สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของดิฉัน หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
เริ่มเลยนะค่ะ ดิฉันได้เข้าทำงานกับบริษัทนึงตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ ตอนนี้ก็ทำมาจะร่วมปีแล้ว ตอนนี้อายุ 23 ค่ะ
ที่อยากจะปรึกษาคือเรื่องเจ้านาย
เขาจะชอบยุ่งวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวมากๆ ต้องบอกก่อนว่า บริษัทของเราเป็นบริษัทที่เล็ก (มาก) คะ มีพนักงานอยู่ 6 คนรวมดิฉันและเจ้านายแล้ว
เจ้านายก็คือเจ้าของบริษัทที่ขายสินค้านำเข้า เจ้านายเป็นผู้ชายวัยกลางคนค่ะ บริษัทเพิ่งเปิดใหม่ดิฉันอยู่มาตั้งแต่แรกเลยเป็นคนที่พอจะรู้เรื่องทุกอย่างในบริษัท ทำทุกอย่าง ทุกตำแหน่ง ตั้งแต่ บัญชี เลขา HR SALE เจ้านายจึงไว้ใจมาก เขาบอกเขาถูกชะตาเรามาก เห็นเราเป็นลูกสาวอีกคนนึง แต่แล้วพอเริ่มทำงานไปสักพัก เจ้านายเริ่มกลับจู้จี้ในเรื่องส่วนตัว เรื่องงาน แต่เรื่องงานเข้าใจค่ะ แต่เรื่องส่วนตัวนี้สิคะ...
เริ่มแรก เขาไม่ชอบให้เราแต่งหน้า ไม่ชอบให้เราปล่อยผม เขาบอกว่าเราดูดีกว่าถ้าทำแบบนี้ เราก็ตามใจ เพราะเราก็ไม่ชอบแต่งหน้าอยู่แล้ว สักพักอยากให้ใส่กางเกงมากกว่ากระโปรง ไม่ชอบให้ใส่เดรสสั้นไม่ว่าจะอยู่ในบริษัทหรือข้างนอก ถ้าออกไปข้างนอกไปประชุมให้แต่งหน้า แต่ถ้าอยู่บริษัทไม่ให้แต่ง ห้ามเที่ยวผับ ไม่ชอบให้ดื่มเหล้า ไม่ชอบให้ใส่เสื้อเอวลอย คอกว้าง
สักพักเขาก็จะเริ่มสังเกตุในทุกๆการแต่งตัวของเรา แล้วจะวิจารณ์ว่าแบบนี้สิ แบบนั้นสิ ทั้งๆที่พนักงานคนอื่นๆ เขาไม่เคยว่า ไม่เคยสนใจ เขาให้เหตุผลว่าเห็นเราเป็นลูกสาวคนนึง คือลูกสาวจริงๆ ไม่ได้คิดด้านชู้สาวแต่อย่างไร เราก็เชื่อค่ะเพราะ..
เขาหาแฟนให้เราด้วย!! คือจริงๆ เรามีแฟนอยู่แล้ว ซึ่งจุดนี้เขาก็ทราบ แต่เขามักจะถามเรื่องแฟนเราตลอดว่า จบที่ไหน ทำอะไร ครอบครัวเป็นอย่างไร ซึ่งเราก็บอกไปตามความเป็นจริง แต่เหมือนแฟนเรายังไม่ใช่สเปคที่เขาอยากได้ เขาพยายามหาแฟนที่รวยๆให้เรา มีครั้งหนึ่งแนะนำเพื่อนตัวเองให้ ซึ่งอายุ 40 + รุ่นพ่อเลย เราก็แบบเอิ่มม..... เขาให้เหตุผลว่าถ้าเราได้แฟนรวยๆชีวิตเราจะดี อยากได้คนขยัน มีธุรกิจดี (คือชีวิตของเราค่อนข้างที่จะขรุขระ ฐานะทางบ้านไม่ได้ดี ค่าใช้จ่ายในบ้านเราเป็นคนออกค่ะ เงินที่ได้ตอนนี้มาจากการขายของและเงินเดือน) เขาก็คงจะสงสารเราอย่างให้เราได้แฟนดี ซึ่งเราบอกไปหลายครั้งว่าเรารักแฟนเรา แฟนเราคือคนที่พอดีสำหรับเราแล้ว เขาก็จะเถียงว่าไม่จริงหรอก อนาคตไม่แน่นอน จนเราปลงค่ะ ปัจจุบันเขาก็ยังคนหาแฟนให้เราต่อไป
เรื่องต่อมาค่ะ การนั่งมอเตอร์ไซค์ ... เขาจะไม่ชอบให้เรานั่งมอเตอร์ไซค์เลยยยยยยยยยย เขากลัวจะคว่ำบ้างไรบ้าง ทุกครั้งที่เราเผลอหลุดปากว่า นั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างมา เขาจะไลน์ส่วนตัวมาบอกเราทันทีว่าไม่ชอบนะ ทำไมไม่ฟังกันบ้าง แต่คือทุกคนเข้าใจไหมคะ ว่าถ้าไม่นั่งจะให้นั่งแท็กซี่หรอ เปลืองเงิน รถติด เราก็แอบนั่งมาตลอดค่ะ เขาก็จะถามทุกครั้ง เราก็ต้องโกหกไปว่านั่ง BTS ไม่ก็แท็กซี่เข้าซอยมา แล้วทุกๆวัน เขาสั่งว่าจะต้องรายงานว่าถึงบ้านแล้ว ถึงที่พักแล้ว ถ้าเกินสัก 3-4 ทุ่มเราไม่ไลน์ไป เขาก็จะไลน์มาถามว่าถึงบ้านหรือยัง ทำไมไม่รายงานเขา ซึ่งตรงนี้เราอึดอัดมากๆคือรายงานทำไม งง
จริงๆแล้วยังมีอีกเล็กๆน้อยๆ แต่แค่นี้ก็อึดอัดจะแย่อยู่แล้ว เพื่อนร่วมงานคนอื่นไม่โดนค่ะ เราโดน เพราะเหตุผลว่าเป็นห่วง เห็นเราเป็นลูก ถูกชะตา อยากให้ได้อะไรดีๆ อยากให้มีชีวิตดีๆ เพื่อนร่วมงานเราสงสารเรามากกว่าอิจฉาค่ะ ที่เราเจอเจ้านายใส่ใจ วุ่นวายขนาดนี้ แต่ว่าเรื่องดีๆ ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีนะคะ เวลาเราป่วย (เราค่อนข้างป่วยเล็กๆน้อยๆบ่อย) เขามักจะให้เราไปหาหมอโรงพยาบาลเสมอ จ่ายค่ารักษา จ่ายค่ายา พอเราบอกว่าไม่เอาก็จะดุใส่จนเราก็ยอมๆไปจบๆไป ข้าวกลางวันบางทีก็จะเลี้ยงแต่เลี้ยงทั้งหมดทุกคนนะคะ เพราะอย่างที่บอก บริษัทมี 5-6 คน มื้อนึงก็พันกว่าบาท เขาก็มักจะเอาใจใส่ลูกน้องด้วยการเลี้ยงข้าวค่ะ เจ้านายเป็นคนใจดี ลางาน หยุดงาน เขาก็มักจะอนุโลมให้เสมอหากมีความจำเป็นจริงๆ
แต่ก็อย่างที่บอกไปข้างต้นค่ะ....
ชีวิตเราอยู่แบบอิสระๆ พ่อกับแม่เราเลี้ยงค่อนข้างปล่อยมาโดยตลอดมาเจอแบบนี้ก็อึดอัด
เลยอยากปรึกษาๆ ทุกๆคนใน Pantip ว่าเราควรทำอย่างไร แล้วที่เขากระทำกับเราแบบนี้เราควรจะอึดอัด หรือปล่อยวางดีคะ
ทุกคนว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ไหม ถ้าเราจะไม่ถือมาเป็นปัญหาชีวิต เราควรลาออกเลยไหม หรือควรปรับทัศนคติอย่างไร
ขอคำปรึกษาด้วยนะคะ
สุดท้ายขอบคุณมากๆคะที่อ่านจนจบ
หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ
เจ้านายยุ่งเรื่องส่วนตัวมากๆ มากที่สุด ทำอย่างไรดีคะ
เริ่มเลยนะค่ะ ดิฉันได้เข้าทำงานกับบริษัทนึงตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ ตอนนี้ก็ทำมาจะร่วมปีแล้ว ตอนนี้อายุ 23 ค่ะ
ที่อยากจะปรึกษาคือเรื่องเจ้านาย
เขาจะชอบยุ่งวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวมากๆ ต้องบอกก่อนว่า บริษัทของเราเป็นบริษัทที่เล็ก (มาก) คะ มีพนักงานอยู่ 6 คนรวมดิฉันและเจ้านายแล้ว
เจ้านายก็คือเจ้าของบริษัทที่ขายสินค้านำเข้า เจ้านายเป็นผู้ชายวัยกลางคนค่ะ บริษัทเพิ่งเปิดใหม่ดิฉันอยู่มาตั้งแต่แรกเลยเป็นคนที่พอจะรู้เรื่องทุกอย่างในบริษัท ทำทุกอย่าง ทุกตำแหน่ง ตั้งแต่ บัญชี เลขา HR SALE เจ้านายจึงไว้ใจมาก เขาบอกเขาถูกชะตาเรามาก เห็นเราเป็นลูกสาวอีกคนนึง แต่แล้วพอเริ่มทำงานไปสักพัก เจ้านายเริ่มกลับจู้จี้ในเรื่องส่วนตัว เรื่องงาน แต่เรื่องงานเข้าใจค่ะ แต่เรื่องส่วนตัวนี้สิคะ...
เริ่มแรก เขาไม่ชอบให้เราแต่งหน้า ไม่ชอบให้เราปล่อยผม เขาบอกว่าเราดูดีกว่าถ้าทำแบบนี้ เราก็ตามใจ เพราะเราก็ไม่ชอบแต่งหน้าอยู่แล้ว สักพักอยากให้ใส่กางเกงมากกว่ากระโปรง ไม่ชอบให้ใส่เดรสสั้นไม่ว่าจะอยู่ในบริษัทหรือข้างนอก ถ้าออกไปข้างนอกไปประชุมให้แต่งหน้า แต่ถ้าอยู่บริษัทไม่ให้แต่ง ห้ามเที่ยวผับ ไม่ชอบให้ดื่มเหล้า ไม่ชอบให้ใส่เสื้อเอวลอย คอกว้าง
สักพักเขาก็จะเริ่มสังเกตุในทุกๆการแต่งตัวของเรา แล้วจะวิจารณ์ว่าแบบนี้สิ แบบนั้นสิ ทั้งๆที่พนักงานคนอื่นๆ เขาไม่เคยว่า ไม่เคยสนใจ เขาให้เหตุผลว่าเห็นเราเป็นลูกสาวคนนึง คือลูกสาวจริงๆ ไม่ได้คิดด้านชู้สาวแต่อย่างไร เราก็เชื่อค่ะเพราะ..
เขาหาแฟนให้เราด้วย!! คือจริงๆ เรามีแฟนอยู่แล้ว ซึ่งจุดนี้เขาก็ทราบ แต่เขามักจะถามเรื่องแฟนเราตลอดว่า จบที่ไหน ทำอะไร ครอบครัวเป็นอย่างไร ซึ่งเราก็บอกไปตามความเป็นจริง แต่เหมือนแฟนเรายังไม่ใช่สเปคที่เขาอยากได้ เขาพยายามหาแฟนที่รวยๆให้เรา มีครั้งหนึ่งแนะนำเพื่อนตัวเองให้ ซึ่งอายุ 40 + รุ่นพ่อเลย เราก็แบบเอิ่มม..... เขาให้เหตุผลว่าถ้าเราได้แฟนรวยๆชีวิตเราจะดี อยากได้คนขยัน มีธุรกิจดี (คือชีวิตของเราค่อนข้างที่จะขรุขระ ฐานะทางบ้านไม่ได้ดี ค่าใช้จ่ายในบ้านเราเป็นคนออกค่ะ เงินที่ได้ตอนนี้มาจากการขายของและเงินเดือน) เขาก็คงจะสงสารเราอย่างให้เราได้แฟนดี ซึ่งเราบอกไปหลายครั้งว่าเรารักแฟนเรา แฟนเราคือคนที่พอดีสำหรับเราแล้ว เขาก็จะเถียงว่าไม่จริงหรอก อนาคตไม่แน่นอน จนเราปลงค่ะ ปัจจุบันเขาก็ยังคนหาแฟนให้เราต่อไป
เรื่องต่อมาค่ะ การนั่งมอเตอร์ไซค์ ... เขาจะไม่ชอบให้เรานั่งมอเตอร์ไซค์เลยยยยยยยยยย เขากลัวจะคว่ำบ้างไรบ้าง ทุกครั้งที่เราเผลอหลุดปากว่า นั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างมา เขาจะไลน์ส่วนตัวมาบอกเราทันทีว่าไม่ชอบนะ ทำไมไม่ฟังกันบ้าง แต่คือทุกคนเข้าใจไหมคะ ว่าถ้าไม่นั่งจะให้นั่งแท็กซี่หรอ เปลืองเงิน รถติด เราก็แอบนั่งมาตลอดค่ะ เขาก็จะถามทุกครั้ง เราก็ต้องโกหกไปว่านั่ง BTS ไม่ก็แท็กซี่เข้าซอยมา แล้วทุกๆวัน เขาสั่งว่าจะต้องรายงานว่าถึงบ้านแล้ว ถึงที่พักแล้ว ถ้าเกินสัก 3-4 ทุ่มเราไม่ไลน์ไป เขาก็จะไลน์มาถามว่าถึงบ้านหรือยัง ทำไมไม่รายงานเขา ซึ่งตรงนี้เราอึดอัดมากๆคือรายงานทำไม งง
จริงๆแล้วยังมีอีกเล็กๆน้อยๆ แต่แค่นี้ก็อึดอัดจะแย่อยู่แล้ว เพื่อนร่วมงานคนอื่นไม่โดนค่ะ เราโดน เพราะเหตุผลว่าเป็นห่วง เห็นเราเป็นลูก ถูกชะตา อยากให้ได้อะไรดีๆ อยากให้มีชีวิตดีๆ เพื่อนร่วมงานเราสงสารเรามากกว่าอิจฉาค่ะ ที่เราเจอเจ้านายใส่ใจ วุ่นวายขนาดนี้ แต่ว่าเรื่องดีๆ ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีนะคะ เวลาเราป่วย (เราค่อนข้างป่วยเล็กๆน้อยๆบ่อย) เขามักจะให้เราไปหาหมอโรงพยาบาลเสมอ จ่ายค่ารักษา จ่ายค่ายา พอเราบอกว่าไม่เอาก็จะดุใส่จนเราก็ยอมๆไปจบๆไป ข้าวกลางวันบางทีก็จะเลี้ยงแต่เลี้ยงทั้งหมดทุกคนนะคะ เพราะอย่างที่บอก บริษัทมี 5-6 คน มื้อนึงก็พันกว่าบาท เขาก็มักจะเอาใจใส่ลูกน้องด้วยการเลี้ยงข้าวค่ะ เจ้านายเป็นคนใจดี ลางาน หยุดงาน เขาก็มักจะอนุโลมให้เสมอหากมีความจำเป็นจริงๆ
แต่ก็อย่างที่บอกไปข้างต้นค่ะ....
ชีวิตเราอยู่แบบอิสระๆ พ่อกับแม่เราเลี้ยงค่อนข้างปล่อยมาโดยตลอดมาเจอแบบนี้ก็อึดอัด
เลยอยากปรึกษาๆ ทุกๆคนใน Pantip ว่าเราควรทำอย่างไร แล้วที่เขากระทำกับเราแบบนี้เราควรจะอึดอัด หรือปล่อยวางดีคะ
ทุกคนว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ไหม ถ้าเราจะไม่ถือมาเป็นปัญหาชีวิต เราควรลาออกเลยไหม หรือควรปรับทัศนคติอย่างไร
ขอคำปรึกษาด้วยนะคะ
สุดท้ายขอบคุณมากๆคะที่อ่านจนจบ
หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ