วันอาทิตย์ที่ 28-2-16 แฟนจะไปไหว้ที่ศาลเจ้าชิกเซี้ยม้า ถนนพระราม 4
จึงออกจากบ้านแต่เช้าเพราะแฟนอยากกินโจ๊กเจ๊หมวยเกี้ย ซอยสุกร 2 ก่อนไปไหว้
7.30 น.ลงรถตรงข้ามวัดไตรมิตรฯ ปรากฏว่าร้านโจ๊กปิด จึงข้ามถนนกลับมาฝั่งวัดไตรมิตรฯ
เพื่อกินก๋วยเตี๋ยวปากหม้อป้าเม้า หรือ ร้านหลบมุม
เพราะร้านตั้งหลบมุมอยู่ในซอกข้างประตูวัดฝั่งทางรถออก ซึ่งปกติเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์
แต่วันเสาร์และวันอาทิตย์ ทางวัดอนุญาตให้ตั้งร้านได้ ปรากฏว่าร้านพร้อมขาย 9 โมงเช้า
จึงพาแฟนเลี้ยวซ้ายเข้าตรอกสุกรไปออกถนนพระราม 4
ร้านเจ๊เอ็ง ทั้งก๋วยเตี๋ยวหลอด หมูสะเต๊ะ และอาหารตามสั่ง
มาเปิดตรงหัวมุมซอยนานา ฝั่งถนนพระราม 4 ใกล้กับภัตตาคารเลี่ยวเลี่ยงเฮง
ที่ย้ายมาจากข้างอดีตภัตตาคารกาแล็กซี่ คาดว่าร้านเจ๊เอ็งย้ายมาเปิดเพิ่มที่ตรงนี้
เพื่อรองรับการจัดระเบียบทางเท้าของ กทม. ที่แผงเดิมทั้ง 3 หน้าศาลเจ้ากวางตุ้งน่าจะโดนด้วย
ข้ามถนนพระราม 4 เข้าซอยลัดไปศาลเจ้าชิกเซี้ยม้าที่ถนนไมตรีจิตต์
มาแต่เช้าไม่มีคนเลย
8.05 น.กลับมาที่วัดไตรมิตรฯ
ร้านป้าเม้ากำลังต้มน้ำแกงกับสันหลังหมู โดยใส่รากผักชี หัวผักกาด
ที่แปลกก็คือ ใส่กระเทียมดองทั้งหัวลงไปต้มด้วย
ยังเหลือเวลาอีกนานก่อนถึงเก้าโมงเช้า
จึงชวนแฟนไปไหว้พระที่หน้าพระอุโบสถ
พระอุโบสถไม่เปิด ไม่รู้ว่าพระที่นี่ทำวัตรเช้ากันกี่โมง
8.08 น.กลับมาที่ร้าน ทางร้านบอกว่าพร้อมขายใน 15 นาที นั่งรอก่อนได้
จึงเก็บภาพระหว่างรอ
ไส้ข้าวเกรียบปากหม้อมีทั้งหมด 7 ไส้
ประกอบด้วย ถั่วฝักยาวผัดปรุงรสและแครอท
กุยช่ายผัดปรุงรสใส่แครอทสด
ถั่วงอกลวกปรุงรสและแครอทสด
เมล็ดข้าวโพดต้มปรุงรสและแครอทสด
หน่อไม้ต้มผัดปรุงรสและแครอทสด
เต้าหู้แข็งและแครอทสด
และไส้หวาน คือ ไช้โป๊วผัดกับหอมใหญ่สับ น้ำตาลและถั่วลิสงบด
เครื่องปรุงน้ำซุป 8 อย่าง รวมพริกไทยและน้ำปลา
รายการเครื่องดื่ม มีทั้งใส่ขวดและเป็นแก้ว รวมถึงน้ำเปล่าแช่เย็น
ชุดทำปากหม้อมีทั้งหมด 3 ชุด
สองชุดแรกอยู่หลังโต๊ะยาว สูงระดับเดียวกับหม้อต้มน้ำ
ชุดสุดท้ายไม่มีที่นั่ง เป็นชุดสำหรับทำห่อกลับบ้าน
เก้าอี้นั่งพลาสติกตัวเตี้ยหน้าโต๊ะ หัวเข่าไม่ดีหรือตัวใหญ่จะลุกนั่งลำบากนิดหนึ่ง
ลูกสาวป้าเม้ากำลังทำลูกชิ้นหมูเด้ง ป้าเม้าเข้ามาแค่ครู่เดียว
ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อนั้น ดัดแปลงมาจากขนมปากหม้อ
ว่ากันว่ามีต้นกำเนิดมาจากอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา
ก่อนแพร่หลายไปอีกหลายแห่ง ทั้งในจังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดอื่นๆ
ร้านก๋วยเตี๋ยวปากหม้อป้าเม้า เป็นร้านจากจังหวัดฉะเชิงเทรา
ขายเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ ตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึงบ่าย 3 โมง
8.30 น. พร้อมขายก่อนเวลาอย่างเป็นทางการ
น้ำแกงสองชามยกมาวางตรงหน้า เป็นน้ำแกงแบบเต็มสูตรของร้านนี้ คือ ใส่ทุกอย่าง
ประกอบด้วย สันหลังหมูติดเนื้อต้ม
ลูกชิ้นหมูเด้งสองลูก(ลูกที่ 3 แฟนยกให้) ลูกชิ้นออกสีชมพูจนอาจนึกว่าเป็นลูกชิ้นกุ้ง
นอกจากนี้ยังเลือดไก่ 1 ชิ้น และขาไก่ต้มจนนิ่ม 1 ขา
คนทำปากหม้อ บอกให้ปรุงน้ำแกงก่อน
จัดการเหยาะพริกไทยเล็กน้อย โรยต้นหอมซอย กระเทียมเจียวและกากหมูเจียว
คนทำปากหม้อซึ่งเป็นเพื่อนลูกสาวป้าเม้า(ถัดไปคือลูกเขยป้าเม้า)
ทดสอบว่าน้ำร้อนพร้อมสำหรับทำปากหม้อแล้ว
จึงลงมือทำปากหม้อ เริ่มจากโรยน้ำแป้งมันผสมแป้งข้าวเจ้า
ละเลงบนผ้าขาวบางซึ่งขึงตึงบนปากหม้อ โดยละเลงเป็นแผ่นใหญ่
ปิดฝากรวยรอให้แป้งสุก
แป้งสุกแล้วใส่ไส้ 3 อย่าง สำหรับปากหม้อ 6 ชิ้น
ใช้พายปาดแบ่งแป้ง จากนั้นปาดห่อไส้เป็นตัว
จากนั้นใช้ไม้พายส่งปากหม้อแต่ละตัวลงในชามน้ำแกง
ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ 1 ชุด 40 บาท มีปากหม้อ 7 ตัว
สามารถเลือกใส่ทุกไส้ๆละตัว หรือ เลือกไส้ที่ชอบให้ครบ 7 ตัว
เลือดไก่สุกพอดีไม่แข็ง
แต่เนื้อติดสันหลังหมูยังไม่นิ่มเท่าไหร่ ใช้มือดีที่สุด
ลูกชิ้นหมูเด้งอร่อย ไม่แหลมกลิ่นกระเทียม
ไส้อร่อยทุกไส้ แต่แป้งบางไปนิด ตักไม่ดีมีแตกไส้ไหลทะลัก
สั่งไส้ที่ชอบเพิ่มอีกคนละ 6 ตัว ในราคา 3 ตัว 5 บาท
ไส้ที่เน้นมาก คือ ไส้หน่อไม้และไส้ถั่วฝักยาว
น้ำแกงอร่อย ออกจากร้านปากไม่แห้ง
แสดงว่าไม่ใส่ผงชูรส น้ำแกงหวานด้วยเครื่องที่ต้มทำน้ำแกง
สั่งเพิ่มอีกชุดไม่เอาสันหลังหมู ได้ลูกชิ้นหมูเด้ง 4 ลูก
ชุดนี้ไส่ทุกไส้ 7 ตัว
เพิ่มไส้หน่อไม้อีก 6 ตัว น้ำแกงอร่อยซดจนเกือบหมด จึงรู้ว่าขอน้ำแกงเพิ่มได้
มื้อนี้สองคน 150 บาท
เป็นอีกหนึ่งร้าน ที่ต้องบอกว่า"ร้านนี้รักนะ"
[CR] เที่ยวไปกินไป by laser @ ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อป้าเม้า วัดไตรมิตรฯ
จึงออกจากบ้านแต่เช้าเพราะแฟนอยากกินโจ๊กเจ๊หมวยเกี้ย ซอยสุกร 2 ก่อนไปไหว้
7.30 น.ลงรถตรงข้ามวัดไตรมิตรฯ ปรากฏว่าร้านโจ๊กปิด จึงข้ามถนนกลับมาฝั่งวัดไตรมิตรฯ
เพื่อกินก๋วยเตี๋ยวปากหม้อป้าเม้า หรือ ร้านหลบมุม
เพราะร้านตั้งหลบมุมอยู่ในซอกข้างประตูวัดฝั่งทางรถออก ซึ่งปกติเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์
แต่วันเสาร์และวันอาทิตย์ ทางวัดอนุญาตให้ตั้งร้านได้ ปรากฏว่าร้านพร้อมขาย 9 โมงเช้า
จึงพาแฟนเลี้ยวซ้ายเข้าตรอกสุกรไปออกถนนพระราม 4
ร้านเจ๊เอ็ง ทั้งก๋วยเตี๋ยวหลอด หมูสะเต๊ะ และอาหารตามสั่ง
มาเปิดตรงหัวมุมซอยนานา ฝั่งถนนพระราม 4 ใกล้กับภัตตาคารเลี่ยวเลี่ยงเฮง
ที่ย้ายมาจากข้างอดีตภัตตาคารกาแล็กซี่ คาดว่าร้านเจ๊เอ็งย้ายมาเปิดเพิ่มที่ตรงนี้
เพื่อรองรับการจัดระเบียบทางเท้าของ กทม. ที่แผงเดิมทั้ง 3 หน้าศาลเจ้ากวางตุ้งน่าจะโดนด้วย
ข้ามถนนพระราม 4 เข้าซอยลัดไปศาลเจ้าชิกเซี้ยม้าที่ถนนไมตรีจิตต์
มาแต่เช้าไม่มีคนเลย
8.05 น.กลับมาที่วัดไตรมิตรฯ
ร้านป้าเม้ากำลังต้มน้ำแกงกับสันหลังหมู โดยใส่รากผักชี หัวผักกาด
ที่แปลกก็คือ ใส่กระเทียมดองทั้งหัวลงไปต้มด้วย
ยังเหลือเวลาอีกนานก่อนถึงเก้าโมงเช้า
จึงชวนแฟนไปไหว้พระที่หน้าพระอุโบสถ
พระอุโบสถไม่เปิด ไม่รู้ว่าพระที่นี่ทำวัตรเช้ากันกี่โมง
8.08 น.กลับมาที่ร้าน ทางร้านบอกว่าพร้อมขายใน 15 นาที นั่งรอก่อนได้
จึงเก็บภาพระหว่างรอ
ไส้ข้าวเกรียบปากหม้อมีทั้งหมด 7 ไส้
ประกอบด้วย ถั่วฝักยาวผัดปรุงรสและแครอท
กุยช่ายผัดปรุงรสใส่แครอทสด
ถั่วงอกลวกปรุงรสและแครอทสด
เมล็ดข้าวโพดต้มปรุงรสและแครอทสด
หน่อไม้ต้มผัดปรุงรสและแครอทสด
เต้าหู้แข็งและแครอทสด
และไส้หวาน คือ ไช้โป๊วผัดกับหอมใหญ่สับ น้ำตาลและถั่วลิสงบด
เครื่องปรุงน้ำซุป 8 อย่าง รวมพริกไทยและน้ำปลา
รายการเครื่องดื่ม มีทั้งใส่ขวดและเป็นแก้ว รวมถึงน้ำเปล่าแช่เย็น
ชุดทำปากหม้อมีทั้งหมด 3 ชุด
สองชุดแรกอยู่หลังโต๊ะยาว สูงระดับเดียวกับหม้อต้มน้ำ
ชุดสุดท้ายไม่มีที่นั่ง เป็นชุดสำหรับทำห่อกลับบ้าน
เก้าอี้นั่งพลาสติกตัวเตี้ยหน้าโต๊ะ หัวเข่าไม่ดีหรือตัวใหญ่จะลุกนั่งลำบากนิดหนึ่ง
ลูกสาวป้าเม้ากำลังทำลูกชิ้นหมูเด้ง ป้าเม้าเข้ามาแค่ครู่เดียว
ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อนั้น ดัดแปลงมาจากขนมปากหม้อ
ว่ากันว่ามีต้นกำเนิดมาจากอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา
ก่อนแพร่หลายไปอีกหลายแห่ง ทั้งในจังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดอื่นๆ
ร้านก๋วยเตี๋ยวปากหม้อป้าเม้า เป็นร้านจากจังหวัดฉะเชิงเทรา
ขายเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ ตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึงบ่าย 3 โมง
8.30 น. พร้อมขายก่อนเวลาอย่างเป็นทางการ
น้ำแกงสองชามยกมาวางตรงหน้า เป็นน้ำแกงแบบเต็มสูตรของร้านนี้ คือ ใส่ทุกอย่าง
ประกอบด้วย สันหลังหมูติดเนื้อต้ม
ลูกชิ้นหมูเด้งสองลูก(ลูกที่ 3 แฟนยกให้) ลูกชิ้นออกสีชมพูจนอาจนึกว่าเป็นลูกชิ้นกุ้ง
นอกจากนี้ยังเลือดไก่ 1 ชิ้น และขาไก่ต้มจนนิ่ม 1 ขา
คนทำปากหม้อ บอกให้ปรุงน้ำแกงก่อน
จัดการเหยาะพริกไทยเล็กน้อย โรยต้นหอมซอย กระเทียมเจียวและกากหมูเจียว
คนทำปากหม้อซึ่งเป็นเพื่อนลูกสาวป้าเม้า(ถัดไปคือลูกเขยป้าเม้า)
ทดสอบว่าน้ำร้อนพร้อมสำหรับทำปากหม้อแล้ว
จึงลงมือทำปากหม้อ เริ่มจากโรยน้ำแป้งมันผสมแป้งข้าวเจ้า
ละเลงบนผ้าขาวบางซึ่งขึงตึงบนปากหม้อ โดยละเลงเป็นแผ่นใหญ่
ปิดฝากรวยรอให้แป้งสุก
แป้งสุกแล้วใส่ไส้ 3 อย่าง สำหรับปากหม้อ 6 ชิ้น
ใช้พายปาดแบ่งแป้ง จากนั้นปาดห่อไส้เป็นตัว
จากนั้นใช้ไม้พายส่งปากหม้อแต่ละตัวลงในชามน้ำแกง
ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ 1 ชุด 40 บาท มีปากหม้อ 7 ตัว
สามารถเลือกใส่ทุกไส้ๆละตัว หรือ เลือกไส้ที่ชอบให้ครบ 7 ตัว
เลือดไก่สุกพอดีไม่แข็ง
แต่เนื้อติดสันหลังหมูยังไม่นิ่มเท่าไหร่ ใช้มือดีที่สุด
ลูกชิ้นหมูเด้งอร่อย ไม่แหลมกลิ่นกระเทียม
ไส้อร่อยทุกไส้ แต่แป้งบางไปนิด ตักไม่ดีมีแตกไส้ไหลทะลัก
สั่งไส้ที่ชอบเพิ่มอีกคนละ 6 ตัว ในราคา 3 ตัว 5 บาท
ไส้ที่เน้นมาก คือ ไส้หน่อไม้และไส้ถั่วฝักยาว
น้ำแกงอร่อย ออกจากร้านปากไม่แห้ง
แสดงว่าไม่ใส่ผงชูรส น้ำแกงหวานด้วยเครื่องที่ต้มทำน้ำแกง
สั่งเพิ่มอีกชุดไม่เอาสันหลังหมู ได้ลูกชิ้นหมูเด้ง 4 ลูก
ชุดนี้ไส่ทุกไส้ 7 ตัว
เพิ่มไส้หน่อไม้อีก 6 ตัว น้ำแกงอร่อยซดจนเกือบหมด จึงรู้ว่าขอน้ำแกงเพิ่มได้
มื้อนี้สองคน 150 บาท
เป็นอีกหนึ่งร้าน ที่ต้องบอกว่า"ร้านนี้รักนะ"
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น