ความเมตตาของผู้สร้างต่อสิ่งถูกสร้าง ที่เราอาจยังไม่รู้ หรือมองข้ามไป

ทุกสิ่งในโลกและจักรวาล "ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ" มีผู้สร้าง ที่ทรงบริหารจัดการ ดูแลอย่างทั่วถึง หากเราได้รู้ถึงความเมตตาของพระองค์ที่มีต่อมวลมนุษย์ เราจะยิ่งศรัทธาต่อพระองค์มากขึ้น สังเกตได้จากการสร้างสิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้ พระองค์ทรงสร้างโลกทั้งใบ มีเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย มีอาหาร พืชผัก ปศุสัตว์ให้พร้อม จะได้มีแรงในการใช้ชีวิตและแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ และก็ยังให้มนุษย์มีสติปัญญา สามารถค้นค้นประดิษฐ์สิ่งต่างๆ มากมาย

การที่เรามีลมหายใจอยู่ได้ เพราะพระองค์ให้
การที่เรามีครอบครัว มีพ่อแม่ เพราะพระองค์ให้มีคนดูแล หากใครไม่มีแล้ว ก็จะทรงส่งคนอื่นที่เหมะสมมาแทน
หรือหากอยู่คนเดียว ก็ยังมีสัตว์เลี้ยง ต้นไม้ มีเพื่อนบ้านที่ดี ญาติใกล้ชิด เป็นเพื่อน ไม่เหงา
พระองค์สร้างมนุษย์ ก็ไม่ได้ทอดทิ้งมนุษย์ให้มาลองผิดลองถูกในการใช้ชีวิต

มีมนุษย์คนแรก ก็มีศาสนาให้พร้อม คือ อิสลาม
มีศาสดา และศาสนทูต มาเป็นแสนกว่าคนถึงคนสุดท้ายคือนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม
มีคู่มือในการใช้ชีวิต มีคัมภีร์หลายฉบับ จนมาถึงฉบับสมบูรณ์คือ อัลกุรอาน
มีมนุษย์ที่เป็นตัวอย่างไอดอลที่ดีที่สุด คือ นบีมุฮัมมัด คอยสอนให้เราใช้ชีวิตอย่างไร และเจอบททดสอบที่หนักที่สุด
เวลาทุกข์ ก็ขอความช่วยเหลือได้ ไม่ต้องแบกภาระไว้คนเดียว ผ่านการขอดุอาอฺ (ขอพร)

พระองค์ทรงเมตตาส่งศาสนทูต มาเผยแพร่สัจธรรม ให้โอกาสมนุษย์ได้ค้นหาความจริง เป็นทางนำในการใช้ชีวิต มนุษย์จะได้ไม่หลงทาง และเป็นโอกาสได้รับรางวัล (เข้าสวรรค์) ของพระองค์

– “และเรามิได้ส่งเจ้า (มุฮัมมัด) มาเพื่ออื่นใดนอกจากเพื่อเป็นความเมตตาแก่ประชาชาติทั้งหลาย จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด “แท้จริงฉันได้รับวะฮีมา ให้ประกาศว่า แท้จริงพระเจ้าของพวกท่านนั้นคือพระเจ้าองค์เดียว ดังนั้นพวกท่านยังมิยอมนอบน้อมอีกหรือ?” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺอัลอัมบิยาอฺ 107-108)


- - -
ทุกสิ่งที่เรามี ที่เราเป็นอยู่นี้ ไม่ได้เป็นเอง มีเอง หรือทำได้เอง "แต่อัลลอฮฺให้"
เช่น ความฉลาด รวยจน สวยหล่อ มีเมตตาหรือไม่ พระองค์ประทานมาให้แต่ละคนไม่เหมือนกัน
และหากคนๆ นั้นจิตใจใฝ่ดี พระองค์ก็จะทรงให้เขาสามารถขัดเกลาจิตใจได้
แต่หากคนๆ นั้นจิตใจใฝ่ไปในทางที่ไม่ดี เขาก็จะได้รับบททดสอบ เพื่อเป็นการเตือนให้กลับเนื้อกลับตัว ผู้ใดคิดได้ ก็เป็นโอกาสดีของเขา

แม้ในความมืด ยังมีแสงสว่าง
หากชีวิตมืดมน มองหาใครช่วยก็ไม่พบ ไม่เห็นทางออกใด
อย่าลืมว่ามีผู้ที่เฝ้าคอยดูแลห่วงใย คอยช่วยเหลือเรา ให้อภัยเราเสมอแม้ว่าเราจะทำผิดมากมายแค่ไหนก็ตาม
อย่าได้โทษตัวเอง อย่าตัดสินตัวเอง อย่าได้จมอยู่กับความทุกข์นาน
ลุกขึ้นมาขอพร วิงวอน ขอความช่วยเหลือจากพระองค์ หรือถ้านอนป่วยอยู่ ก็ขอพรได้

ผู้ใดที่ชีวิตมืดมน หากเขาต้องการสัจธรรม พระองค์ก็จะทรงให้เขาเห็นทาง
มีคนหนึ่งอยู่ในคุก หลายคนคงคิดว่า ไม่มีความสุขหรอก มีแต่ทุกข์
แต่มีหลายคนที่อยู่ในคุก ได้พบทางสว่าง นั้นเป็นเพราะอัลลอฮฺให้
พระองค์ทรงรู้เนื้อแท้ในจิตใจ ว่าเขาคนนั้นเป็นคนแบบไหน พระองค์มองที่จิตใจไม่ได้มองที่สิ่งภายนอกเลย
(พระองค์เป็นผู้สร้างสิ่งต่างๆ แล้วพระองค์จะมองภายนอกทำไม สิ่งที่พระองค์ทรงให้เราใส่ใจ คือการศรัทธาที่ถูกต้อง คิดและประพฤติดี)

เมื่อคนนั้นอยู่ในคุก เขาเลือกเข้าห้องสมุด เจอคัมภีร์อัลกุรอานแปลไทย เขาอ่านวนซ้ำไปมา อยู่ในคุกนั้นนาน 4 ปี
จนกระทั่งออกมาจากคุก ศรัทธาและรับอิสลามในที่สุด
การอ่านอัลกุรอานครั้งนั้น ทำให้เขาฉุกคิดได้ว่า โลกใบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาเอง
มีผู้สร้าง มีพระเจ้าคอยดูแล ทุกอย่าง ลำดับเหตุการณ์ ถูกจัดวางเป็นระบบไว้อย่างดี
การที่จะมองว่า ไม่มีใครคอยกำกับดูแล ไม่มีทางเป็นไปได้ มันรันได้เอง เป็นไปไม่ได้แน่ๆ
การได้อ่านอัลกุรอาน คำดำรัสของพระเจ้า
รู้สึกเหมือนพระองค์กำลังสื่อสารกับเรา ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย และเข้าใจไม่ยากเลย

ความอดทนที่เรามี เพราะอัลลอฮฺให้
ความเมตตาในจิตใจ เพราะอัลลอฮฺให้
ความสำนึกผิด เพราะอัลลอฮฺให้
ใจใฝ่ไปทางไหน อัลลอฮฺให้ไปทางนั้น
ตามการเลือกของเรา และตรงกับความประสงค์ของพระองค์

พระองค์เป็นเจ้าของความเมตตาทั้งหมด และทรงประทานความเมตตาไปยังสิ่งถูกสร้าง รวมทั้งทรงเมตตาให้อภัยโทษบ่าว ให้โอกาสบ่าวกลับเนื้อกลับตัว และเมตตาให้เข้าสวรรค์ของพระองค์


– ท่านรอซูลุลลอฮฺกล่าวว่า “อัลลอฮฺทรงกำหนดหนึ่งร้อยความเมตตา และทรงประทานหนึ่งความเมตตาลงมาระหว่างญิน มนุษย์ สัตว์และสัตว์มีพิษ ด้วยกับความเมตตาอันนั้น ทำให้พวกเขาอ่อนโยนและมีเมตตาต่อกัน และทำให้สัตว์ดุร้ายมีเมตตาต่อลูกน้อยของมัน และพระองค์ทรงเก็บอีกเก้าสิบเก้าความเมตตาไว้รอเมตตาบ่าวของพระองค์ในวันกิยามะฮฺ” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม เลขที่ 2752)

ขนาดโลกใบนี้อันสวยงาม และพรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ยังเป็นความเมตตาเพียงแค่ 1 ส่วน แล้วโลกหน้า กับความเมตตาของพระองค์อีก 99 ส่วนจะขนาดไหน แต่ความเมตตาอีก 99 ส่วนนี้ จะได้กับผู้ที่ศรัทธาต่อพระองค์ มีทั้งการให้อภัย การลบความผิด การเลื่อนขั้นในสวรรค์ และความงดงาม ความสวยงามในสวรรค์ล่ะจะขนาดไหน ถ้าโลกนี้ยังขนาดนี้ มองในแง่มุมของความเมตตานะ ส่วนในเรื่องบททดสอบ ความทุกข์ยากลำบากนั้น จะมีแค่ในโลกนี้ โลกหน้าไม่มีแล้ว ไม่ต้องเจอปัญหา ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีกแล้ว หากเขาเป็นผู้ศรัทธา

หากก่อนนอน เราลองทบทวน นับดูว่า วันนี้เราได้รับความเมตตาจากพระองค์ในเรื่องใดบ้าง เราก็ไม่สามารถนับได้หมด แล้วทั้งชีวิตที่ผ่านมาที่พระองค์ทรงให้ทางนำ ให้เรายังมีลมหายใจ มีชีวิต จะถึงเวลาที่เราควรจะกลับเนื้อกลับตัว ปรับปรุงแก้ไขในความผิดพลาด มุ่งมั่นความดี เตรียมเสบียงความดีไปโลกหน้า เพื่อพระองค์ได้หรือยัง โลกนี้คือโลกชั่วคราว โลกหน้าคือโลกถาวร

เราอยากให้ผู้ที่ค้นหาสัจธรรม ยังไม่รู้จักอัลลอฮฺ ลองเปิดใจศึกษาอัลกุรอาน พระดำรัสของพระองค์ดู เราอยากให้มีโอกาสได้เข้าสวรรค์ และอยากให้ได้รับความเมตตาอีก 99 ส่วนนั้น เพราะหากไม่ใช่ผู้ศรัทธาแล้ว เขาจะได้รับการตอบแทนความดีทั้งหมดเพียงในโลกนี้เท่านั้น สำหรับผู้ศรัทธาก็อย่าเสียกำลังใจที่ตนเองต้องทนทุกข์ในโลกนี้ เพราะการตอบแทนความดีเพียงเล็กน้อยส่วนหนึ่งมีในโลกนี้ แต่ส่วนใหญ่อยู่ในโลกหน้า ใจเราจึงควรมองการณ์ไกลไปโลกหน้า ไม่ใช่โลกนี้

วัลลอฮุอะอฺลัม อัลลอฮฺเท่านั้นทรงรู้ดีที่สุด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่