ประเด็นสำคัญ
* สตาร์บัคส์ประกาศแผนการปรับโครงสร้างองค์กรมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการสั่งปิดร้านกาแฟบางแห่งในอเมริกาเหนือและเลิกจ้างพนักงานเพิ่ม
* สตาร์บัคส์กล่าวว่าจะมีการเลิกจ้างพนักงานที่ไม่ใช่ธุรกิจค้าปลีกประมาณ 900 คน
* นี่เป็นการเลิกจ้างรอบที่สองในวาระการดำรงตำแหน่งของนิโคล หลังจากพนักงานบริษัท 1,100 คนถูกเลิกจ้างเมื่อต้นปีนี้
📰 สรุปข่าว: Starbucks ประกาศปรับโครงสร้าง — ปิดร้าน, ปลดพนักงาน, ใช้เงิน 1 พันล้านดอลลาร์
เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2025, Starbucks ประกาศแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ โดยมีรายละเอียดดังนี้:
🔻 รายละเอียดสำคัญ:
• Starbucks จะใช้เงินประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับแผนปรับโครงสร้าง
• จะมีการ ปลดพนักงานฝ่ายสำนักงานประมาณ 900 คน (ไม่ได้กระทบกับพนักงานร้านโดยตรง)
• มีแผนจะ ปิดร้านในอเมริกาเหนือประมาณ 500 สาขา (คิดเป็นประมาณ 1% ของร้านทั้งหมด)
• งบประมาณนี้ประกอบด้วย:
• 150 ล้านดอลลาร์ สำหรับค่าชดเชยพนักงาน
• 850 ล้านดอลลาร์ สำหรับต้นทุนการปิดร้านและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ
🛠 เหตุผลของการปรับโครงสร้าง:
• ยอดขายในร้านเดิมเริ่มตกต่ำในหลายไตรมาสติดต่อกัน
• ผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลง และแข่งขันกับแบรนด์กาแฟอื่นมากขึ้น
• Starbucks ต้องการ “กลับไปที่รากของแบรนด์” โดยเน้นประสบการณ์ในร้านให้ดีขึ้น
• ปรับแผนให้ตรงกับยุคใหม่ เช่น เปลี่ยนการออกแบบร้าน เพิ่มเวลาพนักงานต่อคน เพื่อให้บริการรวดเร็วและดีขึ้น
• ร้านที่ปิดจะเป็นร้านที่ “ยากต่อการปรับปรุง” หรือ “ผลประกอบการต่ำ”
👥 ผลกระทบต่อพนักงาน:
• พนักงานร้านที่ได้รับผลกระทบจากการปิดร้าน จะพยายามย้ายไปสาขาใกล้เคียง
• หากย้ายไม่ได้ จะได้รับเงินชดเชยตามนโยบายบริษัท
⚖️ วิเคราะห์: ผลดีและความเสี่ยง
✅ โอกาส / สิ่งที่อาจดีขึ้น:
• ลดต้นทุน และเน้นลงทุนเฉพาะสาขาที่ทำกำไรได้
• เพิ่มประสบการณ์ลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
• ฟื้นความเชื่อมั่นจากนักลงทุนและลูกค้า
⚠️ ความเสี่ยง / ความท้าทาย:
• ขวัญกำลังใจพนักงานอาจลดลงจากการปลดคน
• ลูกค้าในพื้นที่ที่ร้านปิดอาจไม่พอใจ
• ต้องใช้เวลาและการบริหารที่ดีมาก จึงจะฟื้นยอดขายได้
• ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูง อาจกระทบกำไรระยะสั้น
สาขา Starbucks ในไทยจะถูกปิดหรือได้รับผลกระทบโดยตรง จากการปรับโครงสร้างครั้งนี้ในสหรัฐอเมริกาหรือไม่??
• ร้าน Starbucks ในไทยอยู่ในระบบ “ลิขสิทธิ์” (licensed operations) ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท Coffee Concepts Thailand ร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น
• ในท่ามกลางบรรยากาศแข่งขันในตลาดกาแฟในไทย Starbucks ยังคงแผนขยายสาขาต่อไป — เช่น มีแผนเปิดร้านใหม่เพิ่มประมาณ 30 สาขา/ปี
• บทวิเคราะห์และข่าวในไทยมองว่าการปรับโครงสร้างในอเมริกาเป็นการจัดการปัญหาเฉพาะภูมิภาค (โดยเน้นที่สหรัฐอเมริกา / อเมริกาเหนือ) มากกว่าเป็นการเคลื่อนไหวทั่วโลก
CR
https://www.cnbc.com/2025/09/25/starbucks-restructuring-store-closures-layoffs.html
ภาพ Thestandard.co
สตาร์บัคส์เตรียมปิดร้าน เลิกจ้างพนักงาน ตามแผนปรับโครงสร้างใหม่ ใช้เงินมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์
* สตาร์บัคส์ประกาศแผนการปรับโครงสร้างองค์กรมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการสั่งปิดร้านกาแฟบางแห่งในอเมริกาเหนือและเลิกจ้างพนักงานเพิ่ม
* สตาร์บัคส์กล่าวว่าจะมีการเลิกจ้างพนักงานที่ไม่ใช่ธุรกิจค้าปลีกประมาณ 900 คน
* นี่เป็นการเลิกจ้างรอบที่สองในวาระการดำรงตำแหน่งของนิโคล หลังจากพนักงานบริษัท 1,100 คนถูกเลิกจ้างเมื่อต้นปีนี้
📰 สรุปข่าว: Starbucks ประกาศปรับโครงสร้าง — ปิดร้าน, ปลดพนักงาน, ใช้เงิน 1 พันล้านดอลลาร์
เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2025, Starbucks ประกาศแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ โดยมีรายละเอียดดังนี้:
🔻 รายละเอียดสำคัญ:
• Starbucks จะใช้เงินประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับแผนปรับโครงสร้าง
• จะมีการ ปลดพนักงานฝ่ายสำนักงานประมาณ 900 คน (ไม่ได้กระทบกับพนักงานร้านโดยตรง)
• มีแผนจะ ปิดร้านในอเมริกาเหนือประมาณ 500 สาขา (คิดเป็นประมาณ 1% ของร้านทั้งหมด)
• งบประมาณนี้ประกอบด้วย:
• 150 ล้านดอลลาร์ สำหรับค่าชดเชยพนักงาน
• 850 ล้านดอลลาร์ สำหรับต้นทุนการปิดร้านและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ
🛠 เหตุผลของการปรับโครงสร้าง:
• ยอดขายในร้านเดิมเริ่มตกต่ำในหลายไตรมาสติดต่อกัน
• ผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลง และแข่งขันกับแบรนด์กาแฟอื่นมากขึ้น
• Starbucks ต้องการ “กลับไปที่รากของแบรนด์” โดยเน้นประสบการณ์ในร้านให้ดีขึ้น
• ปรับแผนให้ตรงกับยุคใหม่ เช่น เปลี่ยนการออกแบบร้าน เพิ่มเวลาพนักงานต่อคน เพื่อให้บริการรวดเร็วและดีขึ้น
• ร้านที่ปิดจะเป็นร้านที่ “ยากต่อการปรับปรุง” หรือ “ผลประกอบการต่ำ”
👥 ผลกระทบต่อพนักงาน:
• พนักงานร้านที่ได้รับผลกระทบจากการปิดร้าน จะพยายามย้ายไปสาขาใกล้เคียง
• หากย้ายไม่ได้ จะได้รับเงินชดเชยตามนโยบายบริษัท
⚖️ วิเคราะห์: ผลดีและความเสี่ยง
✅ โอกาส / สิ่งที่อาจดีขึ้น:
• ลดต้นทุน และเน้นลงทุนเฉพาะสาขาที่ทำกำไรได้
• เพิ่มประสบการณ์ลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
• ฟื้นความเชื่อมั่นจากนักลงทุนและลูกค้า
⚠️ ความเสี่ยง / ความท้าทาย:
• ขวัญกำลังใจพนักงานอาจลดลงจากการปลดคน
• ลูกค้าในพื้นที่ที่ร้านปิดอาจไม่พอใจ
• ต้องใช้เวลาและการบริหารที่ดีมาก จึงจะฟื้นยอดขายได้
• ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูง อาจกระทบกำไรระยะสั้น
สาขา Starbucks ในไทยจะถูกปิดหรือได้รับผลกระทบโดยตรง จากการปรับโครงสร้างครั้งนี้ในสหรัฐอเมริกาหรือไม่??
• ร้าน Starbucks ในไทยอยู่ในระบบ “ลิขสิทธิ์” (licensed operations) ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท Coffee Concepts Thailand ร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น
• ในท่ามกลางบรรยากาศแข่งขันในตลาดกาแฟในไทย Starbucks ยังคงแผนขยายสาขาต่อไป — เช่น มีแผนเปิดร้านใหม่เพิ่มประมาณ 30 สาขา/ปี
• บทวิเคราะห์และข่าวในไทยมองว่าการปรับโครงสร้างในอเมริกาเป็นการจัดการปัญหาเฉพาะภูมิภาค (โดยเน้นที่สหรัฐอเมริกา / อเมริกาเหนือ) มากกว่าเป็นการเคลื่อนไหวทั่วโลก
CR https://www.cnbc.com/2025/09/25/starbucks-restructuring-store-closures-layoffs.html
ภาพ Thestandard.co