เฮ้ยยยย ไปภูสอยดาวกัน???
ไปวันไหน ไปกี่คน ใครไปมั่ง อืมมมมม เดี๋ยวขอดูก่อนนะ
หลายครั้งที่เรามักจะได้ยินคำถาม และคำตอบเหล่านี้อยู่บ่อยๆ
ซึ่งบางครั้งก็เราเองนี่แหละ ที่เป็นคนพูดประโยคพวกนั้น
"ดูก่อนนะ ดูก่อนนะ ดูก่อนนะ"
มัวแต่ดูอะไรอยู่ล๊าาาาา ไปเลยดิ๊ 555
อะ ขอเกริ่นนิดนึง ปกติเวลาไปไหน เราจะชอบจดบันทึกเป็นไดอารี่เก็บไว้อยู่แล้ว
แต่ไม่เคยเอามาลงพันทิปเลย แต่ครั้งนี้ขอสักหน่อย
เพราะมันสุดๆจริงๆ แล้วอีกอย่างเพื่อนบอกว่า อยากมีรูปตัวเองอยู่ในกระทู้พันทิปสักครั้งนึงในชีวิต
ฟังแล้วน่าสงสาร ลงให้ก็ได้ 555555555
เริ่มละนะ...!!!
จุดประสงค์หลักคือ เราจะไปดูดาวกัน ก็เลยเลือกวันที่เป็นคืนเดือนมืด
ออกเดินทางกันคืนวันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม
พอเลิกงานปุ๊บก็รีบกลับบ้าน ไปอาบน้ำแต่งตัว จัดกระเป๋า แล้วขับรถออกมารับเพื่อนๆตามสถานที่ที่นัดกันไว้
จุดสตาร์ทของเรา คือ บีทีเอสจตุจักร เวลา 22.00 น. (เลทนิดหน่อย)
เดินทางโดยรถส่วนตัว บรรทุกสมาชิก 5 คน
ไปตามเส้นพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข1)
ดูแผนที่เปิดแมพ ตามป้าย ตามทางไปเรื่อยๆ มุ่งหน้าสู่พิษณุโลกกกกกกกกก
ริงๆวันศุกร์นี่ เป็นวันที่เราใกล้หมดแรงจะทำอะไรแล้วนะ
เพราะเหนื่อยกับงานมาทั้งอาทิตย์
แล้วนี่กำลังจะไปปีนเขานะแก ไม่ได้ไปนั่งกินลมชมวิวกระดิกเท้าจิบเบียร์ริมทะเล
แกรรรรร ฉันจะรอดไหม
แต่เอาน่ะ เดี๋ยวไปนอนเอาแรงบนรถก็ได้
แต่แกเอ้ยยยย ฉันต้องป็นคนคอยบอกทาง แล้วฉันจะได้นอนไหม (นี่ฉันเถียงกับตัวเองอยู่หรอ บ้าจริง!!)
สรุปคือ ตลอดการเดินทาง 8 ชั่วโมงอิชั้น ไม่ได้นอนเลยค่ะ
หลับไม่ลง บวกกับไม่กล้านอนด้วย
เพราะเดินทางตอนกลาวคืนค่อนข้างอันตราย
จาก กทม.ไป พิษณุโลกไม่เท่าไหร่
แต่เส้นทางจากพิษณุโลก ไปยังภูสอยดาว ค่อนค้างเคี้ยวคดลดเลี้ยว ลาด-ชันพอสมควร
เกือบหลุดโค้งไปทีนึง ทำเอาตื่นกันทั้งคัน แล้วข้างทางมองแทบไม่เห็นอะไรเลย
ไฟทางไม่มี แต่พอจะรู้สึกได้ ว่ามันคือเหวววววว ใช่จ้ะเหว
(จริงๆพวกเราดันอ้อมไปอีกทาง คือขับเข้าทางเขื่อนแควน้อยฯ
เพราะคิดว่าน่าจะเป็นทางลัด แต่เปล่าเลย อย่างอ้อม และมืดมากกกกก)
ก็นั่งเกร็งกันไปทั้งคัน แต่ก็มาถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพจ้าาาา
ถึงอุทยาน ประมาณ 6 โมงเช้า (ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 8 ชั่วโมง)
แต่ 6 โมงแล้วยังมืดอยู่เลย รู้สึกจะมาถึงกลุ่มแรกด้วย
พอลงจากรถนี่ นี่ัสัมผัสได้ถึงความหนาวทันที อากาศเย็นสะท้านมาก
สั่นไปถึงต่อมหมวกไตเลยทีเดียว
พี่เจ้าหน้าที่อุทยานก็ใจดี ชวนไปนั่งคุยรอบกองไฟอยู่นาน พี่เค้าก็เล่าประวัติให้ฟังนู่นนั่นนี่
แต่ที่ทำให้เราแทบถอดใจ คือพี่เค้าบอกว่า บนภูมีเสือ...!!!!
วันนั้นหลานเค้าขึ้นไป ถึงประมาณเนินที่ 4 เจอเสืออยู่ตรงเนินเลย
หลานเค้ากลัวมาก รีบวิ่งกลับลงมาเลย
ตอนฟังนี่ หัวแทบหดลงไปในกระดอง ฮือออออ หนูกลัวเสือ
แต่อิเพื่อนเรา มันดันหัวเราะ เราก็งง หัวเราะทำไม !!!
มันเลยบอกว่า เนินที่4 มันชื่อเนินเสือโคร่ง
คุณพระ อิขั้นโดนหลอกกกกกกก !!!

ระหว่างรอเวลาร้านค้าเปิด ก็ไปแอบงีบบนรถได้หน่อยนึง
ตื่นมา ตอน 8 โมงกว่า ล้างหน้าแปรงฟัน แล้วไปกินข้าวที่ร้านค้าของอุทยาน
สั่งข้าวไปกินมื้อเที่ยงบนภูด้วยคนละเซ็ต
แล้วก็ซื้อของไว้สำหรับทำกินบนภู
ทีแรก ตั้งใจจะแวะตลาดระหว่างทาง แต่มันมืดมาก หาตลาดไม่เจอ หรือว่ามาผิดทางก็ไม่รู้
ภาพความฝันที่จะทำต้มยำ ลาบ สเต็ก บนความสูง 1,633 m หายไปกับตา เสียใจจจจT T
แต่ๆๆๆ เดชะบุญ มีรถกับข้าวผ่านมา เลยได้เนื้อไก่มาโลนึง เอาไปทำสเต็กกินข้างบน เย่!!!
จัดการของกินเสร็จแล้ว ก็ไปทำเรื่องจ้างลูกหาบ กับเช่าเต๊นท์
ทำเรื่องข้างล่าง แล้วไปรับของข้างบน
ทีแรก งง อยู่ตั้งนานเรื่องราคาเช่า เพราะที่ป้าย กับราคาเช่าจริงๆ ไม่เหมือนกัน
พวกเรามีถุงนอนกันไป กะว่าจะเช่าแค่เต๊นท์ กับเบาะรองนอน
แต่แหม ราคาเหมาหมดทุกอย่าง 700 บาท ต่อเต๊นท์ 1 หลัง สำหรับนอน 1 คน
และ ราคา 800 บาท ต่อเต๊นท์ 1หลัง สำหรับนอน 2 คน
ถ้าเอาเต๊นท์อย่างเดียว 705 บาท เอิ่มมมมมมมม จนตอนนี้ ก็ยัง งง อยู่
สรุปคือ เค้าบังคับอ้อมๆ ว่าให้เราเช่าแบบยกเซตในราคาเหมาไปเลย
ถุงนอนที่เอามาก็ยัดเก็บไว้ในรถเหมือนเดิม เอามาทำมายยยยยยย T T
อันนี้ป้ายราคาที่ติดไว้ แต่ไม่ใช้ราคานี้แล้วนะคะ
ราคา ณ ปัจจุบัน
ใบเช่าของเรา ว่าจะเช่าอะไรบ้าง
ด้วยความ งง กว่าจะถึงบางอ้อ ก็ขีดฆ่าไปหลายที เห็นได้จากรอยปากกาบนกระดาษ
คือเช่าราคาเหมาตั้งแต่แรกก็จบและ
เมื่อฉันเข็นตัวเองขึ้นภูเขา...เดิน(สี่)เท้า ขึ้นภู ดูดาว...ที่ภูสอยดาว :)
เฮ้ยยยย ไปภูสอยดาวกัน???
ไปวันไหน ไปกี่คน ใครไปมั่ง อืมมมมม เดี๋ยวขอดูก่อนนะ
หลายครั้งที่เรามักจะได้ยินคำถาม และคำตอบเหล่านี้อยู่บ่อยๆ
ซึ่งบางครั้งก็เราเองนี่แหละ ที่เป็นคนพูดประโยคพวกนั้น
"ดูก่อนนะ ดูก่อนนะ ดูก่อนนะ"
มัวแต่ดูอะไรอยู่ล๊าาาาา ไปเลยดิ๊ 555
อะ ขอเกริ่นนิดนึง ปกติเวลาไปไหน เราจะชอบจดบันทึกเป็นไดอารี่เก็บไว้อยู่แล้ว
แต่ไม่เคยเอามาลงพันทิปเลย แต่ครั้งนี้ขอสักหน่อย
เพราะมันสุดๆจริงๆ แล้วอีกอย่างเพื่อนบอกว่า อยากมีรูปตัวเองอยู่ในกระทู้พันทิปสักครั้งนึงในชีวิต
ฟังแล้วน่าสงสาร ลงให้ก็ได้ 555555555
เริ่มละนะ...!!!
จุดประสงค์หลักคือ เราจะไปดูดาวกัน ก็เลยเลือกวันที่เป็นคืนเดือนมืด
ออกเดินทางกันคืนวันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม
พอเลิกงานปุ๊บก็รีบกลับบ้าน ไปอาบน้ำแต่งตัว จัดกระเป๋า แล้วขับรถออกมารับเพื่อนๆตามสถานที่ที่นัดกันไว้
จุดสตาร์ทของเรา คือ บีทีเอสจตุจักร เวลา 22.00 น. (เลทนิดหน่อย)
เดินทางโดยรถส่วนตัว บรรทุกสมาชิก 5 คน
ไปตามเส้นพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข1)
ดูแผนที่เปิดแมพ ตามป้าย ตามทางไปเรื่อยๆ มุ่งหน้าสู่พิษณุโลกกกกกกกกก
ริงๆวันศุกร์นี่ เป็นวันที่เราใกล้หมดแรงจะทำอะไรแล้วนะ
เพราะเหนื่อยกับงานมาทั้งอาทิตย์
แล้วนี่กำลังจะไปปีนเขานะแก ไม่ได้ไปนั่งกินลมชมวิวกระดิกเท้าจิบเบียร์ริมทะเล
แกรรรรร ฉันจะรอดไหม
แต่เอาน่ะ เดี๋ยวไปนอนเอาแรงบนรถก็ได้
แต่แกเอ้ยยยย ฉันต้องป็นคนคอยบอกทาง แล้วฉันจะได้นอนไหม (นี่ฉันเถียงกับตัวเองอยู่หรอ บ้าจริง!!)
สรุปคือ ตลอดการเดินทาง 8 ชั่วโมงอิชั้น ไม่ได้นอนเลยค่ะ
หลับไม่ลง บวกกับไม่กล้านอนด้วย
เพราะเดินทางตอนกลาวคืนค่อนข้างอันตราย
จาก กทม.ไป พิษณุโลกไม่เท่าไหร่
แต่เส้นทางจากพิษณุโลก ไปยังภูสอยดาว ค่อนค้างเคี้ยวคดลดเลี้ยว ลาด-ชันพอสมควร
เกือบหลุดโค้งไปทีนึง ทำเอาตื่นกันทั้งคัน แล้วข้างทางมองแทบไม่เห็นอะไรเลย
ไฟทางไม่มี แต่พอจะรู้สึกได้ ว่ามันคือเหวววววว ใช่จ้ะเหว
(จริงๆพวกเราดันอ้อมไปอีกทาง คือขับเข้าทางเขื่อนแควน้อยฯ
เพราะคิดว่าน่าจะเป็นทางลัด แต่เปล่าเลย อย่างอ้อม และมืดมากกกกก)
ก็นั่งเกร็งกันไปทั้งคัน แต่ก็มาถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพจ้าาาา
ถึงอุทยาน ประมาณ 6 โมงเช้า (ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 8 ชั่วโมง)
แต่ 6 โมงแล้วยังมืดอยู่เลย รู้สึกจะมาถึงกลุ่มแรกด้วย
พอลงจากรถนี่ นี่ัสัมผัสได้ถึงความหนาวทันที อากาศเย็นสะท้านมาก
สั่นไปถึงต่อมหมวกไตเลยทีเดียว
พี่เจ้าหน้าที่อุทยานก็ใจดี ชวนไปนั่งคุยรอบกองไฟอยู่นาน พี่เค้าก็เล่าประวัติให้ฟังนู่นนั่นนี่
แต่ที่ทำให้เราแทบถอดใจ คือพี่เค้าบอกว่า บนภูมีเสือ...!!!!
วันนั้นหลานเค้าขึ้นไป ถึงประมาณเนินที่ 4 เจอเสืออยู่ตรงเนินเลย
หลานเค้ากลัวมาก รีบวิ่งกลับลงมาเลย
ตอนฟังนี่ หัวแทบหดลงไปในกระดอง ฮือออออ หนูกลัวเสือ
แต่อิเพื่อนเรา มันดันหัวเราะ เราก็งง หัวเราะทำไม !!!
มันเลยบอกว่า เนินที่4 มันชื่อเนินเสือโคร่ง
คุณพระ อิขั้นโดนหลอกกกกกกก !!!
ระหว่างรอเวลาร้านค้าเปิด ก็ไปแอบงีบบนรถได้หน่อยนึง
ตื่นมา ตอน 8 โมงกว่า ล้างหน้าแปรงฟัน แล้วไปกินข้าวที่ร้านค้าของอุทยาน
สั่งข้าวไปกินมื้อเที่ยงบนภูด้วยคนละเซ็ต
แล้วก็ซื้อของไว้สำหรับทำกินบนภู
ทีแรก ตั้งใจจะแวะตลาดระหว่างทาง แต่มันมืดมาก หาตลาดไม่เจอ หรือว่ามาผิดทางก็ไม่รู้
ภาพความฝันที่จะทำต้มยำ ลาบ สเต็ก บนความสูง 1,633 m หายไปกับตา เสียใจจจจT T
แต่ๆๆๆ เดชะบุญ มีรถกับข้าวผ่านมา เลยได้เนื้อไก่มาโลนึง เอาไปทำสเต็กกินข้างบน เย่!!!
จัดการของกินเสร็จแล้ว ก็ไปทำเรื่องจ้างลูกหาบ กับเช่าเต๊นท์
ทำเรื่องข้างล่าง แล้วไปรับของข้างบน
ทีแรก งง อยู่ตั้งนานเรื่องราคาเช่า เพราะที่ป้าย กับราคาเช่าจริงๆ ไม่เหมือนกัน
พวกเรามีถุงนอนกันไป กะว่าจะเช่าแค่เต๊นท์ กับเบาะรองนอน
แต่แหม ราคาเหมาหมดทุกอย่าง 700 บาท ต่อเต๊นท์ 1 หลัง สำหรับนอน 1 คน
และ ราคา 800 บาท ต่อเต๊นท์ 1หลัง สำหรับนอน 2 คน
ถ้าเอาเต๊นท์อย่างเดียว 705 บาท เอิ่มมมมมมมม จนตอนนี้ ก็ยัง งง อยู่
สรุปคือ เค้าบังคับอ้อมๆ ว่าให้เราเช่าแบบยกเซตในราคาเหมาไปเลย
ถุงนอนที่เอามาก็ยัดเก็บไว้ในรถเหมือนเดิม เอามาทำมายยยยยยย T T
อันนี้ป้ายราคาที่ติดไว้ แต่ไม่ใช้ราคานี้แล้วนะคะ
ราคา ณ ปัจจุบัน
ใบเช่าของเรา ว่าจะเช่าอะไรบ้าง
ด้วยความ งง กว่าจะถึงบางอ้อ ก็ขีดฆ่าไปหลายที เห็นได้จากรอยปากกาบนกระดาษ
คือเช่าราคาเหมาตั้งแต่แรกก็จบและ