ในวันที่เหลือเงินแค่ 160 บาทในกระเป๋าตัง

เดิมทีผมทำงานได้เงินเดือนพอประมาณ  มีเงินเก็บ มีการลงทุนในหุ้นและอสังหาปล่อยเช่า
แต่เนื่องจาก 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทางบ้านมีปัญหา จึงต้องนำเงินไปช่วยเหลือ
เงินสดที่มีเก็บ หมดเกลี้ยง เงิดเดือนที่อยู่ใน ATM หมดเกลี้ยง เหลือแต่เงินเก็บที่ถอนไม่ได้ เช่น LTF/RMF
และอสังหาปล่อยเช่า ที่ยังคงผ่อนกับธนาคารอยู่
วันนี้ เหลือเงินอยู่ในกระเป๋าตัง 160 บาท  ATM ก็ไม่เหลือเงินให้กด เหลืออีกตั้งหลายวันกว่าเงินเดือนจะออก
แทนที่จะเครียด ผมกลับหัวเราะ และคิดต่อไปว่า จะใช้ชีวิตให้อยู่รอดอย่างไร (กลับรู้สึก Challenge ซะงั้น)
ที่ผ่านมากระบวนการชีวิตเริ่มปรับโหมดไปแล้ว เช่น กาแฟเย็นแก้วละ 60 บาท(งด/ชงเองที่บริษัท)
ข้าวกลางวันที่ร้านดีๆกับเพื่อนร่วมงาน(งด/ทานที่โรงอาหาร) ข้าวเย็นทำกินเอง
ซึ่งบางครั้งมันทำให้รู้สึกว่า ได้เจออีกมุมหนึ่งของชีวิต ที่ไม่ได้เลวร้ายซะทีเดียว แถมลองอะไรใหม่ๆ ที่ปกติไม่ได้แม้แต่จะมองด้วยซ้ำ
ต่อไป คือการวางแผนต่อ ว่าจะหาเงินจากไหนเพื่อให้อยู่รอดอีก 7 วัน ก่อนเงินเดือนออก ซึ่งก็พอมีทางออกอยู่ในหัวแล้ว

จากเหตุการณ์นี้ทำให้ผมรู้ว่า เงินสำรองฉุกเฉินนั้นมีความสำคัญ รวมถึงกระแสเงินสด
และการวางแผนการเงินนั้นก็สำคัญมากเช่นกัน อย่าประมาท เพราะชีวิตเราอะไรก็เกิดขึ้นได้

สุดท้าย หลายๆคน คงไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ และหลายๆคน ก็คงเจอเหตุการณ์คล้ายๆกันนี้
อย่าเอาความทุกข์ ความเครียดมาผูกติดกับตัวเอง ซึ่งมันจะบั่นทอนพลังและกำลังใจของเรา
ลองเปลี่ยนมุมคิด วางแผน และลงมือทำ เดี๋ยวปัญหาต่างๆจะค่อยๆคลีคลาย

สู้ๆนะครับ ขอให้ทุกท่านโชคดี