ขอทำความเข้าใจกับกองเชียร์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - นายสุเทพ เทือกสุบรรณ สักนิดครับ ในเรื่องคดี 99 ศพ

กระทู้สนทนา
คือผมเห็นเข้ามาโพสต์แบบไม่รู้เรื่อง  ไม่มีความเข้าใจประจำ ๆ ครับ
ทั้งที่เรื่องนี้มีข้อมูลให้ศึกษา สืบค้น ว่าเป็นมาอย่างไร  ขั้นตอนแบบไหน
แต่ดูเหมือนกองเชียร์ไอ้แหลหนีทหารกับกบฏเทือก  จะไม่สนใจเอาซะเลยว่าอะไรเป็นอะไร
เอาแต่มโนมาโพสต์  จำมาฟังมาแบบขาดความเข้าใจในเรื่องราวแล้วก็มโนโพสต์ไป

เลยขอทำความเข้าใจสักนิดครับ

เรื่องราวที่เป็นประเด็นสาธารณะนั้น  ควรที่จะต้องมีความเข้าใจเรื่องราวครับ  ไม่งั้นโง่ แชร์ แถ ไลค์ กันมั่วไปหมด


ส่วนใหญ่ที่ผมเห็น  กองเชียร์ทั้งหลายมักจะคิดว่า  คดี 99 ศพนี่  
เป็นการฟ้องเพราะไอ้แหลหนีทหารกับกบฏเทือกสั่งการให้ทหารไปสลายการชุมนุม
พอเกิดการตาย  ก็ฟ้องว่าสั่งให้ทหารยิงคนตาย  เป็นการฟ้องแบบเหมารวมทั้งเหตุการณ์  ทั้งที่ไม่รู้ว่าใครยิง ใครฆ่า
ซึ่งมันไม่ใช่แบบนั้นครับ  


คืองี้นะครับ

ก่อนอื่น  ทำความเข้าใจก่อนครับ เรื่องคำว่า "99 ศพ"
คำนี้  เป็น "ชื่อของเหตุการณ์" ครับ  เป็นคำเรียกเหตุการณ์   ไม่ใช่หมายถึงคนตาย 99 ศพเป็นเสื้อแดงทั้งหมด


ความเป็นมาของคดีก็คือ

ในการชุมนุมเมื่อ 12 มีนาคม - 19 พฤษภาคม 2553  นั้น  มีคนตายในเหตุการณ์ 99 ศพ  บาดเจ็บสองพัน

การตาย  เป็นการตายแบบผิดธรรมชาติ  ซึ่งก็ต้องมีการชันสูตรพลิกศพตามกฎหมาย
ในเรื่องนี้  ก็เป็นการดำเนินการตามวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150  คือนำเรื่องการตายขึ้นไต่สวนในศาล
ว่าคนคายเป็นใคร  ตายที่ไหน  เมื่อไร  อย่างไร  พฤติการณ์ตายเป็นอย่างไร  ใครทำให้ตาย

ก็ทะยอยขึ้นไต่สวนไปเรื่อยครับ  โดยอัยการเป็นผู้นำเรื่องเสนอต่อศาล

ทีนี้  เมื่อศาลมีคำสั่งออกมา  ว่าตายอย่างไร แบบไหน เป็นใคร เพราะใคร พฤติการณ์การตายเป็นอย่างไร(มีอาวุธ ยิงสู้ ลูกหลง โดนฆ่า ฯลฯ)
ก็จะส่งคำสั่งนั้นไปยังอัยการ   อัยการก็จะส่งเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนเพื่อทำสำนวนต่อไป

การไต่สวนการตาย  หากไม่สามารถรู้ได้ว่าใครยิง  ใครฆ่า  พนักงานสอบสวนก็ต้องสืบสวนสอบสวนต่อไป
หากเป็นชายชุดดำฆ่า  ก็ฟ้องชายชุดดำ   หากเป็นเสื้อแดงฆ่ากันเอง  ก็ฟ้องเสือแดง

คดี 99 ศพ ที่อัยการสั่งฟ้องไอ้แหลหนีทหารกับกบฏเทือกอยู่นี่
ไม่ใช่อัยการฟ้องว่าไอ้แหลกับกบฏเทือกฆ่าหรือสั่งฆ่าทั้งหมดนะครับ

ฟ้องเฉพาะที่ศาลมีคำสั่งออกมาว่าตายเพราะเจ้าหน้าที่ทหารยิงเท่านั้น   ไม่ใช่ฟ้องเหมารวมทั้ง 99 ศพ

ตอนนี้  ศาลมีคำสั่งออกมาหลังไต่สวนการตายแล้วว่า  เกือบยี่สิบศพ  ตายเพราะเจ้าหน้าที่ยิง  คือโดนทหารยิงตาย

อัยการก็เอาคำสั่งศาลนี้แหละ  ส่งไปยังพนักงานสอบสวน  ซึ่งก็คือพนักงานสอบสวนร่วมกันระหว่างดีเอสไอ  อัยการ  ตำรวจ
พนักงานสอบสวนก็จะทำสำนวนหาผู้รับผิดชอบการตาย   แล้วมีความเห็นว่าควรฟ้องไอ้แหลกับกบฏเทือก
ในข้อหา ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 59,80, 83, 84 และ 288

หนึ่งเหตุการณ์  ก็หนึ่งคดี   หรืออาจจะแยกฟ้องหนึ่งศพหนึ่งคดี  หรือจะรวมคดี   อย่างไรก็แล้วแต่ทางอัยการและผู้เสียหายจะว่ากันไป

แล้วทำไมต้องฟ้องไอ้แหลหนีทหารกับกบฏเทือก ?

ก็เพราะพนักงานสอบสวนร่วม  เขามีความเห็นว่า  เป็นการสั่งการอย่าง เล็งเห็นผล
คือรู้ได้ว่า  สั่งให้ทหารหลายหมื่นพร้อมกระสุนจริงออกไปเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุมหลายหมื่นนี่
มีตายแน่  เกิดผิดพลาดได้แน่
และก็เป็นเช่นนั้น   เพราะ 99 ศพนี่  ตั้งแต่ 10 เมษายน - 19 พฤษภาคม 2553  ตายไป 99  บาดเจ็บสองพัน

และทีสำคัญ  ประชาชนที่ตายแปดเก้าสิบศพน่ะ   คนบริสุทธิ์ทั้งนั้น

มันจึงทำให้เห็นว่า  เมื่อตาย บาดเจ็บ  กลับไม่ระงับ ยกเลิก  ยังสั่งให้ทหารปฏิบัติการต่อไป
จึงเป็นการ เจตนา ให้ทหารไปฆ่าคน

อัยการได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวน  เห็นด้วย  ก็สั่งฟ้องต่อศาล  (29 ต.ค. 2556)

พอเข้าใจนะครับ   ว่าขั้นตอนเป็นอย่างไร
ไม่ใช่ฟ้องเหมารวมนะครับ  ฟ้องเฉพาะที่ศาลสั่งว่าตายเพราะทหาร  
หากศาลสั่งว่าตายเพราะทหารหกสิบศพ  ก็ฟ้องหกสิบศพ   สามสิบศพ  ก็ฟ้องสามสิบศพ
ขึ้นศาลสนุกเลยล่ะครับ

แล้วทำไมไม่ฟ้องทหาร  ไปฟ้องคนสั่งการทำไม ?

พนักงานสอบสวนเห็นว่า  ทหารนั้น  ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอาญามาตรา 70  เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง  
จึงเห็นควรไม่ฟ้องทหาร   เห็นควรฟ้องผู้สั่งการ



การฟ้องนี้  เป็นการฟ้องตามมาตรา 288  เรื่องฆ่าคนตาย  ไม่ได้ฟ้องเรื่องทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่

พนักงานสอบสวนและอัยการ  เห็นตรงกันว่า  เล็งเห็นผลแล้วยังสั่ง  ถือเป็นเจตนา
เจตนาให้ทหารไปยิงคนตายนี่  ไม่ใช่เรื่องของตำแหน่งหน้าที่แน่นอน  ไม่ใช่เด็ดขาด
เป็นเรื่อง นอกเหนืออำนาจหน้าที่  ไม่ใช่เรื่องในอำนาจหน้าที่
เขาจึงฟ้องตามกฎหมายอาญามาตรา 288   ไม่ได้ฟ้อง ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่มาตรา 157

ถ้าจะสมมุติ  ก็คือ   นายกรัฐมนตรีสั่งให้คนขับรถ  ขับฝ่าม็อบที่ออกมาประท้วงหน้าทำเนียบ
เล็งเห็นผลไหม  ว่าจะมีคนโดนรถชนตาย   เล็งเห็นแน่   แต่ก็ยังสั่ง
เมื่อคนขับรถขับชนโครม  ตายสาม  บาดเจ็บห้า   ก็ต้องมีคนรับผิดชอบ

จะบอกว่าเป็นเรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ไม่ได้ครับ  
เพราะนี่คือเจตนาให้ผู้อื่นฆ่าคนตายและพยายามฆ่าคนตายชัด ๆ
เป็นเรื่องนอกเหนืออำนาจหน้าที่   ไม่ใช่เรื่องในอำนาจหน้าที่



ประเด็นก็คือ   เมื่ออัยการมีความเห็นแบบนี้   เขาก็ฟ้องต่อศาลอาญา
ควรครับ  ที่ศาลอาญาจะรับฟ้อง  เพราะมันชัดว่าเป็นเรื่องนอกเหนืออำนาจหน้าที่  แม้จะสั่งในขณะดำรงตำแหน่ง
จะมาอ้างแค่ว่า  สั่งขณะดำรงตำแหน่งถือว่าเป็นเรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่  ทั้งที่เรื่องที่สั่งไม่ใช่อำนาจหน้าที่ ไม่ได้ครับ
ไม่มีอำนาจหน้าที่ใดตำแหน่งไหน  สั่งให้ใครฆ่าหรือพยายามฆ่าคนบริสุทธิ์ได้ครับ

เปรียบเทียบชัด ๆ ก็คือ  

ป.ป.ช. ส่งฟ้องนายกฯยิ่งลักษณ์ในเรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ปล่อยปละละเลยเรื่องจำนำข้าว
นี่เพราะ ป.ป.ช. ละเมอ  เอ๊ย เห็นว่า   นายกฯยิ่งลักษณ์มีอำนาจหน้าที่ที่จะป้องกันไม่ให้มีการทุจริตเสียหายได้  แต่ไม่ได้ทำ
ถือว่าปล่อยปละละเลย  ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  เป็นเรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่

เทียบกับ ไอ้แหลหนทหารกับกบฏเทือก  สั่งให้ทหารออกไปยิงคน
มันอำนาจหน้าที่ของไอ้แหลหนีทหารกับกบฏเทือกตรงไหน  ที่สามารถทำอย่างนี้ได้
หากคนตายมีอาวุธ  ก็ว่าไปอย่าง  ถือได้ว่าทหารป้องกันตัว  ระงับเหตุ

แต่ศาลมีคำสั่งออกมาแล้ว  ว่าเกือบยี่สิบศพน่ะ ไม่มีอาวุธ  

ก็ต้องไปสู้กันในศาล  



พอเข้าใจนะครับ
ทีนี้  ต่อไปเวลาถกกันเรื่องนี้  ยังมีมั่วมโนมาอีก
กูด่าเช็ดยันหลานบวช
อมยิ้ม30



เมื่อย  จบ
หัวเราะ




แถมครับ อมยิ้ม01
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่