จะทำตัวยังไงเมื่อเราต้องมาอยู่ในสังคมใหม่ที่เราไม่อยากอยู่?

สวัสดีค่ะ จขกท.มีเรื่องอยากระบาย อยากขอความเห็นและคำแนะนำจากที่ๆเพื่อนๆน้องๆค่ะ คือจขกท.เป็นเด็กม.ปลายคนนึงที่เคยอาศัยอยู่กรุงเทพ เรียนที่กรุงเทพ เกิดที่กรุงเทพ โตที่เกรงเทพ ทุกอย่างของ จขกท.อยู่ที่กรุงเทพหมดเลย ทั้งเพื่อน ทั้งความผูกพันธ์ทุกอย่าง ชีวิตของจขกท.กับการใช้ชีวิตกับเพื่อนม.ปลาย มันมีความสุขมากค่ะ มันสุนก มันมีสาระบ้างปนเครียดบ้างตามประสาของเด็กที่จะเริ่มเตรียมตัวเข้ามาหลัย แต่ทุกอย่างมันก็จบลง เมื่อจขกท.ต้องย้ายโรงเรียน บางคนคงคิดว่า แค่ย้ายโรงเรียน ไปอยู่โรงเรียนใหม่ เดี๋ยวก็ได้เพื่อนใหม่ เดี๋ยวก็ลืมเพื่อนที่โรงเรียนเก่า นี่คือประโยคที่ จขกท. เจอบ่อยมากค่ะ จขกท.ไม่อยากย้ายโรงเรียนเลยค่ะ แต่สุดท้ายก็ได้ย้ายโรงเรียนจนได้ ย้ายมาอยู่ที่ต่างจังหวัดค่ะ เหตุผลที่ย้ายก็ไม่พ้นจากปัญหาครอบครัว เพราะพ่อแม่เลิกกัน พ่อมีครอบครัวใหม่ แม่ก็มีคนใหม่ พ่อกับแม่เลิกรักกัน ตัดสินใจที่จะเดินแยกทางจากกัน สุดท้ายคนเป็นลูกอย่างเราก็ต้องมีหน้าที่เข้าใจพ่อกับแม่ว่าเขาก็มีเหตุผลของเขา ซึ่งเรื่องนี้จขกท.ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย แต่ก็ห้ามพ่อกับแม่ไม่ได้ พอเขาเลิกกันแล้ว จขกท.ต้องมาอยู่กับแม่ที่ ตจว. ซึ่งก้ต้องย้ายโรงเรียนด้วย
ตั้งแต่มาอยู่โรงเรียนใหม่ จขกท.คิดถึงโรงเรียนเก่ามาก คิดถึงตลอดเวลา คิดถึงเพื่อน คิดถึงครู คือมันปรับตัวยากมาก กับการเข้ากับเพื่อน เพราะเพื่อนม.ปลายมันช่างต่างจากเพื่อนตอนประถมเหลือเกิน มันเข้ากันยาก บางคนก็นิสัยไม่เหมือนกัน ชอบไม่เหมือนกัน อยู่กันเป็นกลุ่มใครกลุ่มมัน จขกท.เหงามาก ช่วงแรกๆของการไปโรงเรียน จขกท.นั่งคนเดียว กินข้าวคนเดียวตลอด แต่จขกท.ก็คุยกับเพื่อนในห้องอยู่นะคะ แต่แค่ไม่อยากไปอยู่ด้วยในกลุ่มของเพื่อน เพราะเราเข้ากับเขาไม่ได้ ไปกับเขาแล้วก็รู้สึกเหมือรนส่วนเกิน เขาสนิทกันรักกันอยู่แล้ว แล้วเราเข้าไปใหม่ในกลุ่มของเขา ซึ่งนิสัยก็ต่างกันทุกอย่างต่างกัน จขกท.เลยเลือกที่จะอยู่คนเดียวดีกว่า ไม่อึดอัดด้วย แต่พออยู่ไปได้เทอมนึงแล้ว จขกท.ก็มีเพื่อนที่ค่อนข้างสนิทแต่ก็ไม่สนิท เพราะเขาก็มีเพื่อนสนิทของเขาอยู่แล้ว เราก็แค่ไปไหนมาไหนกับเขา ก็แค่นั้นค่ะ พอกลับมาบ้าน จขกท. ก็เหมือนเด็กทั่วไป ที่เล่นโซเีชยล อ่านหนังสือ ทำกิจกรรมต่างๆ แต่แปลก ที่ไม่ได้คุยหรือสนใจอยากจะคุยกับเพื่อนคนใหม่เลย ไม่รู้สึกอยากเข้าหาเขาเลย นิสัยของ จขกท.กับเพื่อนคนใหม่อีกสองคนต่างกันมาก เราต่างกันทุกอย่าง ทั้งความคิด ความสนใจ ความชอบ ซึ่งเพื่อนอีกสองคนที่จขกท.ไปไหนมาไหนด้วย เขาสนิทกันมาก ชอบเหมือนกัน ความคิดเหมือนกัน ทำกิจกรรมเดียวกันได้ เวลาอยู่ด้วยกันสามคน จขกท.จะนิ่งและเงียบมาก เพราะไม่รู้จะสรรหาอะไรมาร่วมบทสนทนาด้วย เลยได้แต่นั่งยิ้ม นั่งหัวเราะกลบเกลื่อนไปกับเขา บอกเลยแต่ละวันที่ไปโรงเรียน ไม่มีวันไหนที่มีความสุขเลย จขกท.คิดถึงเพื่อนที่โรงเรียนเก่ามาก แต่ยังดีที่สมัยนี้มันติดตจ่อกันง่าย ก็ไลน์หากันบ้าง วิดีโอคอลกับเพื่อนๆ เพื่อนก็คิดถึงเรา เราก็คิดถึงเพื่อน เวลาเห็นเพื่อนไปไหนมาไหนด้วยกัน ไปเที่ยวนั่นนี่ด้วยกัน ถ่ายรูปลงโซเชียล แล้วรูปนั้นไม่มีจขกท. เพื่อนก็แท็กจขกท.ด้วย มันเศร้ามากๆ การที่ต้องย้ายโรงเรียในช่วงวัยนี้ของจขกท. มันเป็นอะไรที่เหงา มันก็แค่ความเหงา และความคิดถึงแหละ แต่สิ่งเหล่าน้มันมีผลมากที่สุดต่อจิตใจของ จขกท. จนตอนนี้เปิดเทอม2มาสองเดือนแล้ว ใกล้จะสอบกลางภาคแล้ว จขกท.ยังถามตัวเองอยู่เลย ว่าเรามาอยู่นี่แล้วหรอ เรามาอยู่นี่นานขนาดนี้เลยหรอ อยู่แบบเหงาๆ แบบฝืนๆกับการไปโรงเรียน บางทีน้ำตาก็จะไหลเวลาเห็นเพื่อนโพสต์รูปด้วยกันไปเที่ยวด้วยกัน เรียนด้วยกัน ตอนนั้นเพื่อนในห้องถ่ายรูปรวมของห้อง จขกท.เห็นแล้วน้ำตาไหลเลย กว่าจะสอบเข้าได้ กว่าจะรักกับเพื่อนได้ขนาดนั้น มันบอกไม่ถูก ตอนนี้ จขกท.อยู่บ้านกับน้องแค่สองคน เพราะแม่ไปทำงานไกลบ้าน ไม่ได้อยุ่ด้วยกันเลย แต่ก็มียายอยู่บ้านข้างๆกัน ยายกับน้าก็ดูแลจขกท.อยู่ กินข้าวกินปลาก็ทำกินเอง บางวันก็ไปกินที่บ้านยาย แต่มันเหงา มันมีแต่ความรู้สึกเหงา เสียใจ ความคิดถึง ติดอยู่ใจของ จขกท.อยู่เสมอ จขกท.ไม่มีเพื่อนเลย ไม่ได้ไปเที่ยวไหนกับเพื่อน ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ จขกท.กลายเป็นคนเงียบโดยไม่มีสาเหตุ ซึ่งต่างจากตอนที่อยู่ที่โรงเรียนเก่า จขกท.เป็นคนเฮฮามาก เล่นมุขฮาๆกับเพื่อน เวลามุขที่เล่นมันแป้ก ก้จะสนุกมาก 5555 จขกท.เป็นคนพูดมากด้วย แต่จะพูดมากและกล้าเล่นอะไรพิเรนท์ๆกับเพื่อนเท่านั้น แต่พอมาอยุ่นี่ทุกอย่างต่างกันมาก สังคมต่าง คนต่าง คือมันไม่มีอะไรเหมือนเดิมเลย วัฒนธรรมที่นี่โคตรต่างเลย บางวันก็แอบเบื่อ ที่จะต้องทำตามธรรมเนียมที่จะต้องทำซึ่งจริงๆแล้วไม่ต้องทำก็ได้ มันอธิบายไม่ถูก จขกท.ทราบค่ะว่าคนเราต้องรุ้จักปรับตัว ซึ่งจขกท.ก็ปรับตัวเข้ากับทุกอย่างค่ะ แต่ทุกอย่างที่ทำคือความฝืน ทุกอย่างคือฝืนตัวเอง ฝืนไปกินข้าวกับเพื่อนตอนวันหยุดเพราะอยากเข้ากับเพื่อนได้ ซึ่งจริงๆแล้วไม่อยากไปเพราะชอบทำกับข้าวกินเอง ฝืนตื่นแต่เช้าตรู่ ปกติตื่น6โมง อยู่ที่นี่ต้องตื่นตี5 ถ้าตื่น6โมงจะโดนเหล่าญาติๆและป้าๆข้างบ้านแขวะว่าตื่นสายไม่ทันใส่บาตร -..- ซึ่งเป็นไรที่แย่มาก จริงๆแล้วมันเปลี่ยนทุกอย่างแหละค่ะ จขกท.คิดถึงพ่อกับแม่ คิดถึงเวลาที่เราเคยอยู่ด้วยกัน ไปกินข้าวกันเป็นครอบครัว ไปช็อปปิ้ง มันมีความสุขมาก ตอนนี้มันไม่เหลืออะไรแล้ว ทุกอย่างมันจบลงไป แต่จขกท.ก็โอเคค่ะ แต่ไม่โอเคกับหลายๆเรื่อง มันก็แค่อดีตที่ผ่านมาแล้ว ย้อนเวลากลับไปแก้ไม่ได้แล้ว ตัวจขกท.เองก็เป็นลูก ไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้หรอกค่ะ จขกท.แค่เหนื่อยและเบื่อกับการฝืนตัวเองทำในสิ่งที่คนอื่นเขาทำกัน ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องทำเลยก็ได้ เบื่อรุ่นพี่ที่โรงเรียนที่อยากให้รุ่นน้องไหว้อย่างกับตัวเองเป็นศาลพระภูมิ เบื่อสังคมในห้องเรียนที่มันไม่มีใครเข้ากับเราได้เลย เบื่อเพื่อนที่เราต้องฝืนตัวเองตลอดเวลาอยู่กับเขา เบื่อนิสัยเพื่อน เบื่อทุกอย่างเลย ตอนนี้มันเบื่อไปหมด เบื่อจนที่ว่าจขกท.เลิกเล่นเฟซบุคไปเลย เพราะไม่อยากคุยกับเพื่อน ซึ่งมันน่ารำคาญมาก อยากจะเล่ารายละเอียด แต่มันก็ไม่ใช่เรื่อง เพราะจขกท.เองก็นิสัยต่างกันกับเขา นิสัยเด็กในเมืองกับเด็กตจว.มันต่างกันหลายอย่าง ดีบ้าง ไม่ดีบ้างต่างกันไป ข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ซึ่งตัวจขกท.เองก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไรขนาดนั้น แต่แค่คิดว่าความคิดของจขกท.ต่างจากเพื่อนที่นี่แค่นั้นเอง
บ่นมาซะยาวเลย 5555 มันมีหลายเรื่องค่ะ ถ้าเราโอเคกับที่ไหนสักแห่ง เราจะมีความสุขที่ได้อยู่ที่นั่น แต่ทุกวันนี้ จขกท.ไม่มีแม้แต่ความสุขเลย พ่อกับแม่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันกับจขกท. แถมทะเลาะกันอีก-..- อยู่ในบ้านกับน้องสองคน อยู่ในที่ที่ผู้คนต่างจากที่ที่เคยอยู่ วัฒนธรรมที่แปลก ความคอดของคนที่เข้ากับเราไม่ได้ ทุกอย่างมันเปลี่ยนหมดเลย นี่จะปีนึงแล้ว ยังไม่มีอะไรที่จะทำให้จขกท.รู้สึกตื่นเต้นหรือมีความสุขเลย มีแต่ความเหงา ความคิดถึง และความเบื่อ เบื่อหน่ายมากจริงๆ กับสังคมเพื่อน
ถ้าทุกคนที่อ่านกระทู้นี้ มีความคิดหรือเรื่องการทำตัวปรับตัวที่แนะนำจขกท.ได้ ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ตอนนี้คือมันเป็นอารมณืที่บอกไม่ถูก รวมถึงตอนี้กำลังเบื่อหน่ายเพื่อนที่โรงเรียน มันแย่มากค่ะกับความรู้สึกแบบนี้ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ขอบคุณค่ะ ถ้าพิมวกไปวนมายังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่