เรื่องราวชีวิตของคนเราก็เหมือนนกนั้นแหละครับ ที่ต้องใช้ชีวิตโบยบินบนท้องฟ้า แหวกว่ายนภาได้อย่างอิสระ และหลายครั้งต้องเสียงกับอันตรายต่างต่างนานา จากบนท้องฟ้าบ้าง จากพื้นดินและพื้นน้ำบาง มิหนำซ้ำยังต้องเจอกับดักต่างต่างมากมาย รอดบ้าง เจ็บบ้าง พิการบ้าง ตายบ้าง ซึ่งบทเรียนที่นกเหล่านั้นได้รับนั้น คงเป็นเพียงอุปสรรคและปัญหาแค่ช่วงหนึ่งเท่านั้นในชีวิต นกตัวน้อยน้อยบางตัว ก็ใช้ความพยายามบินให้สูง ให้เร็ว กว่านกตัวอื่น แต่กระนั้น นกตัวนั้นคงลืมนึกไปว่า ทั้งปีกที่อ่อนแรง วิธีโบยบิน ทักษะการเอาตัวรอด ของเจ้านกตัวน้อยยังไม่แข็งแรงพอ ซึ่งบนท้องนภาที่กว้างใหญ่ก็ยังมีนกตัวอื่น ที่ไม่ต่างจากนกตัวนี้เลย นกทุกตัวล้วนมีความพยายามเช่นเดียวกับนกตัวนี้ แต่บนท้องนภาที่กว้างใหญ่แห่งนี้ ยังมีนกอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น นกนักล่า นกนักสู้ นกรักสวยรักงาม นกขี้เกียจ นกขี้โกง นกกระล่อน นกอันธพาน นกเจ้าเล่ห์ นกใจดี และนกสายพันธุ์อื่นอีกมากมาย ซึ่งนกน้อยตัวนึงยังไม่เคยสัมผัส และในหลายหลายครั้งเจ้านกน้อยก็มีโอกาสได้โบยบินตามติดนกตัวโตโตหลายครั้งหลายคราว ก็ไม่สามารถจะบินให้ได้เหมือนนกตัวโตตัวนั้น แต่เจ้านกน้อยก็ยังไม่ละทิ้งความพยายาม ที่จะบินให้ได้เหมือนนกตัวโต เจ้านกตัวน้อยจึงได้ใช้แรงทั้งหมดที่มีพยายามกระพรือปีก เหยียดขา เพื่อให้เหมือนเจ้านกตัวโต ในขณะเดียวกันก็มีเสียงดังอื้ออึงจากเหล่านกตัวอื่นอื่น ทั้งคำชม คำดูถูกเหยียดหยาม คำนินทา คำส่อเสียด และในขณะเดียวกัน ที่เจ้านกน้อยโบยบินอยู่ ก็กลับครุนคิดถึงเรื่องเหล่านั้นที่ได้ยิน หลังจากเจ้านกน้อยครุนคิดอยู่นั้น เจ้านกน้อยได้ยินเสียงพูดเสียงหนึ่งว่า "หากเจ้าใช้เวลาครุณคิดฟังเสียงเหล่านั้น เจ้าก็อย่าโบยบินตามข้าเลย" ในทันใดนั้นที่จบเสียง เจ้านกตัวน้อยได้หันกลับมามองยังต้นเสียงนั้น จึงทำให้รู้ว่าเป็นนกตัวโตตัวนั้น ที่มีกรงเล็บยาวแหลม และสายตาที่เฉียบคม
แล้วเมื่อเจ้านกน้อยหมดแรงและอ่อนล่า เจ้านกน้อยได้ถลาบินลงไปยังต้นไม้ต้นหนึ่ง ซึ่งต้นไม้ต้นนี้มีกิ่งก้านสาขาที่สวยงาม อีกทั้งยังประดับประดาด้วยสิ่งของที่ระยิบระยับ มันวาว เจิดจรัส สวยงาม และรายล้อมด้วยเส้นโลหะสีเหลืองทอง และด้วยความที่เหนื่อยล่าและอ่อนแรง ทำให้เจ้านกน้อยรู้สึกกระหายน้ำ ในทันใดนั้นเจ้านกน้อยก็เหลือบตามองไปเห็นน้ำที่อยู่ภายในถ้วยสีเหลืองทอง ซึ่งอยู่ภายหลังเส้นโลหะสีเหลืองทอง และเจ้านกน้อย ได้มองเห็นนกตัวนึง ซึ่งมีความสวยงาม ดูมีสง่าราศรี แลมีความสุข ภายใต้เส้นโลหะสีเหลืองทอง ด้วยความหิวกระหาย เจ้านกน้อยจะถามนกตัวนั้นเพื่อขอจิบน้ำเพื่อคลายความหิวกระหาย เจ้านกสวยงามตัวนั้นจึงบอกด้วยน้ำเสียงแข็งกร่าวและเหยียดหยามว่า เจ้านกมันสกปรก ไม่มีสง่าราศี ไปหาน้ำที่อื่นกินไป้ เมื่อเจ้านกน้อยได้ยินด้วยความตกใจ ก็รีบบินออกจากที่แห่งนั้นโดยทันที จนเจอแหล่งน้ำธรรมชาติ เมื่อเจ้านกน้อยดื่มน้ำเสร็จ ก็ครุนคิดไปพรางพรางว่า ทำไมนกที่สวยงามจึงพูดเช่นนั้น แล้วเจ้านกน้อยก็เผลอหลับไป หลังจากเจ้านกตัวน้อยหลับไหลด้วยความเหนื่อยล้า ในทันใดนั้นเจ้านกน้อยก็อยู่ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น ได้ยินเสียงนกร่ำร้องไห้ เจ้านกน้อยจึงตื่นขึ้นและตามหาต้นเสียงที่ได้ยิน ที่แท้ต้นเสียงนั้นก็มาจากกิ่งไม้ด้านหลัง ที่เจ้านกน้อยนอนหลับเมื่อกี้ ด้วยความสงสัย เจ้านกน้อยจึงได้บินเข้าไปใกล้ๆ แล้วถามเจ้านกที่ร้องไห้ว่าเป็นอะไร เจ้านกที่ร้องไห้สะอึกสะอื้น ก็ยังไม่ตอบคำถามอะไร เจ้านกน้อยสังเกตุเห็นว่า นกตัวนี้แท้ที่จริงแล้วก็มีขนที่สวย ผิวหนังไม่ดูแข็งกร่าน หน้าตาก็งดงาม ด้วยความสงสัยเจ้านกน้อยเลยถามอีกว่า เจ้าหลงทางมาเหรอ หรือเจ้าได้รับบาดเจ็บ เจ้านกที่ร้องไห้ก็ค่อยๆเริ่มพูดด้วยความสะอึกสะอื้นว่า ที่ข้าร้องไห้เพราะขาหลงทางและบาดเจ็บ เมื่อเจ้านกน้อยได้ยินจึงถามอีกว่า แล้วท่านได้รับบาดเจ็บตรงไหนให้พาไปส่งที่บ้านท่านไหม เจ้านกก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงกระเส่าว่า ข้าจากบ้านมาแสนไกลตั้งแต่เด็กๆอายุคงพอๆกับเจ้า ในตอนนั้นข้าหนีออกจากบ้าน ไม่ยอมฟังใครหน้าไหน และข้าใช้ชีวิตในวัยเด็กมีความสุขเรื่อยมา จนมาวันนึงข้าเห็นต้นไม้ต้นนึง ที่มีกิ่งก้านสาขาที่สวยงาม อีกทั้งประดับประดาด้วยสิ่งของระยิบระยับ มันวาว เจิดจรัส สวยงาม พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ผ่านมาข้าเห็นนกตัวอื่นที่ใช้ชีวิตอยู่แบบนั้น มันชั่งสุขสบาย จนหน้าอิฉฉา ข้าจึงไม่รีรอที่จะบินเข้าไปยลโฉมความสวยงามเหล่านั้นใกล้ๆ แล้วถามนกเหล่านั้นว่า ข้าต้องทำอย่างไรจึงจะสุขสบายเช่นเจ้าบ้าง เจ้านกเหล่านั้นก็ต่างพากันพูดว่า เจ้าไม่มีความสวยงามมากพอที่จะคู่ควรเช่นพวกเราหรอก วันแล้ววันเล่า ข้าก็โบยบินหากินในบริเวณนั้นเป็นประจำ จนอยู่มาวันนึงข้าก็ได้บินไปเกาะที่ระเบียงบ้านใกล้ๆ ได้เหลือบไปเห็นวิมารเช่นเดียวกับ เจ้านกเหล่านั้น จึงได้บินเข้าสัมผัสวิมารแห่งนั้น ที่ซึ่งรายล้อมด้วยเส้นโลหะสีเหลืองทอง เจ้านกน้อยจึงพูดออกมาว่า ข้าคุ้นๆว่าเหมือนเคยเห็นนะ เมื่อพูดเสร็จเจ้านกก็ร้องไห้สะดึกสะอื้นขึ้นมาอีก เจ้านกน้อยเลยถามต่อว่า ทำไมท่านถึงไม่เล่าต่อแต่กลับร้องไห้เพิ่ม เมื่อเจ้านกได้ยินก็ตอบด้วยเสียกระเส่าอีกว่า ในตอนนั้นข้าเอง ก็มีทั้งความสุข ความสบาย อยากได้อะไรก็ได้ อยากมีอะไรก็มี ข้าอยากกินอาหารดีๆก็เพียงแค่ส่งเสียงร้องออกไป ก็ได้ในสิ่งที่อยากได้ มีทั้งคนคอยดูแล มีทั้งคนคอยรับส่ง มีคนนับหน้าถือตา ได้ใช้แต่ของดีดี ใช้ชีวิตเหมือนราชานก ทันใดนั้นเจ้านกน้อยก็พูดแทรกขึ้นมาว่า แล้วทำไมท่านถึงร้องไห้ล่ะ เจ้านกตอบด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นว่า ที่ข้าร้องไห้เพราะข้าหลงทาง แล้วท่านหลงทางยังไงเจ้านกน้อยถาม ข้าใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและลุ้มหลง อยู่ในภวังค์จอมปลอมเหล่านั้น แต่แท้จริงแล้ว ตัวข้ามันแค่ของเล่นเท่านั้น เจ้านกน้อยจึงถามต่อว่า ทำไมท่านถึงคิดเช่นนั้นล่ะ เจ้านกหลงทางจึงตอบกลับว่า เราเป็นนก เราควรที่มีอิสระ มีชีวิตเป็นของเราเอง ไม่ได้ให้ใครมากำหนดชีวิตเราได้ แต่ที่ผ่านมาข้าหลงผิดมาโดยตลอด ด้วยความโง่เขลา เบาปัญา ของข้าเอง ที่ยอมเอาตัวเข้าเเลกความสะดวกสบายเหล่านั้น และวันใดวันนึง เมื่อนกเหล่านั้นหมดคุณค่า พวกเขาเหล่านั้นก็จะถูกจับโอนออกมาเช่นข้าแบบนี้แล
ปล.การเดินทางยังไม่จบเพียงเท่านี้นะครับ
ไว้มีเวลาจะอัพเดทให้นะครับ
เจ้านกน้อยนักเดินทาง
แล้วเมื่อเจ้านกน้อยหมดแรงและอ่อนล่า เจ้านกน้อยได้ถลาบินลงไปยังต้นไม้ต้นหนึ่ง ซึ่งต้นไม้ต้นนี้มีกิ่งก้านสาขาที่สวยงาม อีกทั้งยังประดับประดาด้วยสิ่งของที่ระยิบระยับ มันวาว เจิดจรัส สวยงาม และรายล้อมด้วยเส้นโลหะสีเหลืองทอง และด้วยความที่เหนื่อยล่าและอ่อนแรง ทำให้เจ้านกน้อยรู้สึกกระหายน้ำ ในทันใดนั้นเจ้านกน้อยก็เหลือบตามองไปเห็นน้ำที่อยู่ภายในถ้วยสีเหลืองทอง ซึ่งอยู่ภายหลังเส้นโลหะสีเหลืองทอง และเจ้านกน้อย ได้มองเห็นนกตัวนึง ซึ่งมีความสวยงาม ดูมีสง่าราศรี แลมีความสุข ภายใต้เส้นโลหะสีเหลืองทอง ด้วยความหิวกระหาย เจ้านกน้อยจะถามนกตัวนั้นเพื่อขอจิบน้ำเพื่อคลายความหิวกระหาย เจ้านกสวยงามตัวนั้นจึงบอกด้วยน้ำเสียงแข็งกร่าวและเหยียดหยามว่า เจ้านกมันสกปรก ไม่มีสง่าราศี ไปหาน้ำที่อื่นกินไป้ เมื่อเจ้านกน้อยได้ยินด้วยความตกใจ ก็รีบบินออกจากที่แห่งนั้นโดยทันที จนเจอแหล่งน้ำธรรมชาติ เมื่อเจ้านกน้อยดื่มน้ำเสร็จ ก็ครุนคิดไปพรางพรางว่า ทำไมนกที่สวยงามจึงพูดเช่นนั้น แล้วเจ้านกน้อยก็เผลอหลับไป หลังจากเจ้านกตัวน้อยหลับไหลด้วยความเหนื่อยล้า ในทันใดนั้นเจ้านกน้อยก็อยู่ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น ได้ยินเสียงนกร่ำร้องไห้ เจ้านกน้อยจึงตื่นขึ้นและตามหาต้นเสียงที่ได้ยิน ที่แท้ต้นเสียงนั้นก็มาจากกิ่งไม้ด้านหลัง ที่เจ้านกน้อยนอนหลับเมื่อกี้ ด้วยความสงสัย เจ้านกน้อยจึงได้บินเข้าไปใกล้ๆ แล้วถามเจ้านกที่ร้องไห้ว่าเป็นอะไร เจ้านกที่ร้องไห้สะอึกสะอื้น ก็ยังไม่ตอบคำถามอะไร เจ้านกน้อยสังเกตุเห็นว่า นกตัวนี้แท้ที่จริงแล้วก็มีขนที่สวย ผิวหนังไม่ดูแข็งกร่าน หน้าตาก็งดงาม ด้วยความสงสัยเจ้านกน้อยเลยถามอีกว่า เจ้าหลงทางมาเหรอ หรือเจ้าได้รับบาดเจ็บ เจ้านกที่ร้องไห้ก็ค่อยๆเริ่มพูดด้วยความสะอึกสะอื้นว่า ที่ข้าร้องไห้เพราะขาหลงทางและบาดเจ็บ เมื่อเจ้านกน้อยได้ยินจึงถามอีกว่า แล้วท่านได้รับบาดเจ็บตรงไหนให้พาไปส่งที่บ้านท่านไหม เจ้านกก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงกระเส่าว่า ข้าจากบ้านมาแสนไกลตั้งแต่เด็กๆอายุคงพอๆกับเจ้า ในตอนนั้นข้าหนีออกจากบ้าน ไม่ยอมฟังใครหน้าไหน และข้าใช้ชีวิตในวัยเด็กมีความสุขเรื่อยมา จนมาวันนึงข้าเห็นต้นไม้ต้นนึง ที่มีกิ่งก้านสาขาที่สวยงาม อีกทั้งประดับประดาด้วยสิ่งของระยิบระยับ มันวาว เจิดจรัส สวยงาม พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ผ่านมาข้าเห็นนกตัวอื่นที่ใช้ชีวิตอยู่แบบนั้น มันชั่งสุขสบาย จนหน้าอิฉฉา ข้าจึงไม่รีรอที่จะบินเข้าไปยลโฉมความสวยงามเหล่านั้นใกล้ๆ แล้วถามนกเหล่านั้นว่า ข้าต้องทำอย่างไรจึงจะสุขสบายเช่นเจ้าบ้าง เจ้านกเหล่านั้นก็ต่างพากันพูดว่า เจ้าไม่มีความสวยงามมากพอที่จะคู่ควรเช่นพวกเราหรอก วันแล้ววันเล่า ข้าก็โบยบินหากินในบริเวณนั้นเป็นประจำ จนอยู่มาวันนึงข้าก็ได้บินไปเกาะที่ระเบียงบ้านใกล้ๆ ได้เหลือบไปเห็นวิมารเช่นเดียวกับ เจ้านกเหล่านั้น จึงได้บินเข้าสัมผัสวิมารแห่งนั้น ที่ซึ่งรายล้อมด้วยเส้นโลหะสีเหลืองทอง เจ้านกน้อยจึงพูดออกมาว่า ข้าคุ้นๆว่าเหมือนเคยเห็นนะ เมื่อพูดเสร็จเจ้านกก็ร้องไห้สะดึกสะอื้นขึ้นมาอีก เจ้านกน้อยเลยถามต่อว่า ทำไมท่านถึงไม่เล่าต่อแต่กลับร้องไห้เพิ่ม เมื่อเจ้านกได้ยินก็ตอบด้วยเสียกระเส่าอีกว่า ในตอนนั้นข้าเอง ก็มีทั้งความสุข ความสบาย อยากได้อะไรก็ได้ อยากมีอะไรก็มี ข้าอยากกินอาหารดีๆก็เพียงแค่ส่งเสียงร้องออกไป ก็ได้ในสิ่งที่อยากได้ มีทั้งคนคอยดูแล มีทั้งคนคอยรับส่ง มีคนนับหน้าถือตา ได้ใช้แต่ของดีดี ใช้ชีวิตเหมือนราชานก ทันใดนั้นเจ้านกน้อยก็พูดแทรกขึ้นมาว่า แล้วทำไมท่านถึงร้องไห้ล่ะ เจ้านกตอบด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นว่า ที่ข้าร้องไห้เพราะข้าหลงทาง แล้วท่านหลงทางยังไงเจ้านกน้อยถาม ข้าใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและลุ้มหลง อยู่ในภวังค์จอมปลอมเหล่านั้น แต่แท้จริงแล้ว ตัวข้ามันแค่ของเล่นเท่านั้น เจ้านกน้อยจึงถามต่อว่า ทำไมท่านถึงคิดเช่นนั้นล่ะ เจ้านกหลงทางจึงตอบกลับว่า เราเป็นนก เราควรที่มีอิสระ มีชีวิตเป็นของเราเอง ไม่ได้ให้ใครมากำหนดชีวิตเราได้ แต่ที่ผ่านมาข้าหลงผิดมาโดยตลอด ด้วยความโง่เขลา เบาปัญา ของข้าเอง ที่ยอมเอาตัวเข้าเเลกความสะดวกสบายเหล่านั้น และวันใดวันนึง เมื่อนกเหล่านั้นหมดคุณค่า พวกเขาเหล่านั้นก็จะถูกจับโอนออกมาเช่นข้าแบบนี้แล
ปล.การเดินทางยังไม่จบเพียงเท่านี้นะครับ
ไว้มีเวลาจะอัพเดทให้นะครับ