สิงคโปร์ บ้านใกล้เรือนเคียง ใช้เวลาเดินทางไม่นานและค่าตั๋วเครื่องบินไม่แพงมากนัก แต่ค่าครองชีพสูงมาก ค่าอาหารแพงน้ำตาจะไหล ตอนตัดสินใจไปเห็นค่าตั๋วแล้วนึกว่าทริปนี้จะถูก แต่ไปโดยค่ากินเข้าไป งานนี้มีกระเป๋าแห้งเหมือนกัน
เราไปสิงคโปร์กันทั้งหมด 10 วัน และก็เหมือนทุกครั้งคือ จุดประสงค์ในการไปเที่ยวต่างประเทศคือ ไปกิน ร้านไหนเค้าว่าดี ว่าอร่อยเราต้องให้ได้ไปลอง จะได้รู้ว่าอร่อยจริง หรือที่เค้าว่าอร่อยรสชาติเป็นอย่างไร อย่าเสียเวลาเรามาเริ่มกันที่ร้านแรกค่ะ

ร้านนี้เป็นร้านอาหารอินเดีย เฮ้ย! มาสิงคโปร์มากินอาหารอินเดีย ทำไมไม่ไปกินที่อินเดีย ที่เราเลือกมาทานอาหารอินเดียร้านนี้ เพราะแกงหัวปลา ร้าน
The Banana Leaf Aoplo เป็นร้านอาหารอินเดียที่ตั้งอยู่ที่ Iittle India เป็นย่านช้อปปิ้งอีกที่ๆน่าสนใจ เป็นร้านใหญ่ ตั้งอยู่หัวมุมถนน การเดินทางโดย MRT ลงที่สถานี Little India แล้วเดินมาอีกประมาณ 5 นาทีก็ถึง ร้านเปิดทุกวัน 10.30 - 22.30 น. ร้านเป็นห้องแอร์เย็นฉ่ำ ส่วนด้านนอกเค้าจะเปิดให้บริการช่วงเย็นเท่านั้น

ร้านนี้มีจะลูกค้าเข้าออกเยอะตลาดเวลา ทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว ร้านใหญ่ มีหลายโต๊ะ และที่สำคัญอาหารเร็ว

เมนูที่นี้จะมีรูปภาพประกอบค่ะ เปิดมาเจอรูปที่ตั้งใจมาทาน สั่งโดยรวดเร็ว
Apolo Fish Head Curry เลือกขนาดใหญ่สุดเลย มากัน 2 คนเล่นใหญ่ตลอด ราคา 1,270 บาท ตอนสั่งไม่รู้เลยว่าจะมาชามใหญ่ขนาดไหน แต่ด้วยความหิวและความอยาก

เห็นชามแกงปลาแล้วขำก๊ากเลย ชามใหญ่มาก หัวปลาขนาดใหญ่ ซึ่งตัดมาโดยติดส่วนลำตัวมาค่อนข้างเยอะ ทำให้มีปริมาณเนื้อปลาเยอะกว่าที่คาดไว้ ส่วนน้ำแกง อร่อยมากๆ เปรี้ยวนำ เค็มเล็กๆ หวานหน่อยๆ

Squid Curry อันนี้สั่งขนาดเล็ก ราคา 230 บาท แต่ขนาดไม่เล็กมาก กำลังดีสำหรับ 2 คน หมึกสด เด้งดึ๋งๆไม่เหนียว น้ำแกงรสอินเดีย เข้มขน ค่อนข้างมัน

Apolo Chicken masala ราคา 130 บาท เนื้อไก่ชิ้นใหญ่น่าจะเกือบครึ่งตัว ย่างกับเครื่องเทศ เนื้อไก่สุกกำลังดี ด้านในไม่แห้งส่วนตัวแกงรสกลอมกล่อม

การเสริฟอาหารของที่นี้เค้าจะมีใบตองรองในจานมาด้วย แล้วก็จะตักข้าวให้ ยากทานเท่าไหร่บอกเค้าได้เลย พร้อมเครื่องเคียงแบบอินเดีย อยากทานเครื่องเคียงอะไรเพิ่มก็ขอได้เลย อีกอย่าง อาหารอินเดียส่วนใหญ่จะทานด้วยมือกัน เค้าบอกว่าจะได้รสชาติอร่อยที่อร่อยขึ้น ร้านนี้อาหารโดยรวมอร่อยมากค่ะ

อีกร้านที่อยู่ระแวกเดียวกันคือ
Zam Zam ตั้งอยู่ที่ 697-699 N Bridge Rd, ร้านเปิดทุกวัน 7.00-23.00 น. การเดินทางโดยลงที่ Bugis station แล้วเดินมาที่ Arab St. หรือจะเดินมาจากร้าน Apolo Fish Head Curry ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาทีก็ถึง ร้านจะอยู่ติดกับอีกร้านหนึ่งที่ขายอาหารเหมือนกัน ซึ่งบางคนก็บอกว่า Zam Zam อร่อยกว่า แต่ก็มีอีกหลายคนบอกว่าอีกร้านอร่อยกว่า ตัดสินใจไม่ถึงขอเข้า Zam Zam แล้วกัน ร้านจะมีด้านล่างซึ่งเป็นพัดลมและด้านบนที่เป็นแอร์ เราเดินขึ้นด้านบนโดยไม่ต้องคิดเพราะอากาศร้อนมาก

ร้านนี้จะดังเกี่ยวกับมะตะบะ Murtabak ซึ่งจะมีหลายขนาดและหลายไส้ให้เลือก ขนาดมีทั้งหมด 5 ขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก ใหญ่พิเศษ เราเลือกขนาดกลางมา ซึ่งเสริฟมามันใหญ่มาก

เราสั่งมะตะบะไก่ กับแพะ ซึ่งมะตะบะจะเสริฟมาพร้อมกับน้ำแกง น้ำแกงแต่ละจานก็จะต่างกัน เราชอบมะตะบะไก่มากกว่า เพราะแพะยังคงมีกลิ่นสาบเหลืออยู่บ้าง ตัวแป้งกรอบนอก ส่วนด้านในแน่นไปด้วยเนื้อสัตว์ อันแน่น แต่น้ำแกงเราชอบน้ำแกงของแพะมากกว่า เพราะรสเข้ม และออกเปรี้ยวกว่า ราคาจานละ 200 บาท

อีกอย่างที่ต้องสั่งทุกครั้งที่มาทานอาหารอินเดียคือชาร้อน 38 บาท เราสั่งแบบไม่ใส่น้ำตาล รสชาเข้มมาก แก้เลี่ยนของน้ำมันได้เป็นอย่างดี

ร้าน Hill street Tai Hwa pork Noodle. ตั้งอยู่ที่ Tai Hwa Eating House เป็นศูนย์อาหารขนาดเล็กมีจำนวนร้านค้าไม่เยอะมาก ร้านนี้จะเปิด 9.00-21.00 น. ร้านปิดทุกวันจันทร์ที่ 1 และ 3 ของเดือน การเดินทางโดย MRT ลงที่สถานี Lavender station แล้วเดินต่อมาอีกประมาณ 5 นาที

ร้านนี้จากการบอกเล่าเค้าบอกว่าไม่แนะนำให้มาช่วงเที่ยงเพราะแถวยาวมาก เราไปถึงร้านกันประมาณบ่าย 3 ยังมีคนต่อแถวเลย แต่รอไม่นานประมาณ 10 นาทีก็ได้ทานแล้ว ร้านนี้เราสามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ด้วย

เราสั่งแบบเผ็ดไป แต่จากการสังเกตเราคิดว่าไม่น่าจะเผ็ดมาก เลยใส่พริกสดมาอีก หน้าตาเลยออกมาแบบนี้ บะหมี่ราคา 150 บาท เสริฟมาพร้อมน้ำซุปสาหร่ายถ้วยเล็กๆ ตัวเส้นจะเป็นเส้นบะหมี่เหลืองเส้นอ้วน โรยหน้าด้วยหมูสับและเครื่องใน ลูกชิ้น ตกด้วยปลากรอบชิ้นเล็กหนึ่งชิ้น ตัวบะหมี่อร่อย เหนียวนุ่ม ตัวซอสรสเค็ม เผ็ดเล็กน้อยแต่ค่อนข้างมัน ขนาดชามไม่ใหญ่ แต่ด้วยเส้นเป็นเส้นบะหมี่ค่อนข้างใหญ่ทำให้อิ่มระดับหนึ่ง ถ้าจะเอาให้อิ่มเลยต้อง 2 ชาม

ร้าน Yong Xiang Xing Tou Foo (永祥兴豆腐) ร้านตั้งอยู่ที่ People’s Park Food Centre ร้านเปิด 13.00-17.00 หยุดทุกวันจันทร์ ร้านนี้หาง่ายมาก สังเกตจากแถวที่ยาวมากๆ ยาวลามไปประมาณ 3-4 ร้าน ตอนเห็นแถวเกือบถอดใจเพราะเกรงว่าน่าจะรอไม่ต่ำกว่าชั่วโมงแน่นอน เพราะมีคนต่อแถวอยู่ประมาณ 30-40 คน แต่เห็นแถวเดินค่อนข้างเร็วเลยร่วมวงต่อแถวกับเค้าด้วย การสั่งอาหารของร้านนี้ง่ายมากเพราะเค้าขายอย่างเดียว ไม่มีให้เลือก บอกแค่จำนวน และจ่ายเงิน ไม่ต้องยืนรอด้วยค่ะ สั่งเสร็จ จ่ายเงิน เดินไปนั่งได้เลย จะมีพี่เค้าเดินตามไปส่งให้ถึงโต๊ะ ร้านนี้ทำเร็วมาก อาหารเสริฟเสริฟก่อนเราจ่ายเงินอีก เร็วเวอร์

ได้มาแล้วซุปเต้าหู้ที่ต่อแถว หน้าตาดูธรรมดา แต่อร่อยมาก น้ำซุปค่อนข้างมัน รสเค็มกำลังดี เผ็ดพริกไทยเล็กน้อย ซดน้ำคล่องคอ ตัวเต้าหู้จะมี 2 แบบ แบบทอดกับไม่ทอด ตอนทานต้องระวัง เพราะร้านมาก ความร้อนแทรกเข้าไปทุกอณูของเต้าหู้เลย กัดไม่ระวังลวกปากแน่นอน ส่วนลูกชิ้นเป็นลูกชิ้นปลา เด้งดี ที่เด็ดของชามนี้คงต้องยกให้น้ำซุปที่กลมกล่อมมาก ราคา 100 บาท

ร้าน Laksa ร้านดังในสิงคโปร์ ร้าน Sungei Road Laksa ตั้งอยู่ที่ Sungei Road 27 Jalan Berseh ร้านเปิด 9.30-17.00 น. หยุดทุกวันพุธ

ร้านนี้ต้องต่อแถวทุกครั้งที่ไปทาน ไปร้านนี้มา 3 ครั้ง คนเยอะทุกครั้ง ไม่รอไม่นาน ยืนดูเค้าทำเพลินมาก คือเค้าจะลวกเส้นโดยการใส่เส้นในชาม แล้วใส่น้ำซุป เทน้ำออก ทำแบบนี้อยู่ประมาณ 4-5 ครั้ง แล้วก็ตักน้ำซุปที่ใข้ลวกเส้นใส่ในชาม พร้อมเสริฟ

ลักซาราคาชามละ 76 บาท ชามเล็กมากค่ะ ต้องทาน 2 ชาม ชามเดียวไม่รู้สึกอะไรเลย 2 ชามพออิ่มๆ ใสส่วนของลักซาจะประกอบได้ด้วย เส้น คล้ายเส้นสปาเก็ตตี้ หอยแครง ลูกชิ้นปลา น้ำซุปข้นมัน และซอสติดของชามมาเล็กน้อย ในซุปอร่อย ข้น มันมาก ตัวหอยแครงเราว่าน่าจะเป็นหอยดิบ เพราะเวลาเคี้ยวยังกรุบๆและได้กลิ่นของความสดอยู่

ไม่ห่างจากลักซาหากหันหลังให้ศูนย์อาหารที่ขายลักซาจะเห็นศูนย์อาหารอีกตึกหนึ่งที่อยู่ตรงหน้า ติดถนนใหญ่ จะมีร้านขายน้ำแข็งใสร้านอร่อยอยู่ ร้านจะอยู่ชั้น 2 ของศูนย์อาหาร

Ice Kacang น้ำแข็งใสร้านนี้จะแตกต่างจากร้านอื่นในสิงคโปร์ เราว่าจะคล้ายๆกับที่ไทเปมากกว่า โดยตัวน้ำแข็งจะฟูกว่า ด้านในจะราดมาด้วยน้ำหวานที่เราเลือก สีเขียว สีแดง สีดำ ส่วนด้านล่างของถ้วยจะเป็นเครื่องต่างๆที่เราเลือก ในส่วนสีขาวจะเป็นนมสดราดมาจนแทบไม่เห็นตัวน้ำแข็ง รสหวาน ให้ความสดชื่นได้ดีมาก ในอากาศที่ร้อนอบอ้าว ราคา 50 บาท

อีกร้านในระแวกเดียวกัน โดยหันหลังให้ศูนย์อาหารน้ำแข็งใส แล้วเดินไปทางขวามือ เจอแยกไฟแดงแล้วจะให้ป้ายถนน Jin Besar ให้ข้ามถนน ร้านจะตั้งอยู่หัวมุมเลย เป็นร้านข้าวแกง ร้าน Beah Road Scissor-Cut Curry Rice ร้านเปิด 11.00-3.30 น. ทุกวัน

ภายในร้านจะมีตู้กระจกที่มีอาหารที่ปรุงเสร็จแล้ว เราก็เลือกเลยว่าอยากทานอะไรบ้าง ทางร้านก็จะใช้กรรไกรตัดอาหารให้เรา เช่นสั่งกุ้งทอด หรือเต้าหู้ เค้าก็จะใช้กรรไกรตัดเป็นชิ้นขนาดพอคำ ใส่ราดพร้อมข้าวสวยแล้วราดมาด้วยน้ำแกง

อาหารออกมาหน้าตาแบบนี้ หน้าตาอาจจะดูไม่ค่อยดี แต่รสชาติกับหน้าตาสวนทางกันมาก น้ำแกงให้มาแบบไม่หวงกันเลย จะแทบจะล้นออกจาน ราดหน้าอีกนิดด้วยซีอิ๊วดำ น้ำแกงข้นมาก เหนียวๆยืด รสข้นเข้ม ทานคู่กับข้าวสวยและของทอด ร้านนี้อยากแนะนำให้ลอง รสชาติแตกต่างจากข้าวแกงทั่วไปมา

มาถึงศูนย์อาหารที่ทุกคนต้องรู้จัก Maxwell Food Centre ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสิงคโปร์ เดินทางง่าย หาง่าย ร้านค้าเยอะมาก เลือกไม่ถูกว่าจะลงกันที่ร้านไหนดี เริ่มกันที่ร้านแรก ข้าวมันไก่ร้านดังของศุนย์อาหาร

Tian Tian Hainanese Chicken Rice ร้านนี้ทุกคนรู้จัก แถวยาวมาก หาหางแถวให้เจอแล้วก็รวมวงเหมือนเดิม การสั่งอาหารของที่นี้คือ พอต่อแถวไปเรื่อยๆจนตัวเราเลื่อนไปอยู่หน้าร้าน เราก็สั่งอาหารที่เราจะทาน จะเป็นแบบราดข้าว หรือแยกข้าว แยกไก่ ก็สั่ง แล้วจ่ายเงิน เค้าจะมีใบเสร็จมาให้ เก็บใบเสร็จไว้ เพื่อยื่นให้กับช่องต่อไป หลังจากถึงคิวเราอีกครั้ง ยื่นใบเสร็จแล้วรอรับอาหาร

เราสั่งแบบไก่ครึ่งตัว ราคา 300 บาท ไก่ตัวอ้วน เนื้อเยอะ ราดมาด้วยน้ำซอสที่มันเยิ้ม บวกกับตัวไก่ที่มันอยู่แล้วทำให้มันกันไปหมดเลย ตัวเนื้อไก่เราไม่ค่อยชอบ เพราะเนื้อค่อนข้างนิ่ม เวลาทานคู่กับน้ำซอสมันและเลี่ยนมาก ขนาดทานกับน้ำจิ้มรสเผ็ดที่เค้าให้มายังไม่สามารถลดความเลี่ยนได้เลย อันนี้เราไม่ชอบ

แต่ในส่วนของข้าว อร่อยไม่น่าเชื่อ ข้าวไม่มันมากและหอมมาก ข้าวเปล่าราคา 17 บาท ส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบร้านนี้ค่ะโดยรวม ร้านเปิดบริการ 11.00-20.00 น.ปิดทุกวันจันทร์
เก็บกระเป๋าไปหาของกิน สิงคโปร์
เราไปสิงคโปร์กันทั้งหมด 10 วัน และก็เหมือนทุกครั้งคือ จุดประสงค์ในการไปเที่ยวต่างประเทศคือ ไปกิน ร้านไหนเค้าว่าดี ว่าอร่อยเราต้องให้ได้ไปลอง จะได้รู้ว่าอร่อยจริง หรือที่เค้าว่าอร่อยรสชาติเป็นอย่างไร อย่าเสียเวลาเรามาเริ่มกันที่ร้านแรกค่ะ
ร้านนี้เป็นร้านอาหารอินเดีย เฮ้ย! มาสิงคโปร์มากินอาหารอินเดีย ทำไมไม่ไปกินที่อินเดีย ที่เราเลือกมาทานอาหารอินเดียร้านนี้ เพราะแกงหัวปลา ร้าน The Banana Leaf Aoplo เป็นร้านอาหารอินเดียที่ตั้งอยู่ที่ Iittle India เป็นย่านช้อปปิ้งอีกที่ๆน่าสนใจ เป็นร้านใหญ่ ตั้งอยู่หัวมุมถนน การเดินทางโดย MRT ลงที่สถานี Little India แล้วเดินมาอีกประมาณ 5 นาทีก็ถึง ร้านเปิดทุกวัน 10.30 - 22.30 น. ร้านเป็นห้องแอร์เย็นฉ่ำ ส่วนด้านนอกเค้าจะเปิดให้บริการช่วงเย็นเท่านั้น
ร้านนี้มีจะลูกค้าเข้าออกเยอะตลาดเวลา ทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว ร้านใหญ่ มีหลายโต๊ะ และที่สำคัญอาหารเร็ว
เมนูที่นี้จะมีรูปภาพประกอบค่ะ เปิดมาเจอรูปที่ตั้งใจมาทาน สั่งโดยรวดเร็ว Apolo Fish Head Curry เลือกขนาดใหญ่สุดเลย มากัน 2 คนเล่นใหญ่ตลอด ราคา 1,270 บาท ตอนสั่งไม่รู้เลยว่าจะมาชามใหญ่ขนาดไหน แต่ด้วยความหิวและความอยาก
เห็นชามแกงปลาแล้วขำก๊ากเลย ชามใหญ่มาก หัวปลาขนาดใหญ่ ซึ่งตัดมาโดยติดส่วนลำตัวมาค่อนข้างเยอะ ทำให้มีปริมาณเนื้อปลาเยอะกว่าที่คาดไว้ ส่วนน้ำแกง อร่อยมากๆ เปรี้ยวนำ เค็มเล็กๆ หวานหน่อยๆ
Squid Curry อันนี้สั่งขนาดเล็ก ราคา 230 บาท แต่ขนาดไม่เล็กมาก กำลังดีสำหรับ 2 คน หมึกสด เด้งดึ๋งๆไม่เหนียว น้ำแกงรสอินเดีย เข้มขน ค่อนข้างมัน
Apolo Chicken masala ราคา 130 บาท เนื้อไก่ชิ้นใหญ่น่าจะเกือบครึ่งตัว ย่างกับเครื่องเทศ เนื้อไก่สุกกำลังดี ด้านในไม่แห้งส่วนตัวแกงรสกลอมกล่อม
การเสริฟอาหารของที่นี้เค้าจะมีใบตองรองในจานมาด้วย แล้วก็จะตักข้าวให้ ยากทานเท่าไหร่บอกเค้าได้เลย พร้อมเครื่องเคียงแบบอินเดีย อยากทานเครื่องเคียงอะไรเพิ่มก็ขอได้เลย อีกอย่าง อาหารอินเดียส่วนใหญ่จะทานด้วยมือกัน เค้าบอกว่าจะได้รสชาติอร่อยที่อร่อยขึ้น ร้านนี้อาหารโดยรวมอร่อยมากค่ะ
อีกร้านที่อยู่ระแวกเดียวกันคือ Zam Zam ตั้งอยู่ที่ 697-699 N Bridge Rd, ร้านเปิดทุกวัน 7.00-23.00 น. การเดินทางโดยลงที่ Bugis station แล้วเดินมาที่ Arab St. หรือจะเดินมาจากร้าน Apolo Fish Head Curry ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาทีก็ถึง ร้านจะอยู่ติดกับอีกร้านหนึ่งที่ขายอาหารเหมือนกัน ซึ่งบางคนก็บอกว่า Zam Zam อร่อยกว่า แต่ก็มีอีกหลายคนบอกว่าอีกร้านอร่อยกว่า ตัดสินใจไม่ถึงขอเข้า Zam Zam แล้วกัน ร้านจะมีด้านล่างซึ่งเป็นพัดลมและด้านบนที่เป็นแอร์ เราเดินขึ้นด้านบนโดยไม่ต้องคิดเพราะอากาศร้อนมาก
ร้านนี้จะดังเกี่ยวกับมะตะบะ Murtabak ซึ่งจะมีหลายขนาดและหลายไส้ให้เลือก ขนาดมีทั้งหมด 5 ขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก ใหญ่พิเศษ เราเลือกขนาดกลางมา ซึ่งเสริฟมามันใหญ่มาก
เราสั่งมะตะบะไก่ กับแพะ ซึ่งมะตะบะจะเสริฟมาพร้อมกับน้ำแกง น้ำแกงแต่ละจานก็จะต่างกัน เราชอบมะตะบะไก่มากกว่า เพราะแพะยังคงมีกลิ่นสาบเหลืออยู่บ้าง ตัวแป้งกรอบนอก ส่วนด้านในแน่นไปด้วยเนื้อสัตว์ อันแน่น แต่น้ำแกงเราชอบน้ำแกงของแพะมากกว่า เพราะรสเข้ม และออกเปรี้ยวกว่า ราคาจานละ 200 บาท
อีกอย่างที่ต้องสั่งทุกครั้งที่มาทานอาหารอินเดียคือชาร้อน 38 บาท เราสั่งแบบไม่ใส่น้ำตาล รสชาเข้มมาก แก้เลี่ยนของน้ำมันได้เป็นอย่างดี
ร้าน Hill street Tai Hwa pork Noodle. ตั้งอยู่ที่ Tai Hwa Eating House เป็นศูนย์อาหารขนาดเล็กมีจำนวนร้านค้าไม่เยอะมาก ร้านนี้จะเปิด 9.00-21.00 น. ร้านปิดทุกวันจันทร์ที่ 1 และ 3 ของเดือน การเดินทางโดย MRT ลงที่สถานี Lavender station แล้วเดินต่อมาอีกประมาณ 5 นาที
ร้านนี้จากการบอกเล่าเค้าบอกว่าไม่แนะนำให้มาช่วงเที่ยงเพราะแถวยาวมาก เราไปถึงร้านกันประมาณบ่าย 3 ยังมีคนต่อแถวเลย แต่รอไม่นานประมาณ 10 นาทีก็ได้ทานแล้ว ร้านนี้เราสามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ด้วย
เราสั่งแบบเผ็ดไป แต่จากการสังเกตเราคิดว่าไม่น่าจะเผ็ดมาก เลยใส่พริกสดมาอีก หน้าตาเลยออกมาแบบนี้ บะหมี่ราคา 150 บาท เสริฟมาพร้อมน้ำซุปสาหร่ายถ้วยเล็กๆ ตัวเส้นจะเป็นเส้นบะหมี่เหลืองเส้นอ้วน โรยหน้าด้วยหมูสับและเครื่องใน ลูกชิ้น ตกด้วยปลากรอบชิ้นเล็กหนึ่งชิ้น ตัวบะหมี่อร่อย เหนียวนุ่ม ตัวซอสรสเค็ม เผ็ดเล็กน้อยแต่ค่อนข้างมัน ขนาดชามไม่ใหญ่ แต่ด้วยเส้นเป็นเส้นบะหมี่ค่อนข้างใหญ่ทำให้อิ่มระดับหนึ่ง ถ้าจะเอาให้อิ่มเลยต้อง 2 ชาม
ร้าน Yong Xiang Xing Tou Foo (永祥兴豆腐) ร้านตั้งอยู่ที่ People’s Park Food Centre ร้านเปิด 13.00-17.00 หยุดทุกวันจันทร์ ร้านนี้หาง่ายมาก สังเกตจากแถวที่ยาวมากๆ ยาวลามไปประมาณ 3-4 ร้าน ตอนเห็นแถวเกือบถอดใจเพราะเกรงว่าน่าจะรอไม่ต่ำกว่าชั่วโมงแน่นอน เพราะมีคนต่อแถวอยู่ประมาณ 30-40 คน แต่เห็นแถวเดินค่อนข้างเร็วเลยร่วมวงต่อแถวกับเค้าด้วย การสั่งอาหารของร้านนี้ง่ายมากเพราะเค้าขายอย่างเดียว ไม่มีให้เลือก บอกแค่จำนวน และจ่ายเงิน ไม่ต้องยืนรอด้วยค่ะ สั่งเสร็จ จ่ายเงิน เดินไปนั่งได้เลย จะมีพี่เค้าเดินตามไปส่งให้ถึงโต๊ะ ร้านนี้ทำเร็วมาก อาหารเสริฟเสริฟก่อนเราจ่ายเงินอีก เร็วเวอร์
ได้มาแล้วซุปเต้าหู้ที่ต่อแถว หน้าตาดูธรรมดา แต่อร่อยมาก น้ำซุปค่อนข้างมัน รสเค็มกำลังดี เผ็ดพริกไทยเล็กน้อย ซดน้ำคล่องคอ ตัวเต้าหู้จะมี 2 แบบ แบบทอดกับไม่ทอด ตอนทานต้องระวัง เพราะร้านมาก ความร้อนแทรกเข้าไปทุกอณูของเต้าหู้เลย กัดไม่ระวังลวกปากแน่นอน ส่วนลูกชิ้นเป็นลูกชิ้นปลา เด้งดี ที่เด็ดของชามนี้คงต้องยกให้น้ำซุปที่กลมกล่อมมาก ราคา 100 บาท
ร้าน Laksa ร้านดังในสิงคโปร์ ร้าน Sungei Road Laksa ตั้งอยู่ที่ Sungei Road 27 Jalan Berseh ร้านเปิด 9.30-17.00 น. หยุดทุกวันพุธ
ร้านนี้ต้องต่อแถวทุกครั้งที่ไปทาน ไปร้านนี้มา 3 ครั้ง คนเยอะทุกครั้ง ไม่รอไม่นาน ยืนดูเค้าทำเพลินมาก คือเค้าจะลวกเส้นโดยการใส่เส้นในชาม แล้วใส่น้ำซุป เทน้ำออก ทำแบบนี้อยู่ประมาณ 4-5 ครั้ง แล้วก็ตักน้ำซุปที่ใข้ลวกเส้นใส่ในชาม พร้อมเสริฟ
ลักซาราคาชามละ 76 บาท ชามเล็กมากค่ะ ต้องทาน 2 ชาม ชามเดียวไม่รู้สึกอะไรเลย 2 ชามพออิ่มๆ ใสส่วนของลักซาจะประกอบได้ด้วย เส้น คล้ายเส้นสปาเก็ตตี้ หอยแครง ลูกชิ้นปลา น้ำซุปข้นมัน และซอสติดของชามมาเล็กน้อย ในซุปอร่อย ข้น มันมาก ตัวหอยแครงเราว่าน่าจะเป็นหอยดิบ เพราะเวลาเคี้ยวยังกรุบๆและได้กลิ่นของความสดอยู่
ไม่ห่างจากลักซาหากหันหลังให้ศูนย์อาหารที่ขายลักซาจะเห็นศูนย์อาหารอีกตึกหนึ่งที่อยู่ตรงหน้า ติดถนนใหญ่ จะมีร้านขายน้ำแข็งใสร้านอร่อยอยู่ ร้านจะอยู่ชั้น 2 ของศูนย์อาหาร
Ice Kacang น้ำแข็งใสร้านนี้จะแตกต่างจากร้านอื่นในสิงคโปร์ เราว่าจะคล้ายๆกับที่ไทเปมากกว่า โดยตัวน้ำแข็งจะฟูกว่า ด้านในจะราดมาด้วยน้ำหวานที่เราเลือก สีเขียว สีแดง สีดำ ส่วนด้านล่างของถ้วยจะเป็นเครื่องต่างๆที่เราเลือก ในส่วนสีขาวจะเป็นนมสดราดมาจนแทบไม่เห็นตัวน้ำแข็ง รสหวาน ให้ความสดชื่นได้ดีมาก ในอากาศที่ร้อนอบอ้าว ราคา 50 บาท
อีกร้านในระแวกเดียวกัน โดยหันหลังให้ศูนย์อาหารน้ำแข็งใส แล้วเดินไปทางขวามือ เจอแยกไฟแดงแล้วจะให้ป้ายถนน Jin Besar ให้ข้ามถนน ร้านจะตั้งอยู่หัวมุมเลย เป็นร้านข้าวแกง ร้าน Beah Road Scissor-Cut Curry Rice ร้านเปิด 11.00-3.30 น. ทุกวัน
ภายในร้านจะมีตู้กระจกที่มีอาหารที่ปรุงเสร็จแล้ว เราก็เลือกเลยว่าอยากทานอะไรบ้าง ทางร้านก็จะใช้กรรไกรตัดอาหารให้เรา เช่นสั่งกุ้งทอด หรือเต้าหู้ เค้าก็จะใช้กรรไกรตัดเป็นชิ้นขนาดพอคำ ใส่ราดพร้อมข้าวสวยแล้วราดมาด้วยน้ำแกง
อาหารออกมาหน้าตาแบบนี้ หน้าตาอาจจะดูไม่ค่อยดี แต่รสชาติกับหน้าตาสวนทางกันมาก น้ำแกงให้มาแบบไม่หวงกันเลย จะแทบจะล้นออกจาน ราดหน้าอีกนิดด้วยซีอิ๊วดำ น้ำแกงข้นมาก เหนียวๆยืด รสข้นเข้ม ทานคู่กับข้าวสวยและของทอด ร้านนี้อยากแนะนำให้ลอง รสชาติแตกต่างจากข้าวแกงทั่วไปมา
มาถึงศูนย์อาหารที่ทุกคนต้องรู้จัก Maxwell Food Centre ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสิงคโปร์ เดินทางง่าย หาง่าย ร้านค้าเยอะมาก เลือกไม่ถูกว่าจะลงกันที่ร้านไหนดี เริ่มกันที่ร้านแรก ข้าวมันไก่ร้านดังของศุนย์อาหาร
Tian Tian Hainanese Chicken Rice ร้านนี้ทุกคนรู้จัก แถวยาวมาก หาหางแถวให้เจอแล้วก็รวมวงเหมือนเดิม การสั่งอาหารของที่นี้คือ พอต่อแถวไปเรื่อยๆจนตัวเราเลื่อนไปอยู่หน้าร้าน เราก็สั่งอาหารที่เราจะทาน จะเป็นแบบราดข้าว หรือแยกข้าว แยกไก่ ก็สั่ง แล้วจ่ายเงิน เค้าจะมีใบเสร็จมาให้ เก็บใบเสร็จไว้ เพื่อยื่นให้กับช่องต่อไป หลังจากถึงคิวเราอีกครั้ง ยื่นใบเสร็จแล้วรอรับอาหาร
เราสั่งแบบไก่ครึ่งตัว ราคา 300 บาท ไก่ตัวอ้วน เนื้อเยอะ ราดมาด้วยน้ำซอสที่มันเยิ้ม บวกกับตัวไก่ที่มันอยู่แล้วทำให้มันกันไปหมดเลย ตัวเนื้อไก่เราไม่ค่อยชอบ เพราะเนื้อค่อนข้างนิ่ม เวลาทานคู่กับน้ำซอสมันและเลี่ยนมาก ขนาดทานกับน้ำจิ้มรสเผ็ดที่เค้าให้มายังไม่สามารถลดความเลี่ยนได้เลย อันนี้เราไม่ชอบ
แต่ในส่วนของข้าว อร่อยไม่น่าเชื่อ ข้าวไม่มันมากและหอมมาก ข้าวเปล่าราคา 17 บาท ส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบร้านนี้ค่ะโดยรวม ร้านเปิดบริการ 11.00-20.00 น.ปิดทุกวันจันทร์