เหตุเกิดที่เขาใหญ่ขออนุญาติไม่เอ่ยชื่อสถานที่พักนะคะ เราได้จองที่พักผ่านแอพราคาที่พักประมาณ 6000-7000 บาท วันที่ 11/10/2025 เห็นรีวิวดีที่พักเป็นระเบียงกว้างไม่มีกระจกตรงระเบียงนะคะ ในใจก็คิดว่าคงจะปลอดภัยแน่ๆ เดินทางจากกรุงเทพไปถึงที่พักประมาณ 20.00 น. พอไปถึงที่พักแล้วด้วยความที่ช่วงเวลานี้มืดแล้วไม่ได้เห็นด้านล่างของสถานที่พักว่ามีความอันตรายอย่างไร ช่วงเวลา 20.30 น.ได้พากันออกไปกินข้าวกลับมาที่พักอีกครั้งช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. ได้ลงแช่ในอ่างและขึ้นอาบน้ำพร้อมเข้านอนช่วงเวลาประมาณ 23.30 น. ในขณะที่หลับอยู่ช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนมีโจรปีนขึ้นมากรีดที่โดมและล้วงเอากระเป๋าเงินไป 2 ใบ มีสินทรัพย์และเงินสดรวมมูลค่านับแสนในขณะที่เราและแฟนกำลังนอนอยู่ตื่นเช้ามาก็ไม่ได้เอะใจเพราะคิดว่าแฟนย้ายที่ว่างกระเป๋าเงินจนกระทั่งเดินไปที่รถและจะนำกระเป๋าเก็บที่หลังรถแต่เปิดรถไม่ได้เพราะกุญแจรถอยู่ในกระเป๋าแฟนจึงรีบไปหากระเป๋าในห้องพักแต่ไม่พบกระเป๋าและพบว่าโดมมีรอยกรีดช่วงที่วางกระเป๋าเงิน ขอแจ้งนะคะกระเป๋าเงินวางไว้บนหัวนอนเลยค่ะซึ่งไม่ห่างจากตัวเลยค่ะ และในการจองที่พักไม่ได้มีเงื่อนไขว่าต้องแจ้งมูลค่าทรัพย์สินที่นำมาด้วย หลังจากเกิดเรื่องทางที่พักได้โอนเงินตามที่ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายให้ 5000 บาท และได้ปั๊มกุญแจให้อีก 2 ดอกตามที่ถูกลักขโมยไป หลังจากได้มีการแจ้งความเสร็จก็ได้สอบถามกับทางที่พักว่าในส่วนนี้มีเยียวยาให้หรือไม่ ทีแรกทางที่พักบอกมีเยียวยาในส่วนนี้แน่นอนพอผ่านมา 1 วันทางที่พักบอกได้ชดใช้ตามกฎหมายไปแล้ว เหมือนพิมพ์มาเป็นนัยๆว่าหากอยากได้ก็ไปฟ้องเอา เพราะทางที่พักก็เสียหายเหมือนกัน ส่วนตัวคิดว่าทางที่พักน่าจะปลอดภัยและวางของมีค่าไว้ใกล้ตัวมากๆ เรากับแฟนได้วางแผนว่าจะไปเที่ยวไปใช้เงินจึงนำเงินสดไปด้วยซึ่งเงินที่นำไปมีแต่เงินสดเพราะก่อนน่านี้บัญชีธนาคารมีการโดนอายัดยอดเงินหายตามข่าวเราก็กลัวจึงเก็บเงินสด แต่ไม่มีหลักฐานมายืนยันว่ามีเงินทั้งหมดเท่าไหร่ ไปเที่ยวมากี่ที่ก็ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ส่วนตัวก็ประมาทที่พกเงินไปมากขนาดนั้นแต่มองว่าที่พักราคาแบบนี้ไม่ควรมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นค่ะ ความปลอดภัยควรมีมากกว่านี้หากตื่นมาเจอแล้วโดนปาดคอจะทำอย่างไร ทั้งหมดทั้งมวลเราเองก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเพราะทางที่พักแจ้งว่าเราสร้างสถานการณ์หรือเปล่า เราไม่จำเป็นต้อวสร้างสถานการณ์เลยค่ะเพราะเงินมากขนาดนั้นเราเอาไปใช้ได้สบายแล้วไม่มีเหตุต้องทำอะไรแบบนั้น จากวันหยุดจะไปเที่ยวใช้เงินสบายใจแต่ต้องกลับบ้านพร้อมกับเงิน 5000 บาท ไม่มีเงินสดติดตัวกันเลยสักบาท ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาใช้ประทังชีวิตเพราะเงินที่เก็บมาทั้งชีวิตโดนขโมยไปหมดแล้ว ทางตำรวจก็แจ้งว่าผู้ต้องสงสัยไม่ไปเก็บลายนิ้วมือหรือให้ความร่วมมือใดๆเลย ทางที่พักให้รอตำรวจสรุปคดีแต่ตำรวจแจ้งว่าไม่ต้องรอสามารถคุยกับที่พักได้เลย ลึกๆในใจก็คิดว่าไม่น่าจะได้คืนและไม่น่าจะจับตัวคนร้ายได้แน่นอน ทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ
อยากสอบถามคนที่ชอบไปเที่ยวชมวิวเขาสวยๆ มีใครเคยเจอเหตุการณ์ลักทรัพย์ในที่พักบ้างคะ หลังจากแจ้งความแล้วมีบทสรุปอย่างไร