
ปภ.แนะทริกขับรถช่วงหน้าฝน...เลี่ยงเหตุรถชนท้ายและรถติดหล่ม
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะผู้ขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วมขัง บริเวณแอ่งน้ำ ถนนที่เปียกลื่น ไม่ควรขับรถกระชั้นชิด รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยเสมอ ไม่หยุดรถกระทันหัน ทุกครั้งที่เปลี่ยนช่องทางควรเปิดใช้สัญญาณไฟ รวมถึงสังเกตพฤติกรรมรถคันหน้า ไว้คาดการณ์เหตุการณ์ฉุกเฉินล่วงหน้า เพื่อป้องกันรถเฉี่ยวหรือชนท้าย หากขับผ่านเส้นทางเป็นโคลนและมีหลุมบ่อ ให้ขับตามแนวรอยล้อรถวิ่งคันข้างหน้า หากรถมีอาการหนืด ให้หมุนพวงมาลัยไปมาช้า ๆ อย่าเร่งเครื่อง จะช่วยป้องกันล้อรถไม่ให้จมโคลนลึก หรือเปิดใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อเลี่ยงเหตุรถติดหล่ม
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า การขับรถในช่วงฝนตก
มักมีทัศนวิสัยในการขับรถไม่ดีและมีสภาพถนนเปียกลื่น
ให้หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีน้ำท่วมขังหรือแอ่งน้ำลึก และเส้นทางที่เป็นดินโคลนและมีหลุมบ่อ ถนนลูกรัง ทางดิน หรือทางในป่า เพราะอาจทำให้รถติดหล่มและอุบัติเหตุชนท้ายได้ เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะวิธีป้องกันอุบัติเหตุรถชนท้ายและรถติดหล่ม ดังนี้ โดยผู้ขับขี่รถในช่วงหน้าฝน ไม่ควรขับรถเร็ว ให้เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ ไม่หยุดหรือเปลี่ยนช่องทางกะทันหันและให้สัญญาณไฟล่วงหน้าก่อนเลี้ยวรถหรือเปลี่ยนช่องทางไม่ต่ำกว่า 60 เมตร พร้อมแตะเบรกเบาๆ เพื่อชะลอความเร็วก่อนหยุดรถ เพื่อเตือนให้รถคันหลังเว้นระยะห่างหรือหยุดรถได้อย่างปลอดภัย เปิดไฟหน้าและไฟท้ายตลอดเวลา เพื่อให้รถคันหลังมองเห็นชัดเจน จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการชนท้าย. อีกทั้งหากจำเป็นต้องขับรถผ่านเส้นทางเสี่ยงติดหล่ม ให้ขับรถไปตามเส้นทางที่มีรอยล้อรถวิ่ง หากมีอาการล้อหนืดให้หมุนพวงมาลัยช้าๆ ในทิศตรงข้าม เพื่อให้ล้อเกาะพื้นดินใหม่จะช่วยให้รถเคลื่อนที่ได้ กรณีรถเกิดติดหล่ม ห้ามเร่งเครื่องยนต์ หรือหักพวงมาลัยอย่างแรง เพราะจะทำให้ล้อรถจมโคลนลึกกว่าเดิม ควรประเมินความลึกของล้อที่ติดหล่ม หากรถไม่ลึกมาก ลองใช้เกียร์ต่ำเดินเครื่องไปข้างหน้าและถอยหลังช้าๆ สลับกันไป เพื่อสร้างแรงเหวี่ยงให้รถหลุดออกจากหล่ม พร้อมหาก้อนหิน กิ่งไม้ หรือ วัตถุแข็ง ๆ มาหนุนนำหน้าล้อที่ติดหล่ม แล้วค่อยๆ เร่งเครื่องหรือใช้รถคันอื่นช่วยลากจูง หรือหากรถมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เปิดใช้งาน หากขับรถขณะฝนตก ให้หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีน้ำท่วมขังหรือแอ่งน้ำลึก เพราะอาจทำให้รถติดหล่มได้ ทั้งนี้ การขับรถในช่วงฤดูฝน หากเกิดเหตุฉุกเฉินให้ตั้งสติ จับพวงมาลัยให้มั่น ค่อยๆ ถอนคันเร่งและใช้เกียร์ต่ำ เพื่อชะลอความเร็วจนกว่ารถทรงตัวได้ดีและหยุดรถได้อย่างปลอดภัย จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางช่วงฤดูฝน
ท้ายนี้ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย X@DDPMNews Line @1784DDPM สามารถแจ้งและขอความช่วยเหลือ ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ///
ทริกขับรถช่วงหน้าฝน...เลี่ยงเหตุรถชนท้ายและรถติดหล่ม
ปภ.แนะทริกขับรถช่วงหน้าฝน...เลี่ยงเหตุรถชนท้ายและรถติดหล่ม
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะผู้ขับรถผ่านเส้นทางน้ำท่วมขัง บริเวณแอ่งน้ำ ถนนที่เปียกลื่น ไม่ควรขับรถกระชั้นชิด รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยเสมอ ไม่หยุดรถกระทันหัน ทุกครั้งที่เปลี่ยนช่องทางควรเปิดใช้สัญญาณไฟ รวมถึงสังเกตพฤติกรรมรถคันหน้า ไว้คาดการณ์เหตุการณ์ฉุกเฉินล่วงหน้า เพื่อป้องกันรถเฉี่ยวหรือชนท้าย หากขับผ่านเส้นทางเป็นโคลนและมีหลุมบ่อ ให้ขับตามแนวรอยล้อรถวิ่งคันข้างหน้า หากรถมีอาการหนืด ให้หมุนพวงมาลัยไปมาช้า ๆ อย่าเร่งเครื่อง จะช่วยป้องกันล้อรถไม่ให้จมโคลนลึก หรือเปิดใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อเลี่ยงเหตุรถติดหล่ม
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า การขับรถในช่วงฝนตก
มักมีทัศนวิสัยในการขับรถไม่ดีและมีสภาพถนนเปียกลื่น
ให้หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีน้ำท่วมขังหรือแอ่งน้ำลึก และเส้นทางที่เป็นดินโคลนและมีหลุมบ่อ ถนนลูกรัง ทางดิน หรือทางในป่า เพราะอาจทำให้รถติดหล่มและอุบัติเหตุชนท้ายได้ เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะวิธีป้องกันอุบัติเหตุรถชนท้ายและรถติดหล่ม ดังนี้ โดยผู้ขับขี่รถในช่วงหน้าฝน ไม่ควรขับรถเร็ว ให้เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ ไม่หยุดหรือเปลี่ยนช่องทางกะทันหันและให้สัญญาณไฟล่วงหน้าก่อนเลี้ยวรถหรือเปลี่ยนช่องทางไม่ต่ำกว่า 60 เมตร พร้อมแตะเบรกเบาๆ เพื่อชะลอความเร็วก่อนหยุดรถ เพื่อเตือนให้รถคันหลังเว้นระยะห่างหรือหยุดรถได้อย่างปลอดภัย เปิดไฟหน้าและไฟท้ายตลอดเวลา เพื่อให้รถคันหลังมองเห็นชัดเจน จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการชนท้าย. อีกทั้งหากจำเป็นต้องขับรถผ่านเส้นทางเสี่ยงติดหล่ม ให้ขับรถไปตามเส้นทางที่มีรอยล้อรถวิ่ง หากมีอาการล้อหนืดให้หมุนพวงมาลัยช้าๆ ในทิศตรงข้าม เพื่อให้ล้อเกาะพื้นดินใหม่จะช่วยให้รถเคลื่อนที่ได้ กรณีรถเกิดติดหล่ม ห้ามเร่งเครื่องยนต์ หรือหักพวงมาลัยอย่างแรง เพราะจะทำให้ล้อรถจมโคลนลึกกว่าเดิม ควรประเมินความลึกของล้อที่ติดหล่ม หากรถไม่ลึกมาก ลองใช้เกียร์ต่ำเดินเครื่องไปข้างหน้าและถอยหลังช้าๆ สลับกันไป เพื่อสร้างแรงเหวี่ยงให้รถหลุดออกจากหล่ม พร้อมหาก้อนหิน กิ่งไม้ หรือ วัตถุแข็ง ๆ มาหนุนนำหน้าล้อที่ติดหล่ม แล้วค่อยๆ เร่งเครื่องหรือใช้รถคันอื่นช่วยลากจูง หรือหากรถมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เปิดใช้งาน หากขับรถขณะฝนตก ให้หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีน้ำท่วมขังหรือแอ่งน้ำลึก เพราะอาจทำให้รถติดหล่มได้ ทั้งนี้ การขับรถในช่วงฤดูฝน หากเกิดเหตุฉุกเฉินให้ตั้งสติ จับพวงมาลัยให้มั่น ค่อยๆ ถอนคันเร่งและใช้เกียร์ต่ำ เพื่อชะลอความเร็วจนกว่ารถทรงตัวได้ดีและหยุดรถได้อย่างปลอดภัย จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางช่วงฤดูฝน
ท้ายนี้ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย X@DDPMNews Line @1784DDPM สามารถแจ้งและขอความช่วยเหลือ ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ///