📌 ปภ. แนะผู้ใช้รถใช้ถนนช่วงพายุฝนฟ้าคะนอง เพิ่มความระมัดระวัง
ขณะขับรถผ่านเส้นทางฝนตกน้ำท่วมขังอย่างปลอดภัย☔️🚗

      กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะวิธีขับรถผ่านเส้นทางที่มีฝนตกและน้ำท่วมขังอย่างปลอดภัยโดยควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถเป็นพิเศษ ใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพถนน เปิดไฟหน้ารถ ไม่เปิดไฟสูง หรือไฟกะพริบ ปรับระดับที่ปัดน้ำฝนให้สัมพันธ์กับความแรงและปริมาณฝน เว้นระยะห่างจากรถคันอื่นมากกว่าปกติ และหากฝนตกหนักจนมองไม่เห็นเส้นทาง ให้จอดรถบริเวณที่ปลอดภัย

       นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ช่วงนี้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ เนื่องจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนวิภา อาจทำให้น้ำท่วมขังบนถนน การขับรถในช่วงฝนตกถนนมักเปียกลื่น มีแอ่งน้ำท่วมขัง และทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ดี ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงและรุนแรงกว่าปกติ เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะวิธีขับรถผ่านเส้นทางที่มีฝนตกและน้ำท่วมขังอย่างปลอดภัย ดังนี้

🔶เพิ่มความระมัดระวังในการขับรถเป็นพิเศษ โดยเฉพาะช่วงที่ฝนตกใหม่ ๆ เพราะถนนลื่นกว่าปกติ หากถูกคลื่นน้ำสาดใส่กระจก ไม่ควรเบี่ยงหลบ แต่ให้บังคับรถอยู่เลนเดิม

🔶ใช้ความเร็วไม่เกิน 60 km/h เพราะเป็นความเร็วที่สามารถควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปิดไฟหน้ารถปกติ เพื่อให้มองเห็นเส้นทางชัดขึ้น และผู้ขับรถคนอื่นมองเห็นรถเราได้จากระยะไกล

🔶ไม่เปิดไฟหรี่ ไฟสูง ไฟกะพริบ หรือไฟตัดหมอก เพราะจะรบกวนทัศนวิสัยของผู้ขับรถคันอื่น

🔶ปรับระดับความเร็วของที่ปัดน้ำฝน ให้เหมาะสมกับความแรงและปริมาณฝน

🔶เว้นระยะห่างจากรถคันอื่นให้มากกว่าปกติ ไม่ขับชิดท้ายรถคันหน้าในระยะกระชั้นชิด ไม่ขับตีคู่รถขนาดใหญ่ และไม่ควรเหยียบเบรกกะทันหันเพราะจะทำให้รถเสียการทรงตัว เกิดอุบัติเหตุได้

🔶 ให้สัญญาณไฟล่วงหน้าก่อนเปลี่ยนช่องทาง ในระยะไม่ต่ำกว่า 60 เมตร โดยมองกระจกให้รอบด้าน ก่อนหักพวงมาลัยเปลี่ยนเลน กรณีฝนตกหนักจนมองไม่เห็นเส้นทาง ให้จอดรถบริเวณที่ปลอดภัย

🔶หากจำเป็นต้องจอดข้างทางให้เปิดสัญญาณไฟกะพริบ และวางวัตถุสะท้อนแสงไว้ที่หลังรถ เพื่อให้รถคันอื่นสังเกตเห็นง่าย

ท้ายนี้ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ภัยได้ที่ Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย X @DDPMNews Line @1784DDPM สามารถแจ้งและขอความช่วยเหลือ ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ///