ชีวิตเรามันยุ่งอยู่กับภาระการงานทั้งหลาย
มีเรื่องที่จะต้องกระทบอารมณ์จิตใจเราเยอะ
ถ้าเราไม่ได้ฝึกจิตของเราให้มีสติสมาธิปัญญา
จิตเราก็อาจจะวุ่นวายฟุ้งซ่าน
แล้วจิตที่มันฟุ้งซ่านมาก ๆ
คิดมาก ฟุ้งซ่านมาก วิตกกังวลมาก
สมองมันก็จะแย่ไปด้วย
ระบบสมองเราจะแย่
สมองหลั่งสารทำให้ทำให้เคร่งเครียด เคร่งตึง
บางคนก็อาจจะนอนไม่หลับหรือปวดศีรษะ
แล้วมันก็จะพาลไปสู่ระบบอวัยวะอื่น ๆ ของร่างกาย
ปรวนแปรไปหมด
โรคบางอย่างเหตุมาจากจิต
จิตที่มันสับสนวุ่นวายเศร้าโศกฟุ้งซ่าน
ถ้าเราไปหาหมอ หมอก็ให้ยาระงับชั่วคราว
ให้ยากล่อมประสาทบ้าง ให้ยานอนหลับบ้าง
แต่มันก็ไม่หายหมดเพราะว่าเหตุเราไม่ได้แก้
แต่ถ้าเราแก้ที่เหตุได้
เหตุคือจิตใจที่มันฟุ้งซ่านเร่าร้อนวิตกกังวล
ถ้าเราแก้ตรงนี้ได้มันก็ไม่ต้องกินยาอะไร
สมองไม่เครียด กินอิ่มนอนหลับสบาย หายป่วย
อย่างมีอาจารย์เป็นผู้หญิงสอนในมหาวิทยาลัยท่านหนึ่ง
เขากินไม่ได้นอนไม่หลับ กลัว
อันนั้นเขาพิจารณาเรื่องความตาย
แล้วก็กลัวไปหมดเลย
กลัวความตาย
เห็นใครก็ตาย พ่อแม่ ญาติ
กลายเป็นกลัว
จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ สอนหนังสือไม่ได้
ไปหาหมอ
หมอตรวจสุขภาพแล้วก็ไม่มีอะไร ไม่เป็นอะไร
หมอก็เลยส่งมาวัด ส่งมาหาพระให้พระช่วย
ก็เลยถามว่าเกิดมาจากอะไร
เขาก็เล่าให้ฟัง
เขาพิจารณาเรื่องความตายแล้วมันกลัวไปหมด
เมื่อเป็นเช่นนั้นเราก็หยุดเสียก่อน
หยุดคิดในเรื่องความตายเสียก่อน
เขาบอกมันหยุดไม่ได้ มันคอยจะคิด
คิดแล้วก็เป็น
ฉะนั้นทำอย่างไรเราจะหยุดได้
เราหยุดโดยไม่ต้องไปบังคับให้มันหยุด
เพียงแค่เรารู้สึกตัว เรามีสติรู้ตัว ได้ไหม
ก็ให้เขาทำเดี๋ยวนั้น
ลองทำดูซิ ลองรู้สึกตัว ลองดูใจตัวเองซิ
ใจตอนนี้มันเป็นอย่างไร
มันคิดใช่ไหม รู้ไว้
รู้ไว้เฉยๆ รู้ไว้เฉยๆ
เขาบอกรู้สึกจะดีขึ้น รู้สึกจะเบาขึ้น
เผลอ ๆ คิดอีกแล้ว
พอคิดอีกแล้วมันก็เป็นอีกแล้ว
ถ้าอย่างนั้นคอยดูไว้ คอยดูไว้
มันคิดก็รู้เฉย ๆ รู้เฉย ๆ
ก็ดีขึ้น
ก็เอาไปฝึก กลับไปฝึกที่บ้าน
ตอนหลังก็หาย สอนหนังสือได้
นี่คือถ้าเราไม่แก้ที่จิตใจซึ่งเป็นสาเหตุ
กินยาระงับมันเท่าไรมันก็ไม่ไหว
ดีไม่ดีก็ป่วยจากยาอีก
ฉะนั้นเราจะฝึกจิตของเราให้มันมีสติดีขึ้นมากขึ้น
ฝึกให้จิตเรามีสมาธิ สมาธิคือจิตที่มันตั้งมั่น
แล้วก็ฝึกให้มันมีปัญญาขึ้น
สูงสุดมันก็จะไปถึงวิมุตติได้
ธรรมบรรยาย การพัฒนาจิตเพื่อพัฒนาชีวิต
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๘)
.............................
ธัมโมวาท โดยหลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี
เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา
🧘ปฏิบัติ : เมื่อมีอาจารย์สอนมหาลัยหยุดคิดเรื่องความตายไม่ได้ จึงใช้การเจริญสติจนหาย
มีเรื่องที่จะต้องกระทบอารมณ์จิตใจเราเยอะ
ถ้าเราไม่ได้ฝึกจิตของเราให้มีสติสมาธิปัญญา
จิตเราก็อาจจะวุ่นวายฟุ้งซ่าน
แล้วจิตที่มันฟุ้งซ่านมาก ๆ
คิดมาก ฟุ้งซ่านมาก วิตกกังวลมาก
สมองมันก็จะแย่ไปด้วย
ระบบสมองเราจะแย่
สมองหลั่งสารทำให้ทำให้เคร่งเครียด เคร่งตึง
บางคนก็อาจจะนอนไม่หลับหรือปวดศีรษะ
แล้วมันก็จะพาลไปสู่ระบบอวัยวะอื่น ๆ ของร่างกาย
ปรวนแปรไปหมด
โรคบางอย่างเหตุมาจากจิต
จิตที่มันสับสนวุ่นวายเศร้าโศกฟุ้งซ่าน
ถ้าเราไปหาหมอ หมอก็ให้ยาระงับชั่วคราว
ให้ยากล่อมประสาทบ้าง ให้ยานอนหลับบ้าง
แต่มันก็ไม่หายหมดเพราะว่าเหตุเราไม่ได้แก้
แต่ถ้าเราแก้ที่เหตุได้
เหตุคือจิตใจที่มันฟุ้งซ่านเร่าร้อนวิตกกังวล
ถ้าเราแก้ตรงนี้ได้มันก็ไม่ต้องกินยาอะไร
สมองไม่เครียด กินอิ่มนอนหลับสบาย หายป่วย
อย่างมีอาจารย์เป็นผู้หญิงสอนในมหาวิทยาลัยท่านหนึ่ง
เขากินไม่ได้นอนไม่หลับ กลัว
อันนั้นเขาพิจารณาเรื่องความตาย
แล้วก็กลัวไปหมดเลย
กลัวความตาย
เห็นใครก็ตาย พ่อแม่ ญาติ
กลายเป็นกลัว
จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ สอนหนังสือไม่ได้
ไปหาหมอ
หมอตรวจสุขภาพแล้วก็ไม่มีอะไร ไม่เป็นอะไร
หมอก็เลยส่งมาวัด ส่งมาหาพระให้พระช่วย
ก็เลยถามว่าเกิดมาจากอะไร
เขาก็เล่าให้ฟัง
เขาพิจารณาเรื่องความตายแล้วมันกลัวไปหมด
เมื่อเป็นเช่นนั้นเราก็หยุดเสียก่อน
หยุดคิดในเรื่องความตายเสียก่อน
เขาบอกมันหยุดไม่ได้ มันคอยจะคิด
คิดแล้วก็เป็น
ฉะนั้นทำอย่างไรเราจะหยุดได้
เราหยุดโดยไม่ต้องไปบังคับให้มันหยุด
เพียงแค่เรารู้สึกตัว เรามีสติรู้ตัว ได้ไหม
ก็ให้เขาทำเดี๋ยวนั้น
ลองทำดูซิ ลองรู้สึกตัว ลองดูใจตัวเองซิ
ใจตอนนี้มันเป็นอย่างไร
มันคิดใช่ไหม รู้ไว้
รู้ไว้เฉยๆ รู้ไว้เฉยๆ
เขาบอกรู้สึกจะดีขึ้น รู้สึกจะเบาขึ้น
เผลอ ๆ คิดอีกแล้ว
พอคิดอีกแล้วมันก็เป็นอีกแล้ว
ถ้าอย่างนั้นคอยดูไว้ คอยดูไว้
มันคิดก็รู้เฉย ๆ รู้เฉย ๆ
ก็ดีขึ้น
ก็เอาไปฝึก กลับไปฝึกที่บ้าน
ตอนหลังก็หาย สอนหนังสือได้
นี่คือถ้าเราไม่แก้ที่จิตใจซึ่งเป็นสาเหตุ
กินยาระงับมันเท่าไรมันก็ไม่ไหว
ดีไม่ดีก็ป่วยจากยาอีก
ฉะนั้นเราจะฝึกจิตของเราให้มันมีสติดีขึ้นมากขึ้น
ฝึกให้จิตเรามีสมาธิ สมาธิคือจิตที่มันตั้งมั่น
แล้วก็ฝึกให้มันมีปัญญาขึ้น
สูงสุดมันก็จะไปถึงวิมุตติได้
ธรรมบรรยาย การพัฒนาจิตเพื่อพัฒนาชีวิต
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๘)
.............................
ธัมโมวาท โดยหลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี
เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา