ทริปนี้มีเรื่องเล่า #ตอนที่ 7 > พิชิตยอดเขาสูง 2102 เมตร "ภูสอยดาว" อุตรดิตถ์
>> ไหนๆ ผมก็ได้มีการพูดถึง "ภูสอยดาว" ในเรื่องเล่าตอนที่ 6 ของทริป ดอยหลวงเชียงดาว มาแล้ว เรื่องเล่าตอนนี้ผมเลยจะขอเล่าถึงทริปภูสอยดาวเลยแล้วกันครับ
>> เห็นการเรื่องเล่านี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2565 ซึ่งหลังจากที่ผมไม่ได้เดินป่าเขามานานมากพอสมควรนับตั้งแต่ปี 2560 ที่สุดท้ายก็ภูกระดึงโน้นเลย และได้ย้ายที่ทำงานใหม่จาก จ.นครราชสีมา เข้ามาสู่ จ.สมุทรปราการ ในปี 2563 เพื่อนที่เคยเดินป่าด้วยกันของที่ทำงานที่เก่าก็ต่างแยกย้ายกันไปจนไม่ได้เดินป่ากันอีกเลย ซึ่งพอมาที่ทำงานที่ใหม่ และใช้เวลาปรับตัวพักหนึ่ง ซึ่งเพื่อนที่ใหม่ก็ไม่มีไลฟ์สไตล์ในการเดินป่าปีนเขาเลย และตอนนั้นผมก็ยังไม่ค่อยกล้าที่จะออกจากพื้นที่ Safe Zone เพื่อไปเที่ยวคนเดียวเลยสักครั้ง ทริปเดินป่าจึงหยุดระงับยาวมาตลอด
>> จนเมื่อผมเริ่มสนิทกับคนในสถานที่ใหม่มากขึ้น และมีการพูดคุยกับพี่แผนกเดียวกันในที่ทำงาน เขาก็มีความชอบอยากจะไปเดินป่าปีนเขาเหมือนกัน และไม่กล้าไปคนเดียวเพราะเป็นผู้หญิง ส่วนจะหาเพื่อนไปด้วยก็ไม่มีเพื่อนสไตล์เดียวกันเหมือนผม เราจึงชวนกันไปเที่ยว ภูสอยดาว ซึ่งผมก็จำไม่ได้หรอกว่าทำไมตอนนั้นถึงเลือกจะไปที่ ภูสอยดาว เราจึงตกลงกันว่าจะไปช่วงเดือนมกราคมซึ่งเรามีวันหยุดช่วงนั้นพอดี และเราก็ตั้งใจอยากขึ้นยอดสูงสุด 2102 เมตร ด้วย โดยที่เราก็ไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรมากมายว่าช่วงไหนเป็นยังไง ช่วงไหนดูอะไร ช่วงไหนสวยหรอก ก็มือใหม่ทั้งคู่ ได้แค่ดูรีวิวจากคนอื่นๆ และทำการจองเพื่อเดินทางในวันหยุดเท่านั้น
>> ซึ่งช่วงที่ไหนก็เป็นช่วงที่อุทยานเริ่มเปิดให้กลับมาเที่ยวได้ไม่นาน เพราะสถานการณ์โควิดที่ระบาด การจองเลยมีหลายอย่างที่ต้องแสดงเพิ่มขึ้นจากปกติ ทั้งผลตรวจโควิด หลักฐานแสดงการฉีดวัคซีน เป็นต้น ก่อนที่จะไปเรื่องของผมต่อ เรามาดูวิธีการจองการเดินทาง จองการเดินป่า จองอุปกรณ์ และอื่นๆ ที่ผมทำกันครับ ซึ่งผมจะลงรูปแบบการจองของรายละเอียดในปีปัจจุบันนะครับ
รายละเอียดการจอง
>>
จองพื้นที่กางเต็นท์ ผ่านเว็บไซต์
พื้นที่กางเต็นท์ และอุปกรณ์แคมป์ ซึ่งเราต้องทำการจอง จำนวน 3 วัน 2 คืน สำหรับคนที่ต้องการขึ้นยอด 2102 สามารถจองพื้นที่กางเต็นท์ล่วงหน้าได้ 60 วัน เสียค่าใช้จ่าย ดังนี้ ค่าพื้นที่กางเต็นท์ 30 บาท/คน/คืน และสำหรับคนที่ไม่มีเต็นท์ และอุปกรณ์แคมป์ไปเองก็สามารถจองทางนี้ได้เลย (ซึ่งในระบบจะสามารถจอง เต็นท์ ถุงนอน หมอน แผ่นรองนอนได้ แต่รายการอื่นต้องไปติดต่อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หรือไปติดต่อด้านบนลานกางเต็นท์ ควรที่จะจองเต็นท์ และอุปกรณ์แคมป์ล่วงหน้า เพราะอาจไม่เพียงพอ)
>> ซึ่งผมทำการจองเต็นท์ หมอน ถุงนอน และแผ่นรองนอนไว้ล่วงหน้าเลย

>> ซึ่งทุกอย่างจะอยู่ด้านบนแล้ว ไม่ต้องแบกขึ้นไป แต่แก๊สกระป๋องต้องรับจากด้านล่าง และนำขึ้นไป และนำลงมาเองด้วย
>>
จองขึ้นยอด เมื่อจองพื้นที่กางเต็นท์เรียบร้อยแล้ว นักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะพิชิตยอด ต้องทำการจองด้วยการส่งข้อความ inbox เข้ามาที่เพจของอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
เพจอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว โดยแจ้งรายละเอียด ดังนี้ (ซึ่งปีที่ผมไปผมจำไม่ได้แล้วว่าการจองขึ้น 2102 ใช้วิธีไหนแล้ว)
> แสดงหลักฐานการจองพื้นที่กางเต็นท์
> จำนวนผู้ประสงค์จะพิชิตยอด 2102
> ชื่อ-นามสกุล และเบอร์โทรศัพท์ (ของทุกคน) โดยชื่อ-นามสกุลของนักท่องเที่ยวต้องตรงกับบัตรประชาชน และอย่าลืมนำบัตรประชาชนหรือ Thai ID มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่จุดลงทะเบียน
>> ซึ่งการขึ้นยอด 2102 จะมีค่าใช้จ่าย 500 บาท/คน โดยเปิดจองทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ เริ่มรับจองตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.
>> การเตรียมตัว เพื่อขึ้นยอดภูสอยดาว 2102 เมตร
> การแต่งกาย : ควรเป็นเสื้อแขนยาว กางเกงขายาวที่สวมใส่สบายระบายอากาศได้ดี
> รองเท้า : ควรเป็นรองเท้าเดินป่าแบบหุ้มส้น หรือหุ้มข้อ พื้นรองเท้ารองรับการกระแทก ยึดเกาะได้ดี น้ำหนักเบา และควรสวมถุงเท้าหนาเพื่อป้องกันรองเท้ากัด
> เป้สัมภาระ : ควรมีขนาดที่เหมาะสมกับลำตัว และมีน้ำหนักเบา คล่องตัว
> อาหาร และน้ำดื่ม : เตรียมสำหรับมื้อเที่ยงด้านบน อาหารทานง่าย หรือขนม น้ำหนักเบา น้ำดื่มให้เพียงพอต่อการปีนเขา
>> โทรศัพท์สอบถามของอุทยาน 09 5629 9528 (เวลา 08.00-16.30 น.)
>> การเดินทาง ไปอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ก็มีหลากหลายวิธี ทั้งรถส่วนตัว รถเช่า รถประจำทาง หรือรถเหมา แต่ครั้งนี้ผมจะมานำเสนอวิธีการของผมแล้วกันครับ มาดูจุดหมายปลายทางก่อนเลย
> อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จุดที่เราต้องมาลงทะเบียนก่อนขึ้นภูสอยดาว
> จุดเริ่มเดิน น้ำตกภูสอยดาว ซึ่งจะมีรถกระบะของอุทยานมาส่งที่นี่ไม่ต้องนำรถมาเอง สามารถจอดรถไว้ตรงที่ทำการอุทยานได้เลย แต่ปีที่ผมมาผมต้องนั่งรถสองแถวที่เหมากันมาที่จุดนี้เอง
> กรุงเทพ-พิษณุโลก ผมเดินทางมาจาก กรุงเทพ โดยนั่งรถบัสประจำทาง กรุงเทพ-พิษณุโลก ของ บขส. ราคาประมาณ 300 กว่าบาท ขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต ไปลงที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดพิษณุโลก แห่งที่ 2 ขึ้นรถรอบ 2 ทุ่ม มาดูวิธีการเดินทางที่ไม่ใช่รถส่วนตัวกันครับ
> รถบัสประจำทาง รถสายกรุงเทพ-พิษณุโลก ผมจองออนไลน์ผ่านเว็บรับจองตั๋วเพื่อความสะดวก และดูรถได้หลายเจ้า ทั้ง บริษัท บขส. พิษณุโลกยานยนต์ และสุโขทัยธานี ทาง
Busonline Ticket ซึ่งก็จะมีค่าดำเนินการ หรือจองออนไลน์เองโดยตรงกับสายรถทัวร์เลยก็ได้แค่รู้ว่ามีรถบริษัทไหนวิ่งเส้นทางนี้บ้าง รอบที่แนะนำคือ ไม่เกิน 21.00 น. ครับ
> รถไฟ รถไฟสายเหนือที่วิ่งผ่านสถานีรถไฟพิษณุโลก ซึ่งก็น่าจะเป็นรถเร็วขบวน 107 ที่ออกเวลา 20.45 น. สามารถจองออนไลน์ผ่านเว็บ
จองตั๋วรถไฟออนไลน์ ควรที่จะจองล่วงหน้า เพราะรถไฟอาจเต็ม
> พิษณุโลก-ภูสอยดาว ผมใช้วิธีการเหมารถหารเฉลี่ย ซึ่งอันที่จริงก็มีหลายเจ้า
> รถเหมา ผมจองรถของพี่จ๋า ที่เป็นขาประจำรับส่งนักท่องเที่ยวที่จะไปเดิน ภูสอยดาว และเขาหลวงสุโขทัย ซึ่งมีทั้งรถตู้ และรถ 2 แถว แต่ผมชอบความโล่งๆ สัมผัสอากาศ ชอบชมวิว และต้องการราคาที่ประหยัดขึ้น เลยเลือกนั่ง 2 แถว ในราคาไป-กลับ 400 บาท จะนั่งขาเดียวก็ได้ ขาละ 200 บาท โดยจะว่าหารก็ไม่เชิง เพราะพี่เขาจะเป็นคนจัดหารคนมาขึ้นรถให้เต็มจำนวนที่เขากำหนดเอง โดยที่เราไม่ได้ต้องไปหาคนอื่นมาร่วมเอง สามารถติดต่อ พี่จ่า เบอร์โทรนี้ได้เลย 083-5998826 ครับ ซึ่งต้องจองล่วงหน้านะครับ เพราะเขาจะกำหนดคนขึ้นรถ และดึงเราเข้ากลุ่มของคนในรถคันนั้น พร้อมให้เราได้คุยนัดหมายสถานที่ขึ้นรถกับคนขับรถด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จุดขึ้นรถจะมี 2 ที่ คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดพิษณุโลก แห่งที่ 2 และสถานีรถไฟพิษณุโลกสำหรับคนที่นั่งรถไฟมาที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทาง ซึ่งเวลาจองตั๋วเดินทางควรให้มาถึงที่พิษณุโลกไม่เกินตี 4 เพราะเราต้องต่อรถประมาณ 3 ชม. ซึ่งจะไปถึงที่ทำการประมาณ 7 โมงกว่า
> รถประจำทาง ต้องนั่งรถประจำทางจากพิษณุโลก ไปลง อ.ชาติตระการ เที่ยวแรกประมาณตี 5 ราคาประมาณ 90 บาท ใช้เวลาประมาณ 3 ชม. เมื่อไปถึง อ.ชาติตระการ ก็ต่อวินมอเตอร์ไซต์ไปลงที่ตลาดสดเทศบาลตำบลป่าแดง ประมาณ 20 บาท จากนั้นต่อรถสองแถวสีส้มจะออกจากตลาดเวลา 10.30 กับ 12.30 น. เท่านั้นในแต่ละวัน (อาจมีการคลาดเคลื่อน) และต้องสอบถามก่อนว่าเวลาไหนจะผ่านไปภูสอยดาวบางที 10.30 น. อาจจะไม่ผ่าน ก็ต้องนั่ง 12.30 น. ไป ถ้าเวลา 10.30 น. ผ่านก็ไปถึงเกือบบ่าย 2 ก็ยังพอขึ้นภูสอยดาวทัน ถ้าเวลา 12.30 น. ก็เกือบ 4 โมงเย็น อาจขึ้นภูสอยดาวไม่ได้ ราคาคนละ 100 บาท
>> ช่วงเปิดภูสอยดาว เปิดตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึงกลางเดือนมกราคมของทุกปี รองรับจำนวนนักท่องเที่ยว 450 คน/วัน (อาจเปลี่ยนแปลงในแต่ละปี)
>>
เอกสารลงทะเบียน ดาวน์โหลดใบลงทะเบียน และกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนที่
เอกสารลงทะบียน ชื่อไม่พอต่อด้านหลังได้เลยนำไปส่งที่ทำการในวันเดินทาง หรือไปรับเอกสารตรงป้อมทางเข้าก็ได้ เริ่มปล่อยบัตรคิวลงทะเบียนขึ้นลานสน ตั้งแต่ เวลา 24.01-12.30 น. รับบัตรคิวได้ที่ด่านเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน ทางเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
>> เวลาลงทะเบียน เวลา 08.00-13.00 น. หากมาหลังจากเวลา 13.00 น. ไม่อนุญาตให้ลงทะเบียนขึ้นลานสนทุกกรณี
>> ไฮไลต์ของการเที่ยวภูสอยดาว
> พิชิตยอดสูงสุดเขาภูสอยดาว : ยอด 2102 เมตร เปิดพิชิตตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ถึงปิดภูสอยดาว จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวจำนวน 80 คน/วัน จำกัดอายุไม่เกิน 60 ปี และต้องไม่มีโรคประจำตัว
> ชมทุ่งดอกหงอนนาค : ทุ่งดอกไม้สีม่วงที่บานสะพรั่งเต็มพื้นที่ในช่วงฤดูฝน เริ่มบานช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน
>> ผมว่ารายละเอียดต่างๆ คงอัดแน่นแล้วละ เราไปต่อที่เรื่องเล่าของผมดีกว่านะ
[CR] ทริปนี้มีเรื่องเล่า #ตอนที่ 7 >พิชิตยอดเขา 2102 "ภูสอยดาว"
>> ไหนๆ ผมก็ได้มีการพูดถึง "ภูสอยดาว" ในเรื่องเล่าตอนที่ 6 ของทริป ดอยหลวงเชียงดาว มาแล้ว เรื่องเล่าตอนนี้ผมเลยจะขอเล่าถึงทริปภูสอยดาวเลยแล้วกันครับ
>> เห็นการเรื่องเล่านี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2565 ซึ่งหลังจากที่ผมไม่ได้เดินป่าเขามานานมากพอสมควรนับตั้งแต่ปี 2560 ที่สุดท้ายก็ภูกระดึงโน้นเลย และได้ย้ายที่ทำงานใหม่จาก จ.นครราชสีมา เข้ามาสู่ จ.สมุทรปราการ ในปี 2563 เพื่อนที่เคยเดินป่าด้วยกันของที่ทำงานที่เก่าก็ต่างแยกย้ายกันไปจนไม่ได้เดินป่ากันอีกเลย ซึ่งพอมาที่ทำงานที่ใหม่ และใช้เวลาปรับตัวพักหนึ่ง ซึ่งเพื่อนที่ใหม่ก็ไม่มีไลฟ์สไตล์ในการเดินป่าปีนเขาเลย และตอนนั้นผมก็ยังไม่ค่อยกล้าที่จะออกจากพื้นที่ Safe Zone เพื่อไปเที่ยวคนเดียวเลยสักครั้ง ทริปเดินป่าจึงหยุดระงับยาวมาตลอด
>> จนเมื่อผมเริ่มสนิทกับคนในสถานที่ใหม่มากขึ้น และมีการพูดคุยกับพี่แผนกเดียวกันในที่ทำงาน เขาก็มีความชอบอยากจะไปเดินป่าปีนเขาเหมือนกัน และไม่กล้าไปคนเดียวเพราะเป็นผู้หญิง ส่วนจะหาเพื่อนไปด้วยก็ไม่มีเพื่อนสไตล์เดียวกันเหมือนผม เราจึงชวนกันไปเที่ยว ภูสอยดาว ซึ่งผมก็จำไม่ได้หรอกว่าทำไมตอนนั้นถึงเลือกจะไปที่ ภูสอยดาว เราจึงตกลงกันว่าจะไปช่วงเดือนมกราคมซึ่งเรามีวันหยุดช่วงนั้นพอดี และเราก็ตั้งใจอยากขึ้นยอดสูงสุด 2102 เมตร ด้วย โดยที่เราก็ไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรมากมายว่าช่วงไหนเป็นยังไง ช่วงไหนดูอะไร ช่วงไหนสวยหรอก ก็มือใหม่ทั้งคู่ ได้แค่ดูรีวิวจากคนอื่นๆ และทำการจองเพื่อเดินทางในวันหยุดเท่านั้น
>> ซึ่งช่วงที่ไหนก็เป็นช่วงที่อุทยานเริ่มเปิดให้กลับมาเที่ยวได้ไม่นาน เพราะสถานการณ์โควิดที่ระบาด การจองเลยมีหลายอย่างที่ต้องแสดงเพิ่มขึ้นจากปกติ ทั้งผลตรวจโควิด หลักฐานแสดงการฉีดวัคซีน เป็นต้น ก่อนที่จะไปเรื่องของผมต่อ เรามาดูวิธีการจองการเดินทาง จองการเดินป่า จองอุปกรณ์ และอื่นๆ ที่ผมทำกันครับ ซึ่งผมจะลงรูปแบบการจองของรายละเอียดในปีปัจจุบันนะครับ
รายละเอียดการจอง
>> จองพื้นที่กางเต็นท์ ผ่านเว็บไซต์ พื้นที่กางเต็นท์ และอุปกรณ์แคมป์ ซึ่งเราต้องทำการจอง จำนวน 3 วัน 2 คืน สำหรับคนที่ต้องการขึ้นยอด 2102 สามารถจองพื้นที่กางเต็นท์ล่วงหน้าได้ 60 วัน เสียค่าใช้จ่าย ดังนี้ ค่าพื้นที่กางเต็นท์ 30 บาท/คน/คืน และสำหรับคนที่ไม่มีเต็นท์ และอุปกรณ์แคมป์ไปเองก็สามารถจองทางนี้ได้เลย (ซึ่งในระบบจะสามารถจอง เต็นท์ ถุงนอน หมอน แผ่นรองนอนได้ แต่รายการอื่นต้องไปติดต่อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หรือไปติดต่อด้านบนลานกางเต็นท์ ควรที่จะจองเต็นท์ และอุปกรณ์แคมป์ล่วงหน้า เพราะอาจไม่เพียงพอ)
>> ซึ่งผมทำการจองเต็นท์ หมอน ถุงนอน และแผ่นรองนอนไว้ล่วงหน้าเลย
>> ซึ่งทุกอย่างจะอยู่ด้านบนแล้ว ไม่ต้องแบกขึ้นไป แต่แก๊สกระป๋องต้องรับจากด้านล่าง และนำขึ้นไป และนำลงมาเองด้วย
>> จองขึ้นยอด เมื่อจองพื้นที่กางเต็นท์เรียบร้อยแล้ว นักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะพิชิตยอด ต้องทำการจองด้วยการส่งข้อความ inbox เข้ามาที่เพจของอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เพจอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว โดยแจ้งรายละเอียด ดังนี้ (ซึ่งปีที่ผมไปผมจำไม่ได้แล้วว่าการจองขึ้น 2102 ใช้วิธีไหนแล้ว)
> แสดงหลักฐานการจองพื้นที่กางเต็นท์
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้