เราสมัครพันทิปเพื่อเข้ามาแชร์ประสบการณ์ และขอบคุณข้อมูลต่างๆที่เราได้รับจากพันทิป โดยเราซุ่มอ่านกระทู้ต่างๆที่เกี่ยวกับธุรกิจของมนุษย์เงินเดือนแต่ละคนที่ได้เคยนำมาลงไว้ในเว็บ ขอแท็กห้องต่างๆที่เกี่ยวข้อง หากแท็กผิดห้องต้องขออภัยด้วย
เรื่องที่เราจะแชร์นี้เราลงมือทำผ่านไป 1 ปีแล้ว และตอนปัจจุบันเรายังเป็นมนุษย์เงินเดือนและยังขายของอยู่ เดี๋ยวเราจะค่อยๆแชร์ให้ฟังละกัน แต่มันก็เป็นแค่ร้านขายของกินข้างถนนเล็กๆ แต่มันใหญ่ในความภาคภูมิใจของเรา
เริ่มจากตัวเราเป็นเพียงแค่มนุษย์เงินเดือนทำงานมา 12 ปีเคยได้โบนัสอยู่ 2 ครั้ง เงินเดือนขึ้นประจำปีๆละ 3 - 5% บ้านเรามีอาชีพค้าขายใช้บ้านที่อาศัยเปิดเป็นร้านค้า ด้วยเหตุนี้เราจึงคุ้นเคยกับการค้าขายมาตั้งแต่เล็ก เมื่อ 5 ปีก่อน เราต้องย้ายงานจากใจกลางเมืองกรุงเทพมาทำงานในแถบชานเมืองนั่งรถไป-กลับทุกวัน วงจรชีวิตเดิมเช้าตื่นมาทำงาน เย็นกลับบ้าน มีสังสรรค์เจอเพื่อนบ้างตามปกติ จนผ่านเวลามา 4 ปี เรารู้สึกว่าเราเหนื่อยมากกับการมาทำงานไกลๆทุกวันจันทร์-ศุกร์ เราก็มีความคิดอยากมีบ้านเป็นของตัวเองใกล้ที่ทำงาน ซึ่งมันต้องใช้งานเยอะมากแค่คิดเราก็เหนื่อยแล้ว จนในที่สุดเราก็คิดว่าเราควรต้องหาอาชีพเสริมทำ แต่มันยากสำหรับเราที่ทำงานประจำแล้วจะหาอาชีพเสริมที่ไม่กระทบกับงานประจำ และไม่เหนื่อยเกินไป
เราใช้เวลาเกือบ 2 เดือน เพื่อคิดจะทำโปรเจคแรกของเรา และเราก็คิดได้ว่าเราจะขายของกิน เพราะน่าจะออกตัวง่ายสุด ไม่ต้องสต๊อกของเยอะ ใช้เงินหมุนเวียนไม่มาก แต่จะขายอะไรดีหละ นี่คือคำถามในใจเรา สินค้าผุดขึ้นเต็มหัวล้วนแต่เป็นของที่เราเดินตามตลาดของกิน เดินตามแหล่งอาหารทั้งนั้น สิ่งที่เราคิดในตอนนั้นก็มี
- ร้านนม-ขนมปัง
- ร้านขายสลัด
- ร้านของทอด (ของกินสำเร็จรูปนำมาทอดขาย)
- ร้านบาร์บีคิว
-ร้านเต้าฮวยฟรุ๊ตสลัด
เราใช้บริการพี่ goo ช่วยหาสินค้าต่างๆที่เราจะขาย ส่วนใหญ่จะเจอแต่แฟรนไชส์ลงทุนครั้งแรกก็หลักหมื่น ที่ทางก็ยังหาไม่ได้ ไม่รู้จะขายได้หรือเปล่า ความคิดพวกนี้น่าจะมีกันทุกคน สุดท้ายเราจึงตัดสินใจว่าเราทำของเราเองดีกว่า อย่างน้อยถ้าเจ็บตัวก็คงไม่มาก สุดท้ายเราก็ไม่รู้จะเลือกอะไรจากลิสต์ที่เราหา เราจึงตัดสินใจว่าเราจะขายของที่เราอยากกิน 555 เราชอบกินของปิ้งย่างก็เลยเป็นที่มาที่เราตัดสินใจเลือก ” ร้านบาร์บีคิว”
“ช่วงเริ่มทดลอง”
หลังจากที่ตัดสินใจได้แล้วว่าจะขายอะไร ถัดมาเราก็หาวิธีทำ โดยเราก็อาศัยพี่ goo หาสูตรต่างๆนานา พอเราหาสูตรได้แล้วก็เริ่มลงมือทำ เราเข้าแมคโครไปหาซื้อวัตถุดิบสำหรับมาทดลองทำ เริ่มจากเลือกซื้อเนื้อสัตว์ เราเลือกซื้อหมูกับไก่(เพราะเราไม่ทานเนื้อวัว) สะโพกหมู หัวไหล่หมู สันนอกหมู สันใจหมู สันคอหมู สันในไก่ อกไก่ สะโพกไก่ เราซื้อหมดเลย แต่ซื้ออย่างละนิดเพื่อมาลอง เพราะเราไม่รู้ว่าต้องใช้ส่วนไหน ส่วนวัตถุดิบสำหรับหมักเราซื้อโดยถามแม่เราว่าใช้ไรบ้างเวลาหมักเนื้อสัตว์ แต่ซอสสำหรับทาบาร์บีคิวแม่เราไม่รู้ เราก็เลยซื้อตามความคิดของเรา(สายจินล้วนๆ 555) อุปกรณ์ต่างๆรวมทั้งเตาย่างเราก็ถอยมาใหม่เลย จำได้ว่าเตาซื้อแบบใช้ไฟฟ้าเครื่องละห้าร้อยกว่าบาท
“ช่วงลงมือเข้าครัว”
วัตถุดิบพร้อมก็เริ่มกันเลย เราทำด้วยความสนุกเพราะเราไม่ค่อยได้ทำกับข้าว ส่วนใหญ่แม่ทำให้กิน พอเริ่มก็อึ้งไปแปปเพราะเราหั่นหมูไม่เป็น 555 เราก็เอาวะ หั่นตามที่คิดว่าใช่ ซอสหมักก็ตามแม่บอก และซอสก็ผสมเอง แม่เราบ่นเรามากว่าจะทำไปทำไม เราก็ตอบว่าเออหนะ พอเราเตรียมเสร็จก็เอาเข้าตู้เย็นหนึ่งคืนตามแม่บอกเหมือนเดิม
วันรุ่งขึ้นตื่นมาก็ทำเลย 555 ตื่นเต้นเหมือนเด็กๆเลย ซื้อผักที่ตลาดมาหั่น แล้วก็เสียบเป็นไม้ๆ เปิดเตาย่างกันเลย เราก็ย่างของเราไปเรื่อย สุกบ้างไม่สุกบ้างตามประสา ย่างให้ที่บ้านกินบ้าง แจกข้างบ้าน แจกญาติ แจกเพื่อน เราทำแบบนี้อยู่ประมาณ 1 เดือน จนกระทั่งลงตัวเรื่องสูตรต่างๆ แม่เราก็บ่นว่าเบื่อแล้วๆ เราถามทุกคนที่กินว่าเป็นไงบ้าง ทุกคนก็บอกว่าใช้ได้บ้าง เค็มไปบ้าง แห้งไปบ้าง แต่ทุกคนบอกว่าอร่อย แต่ไม่กินแล้วนะเบื่อมากกินบ่อยเกินไปละ 555 (อ่อ มีเพื่อนเราคนนึงทักว่าทำแจกใครๆก็บอกว่าอร่อย ลองถามดิว่าถ้าให้ซื้อกินจะซื้อมั้ย จะอร่อยแบบเดิมหรือเปล่า น่าคิดแฮะ)
“ช่วงหาสถานที่ขาย”
เราตระเวนไปทั่ว เน้นหาพวกตลาดตอนเย็น หรือไม่ก็ตลาดเสาร์-อาทิตย์ แล้วเราก็ไปเจอตลาดที่มีคนเดินเยอะมาก อยู่ตรงขนส่งสายใต้ใหม่ มีร้านค้าขายทั้งของกิน เสื้อผ้าและอื่นๆเพียบ เราปิ๊งเลยในตอนแรกที่เห็น เราเลยลองเดินสำรวจอยู่ประมาณ 3-4 ครั้งดูว่ามีใครขายของเหมือนเรามั้ย ปรากฎว่าไม่มีใครขายเลย เราก็เลยกะว่าจะลงหลักปักฐานตรงนี้เป็นที่แรก เราพยายามติดต่อเพื่อลงขายของ ด้วยความเป็นมือใหม่ และไม่ค่อยรู้เรื่อง จึงต้องคอยถาม เดินตามคนจัดตลาด(ตอนนั้นเป็นพวกคลองหลอดเก่ามาคุมตลาด) และแล้วเราก็ได้ล็อคขายของกว้าง 2*2 เมตร แต่เราไม่ใช่คนขายประจำ เราจึงต้องไปจองล็อคทุกวันที่จะขาย
ขออนุญาตลบรูปภาพ แล้วเดี๋ยวจะลงรูปในแต่ละเหตุการณ์ เผื่อเพื่อนอยากจะคอมเม้นต์เพิ่มเติม
แชร์ปสก.ครบรอบ 1 ปีของมนุษย์เงินเดือนงาน IT “อาชีพเสริมของมนุษย์เงินเดือน สร้างได้ด้วยการลงมือทำเท่านั้น”
เรื่องที่เราจะแชร์นี้เราลงมือทำผ่านไป 1 ปีแล้ว และตอนปัจจุบันเรายังเป็นมนุษย์เงินเดือนและยังขายของอยู่ เดี๋ยวเราจะค่อยๆแชร์ให้ฟังละกัน แต่มันก็เป็นแค่ร้านขายของกินข้างถนนเล็กๆ แต่มันใหญ่ในความภาคภูมิใจของเรา
เริ่มจากตัวเราเป็นเพียงแค่มนุษย์เงินเดือนทำงานมา 12 ปีเคยได้โบนัสอยู่ 2 ครั้ง เงินเดือนขึ้นประจำปีๆละ 3 - 5% บ้านเรามีอาชีพค้าขายใช้บ้านที่อาศัยเปิดเป็นร้านค้า ด้วยเหตุนี้เราจึงคุ้นเคยกับการค้าขายมาตั้งแต่เล็ก เมื่อ 5 ปีก่อน เราต้องย้ายงานจากใจกลางเมืองกรุงเทพมาทำงานในแถบชานเมืองนั่งรถไป-กลับทุกวัน วงจรชีวิตเดิมเช้าตื่นมาทำงาน เย็นกลับบ้าน มีสังสรรค์เจอเพื่อนบ้างตามปกติ จนผ่านเวลามา 4 ปี เรารู้สึกว่าเราเหนื่อยมากกับการมาทำงานไกลๆทุกวันจันทร์-ศุกร์ เราก็มีความคิดอยากมีบ้านเป็นของตัวเองใกล้ที่ทำงาน ซึ่งมันต้องใช้งานเยอะมากแค่คิดเราก็เหนื่อยแล้ว จนในที่สุดเราก็คิดว่าเราควรต้องหาอาชีพเสริมทำ แต่มันยากสำหรับเราที่ทำงานประจำแล้วจะหาอาชีพเสริมที่ไม่กระทบกับงานประจำ และไม่เหนื่อยเกินไป
เราใช้เวลาเกือบ 2 เดือน เพื่อคิดจะทำโปรเจคแรกของเรา และเราก็คิดได้ว่าเราจะขายของกิน เพราะน่าจะออกตัวง่ายสุด ไม่ต้องสต๊อกของเยอะ ใช้เงินหมุนเวียนไม่มาก แต่จะขายอะไรดีหละ นี่คือคำถามในใจเรา สินค้าผุดขึ้นเต็มหัวล้วนแต่เป็นของที่เราเดินตามตลาดของกิน เดินตามแหล่งอาหารทั้งนั้น สิ่งที่เราคิดในตอนนั้นก็มี
- ร้านนม-ขนมปัง
- ร้านขายสลัด
- ร้านของทอด (ของกินสำเร็จรูปนำมาทอดขาย)
- ร้านบาร์บีคิว
-ร้านเต้าฮวยฟรุ๊ตสลัด
เราใช้บริการพี่ goo ช่วยหาสินค้าต่างๆที่เราจะขาย ส่วนใหญ่จะเจอแต่แฟรนไชส์ลงทุนครั้งแรกก็หลักหมื่น ที่ทางก็ยังหาไม่ได้ ไม่รู้จะขายได้หรือเปล่า ความคิดพวกนี้น่าจะมีกันทุกคน สุดท้ายเราจึงตัดสินใจว่าเราทำของเราเองดีกว่า อย่างน้อยถ้าเจ็บตัวก็คงไม่มาก สุดท้ายเราก็ไม่รู้จะเลือกอะไรจากลิสต์ที่เราหา เราจึงตัดสินใจว่าเราจะขายของที่เราอยากกิน 555 เราชอบกินของปิ้งย่างก็เลยเป็นที่มาที่เราตัดสินใจเลือก ” ร้านบาร์บีคิว”
“ช่วงเริ่มทดลอง”
หลังจากที่ตัดสินใจได้แล้วว่าจะขายอะไร ถัดมาเราก็หาวิธีทำ โดยเราก็อาศัยพี่ goo หาสูตรต่างๆนานา พอเราหาสูตรได้แล้วก็เริ่มลงมือทำ เราเข้าแมคโครไปหาซื้อวัตถุดิบสำหรับมาทดลองทำ เริ่มจากเลือกซื้อเนื้อสัตว์ เราเลือกซื้อหมูกับไก่(เพราะเราไม่ทานเนื้อวัว) สะโพกหมู หัวไหล่หมู สันนอกหมู สันใจหมู สันคอหมู สันในไก่ อกไก่ สะโพกไก่ เราซื้อหมดเลย แต่ซื้ออย่างละนิดเพื่อมาลอง เพราะเราไม่รู้ว่าต้องใช้ส่วนไหน ส่วนวัตถุดิบสำหรับหมักเราซื้อโดยถามแม่เราว่าใช้ไรบ้างเวลาหมักเนื้อสัตว์ แต่ซอสสำหรับทาบาร์บีคิวแม่เราไม่รู้ เราก็เลยซื้อตามความคิดของเรา(สายจินล้วนๆ 555) อุปกรณ์ต่างๆรวมทั้งเตาย่างเราก็ถอยมาใหม่เลย จำได้ว่าเตาซื้อแบบใช้ไฟฟ้าเครื่องละห้าร้อยกว่าบาท
“ช่วงลงมือเข้าครัว”
วัตถุดิบพร้อมก็เริ่มกันเลย เราทำด้วยความสนุกเพราะเราไม่ค่อยได้ทำกับข้าว ส่วนใหญ่แม่ทำให้กิน พอเริ่มก็อึ้งไปแปปเพราะเราหั่นหมูไม่เป็น 555 เราก็เอาวะ หั่นตามที่คิดว่าใช่ ซอสหมักก็ตามแม่บอก และซอสก็ผสมเอง แม่เราบ่นเรามากว่าจะทำไปทำไม เราก็ตอบว่าเออหนะ พอเราเตรียมเสร็จก็เอาเข้าตู้เย็นหนึ่งคืนตามแม่บอกเหมือนเดิม
วันรุ่งขึ้นตื่นมาก็ทำเลย 555 ตื่นเต้นเหมือนเด็กๆเลย ซื้อผักที่ตลาดมาหั่น แล้วก็เสียบเป็นไม้ๆ เปิดเตาย่างกันเลย เราก็ย่างของเราไปเรื่อย สุกบ้างไม่สุกบ้างตามประสา ย่างให้ที่บ้านกินบ้าง แจกข้างบ้าน แจกญาติ แจกเพื่อน เราทำแบบนี้อยู่ประมาณ 1 เดือน จนกระทั่งลงตัวเรื่องสูตรต่างๆ แม่เราก็บ่นว่าเบื่อแล้วๆ เราถามทุกคนที่กินว่าเป็นไงบ้าง ทุกคนก็บอกว่าใช้ได้บ้าง เค็มไปบ้าง แห้งไปบ้าง แต่ทุกคนบอกว่าอร่อย แต่ไม่กินแล้วนะเบื่อมากกินบ่อยเกินไปละ 555 (อ่อ มีเพื่อนเราคนนึงทักว่าทำแจกใครๆก็บอกว่าอร่อย ลองถามดิว่าถ้าให้ซื้อกินจะซื้อมั้ย จะอร่อยแบบเดิมหรือเปล่า น่าคิดแฮะ)
“ช่วงหาสถานที่ขาย”
เราตระเวนไปทั่ว เน้นหาพวกตลาดตอนเย็น หรือไม่ก็ตลาดเสาร์-อาทิตย์ แล้วเราก็ไปเจอตลาดที่มีคนเดินเยอะมาก อยู่ตรงขนส่งสายใต้ใหม่ มีร้านค้าขายทั้งของกิน เสื้อผ้าและอื่นๆเพียบ เราปิ๊งเลยในตอนแรกที่เห็น เราเลยลองเดินสำรวจอยู่ประมาณ 3-4 ครั้งดูว่ามีใครขายของเหมือนเรามั้ย ปรากฎว่าไม่มีใครขายเลย เราก็เลยกะว่าจะลงหลักปักฐานตรงนี้เป็นที่แรก เราพยายามติดต่อเพื่อลงขายของ ด้วยความเป็นมือใหม่ และไม่ค่อยรู้เรื่อง จึงต้องคอยถาม เดินตามคนจัดตลาด(ตอนนั้นเป็นพวกคลองหลอดเก่ามาคุมตลาด) และแล้วเราก็ได้ล็อคขายของกว้าง 2*2 เมตร แต่เราไม่ใช่คนขายประจำ เราจึงต้องไปจองล็อคทุกวันที่จะขาย
ขออนุญาตลบรูปภาพ แล้วเดี๋ยวจะลงรูปในแต่ละเหตุการณ์ เผื่อเพื่อนอยากจะคอมเม้นต์เพิ่มเติม