เนื่องจากผมเพิ่งตัดสินใจถอยมาสด้า 3 skyactive 2016 มาใช้แทนคันเก่า ก็เลยอยากจะมาเสนอหน้าขอรีวิวกับเค้าบ้างครับ แต่คงจะเป็นแค่ มินิ รีวิวเท่านั้น เนื่องจากรุ่นนี้มีท่านอื่นได้รีวิวไว้อย่างละเอียดมานานโขอยู่ครับ
ผมรับรถมาเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี่เอง หลังจากไปเทสไดร์ฟมาแล้วก็จัดการจองทันที เป็นตัวซีดานตัวท็อปสีไทเทเนียมแฟลชหรือสีน้ำตาลนั่นเอง
เรื่องสนุกอย่างนึงของผมคือการได้ทำเซอร์ไพรซ์แม่บ้านโดยที่เอาคันเก่าที่ขับในเมืองกรุงประจำไปขายก่อนแต่บอกว่าเอารถไปซ่อมสัก 3-4 วัน แต่จริงๆแล้วขายครับ 555 วันรับรถก็แอบไปรับคนเดียวแล้วนัดแม่บ้านไปให้เจอที่ห้างๆ นึง ผมเอารถไปจอดลานจอดแล้วไปเจอกันที่ร้านอาหาร พอทานเสร็จก็เดินกลับมาที่ลานจอดพร้อมกัน ผมก็แกล้งเดินผ่านรถไปสักนิด แล้วพอแม่บ้านเห็นคันนี้ก็ร้องด้วยความชอบว่า "รถคันนี้สวยจังเลย สีถูกใจมาก "
ไอ้ผมก็เลยแกล้งถอยหลังเดินกลับไปข้างๆคนขับแล้วทำท่าเปิดประตู เท่านั้นแหละครับ ด่าผมยกใหญ่ว่าไปยุ่งกับรถคนอื่นทำไม เดี๋ยวเจ้าของเค้ามาแพ่นกะโหลก พอผมเปิดประตูได้เท่านั้นเอง แม่บ้านถึงกับอึ้งไปเลย แต่ดูออกว่าดีใจ เสร็จแล้วถามผมว่าคันเก่าไปไหน ผมบอกว่าขายไปแล้ว คราวนี้โกรธจริงจังเลย เพราะว่าแม่บ้านกับรถคันเดิมนี่ผมซื้อมาตอนเพิ่งจีบกันเธอคงผูกพันมาก บอกว่าทำไมไม่บอกเธอยังไม่ได้รำ่ลาคันเก่าเลย พอขึ้นรถมาก็นอยด์ไปพักใหญ่ แต่ด้วยความที่เธอไม่ใช่คนคิดหรือเก็บอะไรในใจนานมากสักพักก็หาย 55 ผมนี่หน้าเสียเลย เอาแต่สนุกจนลืมคืดถึงใจเธอ ท่านอื่นก็อย่าพิเรนท์แบบผมนะครับ

คันเดิมที่ช่วยให้เดินทางในเมืองสะดวกและช่วยทำมาหากินและหารักมาให้ครับ
กลับมาที่เรื่องรถครับ ในชีวิตผมที่บ้านมีรถตลาดใช้แทบทุกยี่ห้อ เพราะเป็นครอบครัวใหญ่ พอจะได้ขับขี่หลายคัน จึงคิดว่าพอจะเทียบการขับขี่ได้บ้างครับ แฮ่ๆๆ ว่าถึงเจ้า 3 ตัว 2016 นั้น มีสิ่งที่เพิ่มมาให้คือ
1.i-stop
2.กล้องมองหลัง
3.Smart Keyless Entry
ซึ่งที่ผมชอบใจคือกุญแจนี่แหละครับ สะดวกสบายดีมาก ส่วน i-stop บอกตรงๆ เกลียดมากถึงมากที่สุด จะดับไปไหน จังหวะจอดเบรคแล้วจะเร่งออกตัวนี่เสียจังหวะมาก ต้องกดปิดทุกที สำหรับกล้องมองหลังผมเฉยๆ เพราะคันเก่ามันไม่มี บางทีถอยก็มองแต่กระจกครับ จอเอาไว้เฉยๆ เหลือบบ้างเป็นบางที และที่สำคัญถ้าใครออกตัวล่างมันไม่มีมาให้ แต่ขอเซลแถมได้ครับ แง่มๆๆๆ
มาถึงตัวห้องโดยสารก็ตามที่ท่านอื่นเคยว่าไว้ครับ วัสดุภายในถือว่าดูดีกว่าคู่แข่งครับ พื้นที่ด้านหน้าออกแบบมาเพื่อคนขับและคนนั่งข้างจริงๆ ส่วนด้านหลังที่ว่าแคบ จริงๆ แล้วมันแค่แคบกว่าคู่แข่งเท่านั้นเอง ไม่ได้แคบชนิดนั่งไม่ได้หรือแคบแบบเจ้า 2 ครับ
ฟีลลิ่งการขับขี่นั้นบอกได้เลยว่า เมามันครับ พวงมาลัยคมดั่งที่ได้ยินกิติศัพท์ ช่วงล่างหนึบหนับดีกว่า คู่แข่งชัดเจน แต่มันเด้งกว่าคู่แข่งอีกเหมือนกัน ใครเน้นนั่งสบายแบบนุ่มๆ มองยี่ห้ออื่นเลยครับ เหยียบเป็นมาครับ วิ่ง 120 ขึ้นไปรอบยังอยู่ที่ 2000 นิดๆ
คราวนี้ก็มาถึง option ที่ผมต้องการมากแต่ไม่น่าเชื่อว่า รถราคานี้ตัวท็อปไม่มีมาให้ และไม่มีในทุกตัวของมาสด้า 3 เลยดีกว่าครับ นั่นก็คือ Cruise Control นั่นเอง เมื่อก่อนผมก็เฉยๆกับมันนะครับ คิดอยู่เหมือนกันว่าอยู่กรุงเทพ จะมีไว้ทำไม ขับไกลๆ ก็พาลจะง่วง แต่พอได้ลองใช้งานในฟอร์จูนเนอร์ของแม่บ้าน บอกได้เลยครับว่า สวรรค์ชัดๆ ผมขับออกต่างจังหวัดนี่อาการปวดขาหลังจากเดินทางไกลดีขึ้นเยอะเลยครับ มันสบายจริงๆ พอออกคันนี้ปั๊บ ต้องไปแสวงหามาใส่ทันที ซึ่งเดี๋ยวนี้หาไม่ยากและไม่แพงครับ

มันมีหลายแบบครับ ตัวของผมเป็นลายเคฟล่าด้านฝั่งเครื่องเสียงเลยต้องหามาให้เข้ากัน

ถอดครับ ง่ายมาก ไม่มีริ้วรอย ใครมาถอดให้แล้วมีรอย ตบได้เลยครับแสดงว่าทำไม่เป็น

อย่าลืมถอดสายแบตเตอรี่ก่อนนะจ๊ะ

ปัญหาเกิดละครับ เพิ่งรู้มาสด้า 3 บางล็อต สั่งของฝั่งเดียวอาจไม่แมตช์กับของเดิมกับฝั่งเครื่องเสียงครับ สายไฟขั้วคนละขนาด วันนั้นผมนี่เครียดเลย ต้องยกเลิกการติดตั้งไป แต่ไม่นานครับ ก็ไปแสวงหาทั้งคู่เลย ทั้งฝั่งเครื่องเสียงและครูซคอนโทรล ต้องขอบคุณคนหาและติดตั้งด้วยครับ ไม่คิดเพิ่มอีกต่างหาก

เรียบร้อยจ้า ดูเต็มเลย
สำหรับการติดตั้งนั้นเราติดเฉยๆ ไม่ได้นะครับ ติดเสร็จแล้วประกอบคืน จำต้องมีการปลดล็อคระบบเพื่อเปิดระบบให้การทำงานของครูซคอนโทรลสมบูรณ์ เผื่อบางท่านหาของมาแล้วคิดว่าจะใส่เองแล้วใช้ได้เลย มันไม่ได้นะครับ
สำหรับครูซคอนโทรลตัวนี้สามารถเปิดระบบได้ 2 ระบบคือการล็อคความเร็วแบบปกติและการตั้งลิมิตความเร็วครับ การล็อคทั่วไปคือเหยีบไปแค่ไหนพอกดปุ่มมันก็จะล็อคคันเร่งให้วิ่งความเร็วเดิมไปจนกว่าเราจะเหยียบเบรคหรือกดยกเลิก ส่วนลิมิตคือการตั้งความเร็วสูงสุดครับ เช่น ตั้งไว้ที่ 80 ระบบจะบังคับให้วิ่งสูงสุดได้ที่ 80 ครับ เหยียบลงไปก็ไม่มีผลครับ รอบเท่าเดิม ความเร็วเท่าเดิม เหมาะสำหรับการคุมความเร็วที่ไม่ต้องการล็อคให้คันเร่งค้างเองครับ ใช้เท้านี่แหละชัวร์สุด

บางตัวอาจมีหน้าตาแบบนี้ครับ มีปุ่มลิมิตมาให้เลย แต่ของผมหาได้แต่แบบที่ติดตั้งครับ แต่ใช้งานได้ไม่มีปัญหาครับ (รูปจากในเน็ตครับ)
สำหรับการใช้งานนั้นถ้าท่านที่เคยใช้มาก่อนอาจจะงงๆ กับแบบที่ผมติดเพราะปุ่ม on off จะถูกนำมาแยกคำสั่งครับ
Cruise Control
สำหรับการใช้โหมด cruise control ปกติ ให้กดปุ่ม OFF ครับ หน้าจอจะขึ้นสัญลักษณ์มาตรวัดมาที่หน้าจอตรงพวงมาลัย คราวนี้ก็เหยียบคันเร่งจนถึงความเร็วที่ต้องการแล้วค่อยกดปุ่ม + หรือ - ทีนี้ความเร็วก็จะถูกล็อคคงที่ครับ สัญลักษณ์จะแสดงทั้งที่หน้าจอตรงพวงมาลัยและที่หน้าจอ HUD ด้วยครับ

พอกดเปิดสัญลักษณ์จะเป็นสีส้มครับ เมื่อล็อคแล้วจะเป็นสีเขียวครับ
เมื่อไหร่ที่เหยียบเบรคระบบจะทำการ pause ค่าความเร็วไว้ให้ครับ เมื่อต้องการทำความเร็วให้เท่าเดิมแค่กดปุ่ม RES มันก็จะเร่งความเร็วอัตโนมัติกลับมาให้ที่ความเร็วเดิมที่เราตั้งไว้ครับ (ของแม่บ้านต้องเหยียบเอา อิอิ) หากจะทำการปิดระบบก็กดปุ่ม OFF อีกทีครับ ในระหว่างขับถ้าอยากลดเพิ่มความเร็วนอกจากใช้คันเร่งแล้วก็กดปุ่ม + - เอาได้เลยครับ
LIMIT
ส่วนการใช้การตั้งความเร็วสูงสุดนั้นให้กดปุ่ม ON ครับ หน้าจอจะขึ้นตัวอีกษร LIM มาให้ แต่ตัวเลขจะยังอยู่ที่ 0 ครับ ให้กดปุ่ม + จะขึ้นมาที่ 30 ทีนี้จะเพิ่มไปที่เท่าไหร่ก็กดไปเรื่อยๆ ครับ ถ้ากดค้างจะขยับทีละ 10 ครับ ในโหมดนี้ข้อดีที่ผมเจอคือทำให้เราไม่โดนจับความเร็วครับ เพราะเราคุมได้ เช่น ตั้งไว้ที่ 100 เหยียบไปเพลินก็ไม่มีทางเกินครับ แต่ถ้าไม่ใช้โหมดนี้อาจมีเผลอเหยียบครับ ส่วนท่านที่ห่วงเรื่องการเร่งแซงก็ไม่ต้องกังวลครับ กดปุ่ม Cancel แล้วเหยีบ พุ่งทะยานแหกลิมิตแน่นอนครับ การยกเลิกโหมดนี่ก็กด ON อีกทีครับ
ตัวเลขการบริโภคน้ำมัน
ในเมืองที่รถติดขับที่ความเร็ว 40-60 ติดๆ หยุดๆ เคลื่อน ๆ อยู่ระหว่าง 8.5-10 L ต่อ 100 km ครับ
ส่วนต่างจังหวัดผมใช้ cruise control จาก กทม ไปโคราช ได้ที่ 6.4-6.5 L ต่อ 100 km ครับ สำหรับผมแล้วเครื่อง 2.0 ได้ประมาณนี้ผมโอเคครับ
สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันเติม 1 ถังวิ่งได้ 400 กิโลขึ้นไปแน่นอนครับ ผมยังไม่ได้ลองวัดแบบจริงจังนะครับ อันนี้ใช้การดูหน้าจอเอาครับ

แม่บ้านถ่ายนะครับ ผมมิกล้าถ่ายเด็ดขาด
จริงๆแล้วผมจะติด Paddle Shift เพิ่ม แต่ลองดูแล้วผมสนุกกับการเล่นเกียร์ที่คันเกียร์มากกว่าครับ ซึ่งค่าใช้จ่ายการติดตั้งทั้ง Cruise และ Paddle Shift นั่น รวมกันราคาถือว่าไม่แพงเลย หมื่นมีทอนครับ
สรุปการใช้งานในช่วงที่ผ่านมา
ข้อดี
-ขับมันดีครับ เร่งปรู๊ด เร่งปรู๊ด ผมขับรุ่นไหนถ้ามันได้ดั่งใจถือว่าสนุกครับ แต่ผมไม่ขับแบบเร็วนรกนะครับ พี่พอลแกยังไม่คิดถึงเลยไม่จำเป็นต้องรีบไปหาแกครับ เร็วสุดแค่ 160 เผลอกดไป บอกเลยว่านิ่งมาก ช่วงล่างดีเยี่ยมสมคำร่ำลือ ผมให้เป็นรองค่ายนรก F0rt นิดนึง ฟีลพวงมาลัยมันคล้ายๆ เชฟโรเล็ตครับ หนึบหนับ พวงมาลัยช่วงขับช้าจะเบาครับ พอเร็วมากเข้ามันก็หนัก ยอมรับว่าเซ็ทมาดีครับ
- วัสดุภายในดูดีสมราคาครับ ดีกว่าคู่แข่งชัดเจนครับ
- ไฟหน้า ไฟท้าย สวยมากกกกกกกกก (รุ่น S 4 ประตู)
- จอทัชสกรีน ใช้ง่าย ปุ่มคอมมานด์เซ็นเตอร์ หมุนๆ ถนัดดีครับ
- อัตราขย้ำน้ำมันประหยัดกว่าที่คิดไว้เยอะถ้าเทียบกับตัวเก่า แต่ยังไม่ดีพอกับคำว่า skyactive ตัว มาสด้า 2 ทำไว้โหดมากๆ
- มีระบบล็อครถอัตโนมัติเมื่อความเร็วถึง 20 km ซึ่งคู่แข่งทะลึ่งตัดออกซะงั้น
- รุ่นนี้ทำมาเพื่อคนขับและคนนั่งหน้าจริงๆ
- เครื่อง 2.0 ระบบความปลอดภัยให้มาครบตั้งแต่ตัวล่างสุด ราคาแปดแสนกว่าๆ ไม่สนใจของเล่นอื่นๆ ตัวนี้คุ้มสุดๆครับ
ข้อเสีย
- เสียงดังครับ ล้อขอบ 18 ดังโคตร ใครสายเงียบเลิกมองครับ
- ช่วงล่างมันไม่นุ่มครับ กระด้างน่าดู แต่ไม่ได้โหดร้าย แต่มันได้หนึบมาแทน สองอย่างนี้ไม่มีวันอยู่ด้วยกันครับ
- เสียงแตรมันไม่ถูกใจผมเอาเสียเลย
- ไม่มีเบาะปรับไฟฟ้านะครับ เคืองมากแต่ก็ซื้อเพราะเฉยๆ คนเราจะปรับกันบ่อยแค่ไหนเชียว
- ช่องใส่ cd คิดได้ไงครับเอาไว้ตรงกับคันเกียร์ ถามว่าใสได้ไหม มันก็ได้ครับ แต่ถ้าเข้าเกียร์ P แล้ว มันเกะกะมากครับ
- ช่องเก็บแว่น ถ้าจอดตากแดด ขาแว่นร้อนมากกกก หูพองได้เลย
- ฝนตกทีเสียงดังน่าดู สงสัยไม่ได้บุฉนวนหลังคา เดี๋ยวว่างๆ จะรื้อดูครับ
- ที่นั่งด้านหลังตรงกลางมีอุโมงค์งอกมาครับ คนนั่งกลางนั่งไม่สบายแน่ๆ
- ปุ่มพับเบาะหลังด้านในห้องโดยสารไม่มี ต้องไปเปิดจากด้านท้ายในกระโปรงท้ายรถ
- ยางขอบกระจกประตูเหมือนจะอมน้ำเวลาฝนตกครับ กดขึ้นลงเพื่อแตะหรือคืนบัตรทีไรแขนเปียก คันเดิมแห้งสนิทรึเพราะวัสดุที่ใช้ก็ไม่รู้

ตอนนี้วิ่งมาจะสองพันกิโลละครับ ปัญหาเก่าๆที่เคยเจอกันผมยังไม่เจอ และคาดว่าคงจะแก้ไขหมดแล้วในตอนนี้ แต่เจอปัญหาใหม่แทนคือ มีเสียงกระจกสั่นหรือไม่ก็มีสายไฟหรือน็อตหลุดในตัวถัง เพราะเวลาขับเจอพื้นที่ไม่เรียบเสียงจะมาทันที คาดว่าน่าจะเป็นจากการติดฟิล์มแล้วเก็บงานไม่ละเอียด(คาดเดานะครับ) ส่วนน้ำมันผมใช้แต่ e20 เพราะตัดปัญหาหรือความเสี่ยงไฟโชว์ครับ อยากลองไป 95 เหมือนกันแต่ช่วงนี้ไม่ว่างเข้าศูนย์ครับ 55
สำหรับท่านที่สนใจหรือมองรุ่นนี้ไว้ ผมอยากให้ท่านไปลองขับครับ อย่ามองแค่รูปทรงถูกใจแล้วซื้อเลย บางทีรถก็เลือกเจ้าของนะครับ รถสวยแต่ขับแล้วไม่ถูกจริต ท่านจะหงุดหงิดไปอีกนาน
รถทุกยี่ห้อมีจุดเด่นในตัวมันเองครับ ไม่มีคันไหนเพอร์เฟค บางยี่ห้อสวยงามหัวยันท้าย แต่ขับแล้วไม่มั่นใจ บางยี่ห้อขับกลางๆ แต่ออพชั่นมาเต็ม บางยี่ห้อบริการหลังการขายดีเลิศอะไหล่หาง่ายซ่อมง่าย คนใช้เยอะ แต่ออพชั่นน้อย วัสดุไม่เนี้ยบ มีดีมีด้อยต่างกันไปครับ เลือกในสิ่งที่เรารับได้ อย่าเลือกในสิ่งที่คนอื่นชอบมากกว่าเราครับ
[CR] Mini review All New Mazda 3 2016 > Cruise Control
ผมรับรถมาเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี่เอง หลังจากไปเทสไดร์ฟมาแล้วก็จัดการจองทันที เป็นตัวซีดานตัวท็อปสีไทเทเนียมแฟลชหรือสีน้ำตาลนั่นเอง
เรื่องสนุกอย่างนึงของผมคือการได้ทำเซอร์ไพรซ์แม่บ้านโดยที่เอาคันเก่าที่ขับในเมืองกรุงประจำไปขายก่อนแต่บอกว่าเอารถไปซ่อมสัก 3-4 วัน แต่จริงๆแล้วขายครับ 555 วันรับรถก็แอบไปรับคนเดียวแล้วนัดแม่บ้านไปให้เจอที่ห้างๆ นึง ผมเอารถไปจอดลานจอดแล้วไปเจอกันที่ร้านอาหาร พอทานเสร็จก็เดินกลับมาที่ลานจอดพร้อมกัน ผมก็แกล้งเดินผ่านรถไปสักนิด แล้วพอแม่บ้านเห็นคันนี้ก็ร้องด้วยความชอบว่า "รถคันนี้สวยจังเลย สีถูกใจมาก "
ไอ้ผมก็เลยแกล้งถอยหลังเดินกลับไปข้างๆคนขับแล้วทำท่าเปิดประตู เท่านั้นแหละครับ ด่าผมยกใหญ่ว่าไปยุ่งกับรถคนอื่นทำไม เดี๋ยวเจ้าของเค้ามาแพ่นกะโหลก พอผมเปิดประตูได้เท่านั้นเอง แม่บ้านถึงกับอึ้งไปเลย แต่ดูออกว่าดีใจ เสร็จแล้วถามผมว่าคันเก่าไปไหน ผมบอกว่าขายไปแล้ว คราวนี้โกรธจริงจังเลย เพราะว่าแม่บ้านกับรถคันเดิมนี่ผมซื้อมาตอนเพิ่งจีบกันเธอคงผูกพันมาก บอกว่าทำไมไม่บอกเธอยังไม่ได้รำ่ลาคันเก่าเลย พอขึ้นรถมาก็นอยด์ไปพักใหญ่ แต่ด้วยความที่เธอไม่ใช่คนคิดหรือเก็บอะไรในใจนานมากสักพักก็หาย 55 ผมนี่หน้าเสียเลย เอาแต่สนุกจนลืมคืดถึงใจเธอ ท่านอื่นก็อย่าพิเรนท์แบบผมนะครับ
คันเดิมที่ช่วยให้เดินทางในเมืองสะดวกและช่วยทำมาหากินและหารักมาให้ครับ
กลับมาที่เรื่องรถครับ ในชีวิตผมที่บ้านมีรถตลาดใช้แทบทุกยี่ห้อ เพราะเป็นครอบครัวใหญ่ พอจะได้ขับขี่หลายคัน จึงคิดว่าพอจะเทียบการขับขี่ได้บ้างครับ แฮ่ๆๆ ว่าถึงเจ้า 3 ตัว 2016 นั้น มีสิ่งที่เพิ่มมาให้คือ
1.i-stop
2.กล้องมองหลัง
3.Smart Keyless Entry
ซึ่งที่ผมชอบใจคือกุญแจนี่แหละครับ สะดวกสบายดีมาก ส่วน i-stop บอกตรงๆ เกลียดมากถึงมากที่สุด จะดับไปไหน จังหวะจอดเบรคแล้วจะเร่งออกตัวนี่เสียจังหวะมาก ต้องกดปิดทุกที สำหรับกล้องมองหลังผมเฉยๆ เพราะคันเก่ามันไม่มี บางทีถอยก็มองแต่กระจกครับ จอเอาไว้เฉยๆ เหลือบบ้างเป็นบางที และที่สำคัญถ้าใครออกตัวล่างมันไม่มีมาให้ แต่ขอเซลแถมได้ครับ แง่มๆๆๆ
มาถึงตัวห้องโดยสารก็ตามที่ท่านอื่นเคยว่าไว้ครับ วัสดุภายในถือว่าดูดีกว่าคู่แข่งครับ พื้นที่ด้านหน้าออกแบบมาเพื่อคนขับและคนนั่งข้างจริงๆ ส่วนด้านหลังที่ว่าแคบ จริงๆ แล้วมันแค่แคบกว่าคู่แข่งเท่านั้นเอง ไม่ได้แคบชนิดนั่งไม่ได้หรือแคบแบบเจ้า 2 ครับ
ฟีลลิ่งการขับขี่นั้นบอกได้เลยว่า เมามันครับ พวงมาลัยคมดั่งที่ได้ยินกิติศัพท์ ช่วงล่างหนึบหนับดีกว่า คู่แข่งชัดเจน แต่มันเด้งกว่าคู่แข่งอีกเหมือนกัน ใครเน้นนั่งสบายแบบนุ่มๆ มองยี่ห้ออื่นเลยครับ เหยียบเป็นมาครับ วิ่ง 120 ขึ้นไปรอบยังอยู่ที่ 2000 นิดๆ
คราวนี้ก็มาถึง option ที่ผมต้องการมากแต่ไม่น่าเชื่อว่า รถราคานี้ตัวท็อปไม่มีมาให้ และไม่มีในทุกตัวของมาสด้า 3 เลยดีกว่าครับ นั่นก็คือ Cruise Control นั่นเอง เมื่อก่อนผมก็เฉยๆกับมันนะครับ คิดอยู่เหมือนกันว่าอยู่กรุงเทพ จะมีไว้ทำไม ขับไกลๆ ก็พาลจะง่วง แต่พอได้ลองใช้งานในฟอร์จูนเนอร์ของแม่บ้าน บอกได้เลยครับว่า สวรรค์ชัดๆ ผมขับออกต่างจังหวัดนี่อาการปวดขาหลังจากเดินทางไกลดีขึ้นเยอะเลยครับ มันสบายจริงๆ พอออกคันนี้ปั๊บ ต้องไปแสวงหามาใส่ทันที ซึ่งเดี๋ยวนี้หาไม่ยากและไม่แพงครับ
มันมีหลายแบบครับ ตัวของผมเป็นลายเคฟล่าด้านฝั่งเครื่องเสียงเลยต้องหามาให้เข้ากัน
ถอดครับ ง่ายมาก ไม่มีริ้วรอย ใครมาถอดให้แล้วมีรอย ตบได้เลยครับแสดงว่าทำไม่เป็น
อย่าลืมถอดสายแบตเตอรี่ก่อนนะจ๊ะ
ปัญหาเกิดละครับ เพิ่งรู้มาสด้า 3 บางล็อต สั่งของฝั่งเดียวอาจไม่แมตช์กับของเดิมกับฝั่งเครื่องเสียงครับ สายไฟขั้วคนละขนาด วันนั้นผมนี่เครียดเลย ต้องยกเลิกการติดตั้งไป แต่ไม่นานครับ ก็ไปแสวงหาทั้งคู่เลย ทั้งฝั่งเครื่องเสียงและครูซคอนโทรล ต้องขอบคุณคนหาและติดตั้งด้วยครับ ไม่คิดเพิ่มอีกต่างหาก
เรียบร้อยจ้า ดูเต็มเลย
สำหรับการติดตั้งนั้นเราติดเฉยๆ ไม่ได้นะครับ ติดเสร็จแล้วประกอบคืน จำต้องมีการปลดล็อคระบบเพื่อเปิดระบบให้การทำงานของครูซคอนโทรลสมบูรณ์ เผื่อบางท่านหาของมาแล้วคิดว่าจะใส่เองแล้วใช้ได้เลย มันไม่ได้นะครับ
สำหรับครูซคอนโทรลตัวนี้สามารถเปิดระบบได้ 2 ระบบคือการล็อคความเร็วแบบปกติและการตั้งลิมิตความเร็วครับ การล็อคทั่วไปคือเหยีบไปแค่ไหนพอกดปุ่มมันก็จะล็อคคันเร่งให้วิ่งความเร็วเดิมไปจนกว่าเราจะเหยียบเบรคหรือกดยกเลิก ส่วนลิมิตคือการตั้งความเร็วสูงสุดครับ เช่น ตั้งไว้ที่ 80 ระบบจะบังคับให้วิ่งสูงสุดได้ที่ 80 ครับ เหยียบลงไปก็ไม่มีผลครับ รอบเท่าเดิม ความเร็วเท่าเดิม เหมาะสำหรับการคุมความเร็วที่ไม่ต้องการล็อคให้คันเร่งค้างเองครับ ใช้เท้านี่แหละชัวร์สุด
บางตัวอาจมีหน้าตาแบบนี้ครับ มีปุ่มลิมิตมาให้เลย แต่ของผมหาได้แต่แบบที่ติดตั้งครับ แต่ใช้งานได้ไม่มีปัญหาครับ (รูปจากในเน็ตครับ)
สำหรับการใช้งานนั้นถ้าท่านที่เคยใช้มาก่อนอาจจะงงๆ กับแบบที่ผมติดเพราะปุ่ม on off จะถูกนำมาแยกคำสั่งครับ
Cruise Control
สำหรับการใช้โหมด cruise control ปกติ ให้กดปุ่ม OFF ครับ หน้าจอจะขึ้นสัญลักษณ์มาตรวัดมาที่หน้าจอตรงพวงมาลัย คราวนี้ก็เหยียบคันเร่งจนถึงความเร็วที่ต้องการแล้วค่อยกดปุ่ม + หรือ - ทีนี้ความเร็วก็จะถูกล็อคคงที่ครับ สัญลักษณ์จะแสดงทั้งที่หน้าจอตรงพวงมาลัยและที่หน้าจอ HUD ด้วยครับ
พอกดเปิดสัญลักษณ์จะเป็นสีส้มครับ เมื่อล็อคแล้วจะเป็นสีเขียวครับ
เมื่อไหร่ที่เหยียบเบรคระบบจะทำการ pause ค่าความเร็วไว้ให้ครับ เมื่อต้องการทำความเร็วให้เท่าเดิมแค่กดปุ่ม RES มันก็จะเร่งความเร็วอัตโนมัติกลับมาให้ที่ความเร็วเดิมที่เราตั้งไว้ครับ (ของแม่บ้านต้องเหยียบเอา อิอิ) หากจะทำการปิดระบบก็กดปุ่ม OFF อีกทีครับ ในระหว่างขับถ้าอยากลดเพิ่มความเร็วนอกจากใช้คันเร่งแล้วก็กดปุ่ม + - เอาได้เลยครับ
LIMIT
ส่วนการใช้การตั้งความเร็วสูงสุดนั้นให้กดปุ่ม ON ครับ หน้าจอจะขึ้นตัวอีกษร LIM มาให้ แต่ตัวเลขจะยังอยู่ที่ 0 ครับ ให้กดปุ่ม + จะขึ้นมาที่ 30 ทีนี้จะเพิ่มไปที่เท่าไหร่ก็กดไปเรื่อยๆ ครับ ถ้ากดค้างจะขยับทีละ 10 ครับ ในโหมดนี้ข้อดีที่ผมเจอคือทำให้เราไม่โดนจับความเร็วครับ เพราะเราคุมได้ เช่น ตั้งไว้ที่ 100 เหยียบไปเพลินก็ไม่มีทางเกินครับ แต่ถ้าไม่ใช้โหมดนี้อาจมีเผลอเหยียบครับ ส่วนท่านที่ห่วงเรื่องการเร่งแซงก็ไม่ต้องกังวลครับ กดปุ่ม Cancel แล้วเหยีบ พุ่งทะยานแหกลิมิตแน่นอนครับ การยกเลิกโหมดนี่ก็กด ON อีกทีครับ
ตัวเลขการบริโภคน้ำมัน
ในเมืองที่รถติดขับที่ความเร็ว 40-60 ติดๆ หยุดๆ เคลื่อน ๆ อยู่ระหว่าง 8.5-10 L ต่อ 100 km ครับ
ส่วนต่างจังหวัดผมใช้ cruise control จาก กทม ไปโคราช ได้ที่ 6.4-6.5 L ต่อ 100 km ครับ สำหรับผมแล้วเครื่อง 2.0 ได้ประมาณนี้ผมโอเคครับ
สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันเติม 1 ถังวิ่งได้ 400 กิโลขึ้นไปแน่นอนครับ ผมยังไม่ได้ลองวัดแบบจริงจังนะครับ อันนี้ใช้การดูหน้าจอเอาครับ
แม่บ้านถ่ายนะครับ ผมมิกล้าถ่ายเด็ดขาด
จริงๆแล้วผมจะติด Paddle Shift เพิ่ม แต่ลองดูแล้วผมสนุกกับการเล่นเกียร์ที่คันเกียร์มากกว่าครับ ซึ่งค่าใช้จ่ายการติดตั้งทั้ง Cruise และ Paddle Shift นั่น รวมกันราคาถือว่าไม่แพงเลย หมื่นมีทอนครับ
สรุปการใช้งานในช่วงที่ผ่านมา
ข้อดี
-ขับมันดีครับ เร่งปรู๊ด เร่งปรู๊ด ผมขับรุ่นไหนถ้ามันได้ดั่งใจถือว่าสนุกครับ แต่ผมไม่ขับแบบเร็วนรกนะครับ พี่พอลแกยังไม่คิดถึงเลยไม่จำเป็นต้องรีบไปหาแกครับ เร็วสุดแค่ 160 เผลอกดไป บอกเลยว่านิ่งมาก ช่วงล่างดีเยี่ยมสมคำร่ำลือ ผมให้เป็นรองค่ายนรก F0rt นิดนึง ฟีลพวงมาลัยมันคล้ายๆ เชฟโรเล็ตครับ หนึบหนับ พวงมาลัยช่วงขับช้าจะเบาครับ พอเร็วมากเข้ามันก็หนัก ยอมรับว่าเซ็ทมาดีครับ
- วัสดุภายในดูดีสมราคาครับ ดีกว่าคู่แข่งชัดเจนครับ
- ไฟหน้า ไฟท้าย สวยมากกกกกกกกก (รุ่น S 4 ประตู)
- จอทัชสกรีน ใช้ง่าย ปุ่มคอมมานด์เซ็นเตอร์ หมุนๆ ถนัดดีครับ
- อัตราขย้ำน้ำมันประหยัดกว่าที่คิดไว้เยอะถ้าเทียบกับตัวเก่า แต่ยังไม่ดีพอกับคำว่า skyactive ตัว มาสด้า 2 ทำไว้โหดมากๆ
- มีระบบล็อครถอัตโนมัติเมื่อความเร็วถึง 20 km ซึ่งคู่แข่งทะลึ่งตัดออกซะงั้น
- รุ่นนี้ทำมาเพื่อคนขับและคนนั่งหน้าจริงๆ
- เครื่อง 2.0 ระบบความปลอดภัยให้มาครบตั้งแต่ตัวล่างสุด ราคาแปดแสนกว่าๆ ไม่สนใจของเล่นอื่นๆ ตัวนี้คุ้มสุดๆครับ
ข้อเสีย
- เสียงดังครับ ล้อขอบ 18 ดังโคตร ใครสายเงียบเลิกมองครับ
- ช่วงล่างมันไม่นุ่มครับ กระด้างน่าดู แต่ไม่ได้โหดร้าย แต่มันได้หนึบมาแทน สองอย่างนี้ไม่มีวันอยู่ด้วยกันครับ
- เสียงแตรมันไม่ถูกใจผมเอาเสียเลย
- ไม่มีเบาะปรับไฟฟ้านะครับ เคืองมากแต่ก็ซื้อเพราะเฉยๆ คนเราจะปรับกันบ่อยแค่ไหนเชียว
- ช่องใส่ cd คิดได้ไงครับเอาไว้ตรงกับคันเกียร์ ถามว่าใสได้ไหม มันก็ได้ครับ แต่ถ้าเข้าเกียร์ P แล้ว มันเกะกะมากครับ
- ช่องเก็บแว่น ถ้าจอดตากแดด ขาแว่นร้อนมากกกก หูพองได้เลย
- ฝนตกทีเสียงดังน่าดู สงสัยไม่ได้บุฉนวนหลังคา เดี๋ยวว่างๆ จะรื้อดูครับ
- ที่นั่งด้านหลังตรงกลางมีอุโมงค์งอกมาครับ คนนั่งกลางนั่งไม่สบายแน่ๆ
- ปุ่มพับเบาะหลังด้านในห้องโดยสารไม่มี ต้องไปเปิดจากด้านท้ายในกระโปรงท้ายรถ
- ยางขอบกระจกประตูเหมือนจะอมน้ำเวลาฝนตกครับ กดขึ้นลงเพื่อแตะหรือคืนบัตรทีไรแขนเปียก คันเดิมแห้งสนิทรึเพราะวัสดุที่ใช้ก็ไม่รู้
ตอนนี้วิ่งมาจะสองพันกิโลละครับ ปัญหาเก่าๆที่เคยเจอกันผมยังไม่เจอ และคาดว่าคงจะแก้ไขหมดแล้วในตอนนี้ แต่เจอปัญหาใหม่แทนคือ มีเสียงกระจกสั่นหรือไม่ก็มีสายไฟหรือน็อตหลุดในตัวถัง เพราะเวลาขับเจอพื้นที่ไม่เรียบเสียงจะมาทันที คาดว่าน่าจะเป็นจากการติดฟิล์มแล้วเก็บงานไม่ละเอียด(คาดเดานะครับ) ส่วนน้ำมันผมใช้แต่ e20 เพราะตัดปัญหาหรือความเสี่ยงไฟโชว์ครับ อยากลองไป 95 เหมือนกันแต่ช่วงนี้ไม่ว่างเข้าศูนย์ครับ 55
สำหรับท่านที่สนใจหรือมองรุ่นนี้ไว้ ผมอยากให้ท่านไปลองขับครับ อย่ามองแค่รูปทรงถูกใจแล้วซื้อเลย บางทีรถก็เลือกเจ้าของนะครับ รถสวยแต่ขับแล้วไม่ถูกจริต ท่านจะหงุดหงิดไปอีกนาน
รถทุกยี่ห้อมีจุดเด่นในตัวมันเองครับ ไม่มีคันไหนเพอร์เฟค บางยี่ห้อสวยงามหัวยันท้าย แต่ขับแล้วไม่มั่นใจ บางยี่ห้อขับกลางๆ แต่ออพชั่นมาเต็ม บางยี่ห้อบริการหลังการขายดีเลิศอะไหล่หาง่ายซ่อมง่าย คนใช้เยอะ แต่ออพชั่นน้อย วัสดุไม่เนี้ยบ มีดีมีด้อยต่างกันไปครับ เลือกในสิ่งที่เรารับได้ อย่าเลือกในสิ่งที่คนอื่นชอบมากกว่าเราครับ