ลดน้ำหนักครั้งสุดท้ายในชีวิต...

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ วันนี้ขวัญจะมาแบ่งปันเรื่องราวการลดน้ำหนักกับเพื่อน ๆ ค่ะ
ขอเกริ่นก่อนว่า ขวัญเป็นคนทานไม่เยอะนะ ทานผักผลไม้ ไม่ชอบทานจุบจิบ แต่ว่าชอบทานเค้ก และชาเย็นเป็นชีวิตจิตใจ ถึงแม้จะสั่งหวานน้อย ก็ไม่ช่วยให้ตัวเลขบนตาชั่งสำนึกขึ้นมาบ้างว่า แกไม่ควรขยับขึ้นทุกวันแบบนี้

บวกกับวิถีเซเลป ที่วัน ๆ นั่งจ้ออยู่หน้าคอม หิวเมื่อไหร่ก็โทรสั่งที่ร้านให้เอามาส่งที่ออฟฟิต บ้านก็อยู่ไกลมาก ห่างจากออฟฟิตประมาณ 50 ก้าว ถามว่าเดินมามั้ย ตอบเลยว่าไม่ นั่งรถมาค่ะ สามนาทีชิวๆ

ใช้เวลาทำน้ำหนักไม่นานค่ะ 6 ปี 10 โล ขำๆ จาก 46 ขึ้นมา 57 หึหึ 

แรกๆ ไม่เท่าไหร่ อ้วนเหรอ กางเกงใส่ไม่ได้เหรอ ชั้นใส่แซก ใส่กระโปรง เสื้อหลวมๆ ก็สวยเหมือนเดิม

นานวันเข้า จากตัวเองขำ คนอื่นเริ่มมาร่วมวงขำล่ะ ทักกันเกรียว่าท้องเหรอ

พีคสุดพระทักกลางศาลา กะลังถวายสังฆทาน ญาติโยมเต็ม หันมาหาดิช๊าน และทักเสียงดังลั่น “ท้องเหรอโยม” หึหึ “เปล่าค่ะ หนูแค่อ้วน” ฮากันไป

ไปรพ พยาบาลก็คิดว่ามาฝากท้อง ต้องรีบบอก “ยังค่ะ ยังไม่ท้อง” ฮื่อๆๆๆๆๆ

เริ่มจะฮาไม่ออก

อยากจะทำเสื้อสกีนตัวโต ๆ ว่า “กรูไม่ได้ท้อง กรูแค่อ้วน ที่เห็นพอง ๆ นี่ไขมันล้วน ๆ ไม่ต้องลุกให้นั่ง”

เสื้อผ้าก็เริ่มหายากขึ้นทุกวัน แบบที่ชอบก็จิ๋วๆๆๆ ที่ใส่ก็ไม่ชอบ ต้องแอปเป็นสาวหวาน ใส่แซก ผูกโบว์ กระโปรงพอง ๆ มันไม่ใช่ตัวเพ่อ่ะ

เลยตัดสินใจลดน้ำหนักครั้งสุดท้ายในชีวิต แบบเงียบๆ (เพราะประกาศทีไร เจ๊งทุกที) และโดนประนามหยามเหยียด จากผู้หวังดีอย่างล้นหลาม

ที่ต้องบอกว่าครั้งสุดท้ายเพราะ ตลอด 6 ปีที่ทำน้ำหนักขึ้นมานี่ ไม่ได้ชะล่าใจนะคะลดตลอด แต่ยิ่งลดยิ่งอ้วน ยิ่งออกกำลังกายยิ่งหิว ยิ่งหิวยิ่งกิน

จนมีคุณหมอคนนึงพูดว่า “ร่างกายคนเราเหมือนโรงงาน แต่ละโรงงานไม่เหมือนกัน” ดังนั้นจึงคิดเอาเองว่า เราควรจะหาวิธีลดน้ำหนักที่เหมาะกับร่างกาย และวิถีชีวิตของเรา วิธีที่ได้ผลกับคนอื่น อาจไม่ได้ผลกับเราก็ได้ เพราะวิถีชีวิต ของเรากับเค้าต่างกัน

เกริ่นมาตั้งนาน เริ่มเลยล่ะกัน

ขวัญสรุปวิธีลดน้ำหนักที่น่าจะเหมาะกับตัวเองได้โดยใช้วิธี ไม่ออกกำลังกาย คุมอาหารอย่างเดียว ก่อน ย้ำว่า "ก่อน" เอาไว้ลดเสร็จค่อยว่ากันใหม่เรื่องออกกำลังกาย

ทำไมถึงไม่ออกกำลังกาย
เพราะลำพังแค่คุมอาหารอย่างเดียวก็หิวโซแล้ว ถ้าออกอีก ตายแน่ๆ ขอเซฟพลังงานไว้ก่อน ไว้น้ำหนักถึงเป้า ค่อยมาออกกำลังกายเพิ่มเฟิร์มอีกที

การคุมอาหารของขวัญมีวิธีดังนี้ค่ะ
เช้า : Dagระเบิด : อยากกินไรกิน ไม่ว่าจะเป็นข้าวขาหมู หมูกรอบ เข้าวมันไก่ ของหวาน ช้อกโกแลต นู่นนี่นั่น กินเข้าไปค่ะ แต่กินให้พออิ่มนะคะ ฝึกนิสัยก่อนทานใหม่ด้วย ไม่ยัด ไม่เสียดายของ อิ่มเมื่อไหร่หยุดทันที เป็นขยะในจาน ดีกว่าเป็นขยะในร่างกายเราค่ะ

กลางวัน : งดคาโบฯ : เน้นโปรตีน ผัก ผลไม้ งดข้าว ของมัน แป้ง ทุกกรณีค่ะ ถ้าอยู่ออฟฟิต ขวัญจะตุนไข่ต้ม ผักสุด น้ำพริกปลาทู น้ำจิ้มซีฟู๊ด อะไรก็ว่ากันไป กินเหมือนเมี่ยงค่ะ เยอะเท่าที่ต้องการ ถ้าไปร้าน ก็สั่งเสตก ไก่ต้ม นู่นนี่นั่น เลือกเอาค่ะ ประยุกต์เอาไม่ต้องคลีนมากเอาให้เราอร่อยด้วย ฟินด้วย สวยด้วยเป็นพอ

เย็น : น้ำผลไม้ : ชอบกินผลไม้อะไรเลือกมาเลยค่ะ ปั่นทั้งหมด ไม่ต้องแยกกาก จัดไป 1 แก้วใหญ่ ๆ สำหรับขวัญปรับมาหลายสูตร จนมาลงตัวที่ แอปเปิลแดง ครึ่งลูก + เขียว ครึ่งลูก ได้ทั้งความหวาน และความเปรี้ยว อร่อยดีค่ะ ถ้าวันไหนไม่มีเวลาก็จัด น้ำมะเขือเทศดอยคำ 1 กล่อง อยู่ค่ะหายหิว

ดึก : มื้อวัดใจ : ก็เมื่อเย็น กินไปแค่นั้น จะเหลือเหรอค่ะ อยู่ได้ถึง 3  ทุ่มก็เก่งแล้วอ่ะ ถ้าหิวก็เปิดตู้เย็น หยิบน้ำเปล่ามากระดกเลยค่ะ ระหว่างดื่มก็ท่องไว้ในใจ “พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว ๆๆๆๆ” อยากกินไรไปกินเมื้อเช้าค่ะ

ช่วงเดือนแรกบอกเลยว่าทรมาน หิว น้ำหนักก็ไม่ลง ร่างกายก็ยังปรับตัวไม่ได้ แต่ต้องทนให้ผ่านไปให้ได้ค่ะ เดือนแรก นน จะวัดใจเรามาก ใครจะอยู่ใครจะไปวัดกันที่เดือนนี้ล่ะค่ะ เพราะขวัญเองที่ไม่สำเร็จในหลาย ๆ ครั้งก็เพราะว่า หิวก็อ้วน กินก็อ้วน งั้นกินล่ะกัน อ้วนเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความฟิน

พอเข้าสู่เดือนที่ 2 ร่างกายจะเริ่มปรับตัวล่ะค่ะ น้ำหนักจะค่อย ๆ ลดลง กระเพาะเล็กลงกินนิดเดียวก็อิ่ม หิวไม่บ่อยเหมือนเดิม ที่เหลือก็คือวินัยค่ะ สำหรับขวัญหลุดบ่อยมาก เพราะช่วงนั้นทั้งปาร์ตี้ และออกเดินทางไป ตปท. ทำให้หลุดไปบางช่วง แต่พอกลับมาก็ค่อยๆ ปรับใหม่ค่ะ น้ำหนักก็ค่อยๆ ลงอย่างต่อเนื่อง


จนถึงเป้าที่ตั้งไว้ 45 ใช้เวลา 5 เดือน ลดไปทั้งสิ้น 12 โลค่ะ

ผอม ไม่ได้แปลว่า สวย ค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ หัวโต ตัวลีบ นมหาย เลยต้องเร่งกิน เร่งยัด ฮ่าๆๆๆๆ กว่าจะขึ้นมาได้ 2 โลก็แทบแย่เหมือนกันปัจจุบัน 47-48 กำลังโอเคค่ะ ไม่ลีบมากเกินไป

จริงๆ แล้วหลังถึงเป้า ขวัญกลับมาทานครบ 3  มื้อเหมือนเดิมมาเกือบปีแล้วล่ะค่ะ น้ำหนักก็ยังคงที่
แต่ก็คอยควบคุมพฤติกรรมการกินตัวเองด้วยค่ะ ไม่ให้หลงระเริงมากไป ผอมได้ก็อ้วนได้ และสำคัญที่สุด อ้วนได้ก็ผอมได้ค่ะ

หวังว่าเพื่อน ๆ ที่กำลังวางแผนลดน้ำหนัก จะค้นพบวิธีที่เหมาะกับตัวเองนะคะ จะเอาสูตรขวัญไปปรับใช้ก็ได้ค่ะ ลองดู สู้ ๆ ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่