กระทู้นี้ตั้งใจจะเอาลงกระทู้สนทนาค่ะ แต่เนื่องจากไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ จขกท จึงต้องลงกระทู้คำถามแทน เพื่อให้ทุกคนลองอ่านดูละกันนะคะ ว่าบริษัทใหญ่ๆก็ไม่ได้มีข้อดีเสมอไป จขกท เพิ่งออกจากงานล่าสุดจากที่นี่ค่ะ นั่นก็คือโรงแรมเอเซีย
http://www.asiahotel.co.th/ ตามเว็บไซต์นี่เลยนะคะ เรื่องก็คือ จขกท เข้าไปสมัครงานที่โรงแรมแห่งนี้ สัมภาษณ์เสร็จตอนเเรกก็เรียก จขกท มาเริ่มงาน ให้ไปตรวจร่างกาย เปิดบัญชี ดิฉันก็จัดการทุกอย่างเรียบร้อย ค่าตรวจร่างกายกับเปิดบัญชีรวมกันทั้งหมด 1,070 บาท แล้วก่อนเริ่มงานวันนึง ฝ่ายบุคคลก็โทรมาบอกดิฉันว่ายังไม่ต้องมาเริ่มงาน ไว้ผู้บริหารจะหาตำแหน่งที่สูงกว่าให้ หลังจากนั้นก็เรียกสัมภาษณ์อีกรอบกับผู้บริหาร แต่ผู้บริหารกลับบอกว่ายังไม่ตกลงว่าจะรับหรือไม่รับ ดิฉันก็เลยบอกผู้บริหารกับฝ่ายบุคคลว่าไปตรวจร่างกายกับเปิดบัญชีมาแล้ว ถ้าหากว่าไม่รับขอผลตรวจร่างกายได้ไหม จะได้เอาไปใช้ที่อื่นได้ ฝ่ายบุคคลก็บอกว่าจะส่งให้ ดิฉันก็ไม่อยากติดใจอะไรตอนนั้นรับไม่รับก็ไม่เป็นไร
จนในที่สุดโรงเเรมเเห่งนี้ก็รับดิฉันเข้าทำงาน ดิฉันทำงานไปประมาณ 3 อาทิตย์ หัวหน้าก็ประเมินให้ดิฉันไม่ผ่านงาน เพราะงานที่ต้องติดต่อพูดคุยหรือประสานงานยังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ส่วนพี่ที่สอนงานบอกว่าดิฉันช่วยงานเอกสารได้ ถ้าเขาต้องทำคนเดียวก็โหลด ได้ดิฉันมาก็พอช่วยได้เหมือนกัน แต่เรื่องที่ติดต่อพูดคุยหรือประสานงานยังต้องฝึก ขอยกตัวอย่างนะคะ อย่างเช่นถ้าลูกค้าโทรมาถามเกี่ยวกับข้อมูลโรงแรมที่ดิฉันไม่รู้ ดิฉันเพิ่งเข้าไปยังไม่ทันจะถึงเดือน เรื่องไหนที่ไม่รู้ก็ต้องถามพี่เขา หัวหน้าคงมองว่าดิฉันไม่สามารถคุยกับลูกค้าจบได้ในครั้งเดียวล่ะมั้ง ดิฉันยอมรับว่าจากหลายๆที่ที่เคยทำงานมา ดิฉันมีปัญหาเรื่องทำงานช้า แต่พี่ที่สอนงานที่นี่บอกว่าเน้นความถูกต้อง ไม่เน้นความรวดเร็ว แต่ที่หัวหน้าเขาต้องการเขาเน้นความรวดเร็ว พร้อมกับคิดงานบริหารได้ด้วย พี่ที่สอนงานก็บอกว่าถ้าเขาต้องการแบบนั้น ก็รอหาไปเถอะคงหาได้หรอกนะเงินเดือนแค่นี้ ดิฉันได้เงินเดือนรวม 11,500 ค่ะ แต่ที่ตัดสินใจทำเพราะเห็นมีอาหารให้กิน 3 มื้อ ประหยัดไปได้ 50 - 60 บาทก็ยังดี เพราะดิฉันเป็นคนกินเก่ง
ตอนเเรกหัวหน้าเเนะนำตำแหน่ง laundry ให้ดิฉันทำ แต่ที่บ้านไม่ค่อยอยากให้ทำเพราะมันกึ่งใช้แรงงาน แม่บอกว่าถึงจะอยากได้งานเเต่ก็ต้องมีศักดิ์ศรีด้วย หัวหน้าบอกว่าจะให้ฝ่ายบุคคลมาคุยว่า ตกลงจะให้ดิฉันย้ายเเผนกหรืออยู่ทำจนถึงสิ้นเดือนมิถุนา (ซึ่งดิฉันทำถึงวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมานี้ค่ะ) ดิฉันรอๆๆ จนกระทั่งใกล้ถึงวันที 30 ทั้งหัวหน้าและฝ่ายบุคคลก็ยังไม่เรียกคุยว่าจะเอายังไง ทั้งๆที่เรื่องเเบบนี้มันควรจะต้องบอกกัน เพื่อที่ดิฉันจะได้รู้ว่าจะเอายังไงกับชีวิตตัวเองต่อไปดี แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบอะไรเลย พี่ที่สอนงานโทรมาคุยตอนเลิกงานว่า ฝ่ายบุคคลไม่กล้าเรียกคุยเพราะไม่รู้ว่าตกลงจะให้ย้ายแผนกหรือออก ดิฉันกลับมาเล่าให้แม่ฟัง แม่บอกจริงๆก็ควรจะบอกทำแบบนี้ใช้ไม่ได้ จนกระทั่งทนไม่ไหวต้องเข้าไปถามเอง เขาถึงบอกมาว่าต้องทำตามหัวหน้าก็คืออยู่ถึงวันที่ 30
ทีนี้มาถึงตอนจ่ายเงินเดือนบ้างนะคะ ฝ่ายบุคคลไม่มีการแจ้งดิฉันล่วงหน้าเลย ว่ากรณีนี้ต้องจ่ายเป็นเงินสด ต้องเข้าไปถามเองถึงจะทราบ ดิฉันก็เออไม่เป็นไร นึกว่าจะได้เงินวันที่ 30 เลย แต่ปรากฎว่าไม่ใช่ค่ะ ดิฉันไม่ได้เงินในวันนั้น ฝ่ายบุคคลบอกว่าเตรียมไม่ทันจะได้ไม่เกินอาทิตย์หน้า ทั้งๆที่ในเมื่อเขารู้ว่าพนักงานจะออกวันนี้เเล้ว ก็ควรจะเตรียมเอาไว้เลยจะได้จบภายในวันนั้นวันเดียว ดีนะคะที่ดิฉันอยู่บ้านนี่ถ้าอยู่หอต้องจ่ายค่าเช่าจะทำยังไง ดิฉันก็รอหลายวันก็ยังไม่ติดต่อกลับมา จนกระทั่งเวลาล่วงเลยจนถึงวันที่ 5 ก.ค. ทนไม่ไหวต้องโทรไปถาม ก็กลับบอกว่าจะได้ประมาณวันที่ 10 ก.ค. ซึ่งไม่สามารถรอจนถึงขนาดนั้นได้ จนแม่ต้องช่วยคุยให้ ถึงได้จัดการให้เรียกดิฉันเข้าไปรับเงินเดือนวันที่ 7 ที่ผ่านมานี้เองค่ะ
วันที่ดิฉันเข้าไปเอาเงินเดือนบังเอิญเจอพี่ที่สอนงาน เขาบอกให้ไปขอโทษฝ่ายบุคคลเรื่องที่เเม่โทรมาช่วยคุยให้ จะได้ไม่เกิดเรื่องขัดข้องหมองใจกันภายหลังถึงจะออกไปแล้วก็ตาม แต่ดิฉันไม่ขอโทษค่ะเพราะถือว่าไม่ผิด เราทำเพื่อปกป้องสิทธิ์ของเรา ในสิ่งที่เราควรจะได้ เพราะการบริหารงานของที่นี่ห่วยแตกมาก ถึงจะไม่ได้โดนขนาดโกงเงิน แต่หลายๆอย่างที่เจอมาก็เสียความรู้สึกมากค่ะ ก็เลยอยากจะเตือนเพื่อนๆทุกคนค่ะว่า บริษัทที่ใหญ่โตหรูหราอย่างโรงแรมแห่งนี้ ภาพลักษณ์ภายนอกอาจจะดูดี แต่พอเข้าไปสัมผัสจริงๆแล้ว แท้จริงก็ไม่ได้ดีอย่างที่เห็นหรอกค่ะ ทั้งไม่ให้โอกาสคนประเมินกันแค่เดือนเดียว แถมยังจ่ายเงินเดือนล่าช้า ดิฉันเข้าใจแล้วที่ว่าคนในอยากออกคนนอกอยากเข้าเป็นอย่างไร
ไม่นึกเลยว่าบริษัทใหญ่ๆจะทำกันเเบบนี้
จนในที่สุดโรงเเรมเเห่งนี้ก็รับดิฉันเข้าทำงาน ดิฉันทำงานไปประมาณ 3 อาทิตย์ หัวหน้าก็ประเมินให้ดิฉันไม่ผ่านงาน เพราะงานที่ต้องติดต่อพูดคุยหรือประสานงานยังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ส่วนพี่ที่สอนงานบอกว่าดิฉันช่วยงานเอกสารได้ ถ้าเขาต้องทำคนเดียวก็โหลด ได้ดิฉันมาก็พอช่วยได้เหมือนกัน แต่เรื่องที่ติดต่อพูดคุยหรือประสานงานยังต้องฝึก ขอยกตัวอย่างนะคะ อย่างเช่นถ้าลูกค้าโทรมาถามเกี่ยวกับข้อมูลโรงแรมที่ดิฉันไม่รู้ ดิฉันเพิ่งเข้าไปยังไม่ทันจะถึงเดือน เรื่องไหนที่ไม่รู้ก็ต้องถามพี่เขา หัวหน้าคงมองว่าดิฉันไม่สามารถคุยกับลูกค้าจบได้ในครั้งเดียวล่ะมั้ง ดิฉันยอมรับว่าจากหลายๆที่ที่เคยทำงานมา ดิฉันมีปัญหาเรื่องทำงานช้า แต่พี่ที่สอนงานที่นี่บอกว่าเน้นความถูกต้อง ไม่เน้นความรวดเร็ว แต่ที่หัวหน้าเขาต้องการเขาเน้นความรวดเร็ว พร้อมกับคิดงานบริหารได้ด้วย พี่ที่สอนงานก็บอกว่าถ้าเขาต้องการแบบนั้น ก็รอหาไปเถอะคงหาได้หรอกนะเงินเดือนแค่นี้ ดิฉันได้เงินเดือนรวม 11,500 ค่ะ แต่ที่ตัดสินใจทำเพราะเห็นมีอาหารให้กิน 3 มื้อ ประหยัดไปได้ 50 - 60 บาทก็ยังดี เพราะดิฉันเป็นคนกินเก่ง
ตอนเเรกหัวหน้าเเนะนำตำแหน่ง laundry ให้ดิฉันทำ แต่ที่บ้านไม่ค่อยอยากให้ทำเพราะมันกึ่งใช้แรงงาน แม่บอกว่าถึงจะอยากได้งานเเต่ก็ต้องมีศักดิ์ศรีด้วย หัวหน้าบอกว่าจะให้ฝ่ายบุคคลมาคุยว่า ตกลงจะให้ดิฉันย้ายเเผนกหรืออยู่ทำจนถึงสิ้นเดือนมิถุนา (ซึ่งดิฉันทำถึงวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมานี้ค่ะ) ดิฉันรอๆๆ จนกระทั่งใกล้ถึงวันที 30 ทั้งหัวหน้าและฝ่ายบุคคลก็ยังไม่เรียกคุยว่าจะเอายังไง ทั้งๆที่เรื่องเเบบนี้มันควรจะต้องบอกกัน เพื่อที่ดิฉันจะได้รู้ว่าจะเอายังไงกับชีวิตตัวเองต่อไปดี แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบอะไรเลย พี่ที่สอนงานโทรมาคุยตอนเลิกงานว่า ฝ่ายบุคคลไม่กล้าเรียกคุยเพราะไม่รู้ว่าตกลงจะให้ย้ายแผนกหรือออก ดิฉันกลับมาเล่าให้แม่ฟัง แม่บอกจริงๆก็ควรจะบอกทำแบบนี้ใช้ไม่ได้ จนกระทั่งทนไม่ไหวต้องเข้าไปถามเอง เขาถึงบอกมาว่าต้องทำตามหัวหน้าก็คืออยู่ถึงวันที่ 30
ทีนี้มาถึงตอนจ่ายเงินเดือนบ้างนะคะ ฝ่ายบุคคลไม่มีการแจ้งดิฉันล่วงหน้าเลย ว่ากรณีนี้ต้องจ่ายเป็นเงินสด ต้องเข้าไปถามเองถึงจะทราบ ดิฉันก็เออไม่เป็นไร นึกว่าจะได้เงินวันที่ 30 เลย แต่ปรากฎว่าไม่ใช่ค่ะ ดิฉันไม่ได้เงินในวันนั้น ฝ่ายบุคคลบอกว่าเตรียมไม่ทันจะได้ไม่เกินอาทิตย์หน้า ทั้งๆที่ในเมื่อเขารู้ว่าพนักงานจะออกวันนี้เเล้ว ก็ควรจะเตรียมเอาไว้เลยจะได้จบภายในวันนั้นวันเดียว ดีนะคะที่ดิฉันอยู่บ้านนี่ถ้าอยู่หอต้องจ่ายค่าเช่าจะทำยังไง ดิฉันก็รอหลายวันก็ยังไม่ติดต่อกลับมา จนกระทั่งเวลาล่วงเลยจนถึงวันที่ 5 ก.ค. ทนไม่ไหวต้องโทรไปถาม ก็กลับบอกว่าจะได้ประมาณวันที่ 10 ก.ค. ซึ่งไม่สามารถรอจนถึงขนาดนั้นได้ จนแม่ต้องช่วยคุยให้ ถึงได้จัดการให้เรียกดิฉันเข้าไปรับเงินเดือนวันที่ 7 ที่ผ่านมานี้เองค่ะ
วันที่ดิฉันเข้าไปเอาเงินเดือนบังเอิญเจอพี่ที่สอนงาน เขาบอกให้ไปขอโทษฝ่ายบุคคลเรื่องที่เเม่โทรมาช่วยคุยให้ จะได้ไม่เกิดเรื่องขัดข้องหมองใจกันภายหลังถึงจะออกไปแล้วก็ตาม แต่ดิฉันไม่ขอโทษค่ะเพราะถือว่าไม่ผิด เราทำเพื่อปกป้องสิทธิ์ของเรา ในสิ่งที่เราควรจะได้ เพราะการบริหารงานของที่นี่ห่วยแตกมาก ถึงจะไม่ได้โดนขนาดโกงเงิน แต่หลายๆอย่างที่เจอมาก็เสียความรู้สึกมากค่ะ ก็เลยอยากจะเตือนเพื่อนๆทุกคนค่ะว่า บริษัทที่ใหญ่โตหรูหราอย่างโรงแรมแห่งนี้ ภาพลักษณ์ภายนอกอาจจะดูดี แต่พอเข้าไปสัมผัสจริงๆแล้ว แท้จริงก็ไม่ได้ดีอย่างที่เห็นหรอกค่ะ ทั้งไม่ให้โอกาสคนประเมินกันแค่เดือนเดียว แถมยังจ่ายเงินเดือนล่าช้า ดิฉันเข้าใจแล้วที่ว่าคนในอยากออกคนนอกอยากเข้าเป็นอย่างไร