ตลาดความงามอาเซียนโต "กัมพูชา-เมียนมา"จ่ายเพื่อสกินแคร์-อาหารเสริม แนะไทยลงทุน

กระทู้สนทนา
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์/เครดิต

นายอนุชนา วิชเวช ผู้อำนวยการโครงการบริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มูลค่าของตลาดสินค้าความงามทั่วโลกมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี โดยตลอด 20 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 4.5% ซึ่งที่มาของการเติบโตนั้นเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ประชากรต่อหัว พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของประชากรโลกในปัจจุบันที่หันมาใส่ใจเรื่องภาพลักษณ์และดูแลสุขภาพมากกันมากขึ้น โดยคาดการณ์ว่าในปี 2017 ตลาดสินค้าความงามทั่วโลกจะมีมูลค่ารวมกว่า 9.3 ล้านล้านบาท

และในส่วนของเอเชียพบว่าตั้งแต่ปี 2012-ปัจจุบัน ตลาดเครื่องสำอางระดับพรีเมี่ยมได้เติบโตขึ้นเป็นอันดับ 1 โดยโตถึง 19% และมีมูลค่ากว่า 210,000 ล้านบาท สำหรับกลุ่มอาเซียน มีมูลค่าตลาดอุตสาหกรรมความงามมากกว่า 500,000 ล้านบาทในปัจจุบัน และมีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้น 3-6% ในแต่ละปี

ส่วนในไทย ตลาดสินค้าความงามมีมูลค่ามากถึง 250,000 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าจากการซื้อ-ขายภายในประเทศ 150,000 ล้านบาท และการส่งออกอีก 100,000 ล้านบาท โดยมีการเติบโตต่อเนื่อง 8-10% ในทุกปี และที่สำคัญคือ 27% ของการส่งออกสินค้าความงามของไทยนั้น เป็นการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนทั้งสิ้น

อุตสาหกรรมความงามจึงเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่สำคัญและมีส่วนช่วยในการผลักดันระบบเศรษฐกิจของไทยให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ท่ามกลางภาวะวิกฤตและการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เพราะไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพมากในส่วนของการผลิตที่กล่าวได้ว่าเหนือไปกว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียน อีกทั้งยังเป็นประเทศที่ครอบครองตลาดความงามที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน, เป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม อันดับ 1 ของโลก, เป็นผู้ผลิตเครื่องสำอางอันดับที่ 17 ของโลกและยังเป็นผู้ส่งออกสกินแคร์ อันดับที่ 12 ของโลกอีกด้วย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่