สวัสดีค่ะ
ที่เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะอยากหาเพื่อนที่เป็นโรคเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน
เราอยากรู้ว่าเพื่อนๆค้นพบตัวเองได้อย่างไร คือรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองสมควรไปพบจิตแพทย์
ส่วนของเรา ตอนแรกเราไม่รู้เลย รู้แค่ว่าตัวเองรู้สึกเปลี่ยนไป
อาการที่เป็นนะคะ
1. ไม่มีสมาธิ ขี้ลืม
2. กังวล กลัวเพื่อนร่วมงานนินทา กลัวหัวหน้าไม่แฮปปี้กับเรา
3. ร้องไห้ง่ายมาก ทำงานเครียด กดดัน ต้องแอบไปนั่งร้องไห้
4. เบื่ออาหาร ของที่เคยชอบ ก็ไม่รู้สึกอยากกิน ไม่อยากกินอะไรเลย ขนาดว่าหิวมากก็ต้องฝืนกินไปนิดเดียว
5. ชอบรู้สึกเหมือนอยากตาย (แต่ไม่เคยคิดฆ่าตัวตายนะคะ แค่มีแวบนึงที่รู้สึกว่า เบื่อจัง ถ้าตายไปจะดีกว่ามั้ย)
6. อาการหอบหืดกำเริบ พ่นยาวันละหลายรอบ
7. ปวดท้องบ่อยๆ
8. อ่อนเพลียตลอดเวลา เหมือนนอนไม่พอตลอดเวลา ไม่สดชื่น ไม่แอคทีฟในการทำอะไรใดๆทั้งสิ้น
9. เกมส์ที่ชอบเล่นก็ไม่อยากเล่น เพลงที่ชอบฟังบางทีก็ไม่อยากฟัง จะอ่านอะไรทีก็ดูได้แต่รูป ทั้งๆที่ปกติเป็นคนชอบอ่านหนังสือ
จนเราไปเดินเซเว่น เจอหนังสือ sook magazine หน้าปกเป็นเรื่อง โรคทางอารมณ์ Mood Disorder
ข้างในมีรายละเอียด และแบบทดสอบให้เรา check ดูว่ามีอาการเข้าข่ายหรือไม่
สรุปเรามี % ที่จะเป็นค่ะ
เลยลองหาข้อมูลดู ทำแบบทดสอบเพิ่มอีก สรุป ผลออกมาเหมือนกัน ว่าสมควรพบจิตแพทย์
ก็เลยลองไปดูค่ะ ใช้ประกันสังคมด้วย บอกเลยว่า รู้สึกมีอาการเหมือนจะเป็นโรคซึมเศร้าต้องการพบจิตแพทย์
เค้าก็จะให้คุยกับหมอโรคทั่วไปก่อน แล้วก็นัดหมอจิตแพทย์ให้
สรุปคือ เราได้พบจิตแพทย์ และหมอวินิจฉัยว่า เราเป็น โรควิตกกังวลและซึมเศร้า
แต่ยังอยู่ในระดับต่ำ ให้ยาแบบต่ำสุด
หมอสอนวิธีคิด ว่าควรจะคิดยังไง มองธรรมชาติเป็นยังไง
คำพูดที่จำขึ้นใจจนเป็นสโลแกนเราคือ "ใครจะว่าเรา นินทาเรา คำพูดเค้าก็ไม่สามารถเปลี่ยนตัวเราได้"
คำนี้ชอบมากเลยค่ะ จำไว้สอนใจตลอด เวลาจะมีอาการวิตกกังวล
หมอบอกอีกว่า ในมุมมองของจิตแพทย์ อาการทางจิตจะแสดงออกกับอวัยวะ 2 อย่างคือ
ปอด และ กระเพาะ
ดังนั้น ถ้าจิตแพทย์เห็นคนเป็นหอบ กับ ปวดท้อง ก็จะคิดในมุมของจิตแพทย์ว่า เค้าอาจมีอาการผิดปกติทางจิตร่วมด้วย
(ในที่นี้ไม่ได้บ้านะคะ แค่มันเป็นโรคๆนึงที่สามารถรักษาได้)
ตอนนี้ทานยา ปรับทัศนคติ แล้วดีขึ้นมาก
หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไป หมอนัดติดตามผล พบว่าเราดีขึ้น
แต่สิ่งที่ตอนนี้เรายังไม่ได้ปรึกษาหมอเพิ่มเติมคือ
เราตกใจง่าย ตกใจแล้วจะใจสั่นนานมากกว่าจะหาย
อีกอย่าง เรากลัวที่แคบด้วยค่ะ
เป็นตั้งแต่เด็ก จำได้ขึ้นใจ แม่ส่งไปเรียนเปียโน
แล้วมันเป็นห้องเล็กๆ แคบๆ อาจารย์ทิ้งเราไว้ ให้เราหัดเล่นคนเดียว
เราเลิกเรียนเลย เหตุผลคือกลัว
เพิ่งมารู้ว่ามันเป็นโรค ก็ตอนอ่านหนังสือเรื่อง Davinci Code แล้วพระเอกกลัวที่แคบนี่แหละ
แต่โดยรวมเราดีขึ้นมากจริงๆ บางวันอยู่ได้โดยไม่ต้องพ่นยาแก้หอบ
แปลกมาก ไม่เคยคิดเลยว่ามันเกี่ยวกัน
และกับเพื่อนร่วมงาน เราก็กังวลน้อยลง ทำตัวชิลๆ เพื่อนก็ชิลๆ เลิกงาน กลับบ้านมาก็ไม่เก็บอะไรมาใส่ใจ
ถือว่าอยู่บ้านก็พักผ่อน
ตอนนี้ดีขึ้นมากเลยค่ะ
เพื่อนๆเป็นอย่างไร ค้นพบตัวเอง และรักษายังไงบ้าง มาแชร์กันได้นะคะ
เผื่อมีประโยชน์กับคนอื่นๆที่ผ่านเข้ามาอ่านค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ใครเป็นโรคซึมเศร้าบ้าง และค้นพบตัวเองอย่างไรคะว่าเป็นโรคนี้
ที่เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะอยากหาเพื่อนที่เป็นโรคเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน
เราอยากรู้ว่าเพื่อนๆค้นพบตัวเองได้อย่างไร คือรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองสมควรไปพบจิตแพทย์
ส่วนของเรา ตอนแรกเราไม่รู้เลย รู้แค่ว่าตัวเองรู้สึกเปลี่ยนไป
อาการที่เป็นนะคะ
1. ไม่มีสมาธิ ขี้ลืม
2. กังวล กลัวเพื่อนร่วมงานนินทา กลัวหัวหน้าไม่แฮปปี้กับเรา
3. ร้องไห้ง่ายมาก ทำงานเครียด กดดัน ต้องแอบไปนั่งร้องไห้
4. เบื่ออาหาร ของที่เคยชอบ ก็ไม่รู้สึกอยากกิน ไม่อยากกินอะไรเลย ขนาดว่าหิวมากก็ต้องฝืนกินไปนิดเดียว
5. ชอบรู้สึกเหมือนอยากตาย (แต่ไม่เคยคิดฆ่าตัวตายนะคะ แค่มีแวบนึงที่รู้สึกว่า เบื่อจัง ถ้าตายไปจะดีกว่ามั้ย)
6. อาการหอบหืดกำเริบ พ่นยาวันละหลายรอบ
7. ปวดท้องบ่อยๆ
8. อ่อนเพลียตลอดเวลา เหมือนนอนไม่พอตลอดเวลา ไม่สดชื่น ไม่แอคทีฟในการทำอะไรใดๆทั้งสิ้น
9. เกมส์ที่ชอบเล่นก็ไม่อยากเล่น เพลงที่ชอบฟังบางทีก็ไม่อยากฟัง จะอ่านอะไรทีก็ดูได้แต่รูป ทั้งๆที่ปกติเป็นคนชอบอ่านหนังสือ
จนเราไปเดินเซเว่น เจอหนังสือ sook magazine หน้าปกเป็นเรื่อง โรคทางอารมณ์ Mood Disorder
ข้างในมีรายละเอียด และแบบทดสอบให้เรา check ดูว่ามีอาการเข้าข่ายหรือไม่
สรุปเรามี % ที่จะเป็นค่ะ
เลยลองหาข้อมูลดู ทำแบบทดสอบเพิ่มอีก สรุป ผลออกมาเหมือนกัน ว่าสมควรพบจิตแพทย์
ก็เลยลองไปดูค่ะ ใช้ประกันสังคมด้วย บอกเลยว่า รู้สึกมีอาการเหมือนจะเป็นโรคซึมเศร้าต้องการพบจิตแพทย์
เค้าก็จะให้คุยกับหมอโรคทั่วไปก่อน แล้วก็นัดหมอจิตแพทย์ให้
สรุปคือ เราได้พบจิตแพทย์ และหมอวินิจฉัยว่า เราเป็น โรควิตกกังวลและซึมเศร้า
แต่ยังอยู่ในระดับต่ำ ให้ยาแบบต่ำสุด
หมอสอนวิธีคิด ว่าควรจะคิดยังไง มองธรรมชาติเป็นยังไง
คำพูดที่จำขึ้นใจจนเป็นสโลแกนเราคือ "ใครจะว่าเรา นินทาเรา คำพูดเค้าก็ไม่สามารถเปลี่ยนตัวเราได้"
คำนี้ชอบมากเลยค่ะ จำไว้สอนใจตลอด เวลาจะมีอาการวิตกกังวล
หมอบอกอีกว่า ในมุมมองของจิตแพทย์ อาการทางจิตจะแสดงออกกับอวัยวะ 2 อย่างคือ
ปอด และ กระเพาะ
ดังนั้น ถ้าจิตแพทย์เห็นคนเป็นหอบ กับ ปวดท้อง ก็จะคิดในมุมของจิตแพทย์ว่า เค้าอาจมีอาการผิดปกติทางจิตร่วมด้วย
(ในที่นี้ไม่ได้บ้านะคะ แค่มันเป็นโรคๆนึงที่สามารถรักษาได้)
ตอนนี้ทานยา ปรับทัศนคติ แล้วดีขึ้นมาก
หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไป หมอนัดติดตามผล พบว่าเราดีขึ้น
แต่สิ่งที่ตอนนี้เรายังไม่ได้ปรึกษาหมอเพิ่มเติมคือ
เราตกใจง่าย ตกใจแล้วจะใจสั่นนานมากกว่าจะหาย
อีกอย่าง เรากลัวที่แคบด้วยค่ะ
เป็นตั้งแต่เด็ก จำได้ขึ้นใจ แม่ส่งไปเรียนเปียโน
แล้วมันเป็นห้องเล็กๆ แคบๆ อาจารย์ทิ้งเราไว้ ให้เราหัดเล่นคนเดียว
เราเลิกเรียนเลย เหตุผลคือกลัว
เพิ่งมารู้ว่ามันเป็นโรค ก็ตอนอ่านหนังสือเรื่อง Davinci Code แล้วพระเอกกลัวที่แคบนี่แหละ
แต่โดยรวมเราดีขึ้นมากจริงๆ บางวันอยู่ได้โดยไม่ต้องพ่นยาแก้หอบ
แปลกมาก ไม่เคยคิดเลยว่ามันเกี่ยวกัน
และกับเพื่อนร่วมงาน เราก็กังวลน้อยลง ทำตัวชิลๆ เพื่อนก็ชิลๆ เลิกงาน กลับบ้านมาก็ไม่เก็บอะไรมาใส่ใจ
ถือว่าอยู่บ้านก็พักผ่อน
ตอนนี้ดีขึ้นมากเลยค่ะ
เพื่อนๆเป็นอย่างไร ค้นพบตัวเอง และรักษายังไงบ้าง มาแชร์กันได้นะคะ
เผื่อมีประโยชน์กับคนอื่นๆที่ผ่านเข้ามาอ่านค่ะ
ขอบคุณค่ะ