อายุน้อยร้อย(กว่า)โล !! คัมภีร์จากเด็กอ้วน 114 พุ่งดิ่งลง 70

คำภีร์ลดน้ำหนักฉบับเด็กอ้วน ไม่ใช้ ยาลดความอ้วนนะเออออออ (เน้นตัวเติบๆเลย)
ก่อนอื่นขอพลีชีพตัวเองก่อนเลยครับ

Before

After

สวัดดีครับเพื่อนๆชาว Pantip ก่อนอื่นเลยผมของแนะนำตัวเองก่อนนะครับ ผม พีท ครับ เพื่อนๆอาจจะเคยเห็นจากภาพ landscape มาบ้างแต่วันนี้ เอ้ะ ยังไง มาโผล่เอาที่นี่ ไม่ต้องแปลกใจครับ ผมมาถูกที่และเพื่อนๆอ่านหัวข้อถูกละครับ
ยังไงๆเข้ามาทักทายกันได้นะครับ ที่ https://www.facebook.com/whatwewerethere/
จุดประสงค์ของกระทู้นี้คือผมอยากจะระบายอารมณ์ เมาส์มอย ถ่ายทอดประสบการ์ณ และ โม้ ... 555 ไม่ผิดครับ ที่กล่าวมาทั้งหมด ผมอยากจะมาเล่าสู่กันฟังประสบการ์ณของผมไม่ว่าจะเป็นด้านการลดน้ำหนักหรือแม้กระทั่งชีวิตความเป็นอยู่ของเด็ก ตปท ... ที่ไม่ได้สวยงามอย่างที่หลายๆคนวาดฝันไว้ แต่ เรื่องหลังเอาไว้ก่อน วันนี้มาเอาประสบการ์ณลด น้ำหนักก่อนละกันเน้ออออ
ก่อนจะ “Dig in” ผมขอออกตัวก่อนเลยนะครับว่า ผมไม่ได้ Claim ว่า ผมเป็น Expert, ผู้เชี่ยวชาญ, กูรู(รู้), และ certified personal trainer (ACE ตรูก็ไม่ได้สอบจะมาเป็นได้ไงฟระ) ทุกอย่างที่ผมจะเล่านี่ based จาก ประสบการ์ณตัวเองที่พบเจอและผสมผสานกับความรู้จาก personal trainerที่ผมไปจ้างและอากู๋ ถ้าพร้อมแล้ว ก็มาดูกันครับ และ ถือสะว่านี่คือกระทู้ของเด็กบ้า หาที่เมาส์มอยคนนึงนะเออ

ส่วนตัวผมคิดว่า content อยู่ใน PG-13 แต่อาจจะมีบางคำติดภาษาพ่อขุนและภาษาพื้นบ้านแถบถิ่นด้ามขวานของไทยมาบ้างนะครับ
ดังนั้นขอให้เพื่อนๆใช้วิจารณญาณ

อนึ่งหลังจากจุดนี้เป็นต้นไป ขอให้เพื่อนๆสนุกไปกับผม และถ้าใคร offended ก็คิดสะว่าเป็น diary ของเด็กบ้าคนนึงนะครับ
อย่างที่บอก นี่คือกระทู้เมาส์มอยของเด็กบ้าคนนึง ภาษาอาจจะไม่เหมาะสำหรับน้องๆหนูๆ คนโลกสวย ถ้าคิดว่าอาจจะรับไม่ได้ เครื่องหมายกากบาท สีแดง อยู่หัวมุมซ้าย เชิญกดได้เลยครับ

ก่อนจะมาถึงทุกวันนี้ผมขอท้าวความสั้นๆก่อนเน้อออออ

EP. 1 จุดเริ่มต้นของเด็กอ้วน

กาลครั้งหนึ่งไม่นานมานี้
ขุนแม่ที่เคารพรัก: “พี่พีท นน เท่าไหรละ อ้วนมากไปไม่ดีนะลูก เด๋วโรคจะถามหา กลับมาไทยเอาแต่กินๆๆๆ เด๋ว น้ำหนักถึงร้อยกันพอดี ดูคุณตาสิ(ท่านเสียไปนานละครับ แต่ขุนนายแม่ เธอชอบ summon มาเวลาเทศเรื่องโรค) เป็นโรคนู้นโรคนี้ เด๋วนี้โรค...บลาๆๆ” และอย่างที่รู้ๆกันครับ เมื่อ นายแม่เข้าสู่โหมดเทศ มันไม่จบง่ายๆ ซึ่งคุณแม่ผมก็เรียกผมมารับฟัง 3 เวลาหลังอาหารเลย ถามว่าเบื่อมั้ย บอกเลยว่า "มากกกกกกกก” เอา ก.ไก่ ไปเลยล้านตัว
ผมนะเหรอหึหึหึหึ: “ครับคุณแม่ พี่พีททราบแล้วครับ ครับคุณแม่ ครับพี่พีททราบคร้าบบบ” แต่ปากก็หาไรใส่ไม่หยุดนะ หุหุหุหุ

พูดแล้วพูดอีก กรอกหูเช้าเที่ยงเย็นคำหลังอาหาร ก่อนนอน โอ้ยยยยยยย จะบ้าาาาาาาา ไม่ไหวแล้ววะ จะบ้า พูดอยู่ได้


ส่วนชีวิตประจำวันของพวกผม ลูกเด็กในแก๊งผมจะชอบชวนผมไปฉัด(แตะ)บอล ตามประสาเด็กผู้ชายซึ่งผมก็ไปแต่.....
เล่นบอลนี่ผมขอเป็น โกล์อย่างเดียวด้วยเหตุผลสองอย่าง
เล่นบอลไม่เป็น 5555+
คล้านอีวิ่ง บวกกับวิ่งไม่รอด

จนวันนึง ลูกเด็กผมมาแปลก มาคุยๆกันผมที่บ้านผมแถมบอกว่า

“พี่ ไปยิมกัน”

ผมนี่อึ้ง ยิ้มมาแปลกวะ มาบ้านตรูแต่เช้าแถมมาชวนไปยิม แปลกเว้ยคิดไงของพวกมันวะ


— หัวหมองอันปราดเปรื่องของผมก็คิดไปได้ว่านายแม่พูดเช้าพูดเย็นพูดแล้วพูดอีก เบื่อเว้ย ทำไงให้นาง SHUT UP — (อย่าให้ถึงสายตานายแม่ผมนะ เด๋วผมตาย ขอละ สาธุ)
— เออ เอาวะ เบื่อจะฟังนายแม่แหลง—
— ไปก็ได้ —
ผม: “ห่ายยย, ไปฟิตเนสทำไมวะ แต่ลองดูก็ได้ไม่เสียหาย”
ลูกเด็ก: “เออ, ไปกันหน่อยพี่หาเพื่อนออก ออกหลายๆคนสนุกไม่เบื่อพี่”

ผม: “แปป... โทรหารุ้นน้องพี่แปป มันเป็นเทรนเนอร์อยู่”
ผม: “จิ้บ (เทรนเนอร์รุ้นน้องผม) ตรูจะเข้าฟิตเนส มาเทรนตรูหน่อย
เออ ขอแบบจัดเต็ม มีบอยกับวินไปด้วย อ่าๆๆ อ่าๆๆ ได้ๆๆ เจอะกัน tomorrow”

ปล. ชื่อจิ้บ นี่ผู้ชายนะ เถื่อนด้วย ไม่ได้น่ารักเหมือนชื่อมันหรอกบอกเลอ

ซึ่งมาคิดตอนนี้มันคง งง ที่อยู่ๆเห็น เด็กอ้วนอย่างผมจะเข้ายิม 555+
และแล้ว
แล้วเราก็ไปกันแบบ งงๆ
จุดเริ่มต้นของการเข้ายิมมันก็น่าจะฉะนี้แลลลลลลลลล (จริงๆจำไม่ค่อยได้ละ แต่เอาเป็นว่าแบบนี้นะ จอบอ)


ภาพการไปยิมวันแรกผมยังจำได้ดี จำได้แบบว่า ใส่แตะขอบฟ้า เข้ายิม และกำเงิน 1500 ไปสมัครยิม 1 เดือน ตอนแรกก็คิดในใจนะตรูจะออกได้นานแค่ใหนวะ ยิมเหนื่อยก็เหนื่อย ไม่เห็นสนุกเลยแต่เอาวะ จ่ายค่ายิมไปละ ค่าเทรนเนอร์ ก็กำลังจะจ่ายไปไม่รู้คิดผิดคิดถูกวะ จ้างไอ้จิ้บ “ซึ่งหารู้ไม่ว่านี่คือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดของผมเลยก็ว่าได้”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่