ผมไม่เหลืออะไรแล้ว

กระทู้สนทนา
20ปีที่รู้สึกว่าชีวิตไม่มีอะไรเลยสักอย่างเดียวได้แต่นั่งมีชีวิตไปวันๆไร้ค่า  ไร้สาระ  อยู่แต่ในห้องเงียบๆคนเดียวไร้สังคม  ไม่อยากออกไปไหนไม่อยากคุยกับใครไม่อยากอยู่กับใครเป็นคนบ้าในโลกของตัวเองมีความสุขในโลกแห่งความฝันมากกว่าโลกแห่งความเป็นจริงใช้คอมพิวเตอร์แทนเคื่องยึกเหนี่ยวจิตใจเพราะชีวิตไม่เหลืออะไรให้ยึด  เลิกเชื่อในศาสนาเลิกเชื่อในตัวคนเลิกเชื่อในทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง  ตอนเป็นเด็กมักคิดว่า  ความรัก  ความฝัน  ความศรัทธา  เป็นสิ่งที่น่าค้นหาและเป็นความสวยงามเดียวที่น่าหลงใหล  แต่พอเอาเข้าจริงๆ  ความรักไม่มีอยู่จริง  แค่คนสองคนที่มีอารมณ์ร่วมกัน  เพราะความรู้สึกทางเพศมากกว่าจิตใจอะไรๆก็เลยกลายเป็นความหลงมิใช่รัก  ทั้งๆที่มองเห็นแบบนั้นยังจะเชื่อว่ารักที่แท้จริงยังคงจะมีอยู่ที่ไหนสักแห่งและจะตามหาความรักจริงๆ  ทำไมผมไม่เชื่อในความรัก  เหตุผล  ผมโตมาในครอบครัวที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความรัก  ครอบครัวที่แต่งงานกันเพราะผลประโยชน์ของเงิน  ที่ดิน  บ้านผมเป็นแค่ชาวบ้านทั่วๆไปคนต่างจังหวัด  ผมเคยมีความสุขนะครั้งนึงตอนเป็นเด็กความสุขจริงๆที่ครอบครัวนั่งทานอาหารกันพร้อมหน้าพร้อมตา  มีงานวันเกิดจัดตอนกลางคืนยังคงจำได้  ถึงแม้ตอนนั้นจะเป็นแค่เด็กเล็กๆที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร  แต่พอมองเห็นภาพตอนนั้น  นึกถึงในตอนนี้มันมีความสุขจังว่ะ  ภาพทั้งหมดไม่เคยเกิดขึ้นอีกตั้งแต่จำความได้  หลังจาก10ขวบครอบครัวยิ่งเติบโตจากครอบครัวที่ทำงานแค่พอกินมีความสุขอยู่กับบ้านทุกวันไม่มีอีกต่อไป  พ่อแม่เริ่มทำงานหนักขึ้นและหนักขึ้นไม่มีเวลาใช้ชีวิตกับลูกไม่มีอีกแล้ว  จากที่เคยกินข้าวพร้อมหน้าต้องกินข้าวคนเดียวหน้าจอทีวี  จากที่เคยพูดคุยกันทุกวันต้องพูดคุยกับหน้าจอทีวี  จากที่มีความสุขเวลาได้เล่นหยอกกันได้แต่นั่งอยู่กับแต่หน้าจอทีวี  จากที่เคยออกไปนอกบ้านไปเที่ยวไปทะเลเหลือเพียงแค่บ้านที่มีผมอยู่ในนั้นคนเดียว  เป็นแบบนี้กินเวลาทั้งหมดตั้งแต่ผม8ปีถึงอายุ18ปี  พอมานึกดูดีๆทุกๆอย่างเริ่มต้นจากนั้น  พอเข้ามหาลัยทุกอย่างเหมือนการเริ่มต้นใหม่ผมตัดทุกอย่างที่เพื่อนเก่า  พ่อ แม่  พี่น้อง  ตัดหมด เปลี่ยนเบอร์มือถือ  เปลี่ยนเฟสบุ๊ค  ลบตัวตนที่เคยเป็น  ไม่ค่อยโทรไปหาที่บ้านก็มีแต่เรื่องเดิมๆจะให้คุยอะไร  อยู่ที่นี่คนเดียวดีกว่า  ผ่านมา1ปี  ปี1ของมหาลัยเป็นอะไรที่สนุกดี  ได้เจอคนแต่ก็เงียบสงบผมอยู่คนเดียวในหอพักเล็กๆไปเรียนไปออกกำลังกาย  พูดคุยกับเพื่อน  ดูเหมือนจะดี  แล้วก็เริ่มเข้าสังคมกินเหล้า  ทุกวัน และทุกวัน  งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา  วันหนึ่งกลุ่มที่สร้างขึ้นเพื่อนแตกออกเป็นเสี่ยงเพราะอะไรก็ไม่รู้ปัญหามันมากเกินจะอยู่ร่วมกัน  เริ่มไม่เชื่อใจ  ไม่ไว้ใจกัน  เมื่อกลุ่มแตกออกผมกลับไปอยู่คนเดียวอีกครั้งครั้งนี้โดดเดี่ยวกว่าครั้งไหน  กลายเป็นคนเก็บตัวเงียบไม่ออกไปไหนไม่สุงสิงกับใคร  อยู่ไปวันๆวันๆที่กินแล้วก็นอนในห้องของตน  ตอนนี้ที่เป็นปัญหาคือชีวิตเริ่มแย่ลงและแย่ลง  เพราะพอไม่ออกไปไหนไม่อยากรู้จักใครแล้วมันทำให้โลกข้างนอกห้องดูโหดร้ายเหมือนระแวงว่าจะถูกทำร้ายจากคนทุกคน  และกลัวว่าตัวเองจะทำร้ายใครเลยเลือกขัวตัวเองไว้ในห้อง  มีเพื่อนแวะเวียนมาบ้างนานๆครั้งไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ห้องผมเป็นศูนย์รวมของคนที่สาขาคณะ  บัดนี้ไม่มีอีกแล้ว  แต่ช่างเถอะคิดไปจะได้อะไร  ปัญหามันอยู่ตรงนี้ผมเริ่มไม่รู้สึกยินดียินร้ายกับอะไรก็ตามที่เข้ามาในชีวิต  เริ่มไม่อยากทำอะไรเลยสักนิดเดียว  เริ่มรู้สึกผิดกับความผิดพลาดที่นานมาแล้วนานๆมากๆตอนเป็นเด็กย้อนนึกถึงเรื่องราวเก่าๆที่เศร้าหมอง  ความรู้สึกผิดตีกลับในเรื่องเก่าก่อน  จนบางทีคนที่อยากขอโทษลืมมันไปแล้ว  ผมเริ่มขาดเรียนอย่างไร้เหตุผล  ผมไม่รู้ว่าจะเรียนไปทำไม  เริ่มไม่อยากเรียน  อยากนอนหลับแล้วไม่ตื่นมาอีกเลย  อยากนอนหลับแล้วตายไปเลย  ไม่อยากเจอเรื่องวุ่นวายอะไรยัดเข้ามาในหัวสมองอีกแล้ว  สมองเริ่มไม่สั่งการใดๆเริ่มซื้อบื้อนั่งนิ่งๆมองไปที่ไหนสักทีแล้วค้างอยู่ยั่งนนั้นนานสองนาน  เริ่มมีอาการนอนไม่หลับอยากนอนให้ตายไปแต่นอนไม่หลับ  นอนตอนตี4ของทุกวันต้องหาอะไรทำให้ดวงตาล้าจนทนไม่ไหว  แล้วถึงจะนอนได้  ติดบุหรี่  ไม่รู้ว่าเครียกอะไรในหัวไม่มีเรื่องเครียดรู้แค่ว่าเครียด  นั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าจอคอมเป็นเวลานานๆตั้งแต่4โมงเย็นถึงตี4ไม่ลุกไปไหนยกเว้นเข้าห้องน้ำ  ทำแบบนี้ซ้ำไปมา  ไม่เปิดม่านให้แสงเข้า  ไม่เก็บขยะ ห้องรกไปหมด  มันมีหลายเรื่องให้คิดมากนะหลายเรื่องที่อยากจะทำแต่พอคิดได้กลับไม่ทำแล้วก็วนอยู่แบบนี้  คิด10ทำ1ก็เป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากแล้ว  เริ่มมีอาการหลงๆลืมๆต้องเขียนโน๊ตแปะไว้ตรงฝาผนัง  ใช้รายการตลกในยูทูปเป็นความสุขเดียวในชีวิตที่มี  ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมตามหาว่าความสุขคืออะไรทำอะไรถึงจะได้มา  ความสุขนั้นต้องดีมากแน่ๆแต่พอมารู้ความจริงว่าความสุขคนเราไม่เหมือนกันทีนี้ผมก็ต้องมาตามต่ออีกว่าความสุขของผมคืออะไร  จนตอนนี้ผมยังไม่เข้าใจ  เพราะในวันนี้ผมยิ้มได้หัวเราะได้แต่มันรู้สึกว่าไม่ใช่สุข  มันแค่เป็นการไร้ทุกข์มันไม่มีความรู้สึกสุขจริงๆด้วยซ้ำ  แย่ตรงที่  ผมไม่รู้ผมเป็นใครและเกิดมาทำไม  จะทำอะไรให้โลกใบนี้ได้บ้างยกเว้นจะเป็นปุ๋ยให้โลกนั่นก็ดีแต่ต้นไม่คงไม่รับผมล่ะมั้ง  โลกยังไม่ต้องการเลย ไร้ค่าเกินกว่าจะเป็นปุ๋ยต้นไม้   ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่ผมพูดไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่ผมพิมพ์ไม่มีใครเข้าใจและพูดถึงจริงๆไม่มีใครที่ต้องการให้ผมเป็นตัวของผมจริงๆ  ทุกคนต้องการแค่ความรู้สึกของตัวเองความฝันของตัวเองเอาทุกอย่ามายัดเยียดใส่ตัวผม  โลกนี้มันเคยสวยงามจนกระทั่งมันโหดร้ายผมคิดยังงั้นจริงๆ  ผมไม่รู้ว่าผมป่วยเป็นอะไรรึเปล่า  กับการที่ใช้ชีวิตไปวันๆแบบนี้  กระทู้นี้ไม่น่าตั้งขึ้นมาด้วยซ้ำแค่กระทู้บ่นๆของคนๆนึงที่ไม่มีค่าอะไร  ขอโทษถ้าทำใครเสียเวลาแต่ก็เสียเวลากับการอ่านจริงๆนั่นแหละ  โชคดีนะสำหรับใครสักคนใครสักคนที่เห็น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่