สวัสดีครับ,
"ทำไมลูกต้องโต้เถียงกับบิดาของลูกด้วย
การทะเลาะวิวาทกับพ่อ ผู้เลี้ยงลูกมานั้นเป็นบาป"
- ศิริ คุรุ รามทาส (ศคคส 1200)
"บุตร ที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ เสมือนกับเป็นบุตรนอกสมรส"
- ภาอี ครุทาส, วาร 34, เปารี 21
"ภรรยาสำเร็จในการทำให้สามีหลงเสน่ห์ของเธอ
จนลูกชายลืม บุญคุณของพ่อแม่ตน ผู้ให้กำเนิด และผู้จัดงานแต่งงานให้ลูก
พ่อแม่อุดส่าปรึกษาหมอดู แล้วคัดวันเวลามงคลเพื่อจัดพิธีงานแต่งงานให้ลูกได้แต่ง
เนื่องจากมีความสุขมากที่ลูกได้พบรักกับลูกสะใภ้
แต่ลูกสะใภ้กลับเริ่มเป่าหูลูกต่อเนื่องให้ทอดทิ้งพ่อแม่ไป โดยยุแหย่บ่อยๆ ว่าพ่อแม่ ร้าย
จนกระทั้งลูกลืม บุญคุณของพ่อแม่ตน และแยกออกไปกับภรรยา
วิถีแห่งโลก ผิดศีลธรรมไปมาก"
- ภาอี ครุทาส, วาร 37 เปารี 12
-------
"ไร้ประโยชน์ ถ้าจะไปนั่งสงสารผู้ที่ ดูถูกและทำไม่ดีกับพ่อแม่ตน
ผู้ที่ละทิ้งพ่อแม่ตน แล้วไปนั่งสดับฟังพระเวท (พระธรรม) นั้น มิได้เข้าใจในความลับของเหล่าคัมภีร์เลย
ผู้ที่ทอดทิ้งพ่อแม่ตน แล้วหนีไปทำตบะในป่า เสมือนกับผู้เตร็ดเตร่อยู่ในพื้นที่รกร้าง
การบูชา นับถือ เหล่าเทพ ก็ไร้สาระ หากทอดทิ้งพ่อแม่ของตนมา
การทอดทิ้งพ่อแม่ของตน แล้วไปอาบน้ำล้างบาปทั้ง 68 สถานที่ศักดิ์สิทธ์ นั้น เสมือนกับไปหมุนเวียนอยู่ในนำ้วน (เปล่าประโยชน์)
ผู้ที่ละทิ้งพ่อแม่ของตน แล้วไปทำบุญทำทาน ผู้นั้นเสื่อมทราม ทุจริต และ โง่ เขลา
ผู้ที่ละทิ้งพ่อแม่ของตน แล้วมานั่งอดอาหาร (เป็นศาสนกิจ) จะเวียน ว่าย ตาย เกิด อยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะความไม่รู้
ผู้นั้น แท้แล้ว มิได้เข้าใจในปัจจัยของพระเจ้า ผู้เป็นสัจจะคุรุ เลย"
ภาอี ครุทาส, วาร 37, เปารี 13
ศาสนาซิกข์สอนว่า 'ศาสนา/ธรรมะ' เริ่มจากในบ้าน ในการรู้จักน้อมรับ และ รักทุกคนในครอบครัวของตน แม้แต่ละคนจะมีนิสัยอย่างไรก็ตาม - เพราะพระเจ้าทรงเป็นผู้เลือกครอบครัวและบ้านเกิดให้เรา จึงเป็นพระประสงค์ของพระองค์
ในพระประวัติ ของพระศาสดา ทั้ง 10 พระองค์ (ในเวลา 239 ปี)
พระศาสดา คุรุนานัก เมื่อทรงชนมายุ 34 ปี โดนพระบิดาของท่าน ตบหน้า เพราะเอาเงินที่ให้ไป ไปเลี้ยงข้าวสาธุชนหลุ่มหนึ่งที่หิวข้าวมาก - แทนที่จะนำงบที่ได้รับนี้ ไปเริ่มทุรกิจใหม่
แม้ คุรุนานัก ได้รับการเปิดเผยจากพระเจ้าให้ปลุกประชาชนทั่วโลก และ ก่อตั้งศาสนาใหม่ แต่ท่านก็ยังทำงานรับจ้าง เป็นนักบัญชี ตามประสงค์ของพะบิดาของท่านก่อน พระองค์ท่านเริ่มออกเดินทางทั่วโลกเพื่อเผยแพร่ศาสนา หลังจากที่ได้ทำให้ครอบครัวของพระองค์เข้าใจพระองค์แล้ว
บางทีสมาชิกครอบครัวบางท่านของเหล่าศาสดา มีความอิจฉาเกิดขึ้น เนื่องจากอยากได้บัลลังก์อันศักดิ์สิทธ์ในการเป็นศาสดาต่อ จึงมีการดูถูก เหยียดหยาม พระศาสดาบางองค์ เช่น โดยพระบุตรของพระศาสดานานักบ้าง (องค์ที่ 2, 3 และ 4 โดนเหยียดหยาม) หรือ มีการพยายามวางแผนฆ่าพระบุตรของศาสดา (องค์ที่ 5) บ้าง ไม่ต่ำกว่าสามครั้งโดยพี่ชายแท้ๆ ของพระองค์ หรือ สมาชิกครอบครัวบางท่านไปก่อตั้ง นิกายใหม่ๆ ขึ้นมาบ้าง หรือ ยึดพระคัมภีร์บ้าง หรือ ยึดวิหารทองคำบ้าง หรือ ยึดเงินบริจากที่ได้รับมาเพื่อเลี้ยงข้าวปชชบ้าง (องค์ที่ 5) หรือ จอะจงเอาปืนยิงพระศาสดา (องค์ที่ 9) บ้าง หรือ ใช้เส้นสายทางการเมือง และ ร่วมหัวกับฝ่ายไม่หวังดีบ้างให้ (องค์ที่ 5) โดนประหารชีวิตบ้าง
..... แต่พระศาสดาทั้ง 10 พระองค์ ไม่เคยคิดจะแก้แค้นกลับ เหล่าคุรุท่านมักปล่อยวาง และ หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับญาติๆ พี่น้องของตน คุรุท่านแสดงให้เห็นว่า บุญกุศล/ธรรมะ เริ่มจากในบ้าน จริงๆ
ขอบคุณครับ
ธรรมะ/ศาสนา เริ่มจากในบ้าน ในวิถีแห่งซิกข์ Charity begins at home
"ทำไมลูกต้องโต้เถียงกับบิดาของลูกด้วย
การทะเลาะวิวาทกับพ่อ ผู้เลี้ยงลูกมานั้นเป็นบาป"
- ศิริ คุรุ รามทาส (ศคคส 1200)
"บุตร ที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ เสมือนกับเป็นบุตรนอกสมรส"
- ภาอี ครุทาส, วาร 34, เปารี 21
"ภรรยาสำเร็จในการทำให้สามีหลงเสน่ห์ของเธอ
จนลูกชายลืม บุญคุณของพ่อแม่ตน ผู้ให้กำเนิด และผู้จัดงานแต่งงานให้ลูก
พ่อแม่อุดส่าปรึกษาหมอดู แล้วคัดวันเวลามงคลเพื่อจัดพิธีงานแต่งงานให้ลูกได้แต่ง
เนื่องจากมีความสุขมากที่ลูกได้พบรักกับลูกสะใภ้
แต่ลูกสะใภ้กลับเริ่มเป่าหูลูกต่อเนื่องให้ทอดทิ้งพ่อแม่ไป โดยยุแหย่บ่อยๆ ว่าพ่อแม่ ร้าย
จนกระทั้งลูกลืม บุญคุณของพ่อแม่ตน และแยกออกไปกับภรรยา
วิถีแห่งโลก ผิดศีลธรรมไปมาก"
- ภาอี ครุทาส, วาร 37 เปารี 12
-------
"ไร้ประโยชน์ ถ้าจะไปนั่งสงสารผู้ที่ ดูถูกและทำไม่ดีกับพ่อแม่ตน
ผู้ที่ละทิ้งพ่อแม่ตน แล้วไปนั่งสดับฟังพระเวท (พระธรรม) นั้น มิได้เข้าใจในความลับของเหล่าคัมภีร์เลย
ผู้ที่ทอดทิ้งพ่อแม่ตน แล้วหนีไปทำตบะในป่า เสมือนกับผู้เตร็ดเตร่อยู่ในพื้นที่รกร้าง
การบูชา นับถือ เหล่าเทพ ก็ไร้สาระ หากทอดทิ้งพ่อแม่ของตนมา
การทอดทิ้งพ่อแม่ของตน แล้วไปอาบน้ำล้างบาปทั้ง 68 สถานที่ศักดิ์สิทธ์ นั้น เสมือนกับไปหมุนเวียนอยู่ในนำ้วน (เปล่าประโยชน์)
ผู้ที่ละทิ้งพ่อแม่ของตน แล้วไปทำบุญทำทาน ผู้นั้นเสื่อมทราม ทุจริต และ โง่ เขลา
ผู้ที่ละทิ้งพ่อแม่ของตน แล้วมานั่งอดอาหาร (เป็นศาสนกิจ) จะเวียน ว่าย ตาย เกิด อยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะความไม่รู้
ผู้นั้น แท้แล้ว มิได้เข้าใจในปัจจัยของพระเจ้า ผู้เป็นสัจจะคุรุ เลย"
ภาอี ครุทาส, วาร 37, เปารี 13
ศาสนาซิกข์สอนว่า 'ศาสนา/ธรรมะ' เริ่มจากในบ้าน ในการรู้จักน้อมรับ และ รักทุกคนในครอบครัวของตน แม้แต่ละคนจะมีนิสัยอย่างไรก็ตาม - เพราะพระเจ้าทรงเป็นผู้เลือกครอบครัวและบ้านเกิดให้เรา จึงเป็นพระประสงค์ของพระองค์
ในพระประวัติ ของพระศาสดา ทั้ง 10 พระองค์ (ในเวลา 239 ปี)
พระศาสดา คุรุนานัก เมื่อทรงชนมายุ 34 ปี โดนพระบิดาของท่าน ตบหน้า เพราะเอาเงินที่ให้ไป ไปเลี้ยงข้าวสาธุชนหลุ่มหนึ่งที่หิวข้าวมาก - แทนที่จะนำงบที่ได้รับนี้ ไปเริ่มทุรกิจใหม่
แม้ คุรุนานัก ได้รับการเปิดเผยจากพระเจ้าให้ปลุกประชาชนทั่วโลก และ ก่อตั้งศาสนาใหม่ แต่ท่านก็ยังทำงานรับจ้าง เป็นนักบัญชี ตามประสงค์ของพะบิดาของท่านก่อน พระองค์ท่านเริ่มออกเดินทางทั่วโลกเพื่อเผยแพร่ศาสนา หลังจากที่ได้ทำให้ครอบครัวของพระองค์เข้าใจพระองค์แล้ว
บางทีสมาชิกครอบครัวบางท่านของเหล่าศาสดา มีความอิจฉาเกิดขึ้น เนื่องจากอยากได้บัลลังก์อันศักดิ์สิทธ์ในการเป็นศาสดาต่อ จึงมีการดูถูก เหยียดหยาม พระศาสดาบางองค์ เช่น โดยพระบุตรของพระศาสดานานักบ้าง (องค์ที่ 2, 3 และ 4 โดนเหยียดหยาม) หรือ มีการพยายามวางแผนฆ่าพระบุตรของศาสดา (องค์ที่ 5) บ้าง ไม่ต่ำกว่าสามครั้งโดยพี่ชายแท้ๆ ของพระองค์ หรือ สมาชิกครอบครัวบางท่านไปก่อตั้ง นิกายใหม่ๆ ขึ้นมาบ้าง หรือ ยึดพระคัมภีร์บ้าง หรือ ยึดวิหารทองคำบ้าง หรือ ยึดเงินบริจากที่ได้รับมาเพื่อเลี้ยงข้าวปชชบ้าง (องค์ที่ 5) หรือ จอะจงเอาปืนยิงพระศาสดา (องค์ที่ 9) บ้าง หรือ ใช้เส้นสายทางการเมือง และ ร่วมหัวกับฝ่ายไม่หวังดีบ้างให้ (องค์ที่ 5) โดนประหารชีวิตบ้าง
..... แต่พระศาสดาทั้ง 10 พระองค์ ไม่เคยคิดจะแก้แค้นกลับ เหล่าคุรุท่านมักปล่อยวาง และ หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับญาติๆ พี่น้องของตน คุรุท่านแสดงให้เห็นว่า บุญกุศล/ธรรมะ เริ่มจากในบ้าน จริงๆ
ขอบคุณครับ