สวัสดีครับ ผมกลับมาอีกแล้ว คิดว่าจะเขียนรีวิวนี้ขึ้นเป็นรีวิวสุดท้ายที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับสมาชิกทุกท่านที่มีรูปร่างอ้วนที่คิดว่าชาตินี้จะไม่มีทางผอมได้แล้ว อยากให้เห็นผลที่ผมได้รับจากการปั่นจักรยานเพราะตอนนี้ผมได้เป้าหมายที่ผมตั้งใจแล้วและผมพอใจมากกับความพยายามและความทุ่มเทในการลดน้ำหนักครั้งนี้ จากความทรมานเปลี่ยนไปเป็นความชอบปั่นแบบไม่รู้ตัว ก่อนอื่นผมขอฝากกระทู้จุดเริ่มต้น และ กระทู้ที่2ที่ประสบความสำเร็จ เพื่อท่านใดยังไม่เคยอ่าน
จุดเริ่มต้น
http://pantip.com/topic/34304573
สำเร็จเป้าหมายแรก
http://pantip.com/topic/34519016
คือเริ่มจากน้ำหนัก 110 => ลดมาเหยียบ 100 กก.ในกระทู้แรก => ลดมาเหยียบ 90 กก.ในกระทู้สอง => และเหยียบ 85 กก.แล้วในกระทู้นี้ครับ (ผมถ่ายรูปตอนหนัก 85.2 ไว้ แต่บังเอิญลบไปแล้วเพราะเปลี่ยนโทรศัพท์) และผมปั่นได้ไกลสุด 100 กม. แล้วด้วย^^
ผมว่าช่วงหยุดปีใหม่ 10 วันที่ผ่านมา คงเป็นช่วงวันอันตรายของคนลดน้ำหนักแน่นอนครับ เพราะต้องเที่ยว ต้องกินเยอะแนะนอน
ผมเองได้ออกปั่นแค่วันเดียว แถมกลับมาทานเยอะมากจนไม่กล้าชั่งน้ำเลย เดินทางไปเที่ยวหลายที่ครับ และจัดเต็มมื้อเข้าที่โรงแรมแบบกระหน่ำเลย แถมเริ่มทานจุกจิกขึ้นมากด้วย ช้อกโกแลต ขนมจากเจ้านายญี่ปุ่นแบบเยอะมาก กินกัน เป็นอาทิตย์ก็ไม่หมด แคปหมูน้ำพริกหนุ่มนี่ซื้อกลับมาเยอะมาก พอกัดฟันไปชั่งเมื่อกลางเดือนมกราคมผลสรุปว่าน้ำหนักขึ้นมา 4 กก. เศร้าครับ จากก่อนหยุดปีใหม่ 85.2 กก. มาเป็น 89 กก. แต่ก็ดีใจที่ขึ้นไม่มากเท่าที่กลัว เพราะทานเยอะจริง ๆ ครับ
เลยมาเริ่มต้นกันใหม่ ผมก็ยังคงใช้หลักการเดิม คือ ทานข้าวเช้า – กลางวันปรกติ แต่พยายามเลี่ยงอาหารที่ให้พลังงานสูง ๆ ครับ เช่น ข้าวผัด ผัดกระเพรา ไข่เจียว ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ของทอด กะทิ ฯลฯ โดยผมใช้หลักการง่าย ๆ แต่ได้ผล คือคำนวณว่าร่างกายเราสามารถเผาพลาญเองได้เท่าไร สมมติ 2400แคล/วัน ผมจะหารเป็น 3 มื้อ ผมจะมีโควต้าทานได้ 2500/3=800 แคล/มื้อโดยประมาณ ง่าย ๆ เหมือนกับว่าผมมีเงินสำหรับซื้อกินได้มื้อละ 800 ร้อยบาท ก็พยายามไม่ใช้เงินเกินครับ ถ้ากินไม่หมดก็เปรียบเหมือนเงินเหลือเก็บ ส่วนการปั่นจักรยานออกกำลังกายก็คือดอกเบี้ยที่มาเพิ่มเงินฝากครับ ส่วนมื้อเย็นตอนนี้ผมก็จะกลับมาทานแค่สลัด เบา ๆ กับผลไม้เยอะ ๆ (แอปเปิ้ล ฝรั่ง แตงโม แคนตาลูป ชมพู่ ฯลฯ ได้หมด) เพราะน้ำหนักขึ้นมาแล้ว แต่ระหว่างมื้อตอนนี้ผมทานกล้วยต้ม ต้มทีเป็นหวีเลยครับ กินเล่นแทนฟักทอง เบื่อฟักทองมากแล้วครับส่วนบุฟเฟต์ก็ยังมีไปทานอยู่เดือนละ 1-2 ครั้งครับ แต่ก็หักห้ามใจไม่ทานเยอะ และเลือกที่ไม่ให้พลังงานสูงครับ
ส่วนกระทู้นี้ผมเพิ่งได้ยานคันใหม่มา ยังเป็นมดตัวน้อย ๆ อยู่ครับ ปั่นสะสมไมล์ไว้ก่อนเดียวมันก็ค่อย ๆ โตไปเรื่อย ๆ *-* ตอนแรกผมลังเลที่จะซื้อจักรยานคันใหม่ คิดมาเป็นเดือนว่าจะซื้อดีหรือไม่ ตอนแรกตั้งใจจะซื้อรุ่นแบบล่างสุดไม่เกินหมื่น เพราะติดปัญหาเรื่องงบและเสียดายคันแรกที่ซ่อมมาใช้เริ่มหัดปั่น แต่ก็มีพี่ๆทั้งในพันทิพย์ที่ตอบกระทู้ที่แล้วและเพื่อนที่ปั่นด้วยกันบอกเก็บเงินไว้ก่อนคันที่ผมสนใจไม่เวิร์ก หรือเพิ่มงบเอาตัวเริ่มต้นที่ดีกว่าสักหลักหมื่นปลาย ๆ ผมเลยยังไม่ตัดสินใจ แต่อยู่ๆ มีผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่งเสนอที่จะออกให้ก่อน (กัดฟันใช้เงินคืนเรียบร้อย) ผมจึงได้เจ้า Trek 1.1 คันนี้มา ทำให้ผมรู้ว่า มันคุ้มค่ามากที่ผมตัดสินใจซื้อ แม้จะเป็นตัวเริ่มต้น แต่ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปเลยครับ มันคือจุ่ดเริ่มต้นใหม่ทันที สรุป ปั่นสองคันเลย...
ส่วนจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยนแปลงคืออะไรนะหร่อ.. อันแรกก็เริ่มจ่ายเงินเพิ่ม *-* (ผมเริ่มจาก 0 จริง ๆ) นอกจากชุดไฟ ไมล์ ก็หาร้านติด Rack บรรจุเลย พร้อมกับออกทริปแรกสำหรับเจ้าลูกชายคันใหม่ คืออารมณ์ไหนไม่รู้นะครับ ขับไปเชียงใหม่ 2 วัน 1 คืน เพื่อไปทดสอบรถ กับ แรค ที่ติดมา ปั่นเสร็จก็กลับบ้าน ผมว่าไม่บ้าก็ใกล้เคียงเนอะ อาจจะเป็นเพราะหยุดยาว 10 วันไม่ได้ปั่นเลย ที่บอกว่าปั่นวันเดียวคือไปเชี่ยงใหม่นี่ละครับ *-* อารมณ์เหงา ๆ ของชีวิตคนโสด เอาก็เอา เป็นไงเป็นกันครับ
หลังจากปีใหม่มา ตอนนี้ผมปั่นเข้าเดือนที่5 ก็เริ่มออกไปปั่นถนนใหญ่ทุกวันเลย ไปปั่นที่มีคนปั่นเยอะๆ แค่ไม่ถึงเดือน อยู่ ๆ ผมก็มีเพื่อนใหม่ที่ปั่นจักรยานด้วยกันเกือบ 20 คนแบบไม่รู้ตัว (2 กลุ่ม) ยังไม่รวมกลุ่มที่ผมชอบอัดความเร็วตามนะครับ...คือแอบเข้าไปแจมตามหลังถ้าออกปั่นคนเดียว สิ่งหนึ่งที่ผมรับรู้ได้คือ คุณจะไม่มีวันเหงาถ้าปั่นจักรยาน และจะไม่มีวันเบื่อเลยครับ สังคมนี้มิตรภาพดีจริง ๆ พี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ก็ค่อย ๆ แนะนำว่าผมต้องมีนั่น ต้องมีนี่ ต้องมีนู้น ..... บลาๆๆ ซึ่งโรงงอกมันได้เริ่มมาทำความรู้จักผมเรื่อย ๆ ทีละนิด ๆ เรียบร้อยแล้ว คือยังต้องซื้ออีกหลายอย่างที่จำเป็น*** นี่ก็เป็นอีกจุดเริ่มต้นของมิตรภาพใหม่
ในกลุ่มเริ่มมีออกทริปบ้าง ทุกคนก็ช่วยเหลือกันดีครับ ดูแลกันตลอดทาง ... ไม่รู้ว่ามาจากไหนกันบ้าง แต่เรามีเป้าหมายเดียวกันคือการปั่นครับ ... ทุกอย่างมันช่างไปในทิศทางเดียวกัน
นอกจากนี้ก็ยังมีรายการแข่งปั่นการกุศลขำ ๆ แถวบ้านที่เพื่อน ๆ ชวนไป เป็นรายการแรกของผมเลย สนุกดีครับ ประสบการณ์แรกในชีวิตครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้ผมมีประสบการณ์ที่ดีเพิ่มขึ้นจากความตั้งใจแค่ปั่นออกกำลังกาย (จริง ๆ มีหลายรายการมากแต่ไม่สะดวกไป)
ผลจากการปั่นอย่างต่อเนื่องทำให้ตอนนี้ผมเริ่มปั่นได้ดีขึ้น เร็วขึ้น Average ดีขึ้นจาก 19-20 กม/ชม มาเป็น 30ขึ้น แต่ยังไม่มีความรู้ที่ถูกต้องมากเท่าไรในการปั่นจักรยาน ผมรู้ตัวเลยว่ายังมีอีกเยอะที่ผมต้องค่อย ๆ เรียนรู้ต่อไป กว่าจะปั่นได้ 150 200 300 400 500 กม. แบบท่านอื่น ๆ สัญญากับตัวเองครับ
พอก่อน ๆ เดี่ยวจะกลายเป็นเข้าเรื่องจักรยานมากเกินไป ขอสรุปเรื่องความสำเร็จในการลดน้ำหนักด้วยการปั่นจักรยานในครั้งนี้กันดีกว่าครับ ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงกับชีวิตผมบ้าง เผือจะมีแรงจูงใจให้กับเพื่อน ๆ สมาชิกท่านอื่นครับ
1 ผมลดน้ำหนักได้ 25 กก. ตามที่ตั้งใจ เอวลดลง 7 นิ้ว (41=>34) ใส่เสื้อผ้ามั่นใจขึ้นมากครับ (ซื้อใหม่ยกตู้)
2 สุขภาพผมดีขึ้นมาก น้ำตาล ไขมัน ไตรกีสไลน์ ค่าทำงานตับ ลดลง
3 ผมมีเพื่อนใหม่ที่มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน แบบไม่หวังผลตอบแทน ผมมีความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นเยอะเลย
4 ผมกลับมาเล่นวอลเลย์บอลได้ดีขึ้น (เป็นกีฬาแรกที่ผมรักและทุ่มเทมาก) ปั่นจักรยานแล้วกระโดดสูงขึ้นเยอะ ตีบอลหนักขึ้น
5 และสุดท้ายผมเลิกเล่นไพ่ (เกือบสมบูรณ์) กับสมาคมแม่บ้าน เพราะเอาเวลามานอนพักผ่อนเก็บแรงปั่น (เหลือแต่หวย)
ดังนั้น 5 เดือน กับเงินประมาณ 30000 บาทที่จ่ายไปสำหรับจักรยาน มันคุ้มค่ามากแล้วกับสิ่งที่ผมได้มา
ขอให้ทุกท่านที่ท้อแท้ จงมีกำลังใจสู้ต่อไปครับ ทำได้ไม่ได้อยู่ที่ตัวเราเอง
เป็นกำลังใจให้ครับ
สวัสดีครับ
[CR] 5 เดือนกับการเปลียนแปลงของสุขภาพ รูปร่าง และการใช้ชีวิตที่ดีขึ้นเพราะจักรยาน
จุดเริ่มต้น http://pantip.com/topic/34304573
สำเร็จเป้าหมายแรก http://pantip.com/topic/34519016
คือเริ่มจากน้ำหนัก 110 => ลดมาเหยียบ 100 กก.ในกระทู้แรก => ลดมาเหยียบ 90 กก.ในกระทู้สอง => และเหยียบ 85 กก.แล้วในกระทู้นี้ครับ (ผมถ่ายรูปตอนหนัก 85.2 ไว้ แต่บังเอิญลบไปแล้วเพราะเปลี่ยนโทรศัพท์) และผมปั่นได้ไกลสุด 100 กม. แล้วด้วย^^
ผมว่าช่วงหยุดปีใหม่ 10 วันที่ผ่านมา คงเป็นช่วงวันอันตรายของคนลดน้ำหนักแน่นอนครับ เพราะต้องเที่ยว ต้องกินเยอะแนะนอน
ผมเองได้ออกปั่นแค่วันเดียว แถมกลับมาทานเยอะมากจนไม่กล้าชั่งน้ำเลย เดินทางไปเที่ยวหลายที่ครับ และจัดเต็มมื้อเข้าที่โรงแรมแบบกระหน่ำเลย แถมเริ่มทานจุกจิกขึ้นมากด้วย ช้อกโกแลต ขนมจากเจ้านายญี่ปุ่นแบบเยอะมาก กินกัน เป็นอาทิตย์ก็ไม่หมด แคปหมูน้ำพริกหนุ่มนี่ซื้อกลับมาเยอะมาก พอกัดฟันไปชั่งเมื่อกลางเดือนมกราคมผลสรุปว่าน้ำหนักขึ้นมา 4 กก. เศร้าครับ จากก่อนหยุดปีใหม่ 85.2 กก. มาเป็น 89 กก. แต่ก็ดีใจที่ขึ้นไม่มากเท่าที่กลัว เพราะทานเยอะจริง ๆ ครับ
เลยมาเริ่มต้นกันใหม่ ผมก็ยังคงใช้หลักการเดิม คือ ทานข้าวเช้า – กลางวันปรกติ แต่พยายามเลี่ยงอาหารที่ให้พลังงานสูง ๆ ครับ เช่น ข้าวผัด ผัดกระเพรา ไข่เจียว ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ของทอด กะทิ ฯลฯ โดยผมใช้หลักการง่าย ๆ แต่ได้ผล คือคำนวณว่าร่างกายเราสามารถเผาพลาญเองได้เท่าไร สมมติ 2400แคล/วัน ผมจะหารเป็น 3 มื้อ ผมจะมีโควต้าทานได้ 2500/3=800 แคล/มื้อโดยประมาณ ง่าย ๆ เหมือนกับว่าผมมีเงินสำหรับซื้อกินได้มื้อละ 800 ร้อยบาท ก็พยายามไม่ใช้เงินเกินครับ ถ้ากินไม่หมดก็เปรียบเหมือนเงินเหลือเก็บ ส่วนการปั่นจักรยานออกกำลังกายก็คือดอกเบี้ยที่มาเพิ่มเงินฝากครับ ส่วนมื้อเย็นตอนนี้ผมก็จะกลับมาทานแค่สลัด เบา ๆ กับผลไม้เยอะ ๆ (แอปเปิ้ล ฝรั่ง แตงโม แคนตาลูป ชมพู่ ฯลฯ ได้หมด) เพราะน้ำหนักขึ้นมาแล้ว แต่ระหว่างมื้อตอนนี้ผมทานกล้วยต้ม ต้มทีเป็นหวีเลยครับ กินเล่นแทนฟักทอง เบื่อฟักทองมากแล้วครับส่วนบุฟเฟต์ก็ยังมีไปทานอยู่เดือนละ 1-2 ครั้งครับ แต่ก็หักห้ามใจไม่ทานเยอะ และเลือกที่ไม่ให้พลังงานสูงครับ
ส่วนกระทู้นี้ผมเพิ่งได้ยานคันใหม่มา ยังเป็นมดตัวน้อย ๆ อยู่ครับ ปั่นสะสมไมล์ไว้ก่อนเดียวมันก็ค่อย ๆ โตไปเรื่อย ๆ *-* ตอนแรกผมลังเลที่จะซื้อจักรยานคันใหม่ คิดมาเป็นเดือนว่าจะซื้อดีหรือไม่ ตอนแรกตั้งใจจะซื้อรุ่นแบบล่างสุดไม่เกินหมื่น เพราะติดปัญหาเรื่องงบและเสียดายคันแรกที่ซ่อมมาใช้เริ่มหัดปั่น แต่ก็มีพี่ๆทั้งในพันทิพย์ที่ตอบกระทู้ที่แล้วและเพื่อนที่ปั่นด้วยกันบอกเก็บเงินไว้ก่อนคันที่ผมสนใจไม่เวิร์ก หรือเพิ่มงบเอาตัวเริ่มต้นที่ดีกว่าสักหลักหมื่นปลาย ๆ ผมเลยยังไม่ตัดสินใจ แต่อยู่ๆ มีผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่งเสนอที่จะออกให้ก่อน (กัดฟันใช้เงินคืนเรียบร้อย) ผมจึงได้เจ้า Trek 1.1 คันนี้มา ทำให้ผมรู้ว่า มันคุ้มค่ามากที่ผมตัดสินใจซื้อ แม้จะเป็นตัวเริ่มต้น แต่ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปเลยครับ มันคือจุ่ดเริ่มต้นใหม่ทันที สรุป ปั่นสองคันเลย...
ส่วนจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยนแปลงคืออะไรนะหร่อ.. อันแรกก็เริ่มจ่ายเงินเพิ่ม *-* (ผมเริ่มจาก 0 จริง ๆ) นอกจากชุดไฟ ไมล์ ก็หาร้านติด Rack บรรจุเลย พร้อมกับออกทริปแรกสำหรับเจ้าลูกชายคันใหม่ คืออารมณ์ไหนไม่รู้นะครับ ขับไปเชียงใหม่ 2 วัน 1 คืน เพื่อไปทดสอบรถ กับ แรค ที่ติดมา ปั่นเสร็จก็กลับบ้าน ผมว่าไม่บ้าก็ใกล้เคียงเนอะ อาจจะเป็นเพราะหยุดยาว 10 วันไม่ได้ปั่นเลย ที่บอกว่าปั่นวันเดียวคือไปเชี่ยงใหม่นี่ละครับ *-* อารมณ์เหงา ๆ ของชีวิตคนโสด เอาก็เอา เป็นไงเป็นกันครับ
หลังจากปีใหม่มา ตอนนี้ผมปั่นเข้าเดือนที่5 ก็เริ่มออกไปปั่นถนนใหญ่ทุกวันเลย ไปปั่นที่มีคนปั่นเยอะๆ แค่ไม่ถึงเดือน อยู่ ๆ ผมก็มีเพื่อนใหม่ที่ปั่นจักรยานด้วยกันเกือบ 20 คนแบบไม่รู้ตัว (2 กลุ่ม) ยังไม่รวมกลุ่มที่ผมชอบอัดความเร็วตามนะครับ...คือแอบเข้าไปแจมตามหลังถ้าออกปั่นคนเดียว สิ่งหนึ่งที่ผมรับรู้ได้คือ คุณจะไม่มีวันเหงาถ้าปั่นจักรยาน และจะไม่มีวันเบื่อเลยครับ สังคมนี้มิตรภาพดีจริง ๆ พี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ก็ค่อย ๆ แนะนำว่าผมต้องมีนั่น ต้องมีนี่ ต้องมีนู้น ..... บลาๆๆ ซึ่งโรงงอกมันได้เริ่มมาทำความรู้จักผมเรื่อย ๆ ทีละนิด ๆ เรียบร้อยแล้ว คือยังต้องซื้ออีกหลายอย่างที่จำเป็น*** นี่ก็เป็นอีกจุดเริ่มต้นของมิตรภาพใหม่
ในกลุ่มเริ่มมีออกทริปบ้าง ทุกคนก็ช่วยเหลือกันดีครับ ดูแลกันตลอดทาง ... ไม่รู้ว่ามาจากไหนกันบ้าง แต่เรามีเป้าหมายเดียวกันคือการปั่นครับ ... ทุกอย่างมันช่างไปในทิศทางเดียวกัน
นอกจากนี้ก็ยังมีรายการแข่งปั่นการกุศลขำ ๆ แถวบ้านที่เพื่อน ๆ ชวนไป เป็นรายการแรกของผมเลย สนุกดีครับ ประสบการณ์แรกในชีวิตครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้ผมมีประสบการณ์ที่ดีเพิ่มขึ้นจากความตั้งใจแค่ปั่นออกกำลังกาย (จริง ๆ มีหลายรายการมากแต่ไม่สะดวกไป)
ผลจากการปั่นอย่างต่อเนื่องทำให้ตอนนี้ผมเริ่มปั่นได้ดีขึ้น เร็วขึ้น Average ดีขึ้นจาก 19-20 กม/ชม มาเป็น 30ขึ้น แต่ยังไม่มีความรู้ที่ถูกต้องมากเท่าไรในการปั่นจักรยาน ผมรู้ตัวเลยว่ายังมีอีกเยอะที่ผมต้องค่อย ๆ เรียนรู้ต่อไป กว่าจะปั่นได้ 150 200 300 400 500 กม. แบบท่านอื่น ๆ สัญญากับตัวเองครับ
พอก่อน ๆ เดี่ยวจะกลายเป็นเข้าเรื่องจักรยานมากเกินไป ขอสรุปเรื่องความสำเร็จในการลดน้ำหนักด้วยการปั่นจักรยานในครั้งนี้กันดีกว่าครับ ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงกับชีวิตผมบ้าง เผือจะมีแรงจูงใจให้กับเพื่อน ๆ สมาชิกท่านอื่นครับ
1 ผมลดน้ำหนักได้ 25 กก. ตามที่ตั้งใจ เอวลดลง 7 นิ้ว (41=>34) ใส่เสื้อผ้ามั่นใจขึ้นมากครับ (ซื้อใหม่ยกตู้)
2 สุขภาพผมดีขึ้นมาก น้ำตาล ไขมัน ไตรกีสไลน์ ค่าทำงานตับ ลดลง
3 ผมมีเพื่อนใหม่ที่มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน แบบไม่หวังผลตอบแทน ผมมีความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นเยอะเลย
4 ผมกลับมาเล่นวอลเลย์บอลได้ดีขึ้น (เป็นกีฬาแรกที่ผมรักและทุ่มเทมาก) ปั่นจักรยานแล้วกระโดดสูงขึ้นเยอะ ตีบอลหนักขึ้น
5 และสุดท้ายผมเลิกเล่นไพ่ (เกือบสมบูรณ์) กับสมาคมแม่บ้าน เพราะเอาเวลามานอนพักผ่อนเก็บแรงปั่น (เหลือแต่หวย)
ดังนั้น 5 เดือน กับเงินประมาณ 30000 บาทที่จ่ายไปสำหรับจักรยาน มันคุ้มค่ามากแล้วกับสิ่งที่ผมได้มา
ขอให้ทุกท่านที่ท้อแท้ จงมีกำลังใจสู้ต่อไปครับ ทำได้ไม่ได้อยู่ที่ตัวเราเอง
เป็นกำลังใจให้ครับ
สวัสดีครับ