เคยเรียนวิชานึง เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น
อาจารย์บอกประมาณว่าถ้ามันเกิดเหตุการณ์กระทบเศรษฐกิจ
รัฐมีหน้าที่ต้องแทรกแซง เพื่อให้ไม่เกิดวิกฤต หรือ ความเสียหาย
แต่เดวนี้พอรัฐแทรกแซงราคากลับถูกด่า ว่าแทรกแซงทำให้แย่เหมือนยุคก่อนๆมา และที่พึ่งผ่านมาไม่นานมานี้ จำนำข้าว แนวคิดนโยบายดี แต่ไปไม่รอด ดีขนาดที่ว่าอาจพลิกโฉมวงการข้าวเลย แต่ข่าว ทุจริตเต็มไปหมด พออ่านจริงๆไม่ใช่ที่รัฐ แต่เกิดการทุจริตในขั้นกระบวนการหรือง่ายๆพวกโรงสีมีปัญหาหรือพวกรับงานจากรัฐอีกทีนั่นละ แต่สิ่งที่ทุกคนทำคือเล่นหัวคิด ไม่เล่นคนที่ทำจริงๆ(อันนี้ไม่รู้จริงหมดไหม แย้งได้ รู้มางี้)
ทีนี้แนวคิดพวกจะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุกลับถูกเล่นงาน ต่อไปก็จะไม่มีใครกล้าเสี่ยงคิดนโยบายมาเปลี่ยนแปลงอีก เพราะต้องแบกรับความเสี่ยงที่อาจถูกฟ้องจากนโยที่สร้างความเสียหาย เหมือนที่ตอนนี้โดนอยู่
ทีนี้การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุถูกทำให้หน้ากลัวขึ้น มันก็กลับมาสู่วังวนแบบเดิมคือ อัดฉีด,จ่ายเงินช่วยตรงๆ แน่นอนปัญหาไม่ได้ถูกแก้ที่ต้นเหตุ นี่เรียกว่าแก้แบบขอไปที พอนานๆเข้าเริ่มเป็นการอุ้มชาวนา แล้วก็กลับมาวนลูป ด่าอีกรอบ
จนตอนนี้ ชาวสวนชาวไร่ก็ต้องพึ่งตนเองละ
ซึ่งมันมีมานานละแล้วละ แล้วก็เวิคด้วย แต่เป็นคนกลุ่มน้อย
ย้อนกลับไปประโยคแรกงั้นรัฐต้องทำอะไร ?
ไม่ได้หวังความช่วยเหลือมากนักแต่อยากรู้ว่าแล้วรัฐจะมีกระทรวงเกี่ยวกับผลกระทบดั่งกล่าวเพื่ออะไร ในเมื่อทางที่ดีสุดของที่หลายๆคนพูดคือการพึ่งพาตนเอง อย่างน้อยควรลงมาให้ความรู้ชาวสวน/ชาวไร่เรื่องการตลาดหรือป่าว? ก็ไหนๆจะทิ้งความรับผิดชอบเรื่องนี้ละก็ควรมอบองค์ความรู้ให้ซักหน่อย
เพราะความรู้นี่ละอาจจะสำคัญที่สุด
แล้วอาจเป็นแนวทางที่ยั่งยืนที่สุดก็ได้
รัฐ มีหน้าที่ต้องแทรกแซงราคาตลาดไหม ?
อาจารย์บอกประมาณว่าถ้ามันเกิดเหตุการณ์กระทบเศรษฐกิจ
รัฐมีหน้าที่ต้องแทรกแซง เพื่อให้ไม่เกิดวิกฤต หรือ ความเสียหาย
แต่เดวนี้พอรัฐแทรกแซงราคากลับถูกด่า ว่าแทรกแซงทำให้แย่เหมือนยุคก่อนๆมา และที่พึ่งผ่านมาไม่นานมานี้ จำนำข้าว แนวคิดนโยบายดี แต่ไปไม่รอด ดีขนาดที่ว่าอาจพลิกโฉมวงการข้าวเลย แต่ข่าว ทุจริตเต็มไปหมด พออ่านจริงๆไม่ใช่ที่รัฐ แต่เกิดการทุจริตในขั้นกระบวนการหรือง่ายๆพวกโรงสีมีปัญหาหรือพวกรับงานจากรัฐอีกทีนั่นละ แต่สิ่งที่ทุกคนทำคือเล่นหัวคิด ไม่เล่นคนที่ทำจริงๆ(อันนี้ไม่รู้จริงหมดไหม แย้งได้ รู้มางี้)
ทีนี้แนวคิดพวกจะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุกลับถูกเล่นงาน ต่อไปก็จะไม่มีใครกล้าเสี่ยงคิดนโยบายมาเปลี่ยนแปลงอีก เพราะต้องแบกรับความเสี่ยงที่อาจถูกฟ้องจากนโยที่สร้างความเสียหาย เหมือนที่ตอนนี้โดนอยู่
ทีนี้การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุถูกทำให้หน้ากลัวขึ้น มันก็กลับมาสู่วังวนแบบเดิมคือ อัดฉีด,จ่ายเงินช่วยตรงๆ แน่นอนปัญหาไม่ได้ถูกแก้ที่ต้นเหตุ นี่เรียกว่าแก้แบบขอไปที พอนานๆเข้าเริ่มเป็นการอุ้มชาวนา แล้วก็กลับมาวนลูป ด่าอีกรอบ
จนตอนนี้ ชาวสวนชาวไร่ก็ต้องพึ่งตนเองละ
ซึ่งมันมีมานานละแล้วละ แล้วก็เวิคด้วย แต่เป็นคนกลุ่มน้อย
ย้อนกลับไปประโยคแรกงั้นรัฐต้องทำอะไร ?
ไม่ได้หวังความช่วยเหลือมากนักแต่อยากรู้ว่าแล้วรัฐจะมีกระทรวงเกี่ยวกับผลกระทบดั่งกล่าวเพื่ออะไร ในเมื่อทางที่ดีสุดของที่หลายๆคนพูดคือการพึ่งพาตนเอง อย่างน้อยควรลงมาให้ความรู้ชาวสวน/ชาวไร่เรื่องการตลาดหรือป่าว? ก็ไหนๆจะทิ้งความรับผิดชอบเรื่องนี้ละก็ควรมอบองค์ความรู้ให้ซักหน่อย
เพราะความรู้นี่ละอาจจะสำคัญที่สุด
แล้วอาจเป็นแนวทางที่ยั่งยืนที่สุดก็ได้