับใช้กับปฏิปทาต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็น...อานาปานสติ...สติปัฎฐาน 4...หรือ สมถกัมมัฎฐานกองใดกองหนึ่งก็ได้...ใน 40 กอง
การรื้อเรือน...<ภาษาอังกฤษ ผมเรียกว่า Set Zero> มีวิธีการดังนี้
เริ่มต้นด้วยการหลับตา...นึกถึงภาพใบหน้าของตนเอง...ตอนที่ยังหนุ่ม/สาวอยู่ อายุราว ๆ 20 ต้น ๆ
จากนั้น ค่อย ๆ เพิ่มความกดดันเข้าไปในภาพนั้น...ให้ภาพนั้น...ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลง โดยการเพิ่มอายุขึ้นเรื่อย ๆ ...อาจจะฝืนความรู้สึกนิดนึง...
ค่อย ๆ ทำ...ช้า ๆ จาก 20 เป็น 25, เป็น 30, เป็น 35, เป็น 40, เป็น 45, เป็น 50, เป็น 60, เป็น 70, เป็น 80, เป็น 90 อย่าเพิ่งหยุด!
แน่นอน...ภาพที่ตั้งไว้ทีแรก จากคนหนุ่ม/สาว อายุ 20 ต้น ๆ เมื่อกลายเป็น คนสูงวัยขึ้น ก็เริ่มมีริ้วรอยที่ใบหน้า/รอบดวงตาเพิ่มมากขึ้น
ผมเผ้าหงอกขาว ฟันฟางเริ่มผุกร่อน...ไปจนกระทั่งถึงกับหักหมดปาก...เคล็ดลับก็คือ...เมื่อวัยเริ่มสูงขึ้น...ให้ตั้งสติพิจารณาเน้น ๆ ไปที่...
...ลมหายใจ ที่ผ่านปลายจมูกในขณะนั้น!
จะเห็นลมหายใจค่อย ๆ หยาบขึ้น...ความรู้สึกเริ่มเครียดขึ้น...บางทีอาจรู้สึกเศร้าจนเกือบเหมือนน้ำตาจะไหลออกมา.
ให้ค่อย ๆ ปรับลมหายใจให้แผ่วลง ๆ ๆ ๆ ละเอียด ๆ อุ่น ๆ แผ่ว ๆ ริน ๆ สบาย ๆ อยู่ที่ปลายจมูก ปรับช้า ๆ เน้นให้ช้าที่สุด
ระวังอย่าให้มีความอึดอัดอันใด ๆ ...อยู่ตลอดบริเวณ หน้าอก ลำคอ หน้าท้อง ท้องน้อย ฯลฯ
ให้ผ่อนคลายร่างกายทั้งหมดลงให้ถึงที่สุด...บางทีอาจรู้สึกว่า ร่างกายหง่อมค้อมลงไป...เป็นธรรมชาติ ไม่ต้องตกใจ!
สำหรับอายุและริ้วรอยนั้น...ให้เพิ่มขึ้นไปอีก...ดูซิ...จะปรับเพิ่มขึ้นไปอีกได้มั้ย? จาก 90 เป็น 100, เป็น 110, เป็น 120, เป็น 130, เป็น 140
ยังทำได้อยู่มั้ย?...
เมื่อถึงที่สุดแล้ว...พอแล้ว...จากนั้น...ให้ค่อย ๆ ทำ (อย่างช้า ๆ) ปรับเป็นภาพร่างกายที่...หมดเรี่ยวหมดแรง..หายใจริน ๆ สบาย ๆ
.เหลือคล้าย ๆ เป็นเพียงก้อนเนื้อเหี่ยว ๆ ก้อนหนึ่ง...ก่อนที่จะเปลี่ยนภาพเป็น ขี้เถ้าขาว ๆ
แล้วปลิวหายเป็นภัสมธุลี...ลับตาไป...ในอากาศอันเวิ้งว้าง...ว่างเปล่า!
ยังคงหมอบลงไป...ถ้ายังพอใจที่จะหมอบ...(ผมเรียกตรงนี้ว่า...บัวตูม)
แต่ถ้าเห็นว่าพอแล้ว...ให้ค่อย ๆ เงยขึ้นมา...สังเกตลมหายใจที่ปลายจมูก... ยังคงริน ๆ แผ่ว ๆ สบาย ๆ (ผมเรียกตรงนี้ว่า...บัวบาน)
ตั้งต้นจากตรงนี้...ผมจึงจะเริ่มปฎิบัติ “ภาวนา” เป็นขั้นเป็นตอน...ต่อไป...
ถ้าคุณ จขกท. ได้ปฏิบัติตามวิธีของผมมาจนถึงตรงนี้...หลังจากนั้น...คุณ จขกท. จะใช้วิธีภาวนาต่อไปอย่างไร...ก็สุดแท้แต่...
เช่น ...ทำอานาปานสติต่อไป...ดูความเกิด-ดับ ของรูป-นาม ก็ได้...หรือจะใช้วิธีเดินจงกรม ตามแนวสติปัฎฐานสี่ก็ได้ (คือ กาย-เวทนา-จิต-ธรรม)
ลองทำดู...เสียเวลาไม่กี่วัน...เพื่อทำความคุ้นเคย หลังจากนั้น...ลมหายใจโปร่งที่ปลายจมูกแบบนี้ ก็จะอยู่กับ คุณ จขกท. ไปตลอด.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลองทำซัก 1,000 ครั้งภายในระยะเวลา 1 เดือน... แล้วอีก 1 เดือนถัดไป พยายามเข้าสู่ลมหายใจโปร่ง ๆ เย็น ๆ นั้นให้ได้ทันที...(โดยไม่ต้องนึกภาพ) ... แล้วก็พยายามมากขึ้นไปอีก ด้วยการอยู่กับลมหายใจนั้นให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้... ตลอดทั้งวันทั้งคืน/ตลอด 8-6 ชั่วโมง /ตลอด 4-5 ชั่วโมง / ตลอด 1-2 ชั่วโมง / ตลอดครึ่งชั่วโมง... อะไรก็ได้ ที่ทำได้
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
ใครเคยเกิดอาการเพ่งจิตเกินไปบ้าง แล้วจะปล่อยยังไง