ผู้ชาย ปั่มปั๊ม 21 ครั้งต่อเดือน ปลอดมะเร็งต่อมลูกหมาก

ปั่มปั๊ม 21 ครั้งต่อเดือน ปลอดมะเร็งต่อมลูกหมาก
http://www.thairath.co.th/content/616774


ชายเราถึงอายุหนึ่งจะมีปัญหาเรื่อง “ฉี่” กล่าวคือ ยืนตั้งนานไม่ออกซักที ออกก็ไม่ค่อยจะพุ่ง เสร็จแล้วก็เหมือนไม่เสร็จ มีปัญหาจนไม่ค่อยอยากจะฉี่ ยอมอดน้ำเลยลุกลามไปจนเลือดข้นหนืด ไปมีปัญหาต่อไต ต่อหัวใจ อัมพฤกษ์ต่อ

สำหรับบุรุษเพศสาเหตุใหญ่สำคัญคือ ต่อมลูกหมากโต และมีเยอะที่เป็นมะเร็ง ถ้ายังไม่เป็นและยังไม่อยากผ่าตัด คว้านต่อม ก็มียาซึ่งเดิมเป็นยาลดความดัน แต่ความที่ทำให้หูรูดในการฉี่บานได้ เลยเอามาใช้ในการนี้ แต่ควรต้องระวังความดันตก หน้ามืด

ยาประเภทนี้ออกฤทธิ์ต้าน alpha receptor ยาอีกกลุ่มทำให้ต่อมลูกหมากเล็กลง ผ่านกระบวนการยับยั้งฮอร์โมน DHT ที่มาจากฮอร์โมนเพศชาย (5-Alpha Reductase Inhibitor) เช่น ยา Finasteride (Proscar) Dutasteride (Avodart) แต่แถมผลข้างเคียง คือ ลดความต้องการทางเพศ ไม่ค่อยแข็งตัว การขับเคลื่อนน้ำกาม (ejaculation) แปรปรวน...

แต่ที่ต้องระวังเป็นสำคัญคือยากลุ่มหลังนี้ทำให้การตรวจหามะเร็งต่อมลูกหมากที่ชื่อว่า PSA ได้ค่าลดลงจนถึงตรวจไม่เจอ เลยตายใจว่าไม่เป็นมะเร็งทั้งๆที่เป็น


รายงานในปี 2011 พบว่าแม้ยากลุ่มหลังนี้จะลดการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้บ้าง แต่ถ้าเป็นแล้วยากลุ่มนี้อาจกลับทำให้เป็นมะเร็งแบบชนิดที่มีความรุนแรงลุกลามมากขึ้น อาหารเสริมที่อ้างว่าทำให้ต่อมเล็กลงชื่อ Saw Palmetto สกัดจากผลของ Serenoa Repens พบว่าไม่มีประสิทธิภาพจริงและอาจทำให้การตรวจค่ามะเร็ง PSA ได้ผลลบปลอม

ถึงตอนนี้มาถึงคำโบราณที่พูดกันมาในกลุ่มผู้ชายทั้งหลายว่าหนทางสุขภาพ รวมทั้งต่อมลูกหมากกันโต กันมะเร็ง คือ ปฏิบัติการ “ล้างท่อบ่อยๆ” (keep the pipes clean!) และเป็นที่มาของการศึกษาฮือฮาทั่วโลก นับแต่ มีการเสนอผลงานในที่ประชุมประจำปีของสมาคมระบบทางเดินปัสสาวะของอเมริกา และตีพิมพ์ในวารสาร European Urology (29 มีนาคม 2016) ผลการศึกษา จากการติดตามโดยคณะศึกษาทางระบาดวิทยามะเร็งที่บอสตัน ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 31,925 คน ตั้งแต่ปี 1992 จนถึง 2010 โดยที่ ณ ปี 1992 อายุเกณฑ์เฉลี่ยอยู่ประมาณที่ 59 ปี ในช่วง 18 ปีของการ ติดตามมี 3,839 รายเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก และ 384 รายรุนแรงถึงชีวิต

ขั้นตอนในการวิเคราะห์เจาะลึกตั้งแต่เริ่มต้นในปี 1992 มีการให้รายงานปริมาณจำนวนของการขับเคลื่อนน้ำกาม (แทนในที่นี้ด้วยปั่มปั๊ม) ในช่วงเวลาตั้งแต่อายุ 20– 29, 30–39, 40–49 และ 50 เป็นต้นไป ทั้งนี้ มีการวิเคราะห์ของปัจจัยอื่นๆที่อาจมีส่วนให้เกิดมะเร็ง

ผลที่น่าตื่นเต้นคือ ความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งจะลดลงถึงประมาณ 20% ถ้ามีอัตราการปั่มปั๊มอยู่ในเกณฑ์อย่างน้อย 21 ครั้งต่อเดือน เมื่อเทียบกับผู้มีปฏิบัติการ 4-7 ครั้งต่อเดือน การลดความเสี่ยงของมะเร็งจะพบได้ในกลุ่มที่มีปฏิบัติการถี่ทั้งทุกช่วงอายุ


เหตุผลที่ใช้อัตรา 4–7 ครั้งต่อเดือนเป็นบรรทัดฐานในการเปรียบเทียบ เนื่องจากมีน้อยมากที่กลุ่มคนในการศึกษานี้ ปฏิบัติในช่วง 0–3 ครั้งต่อเดือนจึงตัดออกไป

สำหรับปั่มปั๊มน้อยกว่า 21 ครั้ง อย่าเพิ่งเสียใจ ถ้าอัตรา 8-12 ครั้งต่อเดือนในช่วง 40-49 ปี จะมีความเสี่ยงลดลง 10% และถ้าอยู่ในอัตรา 13-20 ครั้งต่อเดือน ในช่วงอายุนี้จะมีความเสี่ยงลดลง 20% (มีนัยสำคัญทางสถิติ P trend <.0001)

เมื่อดูลึกละเอียดลงของกลุ่มปั่มปั๊ม 21 ครั้ง พบว่ากลุ่มนี้กลับไม่ค่อยเป็นกลุ่มรักสุขภาพนัก กินเยอะ ดื่มเยอะ มีโอกาสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มาก และดูดบุหรี่เยอะ แต่กลุ่มนี้ไม่ได้ตายเร็วขึ้น เนื่องจากสาเหตุอื่นๆ

กลไกของการป้องกันมะเร็งต่อม ยังไม่เป็นที่แน่ชัด ทั้งนี้เป็นไปได้ที่ต่อมลูกหมากสะสมสารพิษที่จะก่อมะเร็งไว้ (prostate stagnation) และการขจัดชะล้างโดยการขับเคลื่อนออกไปอาจจะลดความเสี่ยง แต่ทั้งนี้อาจเป็นผลอื่นๆจากการที่มีการขับเคลื่อนหรือการออกกำลังปั่มปั๊มอาจจะปรับเปลี่ยนสภาพสภาวะแวดล้อมในเนื้อเยื่อต่อม อีกทั้งปฏิบัติการอาจก่อให้เกิดความหรรษาสุขอย่างฉับพลันในวินาทีนั้น ก่อให้เกิดการสั่งงานผ่านสมองมายังระบบภูมิคุ้มกัน

จะอย่างไรก็แล้วแต่ 21 ครั้งต่อเดือนเท่ากับมากกว่า 5 ครั้งต่ออาทิตย์ จัดเวลาให้ดีนะครับ อาจจะเสียชีวิตซะก่อนเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่