เราตัดสินใจแบบนี้ถูกมั้ยคะ คือเราจะออกไปใช้ชีวิตเติบโตอยู่คนเดียว เราไม่อยากให้แม่มาบงการชีวิตเราแล้ว

เราว่าเราจะไปเช่าห้องอยู่คนเดียวค่ะ และหางานทำไปด้วย คือเราเบื่อและอึดอัดมากที่ชีวิตต้องมีแต่แม่ เราไม่ได้ใช้ชีวิตเป็นของตัวเองเลย ไม่ได้ทำตามใจตัวเองเลย และไม่ได้ทำเพื่อตัวเองเลย ทำเพื่อแม่มาตลอด ทำงานเลี้ยงแม่มาตลอด ส่งเงินให้แม่ใช้เดือนละ 5-6 พันแต่ก่อน แต่ตอนนี้มาอยู่ด้วยกันแล้ว เหมือนไม่ได้ทำให้เราดีขึ้นเลย มีแต่แย่ลง และเราเหนื่อยมากแล้ว ที่ต้องแบกรับหน้าที่ทำงานหนักอยู่คนเดียว แค่ปวดประสาทกับเจ้านายก็จะแย่อยู่แล้ว ยังต้องมาถูกกดดันจากแม่ ให้เป็นแบบนั้นแบบนี้ ให้เป็นแบบที่ตัวเองต้องการ แต่เราก็รู้ว่าสิ่งที่แม่บอกมันคือความหวังดี อยากให้เราได้ดี แต่ถ้าอะไรมันมากเกินไปหรือต้องแบกความหวังไว้ที่เราคนเดียว โดยที่ตัวเองไม่ลงมือช่วยกันทำ อันนี้เราก็ไม่ไหว แม่ก็คอยแต่ขอเงินกับผู้ชายไปวันๆ ได้บ้างไม่ได้บ้าง โดยที่ตัวเองไม่ได้ทำงานเลย อ้างแต่ว่ารอร้านตัวเองเปิด แต่แค่ยังไม่มีทุน รอเงินกู้ของเราอนุมัติ ไม่รู้จะได้ไม่ได้

เอาจริงเราเหนื่อยตั้งแต่แม่ห้ามนู้นห้ามนี่ตั้งแต่เรามีแฟนแล้ว แล้วแอบไปมีอะไรกัน จนแม่จับได้ ล่าสุดก็ไม่ให้มาเจอกันอีกเลยจนกว่าจะมาหมั้น ส่วนแฟนเราก็บอกหมั้นแน่ๆแหละแต่ขอเวลาหน่อย เงินแสนก็ไม่ได้หาง่ายๆ พ่อกับแม่แฟนเราก็จะช่วยเรื่องหมั้นอยู่ แต่เผอิญแม่เราเร่งแฟนเรามาก ว่าถ้าไม่มาหมั้นก็จะไม่ให้ติดต่อกันแล้ว บล็อกกันไปเลย คุยไปก็ไม่ได้เงิน ไม่มีประโยชน์อะไร กูจะได้หาใหม่ให้ลูกงี้ ซึ่งมันทำให้เราไม่สบายใจนิดหน่อยแหละ เพราะเราก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกทางของเราบ้าง ทำไมต้องให้แม่มาตัดสินใจชีวิตเราทุกเรื่อง เราก็โตมากแล้ว เราก็แยกแยกได้แล้วว่าอันไหนดีไม่ดี แต่แม่เราก็ยังควบคุมเราอยู่ตลอด จนเป็นลูกแง ไม่รู้จักโตสักที อิสระก็ไม่มี ให้คิดแต่ทำธุรกิจกับแม่ ซึ่งธุรกิจที่จะทำก็เป็นเขตชนบทไม่ใช่ในเมือง ไม่รู้จะขายดีมั้ย จะอยู่ได้นานเท่าไหร่

เหมือนแม่เรามีอีโก้มาก และไม่เคยจะยอมรับอะไรในตัวเองสักเท่าไหร่ โทษแต่คนอื่นผิด แต่ตัวเองถูก กับแค่เรื่องปกติ ลูกมีแฟนและลูกก็มีอะไรกับแฟน ป้องกันไว้อยู่ แม่ก็ทำให้เป็นเรื่องใหญ่แล้ว จนพ่อแม่ทางฝ่ายแฟนเราเอือม บอกไปยุ่งเรื่องของลูกมากเกินไป และพูดแต่เรื่องเงินมากเกินไป พอเราอธิบายแม่ว่า ไม่พูดถึงเรื่องเงินก็ได้มั้ยแม่ เขาก็กำลังหาเงินเงินแสนก็ใช่จะหาง่ายๆ แม่เราก็ไม่รับฟังอะไรเราเลย ยังหาว่าการมีเซ็กส์กับแฟนเป็นเรื่องที่ผิดมาก และเป็นลูกที่ไม่ดี เลว ทำให้แม่เสียใจ พอเราอธิบายว่ามันยุคสมัยไหนแล้วแม่ ชายหญิงมันเท่าเทียมกันหมดแล้ว อีกอย่างก็เต็มใจกัน เพราะรักกัน แฟนเราก็หมดกับเราไปหลายพันแล้วเหมือนกัน แม่ก็จะชอบแต่ให้แฟนเราซื้อของกิน
แพงๆมาให้ จะได้ถูกใจแม่ สรุปใครแฟนใคร? แม่จะชอบหาว่าเราไม่ยอมรับข้อบกพร่องตัวเอง จะหาว่าเราผิดจนได้ที่ทำแบบนี้

เราก็อยากลองโฟกัสแค่ตัวเองดูว่าระหว่างอยู่ใต้ปกครองพ่อแม่เดิมแต่ไม่เคยมีความสุขต้องทำอะไรแอบๆเสียอิสระเสียตัวเองเสียความรักดีๆและยังต้องไปขอเงินคนอื่นเรื่อยๆตามคำสั่งแม่หรืออยากจะมีชีวิตเป็นของตัวเองลองผิดลองถูกได้ความเป็นตัวเองแม้มันจะพลาด นรกวสวรรค์ก็ทิ้งมันไปครับถ้ามัวแต่คิดชาตินี้ไม่ได้มีความสุขหรอก อายุเองก็เลยนิติภาวะไปแล้วแล้วยังจะอยู่ตามคำพูดแม่เหมือนเด็กๆไม่มีอะไรที่ตัวเองคิดได้โดยใจเป็นอิสระหรอ จะเจอกันในไหนไม่มีอะไรช้าไปเร็วไปหรือใครมาตัดสินเราได้ ส่วนการมีอะไรกันก็ปกติครับคนเรามันก็หงี่เป็นนะ ต้องแยกให้ออกนะว่าแม่ห่วงหรือแม่กลัวจะไม่มีคนให้ใช้งานอย่างวลีเกิดลูกออกมาเพื่อให้ลูกดูแลตัวเอง เราก็ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง

เราก็ว่าเราจะเอารถมอไซค์ไปด้วย เพราะยังไงชื่อก็เป็นชื่อเรา ค่างวดรถเราก็เป็นคนจ่ายคนเดียวด้วยซ้ำ แม่ไม่ได้ช่วยค่าใช้จ่ายอะไรเลย เราแบกรับอยู่คนเดียว เงินเดือนก็ออกวีคละ 5 พันกว่าๆ จ่ายค่าใช้จ่ายก็หมดแล้ว ที่ทนงานก็เพื่อแม่เลย ทำงานหนักแทบตายเงินเดือนก็ยังเท่าเดิม ยังต้องมีเจ้านายเป็น ปสด อีก แต่ถ้าเราไปอยู่คนเดียว เราก็จะหางานที่เงินเดือนหมื่นกว่าๆขึ้น เพื่อที่จะพอค่าใช้จ่าย เราก็ได้รับผิดชอบภาระลดลงถ้าไปอยู่คนเดียว คงจะรับผิดชอบแค่ค่างวดรถ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าห้อง เพราะห้องพักที่เราไปดูไว้ก็มีเฟอร์นิเจอร์ให้พร้อมแล้ว ทั้งเตียงนอน ตู้เย็น โต๊ะเครื่องแป้ง แอร์ ทีวี ราวตากผ้า เราก็จะซื้อแค่ของใช้ส่วนตัวเราของ แฟนเราก็บอกถ้าไปอยู่คนเดียว ก็จะคอยส่งข้าวมาให้อยู่ถ้าว่างๆ เราก็มีหน้าที่แค่ทำงานและกลับห้องนอน ไม่ได้คิดมากหรือเครียด ถูกกดดันจากแม่อีก

ทุกคนคิดว่ายังไงคะถ้าเราจะตัดสินใจแบบนั้น เราจะไม่ได้รู้สึกผิดหรือเป็นบาปอะไร เป็นลูกอกตัญญูอะไร แต่สิ่งที่เราจะตัดสินใจมันคือสิ่งที่จะสบายใจตัวเองแล้วค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่