นานนานจะได้นั่งนานนานสักที และนานนานจะได้ดูจิตสักที เลยได้สภาวะที่แปลกแต่(ไม่)ดี

กระทู้สนทนา
คือ ดูไปก็มีภาพร่วมด้วยตลอดเลย และภาพนั้นก็จะสัมพันธ์กับความรู้สึกนั้น  พอรู้ไปสักพักก็ดับไป แต่ไม่ค่อยทันตอนดับกับตอนเกิด ต้องมาคอยเฝ้าดูเรื่อยๆ (ไม่เหมือนตอนสติดีๆ) การเห็นภาพก็ เช่น ภาพเดินขึ้นเขากับอารมณ์เหนื่อย ,สุดท้ายเป็น ภาพพวกตะไคร่น้ำที่เกาะตามหินสลับกับภาพอดีตกับอารมณ์ไม่พอใจที่อยุ่ชั้นลึกสุดของเรา  เป็นอาการของคนห่างการนั่งนานๆ พอนั่งนานๆ แล้วความง่วงเข้าครอบงำมากขึ้นๆ สติอ่อน จับความรู้สึกไม่ชัด ภาพเลยแทรกสลับเข้ามาไปกลับกับอารมณ์อย่างรวดเร็วจนเหมือนเกิดขึ้นพร้อมๆกัน ภาพก็ไม่ค่อยสมบูรณ์ อารมณ์ก็ไม่สมบูรณ์ เพราะสติตัวรู้ไม่สมบูรณ์
นั่งดูจิตดูความรู้สึกไปน่าจะประมาณเกือบชั่วโมง ไม่สงบดิ่งไปเรื่อยๆ แต่สงบแบบพอประมาณทรงตัวอยู่อย่างนั้น ประมาณไม่เห็นแสง  มืดๆมีเพียงแสงบางๆเหมือนคลุมตัวอยู่เป็นส่วนๆ รู้สึกผิวห้าวทั้งตัว จนก่อนจะออกความง่วงก็ปรากฏชัดและมีอิทธิพล ทำให้การรู้สึกตัวลดลงไปมาก แต่ว่ามันก็เหมือนเวลาผ่านไปแป๊บเดียวเหมือนกัน ภาพและอารมณ์ผ่านไปหลายสิบชุด จนชุดลึกสุดถูกกำหนดรู้ หลังจากนั้นจิตใจก็เบาบางลงเยอะเลย

คงเป็นเพราะทิ้งการปฏิบัติแบบนั่งเกิน 1 ชั่วโมงมานาน(หลายเดือน) กำลังใจมันลดลง... เพราะผิดหวังเรื่องนิมิต ที่ยึดติดมานาน

มาเล่า อารมณ์ให้ฟัง ตามเจตนารมณ์ห้องเล่าเรื่องภาวนา... เผื่อสายอ.ปราโมทย์ ที่มีองค์ความรู้จะมาอธิบายเพิ่ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่