เมื่อวาน ผมตั้งกระทู้เรื่องศาลอาญา ไม่รับอุทธรณ์ฟ้องคดี 99 ศพ
ที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องอภิสิทธิ์-สุเทพ ในข้อหา
ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล
จากเหตุการณ์เมื่อเดือนเมษายน-พฤภาคม 2553
ข้อหาก็ชัดนะครับ ว่า
1. ร่วมกันก่อ (ในฐานะผู้สั่งการ ในฐานะนายกฯ และ ผอ.ศอฉ.)
2. ให้ผู้อื่นฆ่าคนตาย (ให้ทหารยิงประชาชน)
3. โดยเจตนาเล็งเห็นผล (คือรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เล็งเห็นผลได้ แต่ยังสั่งให้กระทำ)
(เจตนา คือ รู้ผลแห่งการกระทำ เล็งเห็นผล คือ รู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น)
ข้อกล่าวหาตามฟ้องนั้น ไม่ได้ฟ้องว่า อภิสิทธิ์-สุเทพ สั่งทหารออกไปยิงประชาชน
แต่เป็นข้อกล่าวหา ว่า ทั้ง ๆ ที่เล็งเห็นผลได้ว่า ทหารหลายหมื่นพร้อมอาวุธ เผชิญหน้ากับผู้ชุมนุหลายหมื่นกลางเมืองหลวง
ซึ่งมีประชาชนผู้ไม่เกี่ยวข้องใช้ชีวิตประจำวันร่วมอยู่อีกมากมาย ย่อมเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง
และก็เกิดขึ้นจริง ๆ แต่กลับไม่มีการระงับยับยั้ง ยังสั่งให้ปฏิบัติการติดต่อกันนานนับเดือน
จนมีผู้เสียชีวิตเกือบร้อย ซึ่งล้วนเป็นคนบริสุทธิ์ทั้งนั้น ไม่มีอาวุธทั้งนั้น โดยเฉพาะ 6 ศพในวัดปทุม บาดเจ็บอีกสองพัน
พนักงานสอบสวน ที่เป็นคณะทำงานร่วมระหว่างดีเอสไอ ตำรวจ อัยการ จึงรวบรวมหลักฐานแล้วมีความเห็นควรฟ้อง
ทำสำนวนเสนออัยการ ว่าควรสั่งฟ้องในข้อหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนา
อัยการเห็นด้วย สั่งฟ้องต่อศาลอาญา
ประเด็นคือ เรื่องฆ่าคนตายนี่ เป็นอำนาจของศาลอาญา ไม่ใช่อำนาจของ ป.ป.ช. ไม่ใช่อำนาจของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ
แต่ศาลอาญาเห็นว่า อภิสิทธิ์-สุเทพ สั่งการในฐานะนายกฯ และรองนายกฯ ถือเป็นการสั่งการในตำแหน่งหน้าที่
เป็นเรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ดีเอสไอไม่มีอำนาจสอบสวน เป็นอำนาจของ ป.ป.ช. ไม่รับฟ้อง
ก็ได้แต่งง
ก็เลยเป็นประเด็นว่า ที่ศาลอาญาไม่รับฟ้องนี่ ควรหรือไม่ควรประการใด
ทีนี้
หลิ่ม ๆ ทั้งหลายที่เข้ามาเถียง ก็มั่วตะบันไป ไม่รู้แม้กระทั่งเรื่องที่ตัวเองเถียง
อ้างไปเรื่องชุมนุมโดยไม่สงบมั่ง อ้างไปเรื่องชายชุดดำมั่ง อ้างไปเรื่องเอ็ม 79 มั่ง
อ้างไปเรื่องแกนนำสั่งเผามั่ง อ้างไปถึงทักษิณต้องการให้เกิดความรุนแรงมั่ง ที่หนักสุด คืออ้างว่าที่ตาย ๆ น่ะเพราะยิงกันเอง
สารพัดที่จะอ้างมั่วมา ทั้งโพสต์ ทั้งแปะภาพ แบบไม่ลืมหูลืมตา
เป็นชุดความคิดเดียวที่โดนฝังชิปไว้ โดยไม่เงยหน้าพิจารณาอื่นใดเลย
เพราะเรื่องราวแห่งการที่อัยการสั่งฟ้องก็คือ
ในเหตุการณ์เดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 นั้น มีคนตายเกือบร้อย อันถือว่าตายอย่างผิดธรรมชาติ
ก็ต้องมีการไต่สวนการตายตามกฎหมาย การไต่สวนการตายทำในศาล มีการสืบพยาน หลักฐาน ข้อมูล
ว่าคนตายเป็นใคร ตายที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ใครทำให้ตาย
เกือบร้อยศพนี่ ศาลก็ไต่สวนการตายไปเรื่อย มีคำสั่งออกมาเรื่อย
บางศพก็บอกว่า ไม่รู้ว่าใครทำให้ตาย บางศพก็รู้ว่าใครทำให้ตาย
ซึ่งที่ไต่สวนการตายไปแล้ว ศาลมีคำสั่งออกมา 16 ศพแล้ว ว่าตายเพราะทหารยิง
เมื่อศาลสั่งออกมาแบบนี้ รู้ว่าใครทำให้ตาย อัยการก็รับคำสั่งศาลมา แล้วส่งให้พนักงานสอบสวน
เพื่อสอบสวนหาคนผิด
พนักงานสอบสวน เขาเห็นว่า ทหารปฏิบัติตามคำสั่ง ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย จึงเอาผิดผู้สั่งการ
คนถูกทำให้ตาย ก็ต้องมีคนรับผิดชอบ
เขาก็สอบสวนเรื่องราว ก็เห็นว่า ผู้สั่งการนั้น เล็งเห็นผลได้ และเกิดความสูญเสียมาก กลับไม่ระงับ
จึงแสดงถึง "เจตนา" ให้ทหารยิงประชาชน อันเป็นความผิดทางอาญา เป็นเรื่อง
นอกเหนืออำนาจหน้าที่
ก็เห็นควรฟ้อง
นี่คือเรื่องราว คือความเป็นมา
ตาย - ไต่สวนการตาย - คำสั่งการไต่สวน - สอบสวนหาผู้ทำผิด
มันคนละเรื่องกับชายชุดดำ คนละทีปกับเรื่องเอ็ม 79 คนละกรณีกับที่หลิ่ม ๆ ทั้งหลายมั่วแบบไม่รู้เรื่อง
แต่เพราะคำสั่งศาล และข้อมูล หลักฐาน ว่าคนที่โดนยิงตายนั้น คือคนบริสุทธิ์ ไม่มีอาวุธ ถูกฆ่า
มีภาพ มีคลิป มีพยาน มีหลักฐานมากมายก่ายกอง
เป็นการสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญาทุกประการ
ในกลุ่มผู้ชุมนุม จะมีชายชุดดำ มีอาวุธ แกนนำสั่งเผา ทักษิณวางแผน มีระเบิดนิวเคลียร์ มีอะไรก็ตาม
มันคนละเรื่องกับผลของการไต่สวนการตายที่พนักงานสอบสวนได้มาจากศาล
พนักงานสอบสวนหาผู้รับผิดชอบการตายตามคำสั่งศาล
รู้ว่าทหารยิงคนตาย อันขัดกับหลักฐานที่อภิสิทธิ์-สุเทพอ้าง ว่าสั่งให้ยิงป้องกันตัว ยิงต่ำกว่าเข่า
แต่เมื่อเกิดผิดพลาด คนสั่งการก็ควรระงับ ไม่ใช่ปล่อยให้ปฏิบัติการต่อเนื่องนานนับเดือน จนตายเกือบร้อยศพ
แค่การสั่งให้ใช้กระสุนจริง ก็เป็นเรื่องเล็งเห็นผลได้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ยังสั่ง
ถือเป็น "เจตนา" ชัดเจน
(นี่ไงครับ ป.ป.ช. จึงหาทางออกให้อภิสิทธิ์-สุเทพ อย่างสวยหรู
ว่าเป็นความผิดเฉพาะตัวของทหาร อภิสิทธิ์-สุเทพ สั่งการถูกต้อง โดยไม่เอ่ยถึงเรื่องการระงับยับยั้ง
ต่างกับกรณีนายกฯสมชาย ที่เกิดเหตุวันเดียว แต่ ป.ป.ช. เอาเรื่องเพราะไม่สั่งระงับยับยั้ง)
เป็นเรื่องฆ่าคนตายตามคำสั่งไต่สวนการตายของศาล
ตอนนี้มี 16 ศพ หากมีเพิ่มก็ฟ้องเพิ่มไปเรื่อย
ทางออกก็คือ ต้องโยนให้ ป.ป.ช. ต่อให้ตายพันศพ หาก ป.ป.ช. บอกว่าไม่ผิด ก็จบ
อยากได้คนผิด ไปหาเอาเองว่าทหารคนไหนยิง
และ ป.ป.ช. ก็แถลงชี้มูลเรียบร้อย ว่าอภิสิทธิ์-สุเทพ ไม่ผิด
ที่เจ็บ ตาย เพราะทหารยิงนั้น เป็นเรื่องเฉพาะตัว ให้ไปสอบสวนว่าทหารคนไหนยิง
แถมในคำแถลงของ ป.ป.ช. ยังแถลงไปถึงเรื่องฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผลด้วยว่า ก็ไม่ผิด
ทั้งที่ไม่ใช่อำนาจของ ป.ป.ช.
ไม่รับนิรโทษกรรม ต่อให้โดนโทษประหารก็ไม่หนี
จึงมีที่มายังงี้แหละครับ
ปวดตับกับสลิ่ม ที่ไม่มีสติปัญญาในการถกแย้งเรื่องราว เอาแต่มโนดั้นไป มั่วไป ไม่รู้แม้กระทั่งเรื่องที่กำลังเถียง
ที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องอภิสิทธิ์-สุเทพ ในข้อหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล
จากเหตุการณ์เมื่อเดือนเมษายน-พฤภาคม 2553
ข้อหาก็ชัดนะครับ ว่า
1. ร่วมกันก่อ (ในฐานะผู้สั่งการ ในฐานะนายกฯ และ ผอ.ศอฉ.)
2. ให้ผู้อื่นฆ่าคนตาย (ให้ทหารยิงประชาชน)
3. โดยเจตนาเล็งเห็นผล (คือรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เล็งเห็นผลได้ แต่ยังสั่งให้กระทำ)
(เจตนา คือ รู้ผลแห่งการกระทำ เล็งเห็นผล คือ รู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น)
ข้อกล่าวหาตามฟ้องนั้น ไม่ได้ฟ้องว่า อภิสิทธิ์-สุเทพ สั่งทหารออกไปยิงประชาชน
แต่เป็นข้อกล่าวหา ว่า ทั้ง ๆ ที่เล็งเห็นผลได้ว่า ทหารหลายหมื่นพร้อมอาวุธ เผชิญหน้ากับผู้ชุมนุหลายหมื่นกลางเมืองหลวง
ซึ่งมีประชาชนผู้ไม่เกี่ยวข้องใช้ชีวิตประจำวันร่วมอยู่อีกมากมาย ย่อมเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง
และก็เกิดขึ้นจริง ๆ แต่กลับไม่มีการระงับยับยั้ง ยังสั่งให้ปฏิบัติการติดต่อกันนานนับเดือน
จนมีผู้เสียชีวิตเกือบร้อย ซึ่งล้วนเป็นคนบริสุทธิ์ทั้งนั้น ไม่มีอาวุธทั้งนั้น โดยเฉพาะ 6 ศพในวัดปทุม บาดเจ็บอีกสองพัน
พนักงานสอบสวน ที่เป็นคณะทำงานร่วมระหว่างดีเอสไอ ตำรวจ อัยการ จึงรวบรวมหลักฐานแล้วมีความเห็นควรฟ้อง
ทำสำนวนเสนออัยการ ว่าควรสั่งฟ้องในข้อหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนา
อัยการเห็นด้วย สั่งฟ้องต่อศาลอาญา
ประเด็นคือ เรื่องฆ่าคนตายนี่ เป็นอำนาจของศาลอาญา ไม่ใช่อำนาจของ ป.ป.ช. ไม่ใช่อำนาจของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ
แต่ศาลอาญาเห็นว่า อภิสิทธิ์-สุเทพ สั่งการในฐานะนายกฯ และรองนายกฯ ถือเป็นการสั่งการในตำแหน่งหน้าที่
เป็นเรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ดีเอสไอไม่มีอำนาจสอบสวน เป็นอำนาจของ ป.ป.ช. ไม่รับฟ้อง
ก็ได้แต่งง
ก็เลยเป็นประเด็นว่า ที่ศาลอาญาไม่รับฟ้องนี่ ควรหรือไม่ควรประการใด
ทีนี้
หลิ่ม ๆ ทั้งหลายที่เข้ามาเถียง ก็มั่วตะบันไป ไม่รู้แม้กระทั่งเรื่องที่ตัวเองเถียง
อ้างไปเรื่องชุมนุมโดยไม่สงบมั่ง อ้างไปเรื่องชายชุดดำมั่ง อ้างไปเรื่องเอ็ม 79 มั่ง
อ้างไปเรื่องแกนนำสั่งเผามั่ง อ้างไปถึงทักษิณต้องการให้เกิดความรุนแรงมั่ง ที่หนักสุด คืออ้างว่าที่ตาย ๆ น่ะเพราะยิงกันเอง
สารพัดที่จะอ้างมั่วมา ทั้งโพสต์ ทั้งแปะภาพ แบบไม่ลืมหูลืมตา
เป็นชุดความคิดเดียวที่โดนฝังชิปไว้ โดยไม่เงยหน้าพิจารณาอื่นใดเลย
เพราะเรื่องราวแห่งการที่อัยการสั่งฟ้องก็คือ
ในเหตุการณ์เดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 นั้น มีคนตายเกือบร้อย อันถือว่าตายอย่างผิดธรรมชาติ
ก็ต้องมีการไต่สวนการตายตามกฎหมาย การไต่สวนการตายทำในศาล มีการสืบพยาน หลักฐาน ข้อมูล
ว่าคนตายเป็นใคร ตายที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ใครทำให้ตาย
เกือบร้อยศพนี่ ศาลก็ไต่สวนการตายไปเรื่อย มีคำสั่งออกมาเรื่อย
บางศพก็บอกว่า ไม่รู้ว่าใครทำให้ตาย บางศพก็รู้ว่าใครทำให้ตาย
ซึ่งที่ไต่สวนการตายไปแล้ว ศาลมีคำสั่งออกมา 16 ศพแล้ว ว่าตายเพราะทหารยิง
เมื่อศาลสั่งออกมาแบบนี้ รู้ว่าใครทำให้ตาย อัยการก็รับคำสั่งศาลมา แล้วส่งให้พนักงานสอบสวน
เพื่อสอบสวนหาคนผิด
พนักงานสอบสวน เขาเห็นว่า ทหารปฏิบัติตามคำสั่ง ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย จึงเอาผิดผู้สั่งการ
คนถูกทำให้ตาย ก็ต้องมีคนรับผิดชอบ
เขาก็สอบสวนเรื่องราว ก็เห็นว่า ผู้สั่งการนั้น เล็งเห็นผลได้ และเกิดความสูญเสียมาก กลับไม่ระงับ
จึงแสดงถึง "เจตนา" ให้ทหารยิงประชาชน อันเป็นความผิดทางอาญา เป็นเรื่องนอกเหนืออำนาจหน้าที่
ก็เห็นควรฟ้อง
นี่คือเรื่องราว คือความเป็นมา ตาย - ไต่สวนการตาย - คำสั่งการไต่สวน - สอบสวนหาผู้ทำผิด
มันคนละเรื่องกับชายชุดดำ คนละทีปกับเรื่องเอ็ม 79 คนละกรณีกับที่หลิ่ม ๆ ทั้งหลายมั่วแบบไม่รู้เรื่อง
แต่เพราะคำสั่งศาล และข้อมูล หลักฐาน ว่าคนที่โดนยิงตายนั้น คือคนบริสุทธิ์ ไม่มีอาวุธ ถูกฆ่า
มีภาพ มีคลิป มีพยาน มีหลักฐานมากมายก่ายกอง
เป็นการสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญาทุกประการ
ในกลุ่มผู้ชุมนุม จะมีชายชุดดำ มีอาวุธ แกนนำสั่งเผา ทักษิณวางแผน มีระเบิดนิวเคลียร์ มีอะไรก็ตาม
มันคนละเรื่องกับผลของการไต่สวนการตายที่พนักงานสอบสวนได้มาจากศาล
พนักงานสอบสวนหาผู้รับผิดชอบการตายตามคำสั่งศาล
รู้ว่าทหารยิงคนตาย อันขัดกับหลักฐานที่อภิสิทธิ์-สุเทพอ้าง ว่าสั่งให้ยิงป้องกันตัว ยิงต่ำกว่าเข่า
แต่เมื่อเกิดผิดพลาด คนสั่งการก็ควรระงับ ไม่ใช่ปล่อยให้ปฏิบัติการต่อเนื่องนานนับเดือน จนตายเกือบร้อยศพ
แค่การสั่งให้ใช้กระสุนจริง ก็เป็นเรื่องเล็งเห็นผลได้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ยังสั่ง
ถือเป็น "เจตนา" ชัดเจน
(นี่ไงครับ ป.ป.ช. จึงหาทางออกให้อภิสิทธิ์-สุเทพ อย่างสวยหรู
ว่าเป็นความผิดเฉพาะตัวของทหาร อภิสิทธิ์-สุเทพ สั่งการถูกต้อง โดยไม่เอ่ยถึงเรื่องการระงับยับยั้ง
ต่างกับกรณีนายกฯสมชาย ที่เกิดเหตุวันเดียว แต่ ป.ป.ช. เอาเรื่องเพราะไม่สั่งระงับยับยั้ง)
เป็นเรื่องฆ่าคนตายตามคำสั่งไต่สวนการตายของศาล
ตอนนี้มี 16 ศพ หากมีเพิ่มก็ฟ้องเพิ่มไปเรื่อย
ทางออกก็คือ ต้องโยนให้ ป.ป.ช. ต่อให้ตายพันศพ หาก ป.ป.ช. บอกว่าไม่ผิด ก็จบ
อยากได้คนผิด ไปหาเอาเองว่าทหารคนไหนยิง
และ ป.ป.ช. ก็แถลงชี้มูลเรียบร้อย ว่าอภิสิทธิ์-สุเทพ ไม่ผิด
ที่เจ็บ ตาย เพราะทหารยิงนั้น เป็นเรื่องเฉพาะตัว ให้ไปสอบสวนว่าทหารคนไหนยิง
แถมในคำแถลงของ ป.ป.ช. ยังแถลงไปถึงเรื่องฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผลด้วยว่า ก็ไม่ผิด
ทั้งที่ไม่ใช่อำนาจของ ป.ป.ช.
ไม่รับนิรโทษกรรม ต่อให้โดนโทษประหารก็ไม่หนี
จึงมีที่มายังงี้แหละครับ