(ตามรอยพระราชา)
นับเป็นเวลา 70ปีแห่งการครองราชย์ ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งที่ผ่านมาปวงชนชาวไทยได้เห็นพระองค์ทุ่มเทพระวรกายทรงงานหนักมาโดยตลอด พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักคิด นักพัฒนา อีกทั้งยังเป็นนักแก้ปัญหาให้แก่ราษฎรและประเทศชาติอีกด้วย โดยจะเห็นได้ว่ามี โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่พระองค์สร้างขึ้นมานั้น มีมากมาย รวม4,447กว่าโครงการที่ทำมาล้วนเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและปวงชนชาวไทยทั้งสิ้น
ซึ่งในวันนี้ผู้สื่อข่าวได้นำเสนอ ความเป็นมาของ “ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรม ทดแทนการปลูกฝิ่น เป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง อยู่บนเทือกเขาแดนลาว ตำบล

อน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ตามแนวพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่9ทรงตรัสว่า “ให้เขาช่วยตัวเอง” เปลี่ยนพื้นที่จากไร่ฝิ่นมาเป็นแปลงเกษตรเมืองหนาวที่สร้างรายได้ดีกว่าเก่าก่อน
ทั้งนี้ประวัติความเป็นมาได้ระบุว่า สืบเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรที่หมู่บ้านผักไผ่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และได้เสด็จผ่านบริเวณดอยอ่างขาง ทรงทอดพระเนตรเห็นว่าชาวเขาส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ทำการปลูกฝิ่นแต่ยังยากจน
ทั้งยังทำลายทรัพยากรป่าไม้ต้นน้ำลำธารที่เป็นแหล่งสำคัญต่อระบบนิเวศน์ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนอื่นของประเทศได้ จึงทรงมีพระราชดำริว่าพื้นที่นี้มีภูมิอากาศหนาวเย็น มีการปลูกฝิ่นมาก ไม่มีป่าไม้อยู่เลยและสภาพพื้นที่ไม่ลาดชันนัก ประกอบกับพระองค์ทรงทราบว่าชาวเขาได้เงินจากฝิ่นเท่ากับที่ได้จากการปลูกท้อพื้นเมือง และทรงทราบว่าที่สถานีทดลองไม้ผลเมืองหนาวของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ทดลองวิธีติดตา ต่อกิ่งกับท้อฝรั่ง จึงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1,500 บาท เพื่อซื้อที่ดินและไร่จากชาวเขาในบริเวณดอยอ่างขางส่วนหนึ่ง
จากนั้นจึงโปรดเกล้าฯ ตั้งโครงการหลวงขึ้นเป็นโครงการส่วนพระองค์ เมื่อ พ.ศ. 2512 โดยทรงแต่งตั้งให้ หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการในตำแหน่งประธานมูลนิธิโครงการหลวง ใช้เป็นสถานีวิจัยและทดลองปลูกพืชเมืองหนาวชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไม้ผล ผัก ไม้ดอก เมืองหนาว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรชาวเขาในการนำพืชเหล่านี้มาเพาะปลูกเป็นอาชีพ ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้พระราชทานนามว่า “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง”
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงเปลี่ยน ยอดเขาหัวโล้น ให้กลายเป็นแปลงเกษตรเมืองหนาว ที่สร้างรายได้เลี้ยงชีพ และเป็นพื้นที่ที่สวยงามให้ได้ชื่นชมกันในนาม ดอยอ่างขาง ตามที่รู้จักกันมายาวนาน
Credit: 77jowo.tnews.co.th
เปิดเรื่องราว น่าทึ่ง!!! ของดอยอ่างขาง จากเขาหัวโล้นกลายเป็นแปลงเกษตรเมืองหนาว สร้างอาชีพชาวเขาตามแนวทางพระราชดำริ
นับเป็นเวลา 70ปีแห่งการครองราชย์ ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งที่ผ่านมาปวงชนชาวไทยได้เห็นพระองค์ทุ่มเทพระวรกายทรงงานหนักมาโดยตลอด พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักคิด นักพัฒนา อีกทั้งยังเป็นนักแก้ปัญหาให้แก่ราษฎรและประเทศชาติอีกด้วย โดยจะเห็นได้ว่ามี โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่พระองค์สร้างขึ้นมานั้น มีมากมาย รวม4,447กว่าโครงการที่ทำมาล้วนเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและปวงชนชาวไทยทั้งสิ้น
ซึ่งในวันนี้ผู้สื่อข่าวได้นำเสนอ ความเป็นมาของ “ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรม ทดแทนการปลูกฝิ่น เป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง อยู่บนเทือกเขาแดนลาว ตำบล
ทั้งนี้ประวัติความเป็นมาได้ระบุว่า สืบเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรที่หมู่บ้านผักไผ่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และได้เสด็จผ่านบริเวณดอยอ่างขาง ทรงทอดพระเนตรเห็นว่าชาวเขาส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ทำการปลูกฝิ่นแต่ยังยากจน
ทั้งยังทำลายทรัพยากรป่าไม้ต้นน้ำลำธารที่เป็นแหล่งสำคัญต่อระบบนิเวศน์ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนอื่นของประเทศได้ จึงทรงมีพระราชดำริว่าพื้นที่นี้มีภูมิอากาศหนาวเย็น มีการปลูกฝิ่นมาก ไม่มีป่าไม้อยู่เลยและสภาพพื้นที่ไม่ลาดชันนัก ประกอบกับพระองค์ทรงทราบว่าชาวเขาได้เงินจากฝิ่นเท่ากับที่ได้จากการปลูกท้อพื้นเมือง และทรงทราบว่าที่สถานีทดลองไม้ผลเมืองหนาวของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ทดลองวิธีติดตา ต่อกิ่งกับท้อฝรั่ง จึงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1,500 บาท เพื่อซื้อที่ดินและไร่จากชาวเขาในบริเวณดอยอ่างขางส่วนหนึ่ง
จากนั้นจึงโปรดเกล้าฯ ตั้งโครงการหลวงขึ้นเป็นโครงการส่วนพระองค์ เมื่อ พ.ศ. 2512 โดยทรงแต่งตั้งให้ หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการในตำแหน่งประธานมูลนิธิโครงการหลวง ใช้เป็นสถานีวิจัยและทดลองปลูกพืชเมืองหนาวชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไม้ผล ผัก ไม้ดอก เมืองหนาว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรชาวเขาในการนำพืชเหล่านี้มาเพาะปลูกเป็นอาชีพ ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้พระราชทานนามว่า “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง”
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงเปลี่ยน ยอดเขาหัวโล้น ให้กลายเป็นแปลงเกษตรเมืองหนาว ที่สร้างรายได้เลี้ยงชีพ และเป็นพื้นที่ที่สวยงามให้ได้ชื่นชมกันในนาม ดอยอ่างขาง ตามที่รู้จักกันมายาวนาน
Credit: 77jowo.tnews.co.th