ด้วยบารมีพลิกไร่ฝิ่นสู่แหล่งพืชเมืองหนาว
"เดิมเกษตรกรที่นี่ปลูกฝิ่นเป็นพืชรายได้ ส่วนข้าวโพดเพื่อเป็นอาหาร ซึ่งเมื่อมีโครงการหลวง ก็ได้ปรับไปปลูกพืชและไม้ดอกเมืองหนาวเพื่อลดการนำเข้า ซึ่งเราจะมีการปับปรุงดิน ด้วยการปลูกพืชปุ๋ยสดซึ่งทำอย่างต่อเนื่อง การปลูกหญ้าแฝก การเก็บตัวอย่างดินไปวิเคราะห์เพราะบางแปลงไม่ต้องใช้สารเคมี หากมีการใช้สารเคมีจะมีการควบคุม เช่นการชะลอการเก็บเกี่ยวพืชผล "สมชาย เขียวแดง" ผู้อำนวยการสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ เริ่มบทสนทนาเกี่ยวกับสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ที่เป็นสถานีวิจัยแห่งหนึ่งของมูลนิธิโครงการหลวง ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อให้เป็นสถานีวิจัยรวบรวมพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาว พืชผัก ไม้ผลเมืองหนาว รวมถึงสัตว์น้ำบนพื้นที่สูง สำหรับส่งเสริมให้เกษตรกรชาวไทยภูเขาทำการเกษตรสร้างรายได้ทดแทนการปลูกฝิ่น โดยสถานีฯ ได้นำผลงานวิจัยส่งเสริมขยายผลสู่เกษตรกรในพื้นที่โครงการหลวงจำนวนมาก พร้อมกับถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตที่มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพมาตรฐานสินค้าเป็นสำคัญ รวมถึงมีการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในพื้นที่ด้วย
พื้นที่สูงดอยอินทนนท์เปลี่ยนไปจากอดีตอย่างมาก โดยเฉพาะสามารถพลิกฟื้นพื้นที่ปลูกฝิ่นให้หมดไปกลายเป็นพื้นที่ทำการเกษตรปลูกพืชผักเมืองหนาวหลากหลายชนิด ที่สร้างรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่เกษตรกรชาวไทยภูเขาที่อยู่ในพื้นที่โครงการรวมกว่า 30 หมู่บ้าน ส่งผลให้เกษตรกรไม่ต้องอพยพเคลื่อนย้ายถิ่นฐานและบุกรุกป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอยอีกต่อไป เป็นการแก้ปัญหาการตัดไม้ลายป่าพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ที่สำคัญเกษตรกรตระหนักแล้วว่าผืนดินบนที่สูงที่สามารถนำมาทำการเกษตรมีจำกัด จึงมีการใช้ประโยชน์พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
การทำผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวงเป็นที่นิยมเราจะให้ลูกค้าทราบถึงกระบวนการผลิต ซึ่งสามารถมาเยี่ยมชมโดยลูกค้ามีทั้งจากกลุ่มซุปเปอร์มาเก็ต โรงแรม ส่งต่างประเทศ รายย่อยซื้อผ่านร้านของโครงการหลวง ซึ่งเกษตรกรมีความเป็นอยู่และชีวิตที่ดีขึ้น วัฒนธรรมยังคงอยู่เช่นเดิม ลดการตัดไม้ทำลายป่าแต่ต้องรักษาพื้นที่ป่าไม้ด้วย
"นโยบายของโครงการหลวงคือการค้นคว้าพืชพันธุ์ใหม่ ๆ การวิจัย เพื่อให้เกิดการพัฒนา การแข่งขัน ประกอบกับจะมีการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนซึ่งเราได้ทำความเข้าใจ ให้ความรู้กับเกษตรกรว่าต้องรักษาคุณภาพ เพราะขณะนี้อากาศเปลี่ยนแปลงมีผลต่อการปลูกพืช ตลอดจนมีการแข่งขันทางการตลาดซึ่งเราจะเน้นคุณภาพมาตรฐาน ซึ่งผักที่ขึ้นชื่อและติดอันดับของที่นี่คือผักสลัดที่มีความสด "
ความรู้สึกของประชาชน หลัง ในหลวง ร.9 พระราชทาน ชาต้นแรก ปลูกแทนฝิ่น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทรงงานบนภูเขาสูงภาคเหนือ
ความรู้สึกในวินาทีที่ นายเจริญ ไชยกอ ประธานวิสาหกิจชุมชนชนบ้านปู่หมื่น ตำบลแม่สาว อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกับบิดาเมื่อครั้นพระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมราษฏรบ้านปู่หมื่น เมื่อปีพุทธศักราช 2513
นายเจริญ กล่าวว่า สมัยนั้นในพื้นที่ชาวบ้านส่วนใหญ่มีการปลูกฝิ่นและตัดไม้ แต่หลังพระองค์ พระราชทานต้นชาต้นแรกให้กับชาวบ้าน พร้อมส่งเสริมให้ปลูกลิ้นจี่ แรก ๆ ชาวบ้านไม่เชื่อ แต่พ่อของเขาได้ลงมือทำเป็นตัวอย่างจนประสบความสำเร็จ ทุกวันนี้ชาวบ้านต่างยอมรับและขยายชาต้นนั้นไปทั่วดอย ตามที่ในหลวงรับสั่งทำให้ขณะนี้ทุกครอบครัวมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นไม่กลับไปปลูกฝิ่นอีก
ขณะที่ จิรวรรณ ไชยกอ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ปรากฏอยู่ในธนบัตรฉบับละ 100 บาท บอกว่า ไม่เพียงแต่พระองค์จะสนับสนุนให้มีการปลูกชาเท่านั้น แต่ยังได้มีการพัฒนาอาชีพ โดยเปิดโรงเรียนในอำเภอฝาง เพื่อเป็นศูนย์รวมในการช่วยเหลือชาวไทยภูเขา ได้มีโอกาสพัฒนาในการทำงานด้านต่าง ๆ รวมถึงเป็นแหล่งให้ความรู้และประวัติความเป็นมาเพื่อสอนเด็กรุ่นใหม่ที่เข้ามาทำงาน และนักท่องเที่ยวได้ทราบถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังมีพระราชดำริให้จัดตั้งสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ขึ้นในพื้นที่ตำบล

อน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งเสริมให้ชาวบ้านหันมาปลูกผักและผลไม้เมืองหนาว ทุกวันนี้ชาวบ้านต่างมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถส่งลูกหลานเรียนในระดับที่สูงและเลี้ยงดูครอบครัวได้เป็นอย่างดี
สำหรับโครงการหลวง เป็นโครงการส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ส่งเสริมการปลูกพืชเมืองหนาวแก่ชาวไทยภูเขา ทดแทนการปลูกฝิ่น ก่อตั้งเมื่อปี 2512 โดยปัจจุบันโครงการหลวง ดำเนินงานใน 5 จังหวัดภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน พะเยา และ แม่ฮ่องสอน มีสถานีวิจัยหลัก 4 สถานี และสถานีส่งเสริมปลูกพืชทดแทนฝิ่น เรียกว่า ศูนย์พัฒนาโครงการ อีก 21 ศูนย์ และหมู่บ้านพัฒนาอีก 6 หมู่บ้าน รวมหมู่บ้านในเขตปฏิบัติการทั้งสิ้น 267 หมู่บ้าน
ผลผลิตจากโครงการหลวงปัจจุบัน ประกอบด้วย ผักปลอดภัยสารพิษ สมุนไพร ถั่วและธัญพืช ผลไม้ เห็ด ดอกไม้เมืองหนาว ผลิตผลปศุสัตว์ ผลิตผลประมง ผลิตผลป่าไม้ ดอกไม้แห้ง ผลิตภัณฑ์จากแฝก ไม้กระถาง และผลิตภัณฑ์แปรรูปในชื่อการค้า โครงการหลวง และดอยคำ
ที่มา
http://oknation.nationtv.tv/blog/countrygirl/2012/10/18/entry-1
http://news.mthai.com/hot-news/general-news/526240.html
ห้องเพลงคนรากหญ้า ***รวมใจคนไทยอาลัยพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศพระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย*** ชุบชีวิตใหม่ ให้เลิกปลูกฝิ่น
ด้วยบารมีพลิกไร่ฝิ่นสู่แหล่งพืชเมืองหนาว
"เดิมเกษตรกรที่นี่ปลูกฝิ่นเป็นพืชรายได้ ส่วนข้าวโพดเพื่อเป็นอาหาร ซึ่งเมื่อมีโครงการหลวง ก็ได้ปรับไปปลูกพืชและไม้ดอกเมืองหนาวเพื่อลดการนำเข้า ซึ่งเราจะมีการปับปรุงดิน ด้วยการปลูกพืชปุ๋ยสดซึ่งทำอย่างต่อเนื่อง การปลูกหญ้าแฝก การเก็บตัวอย่างดินไปวิเคราะห์เพราะบางแปลงไม่ต้องใช้สารเคมี หากมีการใช้สารเคมีจะมีการควบคุม เช่นการชะลอการเก็บเกี่ยวพืชผล "สมชาย เขียวแดง" ผู้อำนวยการสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ เริ่มบทสนทนาเกี่ยวกับสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ที่เป็นสถานีวิจัยแห่งหนึ่งของมูลนิธิโครงการหลวง ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อให้เป็นสถานีวิจัยรวบรวมพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาว พืชผัก ไม้ผลเมืองหนาว รวมถึงสัตว์น้ำบนพื้นที่สูง สำหรับส่งเสริมให้เกษตรกรชาวไทยภูเขาทำการเกษตรสร้างรายได้ทดแทนการปลูกฝิ่น โดยสถานีฯ ได้นำผลงานวิจัยส่งเสริมขยายผลสู่เกษตรกรในพื้นที่โครงการหลวงจำนวนมาก พร้อมกับถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตที่มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพมาตรฐานสินค้าเป็นสำคัญ รวมถึงมีการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในพื้นที่ด้วย
พื้นที่สูงดอยอินทนนท์เปลี่ยนไปจากอดีตอย่างมาก โดยเฉพาะสามารถพลิกฟื้นพื้นที่ปลูกฝิ่นให้หมดไปกลายเป็นพื้นที่ทำการเกษตรปลูกพืชผักเมืองหนาวหลากหลายชนิด ที่สร้างรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่เกษตรกรชาวไทยภูเขาที่อยู่ในพื้นที่โครงการรวมกว่า 30 หมู่บ้าน ส่งผลให้เกษตรกรไม่ต้องอพยพเคลื่อนย้ายถิ่นฐานและบุกรุกป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอยอีกต่อไป เป็นการแก้ปัญหาการตัดไม้ลายป่าพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ที่สำคัญเกษตรกรตระหนักแล้วว่าผืนดินบนที่สูงที่สามารถนำมาทำการเกษตรมีจำกัด จึงมีการใช้ประโยชน์พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
การทำผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวงเป็นที่นิยมเราจะให้ลูกค้าทราบถึงกระบวนการผลิต ซึ่งสามารถมาเยี่ยมชมโดยลูกค้ามีทั้งจากกลุ่มซุปเปอร์มาเก็ต โรงแรม ส่งต่างประเทศ รายย่อยซื้อผ่านร้านของโครงการหลวง ซึ่งเกษตรกรมีความเป็นอยู่และชีวิตที่ดีขึ้น วัฒนธรรมยังคงอยู่เช่นเดิม ลดการตัดไม้ทำลายป่าแต่ต้องรักษาพื้นที่ป่าไม้ด้วย
"นโยบายของโครงการหลวงคือการค้นคว้าพืชพันธุ์ใหม่ ๆ การวิจัย เพื่อให้เกิดการพัฒนา การแข่งขัน ประกอบกับจะมีการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนซึ่งเราได้ทำความเข้าใจ ให้ความรู้กับเกษตรกรว่าต้องรักษาคุณภาพ เพราะขณะนี้อากาศเปลี่ยนแปลงมีผลต่อการปลูกพืช ตลอดจนมีการแข่งขันทางการตลาดซึ่งเราจะเน้นคุณภาพมาตรฐาน ซึ่งผักที่ขึ้นชื่อและติดอันดับของที่นี่คือผักสลัดที่มีความสด "
ความรู้สึกของประชาชน หลัง ในหลวง ร.9 พระราชทาน ชาต้นแรก ปลูกแทนฝิ่น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทรงงานบนภูเขาสูงภาคเหนือ
ความรู้สึกในวินาทีที่ นายเจริญ ไชยกอ ประธานวิสาหกิจชุมชนชนบ้านปู่หมื่น ตำบลแม่สาว อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกับบิดาเมื่อครั้นพระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมราษฏรบ้านปู่หมื่น เมื่อปีพุทธศักราช 2513
นายเจริญ กล่าวว่า สมัยนั้นในพื้นที่ชาวบ้านส่วนใหญ่มีการปลูกฝิ่นและตัดไม้ แต่หลังพระองค์ พระราชทานต้นชาต้นแรกให้กับชาวบ้าน พร้อมส่งเสริมให้ปลูกลิ้นจี่ แรก ๆ ชาวบ้านไม่เชื่อ แต่พ่อของเขาได้ลงมือทำเป็นตัวอย่างจนประสบความสำเร็จ ทุกวันนี้ชาวบ้านต่างยอมรับและขยายชาต้นนั้นไปทั่วดอย ตามที่ในหลวงรับสั่งทำให้ขณะนี้ทุกครอบครัวมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นไม่กลับไปปลูกฝิ่นอีก
ขณะที่ จิรวรรณ ไชยกอ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ปรากฏอยู่ในธนบัตรฉบับละ 100 บาท บอกว่า ไม่เพียงแต่พระองค์จะสนับสนุนให้มีการปลูกชาเท่านั้น แต่ยังได้มีการพัฒนาอาชีพ โดยเปิดโรงเรียนในอำเภอฝาง เพื่อเป็นศูนย์รวมในการช่วยเหลือชาวไทยภูเขา ได้มีโอกาสพัฒนาในการทำงานด้านต่าง ๆ รวมถึงเป็นแหล่งให้ความรู้และประวัติความเป็นมาเพื่อสอนเด็กรุ่นใหม่ที่เข้ามาทำงาน และนักท่องเที่ยวได้ทราบถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังมีพระราชดำริให้จัดตั้งสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ขึ้นในพื้นที่ตำบล
สำหรับโครงการหลวง เป็นโครงการส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ส่งเสริมการปลูกพืชเมืองหนาวแก่ชาวไทยภูเขา ทดแทนการปลูกฝิ่น ก่อตั้งเมื่อปี 2512 โดยปัจจุบันโครงการหลวง ดำเนินงานใน 5 จังหวัดภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน พะเยา และ แม่ฮ่องสอน มีสถานีวิจัยหลัก 4 สถานี และสถานีส่งเสริมปลูกพืชทดแทนฝิ่น เรียกว่า ศูนย์พัฒนาโครงการ อีก 21 ศูนย์ และหมู่บ้านพัฒนาอีก 6 หมู่บ้าน รวมหมู่บ้านในเขตปฏิบัติการทั้งสิ้น 267 หมู่บ้าน
ผลผลิตจากโครงการหลวงปัจจุบัน ประกอบด้วย ผักปลอดภัยสารพิษ สมุนไพร ถั่วและธัญพืช ผลไม้ เห็ด ดอกไม้เมืองหนาว ผลิตผลปศุสัตว์ ผลิตผลประมง ผลิตผลป่าไม้ ดอกไม้แห้ง ผลิตภัณฑ์จากแฝก ไม้กระถาง และผลิตภัณฑ์แปรรูปในชื่อการค้า โครงการหลวง และดอยคำ
ที่มา
http://oknation.nationtv.tv/blog/countrygirl/2012/10/18/entry-1
http://news.mthai.com/hot-news/general-news/526240.html