ขึ้นภาษีบ้าน-ที่ดิน มันหนักยิ่งกว่า ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ?

ต้นทุนชีวิตสูงขึ้นโดยถ้วนหน้า ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล เลยที่นี่

ผมมองยังไงก็เอื้อคนรวยมากกว่าอยู่ดี กรณีบ้านราคาไม่เกิน 50 ล้านบาท ไม่ต้องจ่ายภาษี เอาจริงๆมันควรอยู่ที่ 15 ล้านบาทด้วยซ้ำ เพราะบ้านราคาเกิน 50 ล้านบาท มันมีไม่เกิน 2 พันหลัง(จากบทความใน นสพ. ที่เห็นวันก่อน) มันควรกำหนดที่มูลค่าทรัพย์สิน ไม่ใช่เล่นแร่แปรธาตุเอื้อคนรวย

ใครที่เป็นคนต่างจังหวัดโอกาสมีบ้าน 2 หลังสูง เพราะอาจจะซื้อคอนโดในกรุงเทพฯ 1 ล้าน และมีบ้านเดิมอาจจะได้มรดก (มีส่วนลดภาษี แต่ก็ต้องจ่าย) หรือผ่อนบ้านต่างจังหวัดเพราะยังไงก็กลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่นั่น

ฉะนั้นถ้ามี 2 หลัง ราคารวม ไม่เกิน 2-3 ล้าน แต่ต้องจ่ายภาษี แต่คนมีบ้าน 49 ล้าน ไม่ต้องเสียภาษีเลย เงินที่หายไปจากกลุ่มคนที่ได้สิทธิ์ไม่เสียภาษีพวกนี้ต่างหากที่เป็นก้อนมหึมา

ผลกระทบอีกอย่างที่ตามมายิ่งกว่า การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำก็คือ ค่าครองชีพสูงขึ้น เพราะค่าเช่าบ้าน อพาร์ทเม้นท์ หรือต้นทุนบริษัทเพิ่มมากยิ่งขึ้น ตอนนี้เจ้าของตึกที่ผมเช่าขายของก็เริ่มเกริ่นเรื่องโยนค่าใช้จ่ายก่อนนี้ให้ผมแล้ว (แต่อย่างน้อย จะเป็นข้อตกลงในการต่อสัญญาแน่นอน ปกติพี่แกก็พยายามเลี่ยงภาษีโรงเรือน ฯลฯ สารพัด แต่ปากดันบอกว่าต้านโกง เอากับมัน ภาษีโรงเรือนแม้ว่าจะยกเลิก แต่คนรวยพวกนี้กลับพบช่องทางในการเจรจาขอขึ้นค่าเช่า ซึ่งการย้ายไปที่ที่ถูกกว่าไม่ง่ายเพราะลงทุนตกแต่งไปมากแล้ว เหมือนจำยอม) เพราะฉะนั้นผลกระทบมันชัดเจนและเกิดขึ้นแล้ว

คนที่ไม่มีบ้าน ก็จะมีภาระมากขึ้น เพราะค่าเช่าบ้าน คอนโด อพาร์ตเม้นที่สูงขึ้น กฏหมายนี้มันซ้ำเติมคนจนชัดๆ

นี่ไม่รวมภาษีต่างๆที่รัฐบาลกำลังทยอยเก็บเพียงเพราะว่า เงินรัฐมีน้อยลงทุกที

ปี 60 ขึ้นไป ก็อ้างได้แล้วว่า ของแพงเพราะกฏหมายตัวนี้ เหมือนแบบที่ชอบอ้างค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท (จริงๆคนไม่ชอบก็ช่วยได้นะ แค่บอกบริษัทตัวเองว่าอย่าขึ้นเงินเดือนให้ตัวเองแค่นั้น)
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
มันควรจะมีกี่หลังก็ได้แต่ไม่เกิน15ล้านบาทมากกว่า
ออกกฏหมายที่คนรวยจริงๆหัวเราะก๊ากเลย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 35
ไม่รู้สิ แต่ผมชอบนะกฎหมายนี้ มันจะแก้ปัญหาอสังหาราคาสุงเกินจริงในเมืองไทย
ทุกวันนี้ คนรายได้ปานกลางมีปัญหากับการหาบ้านทำเลดีๆอยู่ เพราะราคามันสูงเกินจริงไปเยอะ มันมีสองสาเหตุ
1. land lord พวกมหาเศรษฐีสต็อคที่ดิน ไม่ยอมนำไปใช้ประโยชน์ ทำให้ supply ที่ดินมีน้อย
2. การปั่นราคาประเมินให้สูงเกินจริง เพราะหวังผลการนำไปเป็นหลักทรัพย์สถาบันการเงิน

ผมมองว่ากฎหมายฉบับนี้ มันจะทำให้ supply ในตลาดอสังหามีมากขึ้น
ไม่ต้องไปนับ land lord รายใหญ่ๆ พวกนั้นเค้ามีปัญหาจ่าย ปัญหาหาช่องทางอยู่แล้ว
แต่พวกอาซิ้ม อาเสี่ย ที่หน้าตักไม่ได้หนามาก แต่ดันตุนที่ดินกลางเมืองกันไว้ แล้วปล่อยรกร้างเนี่ย คงต้องขยับกันพอสมควร
พวกเก็งกำไร ตุนบ้าน คอนโด ก็ต้องขยับปล่อยโอกาสให้ชาวบ้าน ชาวช่องเค้าได้มีที่อยู่อาศัยแบบไม่เสียหัวคิวเยอะขึ้น
พวกปั่นราคาประเมินก็คงยากขึ้น เพราะราคาประเมินสูง กลายเป็น NPA แบงค์ก็อ้วก ก็คงจะเข้มงวดกันมากขึ้น

สรุปคือสำหรับชนชั้นกลางอย่างผมที่มีบ้านหลังไม่กี่ล้าน ไม่มีสต้อคที่ดิน คอนโด ผมรู้สึกมันมีประโยชน์
แต่ก็คงมีคนเสียประโยชน์กันเยอะเหมือนกัน
ความคิดเห็นที่ 12
กม ใหม่ หลายคนจ่ายน้อยกว่าสมัยเป็นภาษีโรงเรือนด้วยซ้ำ มันไม่มีใครได้หมดแล้วเสียหมดหรอก

แต่มีบ้านหลังเป็นล้านมากกว่าหลัง ตกจ่ายละล้านต่อไม่กี่ร้อย นี่ต้องบ่นเป็นแผ่นเสียงตกร่องขนาดนี้กันเชียว?  สรุปคือไม่อยากจ่ายอะไรทั้งนั้นแหละ จบ ไม่เกี่ยวเรื่องเอื้อคนรวยอะไรหรอก

ช่างเอามาเปรียบกับค่าแรง300 เนอะ สเกลการทำลายล้างเศรษฐกิจมันคนละชั้นเลย
ความคิดเห็นที่ 4
ใครออกระเบียบ ก็ต้องเอื้อตัวเองไว้ก่อน
ประวัติศาสตร์ ว่าไว้
ความคิดเห็นที่ 6
ฐานแคบเกินไป ช่วยนายทุนเจ้าสัวมากเกินไป  ภาษีเป็นหน้าที่ของทุกคน

บ้านหลัก  ควรจะเป็น      บ้านหลังที่สอง  ควรจะเป็น        พานิชยกรรม                        ที่รกร้างว่างเปล่า

5 - 10 ล้าน  1 %          5 - 10 ล้าน  2 %                20 ลบ    1  %                        1-3 ปี  2 %

10 - 20   3 %             10 - 20   4 %                     20 - 50   1.5 %                      4-6 ปี  5 %

20 ล้านขึ้นไป 6 %        20 ล้านขึ้นไป  8 %              50 - 100  2 %                       7 ปี ขึ้นไป  10 %

                                                                         100 - 1000  4 %

                                                                         1000 ขึ้นไป  8 %
ความคิดเห็นที่ 3
มีปัญญามีบ้าน มากกว่า 1 หลัง มันก็ควรมีปัญญา จ่ายภาษีเหมือนกัน

จะอ้างว่า หลังละ ล้าน หลังละ 7 แสน มันไม่ใช่ประเด็น

คนไม่มีบ้านแบบนี้เขาก็อ้างได้ซิ ว่าฉันไม่มีบ้าน น่าจะได้ขอคืนภาษี บ้าง

อีกอย่าง เขาก็คิดแค่ไม่เท่าไร และที่สำคัญคือ บ้านที่จะต้องเสียคือ มีบ้านเกิน 2 หลัง หรือ มีบ้านเกิน 50 ล้านที่ต้องเสีย

คนมีบ้านมากกว่า 1 หลัง แสดงว่าฐานะทางการเงิน ไม่ธรรมดาหรอก มีปัญญาซื้อ อย่ามาเสียดายภาษี แค่นี้ ถ้าไม่อยากเสีย ก็ขายซะซิ

สมควรแล้วที่ควรจะเก็บ ไม่งันพวก เก็งอสังหา เก็งที่ดิน สบายเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่