"โรคอ้วน" ไม่มีเส้นทางลัด มีแต่ต้องพยายาม

สวัสดีครับ เพื่อนคนไหนที่มีปัญหาเรื่องความอ้วนหรือกำลังกินยาลดนํ้าหนักอยู่ตอนนี้เลิกเถอะครับเพราะการกินยาลดความอ้วนอาจเป็นทางลัดไปสู่ความฝันของใครหลายคนนั้นอาจจะมีอันตรายต่อร่างกายของตัวเองได้เพราะยาลดความอ้วนอาจให้ผลข้างเคียงที่จะตามมาทีหลังที่เป็นโทษแก่เราเองได้และเป็นความเสี่ยงของคนที่กำลังกินหรืออาจจะกินไปแล้วความอันตรายของยานี้นั้นก็มีให้เห็นอยู่ และตัวยาลดความอ้วนเองก็มีให้เกลี่อนและหาชื้อง่าย
     ในปัจจุบันโรคอ้วนก็เป็นอีกสาเหตุของการนำโรคต่างมารวมกันที่ตัว (พูดง่ายๆ เลย) และทุกวันโรคอ้วนเริ่มมีมากขึ้นเพราะวิธีการกินการอยู่สาเหตุอาจมาจากกินเกินขอบเขตของพลังงานที่ได้รับต่อวันหรืออาจกินแล้วไม่ได้เผาผลาญพลังงานที่กินเข้าไปทำให้สะสมจนกลายเป็นไขมันหรือเรียกว่าโรคอ้วน และอีกสาเหตุคือพันธุกรรมหรือกรรมพันธ์จากครอบครัวที่เป็นโรคอ้วนทำให้ร่างกายสะสมไขมันได้สูง โรคเกี่ยวกับฮอร์โมน เช่น โรคเนื้องอกต่อมใต้สมอง หรือโรคต่อมไทรอยด์ทำงานพร่อง (ภาวะขาดไทรอยด์ฮฮร์โมน)  ผลเสียที่ตามมาของโรคอ้วนบอกได้ว่าไม่คุ้มค่าเลยจากการศึกษาของแพทย์บอกว่าโรคอ้วน นั้นจะมีอัตราเจ็บป่วยสูง และตายจากโรคแทรกซ้อนที่ตามมาทุกคนก็คงรู้อยู่แล้วว่ามีโรคอะไรกันบ้าง ทุกคนก็เห็นผลเสียของโรคนี้กันแล้ว ที่มีผลต่อสุขภาพและจิตใจของคนที่เป็นอาจเป็นทุกข์ เพราะการเป็นโรคอ้วนนี้มันส่งผลเสียหลายอย่างตามมาอีกมาก
     การกินยาไม่ใช่วิธีที่ถูกและไม่ใช่แค่ทางเดียวยังมีอีกวิธีการที่ปลอดภัยและให้ผลดีกว่าแต่ต้องพยายามคือออกกำลังกายทุกคนก็เลยได้เรียนมาหมดแล้วถึงข้อดีของการออกกำลังกายมันจะดีมากสำหรับคนที่เป็นโรคอ้วนที่หันมาออกกำลังกายแทนการกินยาลดนํ้าหนักที่ให้ผลเสียได้ ทุกวันนี้คนที่ออกกำลังกายเพื่อลดนํ้าหนักมีให้เห็นเยอะแยะ ยกตัวอย่างเพื่อนผมละกันที่มันเคยเป็นโรคอ้วน ผมมีเพื่อนที่เป็นโรคอ้วนเหมือนกันตอนนั้นซึ่งผมชวนมันมาวิ่งด้วยกัน (วิ่งคนเดียวมันหว้าเหว่) ตอนแรกมันไม่ยอมมาวิ่งกับผมหรอกเพราะสาเหตุมาจากมันขี้เกียจเพราะตัวมันหนัก
        ช่วงนั้นเพื่อนผมหนัก 120 กิโล มันบอกผมว่าขยับตัววิ่งยาก ผมก็พยายามลากมันมาวิ่งด้วยเกือบทุกวันแต่น้อยครั้งที่มันจะยอมออกมาวิ่งด้วย แต่ในที่สุด ความพยายามของผมที่จะลากมันออกมาก็สำเร็จมันยอมออกมาวิ่งกับผมเกือบทุกวันแต่บางครั้งมันก็ไปวิ่งเองเลย (ตอนที่ผมทำงานส่ง) ตอนนั้นเพื่อนผมยังไม่จริงจังในการวิ่งเท่าไรเพราะมันแค่ขยันวิ่งตอนต้นๆ เท่านั้นพอสักพักมันก็ไม่ได้วิ่งเลยเพราะมันบอกว่าขี้เกียจอีกตามเคย ผมรู้ว่าคนอ้วนหลายคนก็ขี้เกียจแต่ที่ขี้เกียจนั้นมีสาเหตุจากการขยับตัวที่ลำบากเพราะการขยับตัวของคนที่เป็นโรคอ้วนมันจะลำบากมัน บอกว่าอะไรก็ดูเกะกะไปหมดและออกกำลังกายเป็นเดี๋ยวก็ไม่ไหวและมันอยากเห็นผลไวๆ
        นั้นแหละเป็นสาเหตุของคนที่ต้องการลดความอ้วนที่เป็นอันตรายที่ต้องพึ้งยาเพราะคนเรานั้นใจร้อนต้องการเห็นผลแบบทันที ทำให้หันไปสนใจในทางลัดพร้อมกันภัยอันตรายของการกินยา (ต่อเพื่อนผมนะครับ) จากนั้นผมก็ยังพยายามลากมันมาวิ่งกับผมต่อ หลักจากผ่านไป 2 อาทิตย์ ผมให้มันไปชั่งนํ้าหนักแค่นั้นละเพื่อนผมก็ยิ้มเลยจาก 120  เหลือประมาณ 119 หลายคนมองอาจดูน้อยนะครับแต่สำหรับเพื่อนผมมันถือว่าเยอะนะเพราะความพยายามที่มันจะลดนํ้าหนักนานแล้วแต่ขี้เกียจนี้เลยถือว่าเป็นความพยายามของเพื่อนผม หลักจากมันก็ควบคุมอาหารการกินปัจจุบันตอนนี้มันเหลือแค่ 95 หลายคนอ่านอาจจะดูว่าเห้อจริงหราผมขอบอกเลยว่าจริง
        ถ้ามีรูปผมจะเอามาแปะให้ดู (ถ้ามีนะ) ที่ผมเขียนออกมาก็เพื่อให้กำลังใจคนที่เป็นโรคอ้วนให้หันมาออกกำลังกายแทนการกินยาลดความอ้วนที่อาจมีผลข้างเคียง
    ถ้าทุกคนหันหน้ามาออกกำลังกายแทนการกินยามันจะดีมาก ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายถ้าอยากได้ก็ต้องพยายามอย่างการลดความอ้วน ถ้าอยากลดก็ต้องพยายามเท่าตัวแล้วผลที่ออกมามันจะเป็นตัวชี้ว่าเรานั้นได้พยายามในส่วนของเราและมันจะทำให้เรามีร่างกายที่ดี (คงรู้อยู่แล้ว)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่