ตอบ ในคณะ ที่จิตของผู้ตาย กำลังปฏิสนธิกับธรรมมารมณ์ ที่จะได้มาเกิดมาเป็นมนุษย์ทันทีนั้น จิตจะปฏิสนธิกับธรรมมารณ์ จะมีรูปวิญญาณปรมาณูอันละเอียดสุขุมเกิดขึ้นทันที ที่สำเร็จได้ด้วยใจก่อน คือธรรมมารมณ์ที่ไม่บริสุทธิ์ เป็นธรรมมารมณ์ของกามาวาจรภูมิ คือภูมิที่ยังเสพกาม เมื่อรูปวิญญาณปรมาณูเกิดขึ้นแล้ว ก็จะเคลื่อนทีทันที ด้วยความเร็วสูง รูปวิญญาณปรมาณูเป็นรูปละเอียดสุขุมจัดเป็นนามธรรม เมื่อนามธรรมเกิดขึ้นมีขึ้น ก็ต้องมีการเคลื่อนไปสู่รูปธรรม เพราะรูปกับนาม ต้องอยู่คู่กันตลอด ที่ใดมีรูปที่นั้นต้องมีนาม ที่ใดมีนามที่นั้นต้องมีรูป เมื่อวิญญาณปรมาณู(นาม) จะอุบัติในครรภ์ ก็ต้องเป็นครรภ์ที่มีวิบากเกี่ยวพันธ์กัน คือมีกรรมพัวพันกันมา คือธรรมมารมณ์ที่เกิดขึ้นภายในใจของบิดาหนึ่ง ธรรมมารมณ์ที่เกิดขึ้นภายในใจของมารดาหนึ่ง จะเกี่ยวข้องกับวิญญาณปรมาณู(ที่จิตของผู้ตายปฏิสนธิกับธรรมารมณ์ก่อนตาย) จะเป็นกระแสพลังงาน ความรู้สึกพลักดันเข้าหากัน ไม่สามารถที่จะต่อต้านได้ เลือกที่เกิดเองไม่ได้ มันเป็นวิบากกรรม ที่เป็นกฏของธรรมชาติ เมื่อวิญญาณปรมาณูไปหลอมรวมกับธรรมมารมณ์ของบิดามารดา บิดาจะขับธรรมมารมณ์ส่วนลึก เป็นรูปธรรมคือน้ำกามหรือ อสุจิ เข้าสู่ครรภ์มารรดา เกิดเป็นตัวออน(มีรูป)ในครรภ์ มีวิญญาณปรมาณู(นาม) รวมเรียกว่ากายใจ สมบูรณ์ หรือ ขันธ์5 สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดอย่าพึ่งเชื่อ และอย่าพึ่งปฏิเสธ ต่อเมื่อปฏิบัติ แล้วรู้เห็นได้เฉพาะตน ค่อยออกความเห็น
ตอบคำถามของคุณ bomb666 ที่ท่านถามว่า ตรงนี้ที่สงสัยครับ แปลว่าช่วงเวลาที่ตายนัน จะต้องมีเด็กเกิดในครรแม่พอดีใช่ไหมครับ?