วัฒนธรรม "ผู้ชายไม่ต้องทำงานบ้าน" ยังมีอยู่จริงหรือ

สวัสดีค่ะมีเรื่องที่ไม่สบายใจจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกันระหว่างสองบ้านหลังมีลูก
จขกท คบหาดูใจกับแฟนประมาณ 4 ปีและแต่งงานกันใช้เวลา 3 ปี ก็มีโซ่ทองคล้องใจสมปรารถนา จุ๊บๆ สร้างความสุขให้กับทั้งสองบ้านมาก
ตลอดเวลาที่คบหากันจนมีลูก ทั้งบ้านเราและบ้านสามีเรียกว่าเป็นครอบครัวสามัคคี กลมเกลียวกันทีเดียว มีของฝากถึงกันเสมอ
ส่วน จขกท ด้วยความที่อายุน้อยกว่าแฟนสองปี จึงเป็นวัยกำลังดี ประกอบกับ จขกท เป็นรุ่นน้องมหาลัยของแฟนจึงเป็นคู่ที่ให้เกียรติกัน เข้าใจกันอย่างดีเสมอมา ทุกอย่างลงตัวมาก

หลังจากนี้คือชีวิตจริง ชีวิตคู่ที่แทบจะเรียกว่าเป็นคู่ตัวอย่างแห่งปีได้เลยก็ว่าได้ เมื่อมีลูกน้อยผู้น่ารัก จนทั้งสองบ้านหลงหลานจนลืมลูก ฮาฮ่า แค่พูดให้เห็นภาพ ^^ แต่หลงกันจริงๆ ทั้งสองบ้าน ตา ยาย และปู่ ย่า ก็จะสลับกันมาเลี้ยงหลานให้ (จขกท กับแฟนเป็นคนอิสานทั้งคู่ จขกท อิสานตอนบน ส่วนแฟนอิสานตอนล่าง ได้ฤกษ์ดีขอโยกย้ายการทำงานจนได้ทำงานในจังหวัดเดียวกัน ณ ภาคกลาง ก็ตอนท้องเจ้าตัวเล็ก ทำให้เราได้เริ่มต้นครอบครัวเล็กๆ อยู่อย่างสามีภรรยาเต็มรูปแบบมีบ้านพักในจังหวัดที่ทำงานกัน)

ในช่วงลาคลอดนั้นทุกอย่างยังราบรื่น เพราะ จขกท ได้รับการฝึกฝนวิทยายุทธการเลี้ยงลูกในช่วงเดือนแรกที่บ้านต่างจังหวัดกับตายาย และสามีก็ไปรับมาอยู่กันพร้อมหน้าสามพ่อแม่ลูกที่บ้านพัก  ช่วงจากตายายมานั้นทำเอาตายายอดร้องไห้คิดถึงหลานกันไม่ได้เลยทีเดียว แต่คุณสามีก็คิดถึงลูกเช่นกันจึงขอไปรับกลับมาเลี้ยงกันเอง จขกท ก็เลี้ยงลูกคนเดียวที่บ้านอย่างสบายด้วยฝึกฝนมาอย่างดีแล้วมีความสุขเลี้ยงลูกเอง แม้จะเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานบ้านและเลี้ยงลูก แต่นั้นคือความสุข พักเที่ยงและตกเย็นสามีก็กลับจากทำงานมาเล่นกับลูก.

จนใกล้เข้าสู่เดือนสาม จขกท จะได้เวลากลับไปทำงานแล้ว คุณย่า คุณปู่จะเป็นผลัดแรกที่จะมาช่วยเลี้ยงหลาน

และต่อจากนี้แหละค่ะ คือชีวิตจริงหลังมีลูกของคุณพ่อคุณแม่ที่ทำงานทั้งคู่ ฮาฮ่า ^^
เช้า เย็น และเสาร์-อาทิตย์ ที่ไม่ใช่เวลาทำงาน คือโอกาสที่เราจะได้ช่วยกันทำงานบ้านทุกอย่างที่มีอยู่
แน่นอน จขกท ทำคนเดียวไม่ไหวแน่ จึงจะต้องเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากสามีอยู่บ่อยๆ บางครั้งก็ดูเหมือนจะเป็นคำสั่ง สามีเค้าว่างั้น ฮิฮิ หลังๆเลยปรับแล้ว เด๋วจะไม่รักกัน ฮิฮิ

แต่นั้นแหละคะ คุณปู่ คุณย่าก็เริ่มเก็บรายละเอียดลูกสะใภ้ และไปฟีดแบคกับคุณยายว่า ลูกสะใภ้ จู๋จี้จุกจิก ให้สามีทำโน้นนั้นนี้ อ้าววว. เป็นประเด็นค่ะ 555
แต่ยอมรับเลยนะคะว่า สามีน่ารักมาก เพิ่งจะมารู้ว่าที่บ้านสามีเค้ามีวัฒนธรรม "ผู้ชายไม่ต้องทำงานบ้าน"

ที่ไม่เคยรู้เพราะตลอดเวลาที่เรากับสามีอยู่ด้วยกัน. เราช่วยกันทำงานบ้านทุกอย่างเท่าที่แต่ละฝ่ายจะช่วยแบ่งเบากันได้ จน จขกท ไม่รู้ว่าที่บ้านฝ่ายสามีมีวัฒนธรรมนี้. แต่เคยสังเกตว่าคุณปู่ไม่แตะงานล้างจานเลยหมายถึงจานข้าวตัวเองก็ไม่ล้าง เสื้อผ้าก็ไม่เคยแตะที่จะซัก ครั้งหนึ่งคุณปู่มาช่วยเลี้ยงหลานพร้อมคุณยาย เพราะคุณปู่อยากจะทำสวนปลูกผักไว้ให้หลานกินตอนที่ต้องเริ่มอาหารเสริม 6 เดือน. กลายเป็นคุณยายต้องมาคอยล้างจาน และซักผ้าให้ เพราะคุณยายเค้าชินกับการต้องซักผ้าสองวันครั้ง ซักแล้วก็ซักให้ด้วยเลย. ดังดูแลคุณตา. นอกจากนี้แล้วก็ย้อนกลับไปนึกถึงเมื่อครั้งกลับไปเยี่ยมคุณปู่คุณย่าก็จะไม่เคยเห็นน้องชายสามีทำงานบ้านเลย เป็นคุณย่าทำทุกอย่าง เราเองก็ได้ช่วยทุกครั้งที่กลับไป นับถือคุณย่าเค้าจริงๆ และครั้งแรกที่ จขกท ไปบ้านสามี สามีเคยพูดว่าแม่(คุณย่า) ดีใจจะมีลูกสาว เราเองก็ไม่เอ๊ะใจอะไร ก็คือจะมีคนมาช่วยทำงานบ้านแล้ว ว่างั้น 55 มาเข้าใจตอนนี้

ส่วนแต่ก่อนนั้น เวลากลับบ้านคุณปู่คุณย่า แน่นอนค่ะจะต้องมีจานชามกองเบอเริ่มไว้ให้ลูกสะใภ้ล้าง หากช่วงนั้นคุณย่างานยุ่งไม่มีเวลา ส่วนที่บ้านคุณตาคุณยายนั้นไม่มีเพราะคุณตาคุณยายช่วยกันตลอดล้างทุกครั้งหลังใช้เสร็จ

ที่บ้าน จขกท คุณตาคุณยายมีลูกสองคน มีจขกทเป็นลูกสาวและมีพี่ชาย. ตั้งแต่เด็กๆ พ่อกับแม่(คุณตาคุณยาย) จะมอบหมายให้ผลัดกันช่วยกันทำงานบ้านทุกอย่าง ทั้งเราและพี่ชายได้ทำทุกอย่างเหมือนกันไม่มีแบ่งแยกช่วยกันตลอด  ทำให้ลืมประเด็นนี้ไปเลยคิดว่าบ้านอื่นก็เป็นแบบเรา

ก็เลยมาชัดแจ้งตอนที่คุณย่ามีฟีดแบคนี้แหละ. พอคุณยายมาบอก จขกท เราก็เข้าใจทันทีว่าที่บอกว่า จู้จี้จุกจิก สามีคืออะไร ก็ทำให้ฉุกคิดถึงวัฒนธรรมที่ต่างกันของทั้งสองบ้านขึ้นมา จึงไม่ได้โกรธเคืองอะไร ได้แต่นอบรับไว้พิจารณาตัวเองต่อไป กระซิก กระซิก T_T

สุดท้ายก็เลยมีข้อสงสัย อยากจะทราบขึ้นมาว่ามีบ้านไหนมีวัฒนธรรม "ผู้ชายไม่ต้องทำงานบ้านบ้าง" ถ้ายังมีอยู่ อยู่ในส่วนภูมิภาคใดของไทย มันสำคัญต่อการที่สองบ้านจะมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน หากได้ทำความเข้าใจรู้จักกันไว้ก่อน ก็จะเป็นทานให้ลูกหลานได้เข้ามาศึกษากันต่อไป

ปล.การใช้ชีวิตคู่มีความเสี่ยง โปรดศึกษาก่อนตัดสินใจ ฮิฮิ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่