วันนี้ยืมล็อคอินเพื่อนมาเพื่อที่จะแชร์ประสบการณ์การลดน้ำหนักที่มาไกลเกินครึ่งทางแล้ว เราก็ไม่ได้ลดเยอะเหมือนหลายๆท่าน แต่อยากจะมาเป็นกำลังใจให้อีกหลายๆๆท่านที่เริ่มแล้วหรือยังไม่เริ่ม มีกำลังใจฮึดสู้กับกิจกรรม "New Year's Resolution 2016" เพื่อที่จะได้ถึงเป้าหมายกันสักที!!
งั้นเราขอเล่าประวัติเราเลยละกันนะคะ ตอนนี้อายุ23 ปีจ้าวว เพิ่งเรียนจบมหาลัยค่ะ เราเป็นคนน้ำหนักเยอะตั้งแต่เด็ก เราคิดว่าการเลี้ยงดูก็มีส่วนทำให้อ้วน... ((ขอบอกก่อนนะคะ เราก็ไม่ได้มีความรู้มาก โปรดให้คำแนะนำกันอย่างสุภาพนะคะ))
ตอนเด็กๆพ่อกับแม่จะไม่มีเวลาเลี้ยงเรา เวลาส่วนใหญ่อยู่กับพี่เลี้ยงพอเลิกเรียนพี่เค้าก็ไปรับที่โรงเรียนเค้าจะเตรียมขนมหรือพวกของทอดที่ขายหน้าโรงเรียนมาให้เรากินทุกเย็น อาหารที่พี่เลี้ยงทำส่วนใหญ่จะเป็นของทอด เป็นอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ที่สำคัญตอนเด็กเราเกลียดการกินผักมาก ซึ่งแน่นอนอาหารที่พี่เค้าทำจะไม่มีผักเลยยยแต่ยังดีหน่อยที่ยังกินผลไม้
เริ่มตั้งแต่ ป.2 ชุดนักเรียนนี่ต้องเปลี่ยนทุกเทอมกันเลยทีเดียว...จน ป.6 แม่ต้องต่อความยาวเอวของกระโปรงให้เพราะไม่มีไซด์แล้วอีกอย่างต้องย้ายโรงเรียน เหลืออีกแค่เทอมเดียวก็เลยต้องต่อกระโปรงให้ จากนั้นมาพอย้ายโรงเรียนก็มีอาหารให้เลือกเยอะแยะ มีเวลาว่างมีคาบว่างให้นั่งคุย และที่นั่งคุยเล่นกับเพื่อน คือในโรงอาหารของโรงเรียนนั่นเอง ช่วงบ่ายก็จะมีร้านบางร้านที่เปิดขายขนม ขายไก่ทอด เพื่อนๆรวมทั้งเราก็จะพากันไปซื้อและมานั่งคุยกัน ทำแบบนั้นไปเรื่อยๆจน อ้วนขึ้น อ้วนขึ้น
ตอนอยู่ ม.4น้ำหนักประมาน78omg!!!กินดีอยู่ดีมากเกินไปพี่เลี้ยงพากินหมูกะทะ ตามใจทุกอย่าง จนแม่ไม่ไหวต้องจ้างลดน้ำหนักกิโลละ1000บาท เผอิญช่วงนั้นเฮิทหนักเลิกกับแฟนคนแรก นน.เลยลดลงมาเหลือ73 ได้เงินมา5000
แต่หลังจากนั้นเกือบปีเริ่มแฮปปี้ มีแฟนใหม่ พากันกินๆๆ จนน้ำหนักขึ้นมาเท่าเดิม78 พฤติกรรมการกินของเราส่วนใหญ่คือกินของทอดและของมัน รวมทั้งขนมถุง ไม่แปลกที่ไขมันสะสมในร่างกายเยอะมาก
พอตอน ม.6 นน.เริ่มขึ้นมาเป็น79 หลังจากนั้นก็ย้ายมาเรียนมหาลัยในกทม.ยิ่งกินดีอยู่ดีเลิกเรียนแล้วกินๆๆๆๆๆๆๆทุกเย็น เพราะอาหารบางร้านอยู่บ้านนอกหากินบ่ได้ กินแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนน้ำหนัก87 omg!!!!! คืออีก3กิโลก็พิชิต 90 ละ เสื้อผ้าที่ใส่จะไม่มีไซส์แล้วนะ
จนแม่บอกว่าลดน้ำหนักมั้ย อดทนหน่อย ก็ไปชงโปรตีนกินอยู่ช่วงนึง จำได้ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงฝึกงานตอนอยู่ปี 1เทอม2 เรากินโปรตีน เช้ากับเย็นส่วนตอนกลางวัน กินอาหารอะไรก็ได้เต็มที่เลย และแล้ว 3เดือน น้ำหนักเราลงมาเหลือ78
หลังจากนั้นเราก็พยายามลดเรื่อยๆแต่ช่วงนั้นเป็นช่วงเปิดเทอม ต้องใช้สมองตอนเช้าจำเป็นมากที่ต้องกินอาหารเช้า ก็เลยหยุดกินโปรตีน กลับมากินอาหารเช้า กับกลางวัน ส่วนมื้อเย็นทานบ้างไม่ทานบ้าง น้ำหนักก็คงที่...อยู่เกือบปี เพราะปีกิจกรรมเยอะและฝึกงานเยอะคนเรียนการโรงแรมจะเข้าใจว่าเวลาอยู่ในครัวหรือฝึกงานมันจะเหนื่อยและต้องกิน((แต่นี่คือข้ออ้างสำหรับคนขี้เกียจ อิอิ))
จนช่วงปี2ตอนฝึกงานเทอม2 เริ่มหันมาเข้าฟิตเนตหลังเลิกงาน ทำให้น้ำหนักลดไป2 โล ใช้เวลาอยู่เดือนกว่า แต่ก็กินอาหารปกติ ไม่ได้ควบคุมมาก...ปี3 งานเริ่มเยอะเริ่มเรียนหนักขึ้น ทั้งโปรเจค ทั้งงานนู่นนี่นั้น ไม่มีเวลาอีกตามเคย ได้แต่คุม แต่ดีน้ำหนักคงที่ไม่ลดไม่เพิ่ม
ปี3เราต้องไปฝึกงานที่ฝรั่งเศส ช่วงก่อนไปลดน้ำหนักลงมาเหลือประมาน76 ลดลงมา2โล ตอนไปก็กลัวอยู่ว่าจะกลับมาอ้วนเหมือนเดิมมั้ย แต่พอกลับมาไทย น้ำหนักไม่ขึ้น เอาล่ะ พอหลังจากอยู่ไทยได้ประมาน2-3เดือน เป็นช่วงพฤษภาของปีที่แล้วคิดไว้ละคือต้องลด น้ำหนักให้เหลือ65 ช่วงนั้นคือหาวิธีการลดนน. ทำอยุ่หลายวิธีมาก ทั้งสูตรพระเทพ ทั้งอาหารคลีน ทุกๆอย่าง จนมาเลือกทานอาหารคลีนและเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจัง คือต้องออกกำลังกายทุกวันถ้าวันไหนไม่ออกรู้สึกแย่มากเราเลือกปั่นจักรยานเพราะที่บ้านมีเครื่องปั่นจักรยานจะได้ไม่ต่องออกไปไหนที่สำคัญไม่ร้อนไม่ดำ 3เดือนน้ำหนักลดลงมาเหลือ67ว๊าวอีก3โล ละนะ จะถึงเป้าหมาย
ในที่สุด ก็เปิดเทอมปี4 ช่วงเดือนสิงหา เปิดเทอมมามีแต่คนทักว่าผอมลงไปทำอะไรมา ในใจก็คิดว่าเออเห้ยได้ผลจริงๆด้วย หลังจากนั้นมาก็ควบคุมอาหาร ออกกำลังกายบ้างที่ฟิตเนตคอนโด แต่ใครๆก็รู้การที่เป็นนักศึกษาปี4 งานเยอะมากโหดมากเลิกเรียนเย็นทุกวัน ทำให้บางวันไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย ต้องนั่งปั่นรีพอต เราก็ได้แต่กินอาหารคลีนและคุมอาหารไป
จนมาปี4เทอม2เริ่มกลับมาจริงจังอีกครั้ง เพราะเรียนอาทิตย์นึงไม่กี่วัน มีเวลามากขึ้น ไปเปิดเมมเบอฟิตเนตกับเพื่อนเลยจ้าทีนี้ เลิกเรียนนี่เข้าฟิตเนต ว่างเข้าฟิตเนต เสพติดมาก แม้กระทั่งมีเรียนบ่าย ตอนเช้าต้องตื่นมาเล่นฟิตเนต จนเพื่อนบอกว่าแกหายหน้าหายตาเลยนะ สิงสถิตอยู่แต่ฟิตเนต เพื่อนเพิลไม่คบละใช่มั้ย เราก็บอกว่าเออน๊า
น้ำหนักเริ่มลงมาจาก65 ลดมา64...63...62 แหนะ ว๊ายๆๆ แต่ตอนนี้เราเปลี่ยนเป้าหมายละนะ ต้อง เหลือ50 หนทางอีกยาวไกล แต่แล้ว...ก็มีเหตุที่ต้องย้ายไปอยู่หัวหิน ต้องไปฝึกงานที่หัวหิน3เดือนนนน โอ้ ไม่นะ เลิกงานก็เย็นแล้วไม่มีเวลาไปฟิตเนต ได้แต่คลุมอาหาร ต้มไข่ทำอาหารคลีนกินเอง และก็บางอาทิตย์ที่ขึ้นมากรุงเทพ ก็จะซื้ออาหารคลีนไปแช่ฟิตไว้ มีอยู่ช่วงนึงตอนที่อยู่หัวหินป่วยน้ำหนักลดลงมาเหลือ 58 omg แต่ สุดท้ายก็เด้งกลับขึ้นมาที่ 62 อยู่ถึงทุกวันนี้
รวมน้ำหนักที่ลดได้ตั้งแต่ นน 87 ใช้เวลา3ปีครึ่ง ลดๆหยุดๆมา สิริรวมได้ 25กิโล ผลลัพธ์ที่ได้จากการลดน้ำหนักคือ ร่างกายแข็งแรง เวลาเดินเดินคล่องมาขึ้น นน อยู่ที่ 62 ไม่ขึ้นไม่ลง
ปล.จริงๆเราว่าถ้าคนตั้งใจมาก 25 กิโลภายใน1ปีเราเชื่อว่าลดได้ แต่คนเรามีปัจจัยหลาบอย่างที่ส่งผลต่อความตั้งใจ ใจเราอาจจะยังไม่หนักแน่นพอ ติดเพื่อน ติดกิจกรรม มันเลยทำให้ไม่ต้องเนื่อง
::New Year's Resolutions 2016:: ลดน้ำหนักมาเกินครึ่งทางกับ 25โล ที่หายไป!!
งั้นเราขอเล่าประวัติเราเลยละกันนะคะ ตอนนี้อายุ23 ปีจ้าวว เพิ่งเรียนจบมหาลัยค่ะ เราเป็นคนน้ำหนักเยอะตั้งแต่เด็ก เราคิดว่าการเลี้ยงดูก็มีส่วนทำให้อ้วน... ((ขอบอกก่อนนะคะ เราก็ไม่ได้มีความรู้มาก โปรดให้คำแนะนำกันอย่างสุภาพนะคะ))
ตอนเด็กๆพ่อกับแม่จะไม่มีเวลาเลี้ยงเรา เวลาส่วนใหญ่อยู่กับพี่เลี้ยงพอเลิกเรียนพี่เค้าก็ไปรับที่โรงเรียนเค้าจะเตรียมขนมหรือพวกของทอดที่ขายหน้าโรงเรียนมาให้เรากินทุกเย็น อาหารที่พี่เลี้ยงทำส่วนใหญ่จะเป็นของทอด เป็นอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ที่สำคัญตอนเด็กเราเกลียดการกินผักมาก ซึ่งแน่นอนอาหารที่พี่เค้าทำจะไม่มีผักเลยยยแต่ยังดีหน่อยที่ยังกินผลไม้
เริ่มตั้งแต่ ป.2 ชุดนักเรียนนี่ต้องเปลี่ยนทุกเทอมกันเลยทีเดียว...จน ป.6 แม่ต้องต่อความยาวเอวของกระโปรงให้เพราะไม่มีไซด์แล้วอีกอย่างต้องย้ายโรงเรียน เหลืออีกแค่เทอมเดียวก็เลยต้องต่อกระโปรงให้ จากนั้นมาพอย้ายโรงเรียนก็มีอาหารให้เลือกเยอะแยะ มีเวลาว่างมีคาบว่างให้นั่งคุย และที่นั่งคุยเล่นกับเพื่อน คือในโรงอาหารของโรงเรียนนั่นเอง ช่วงบ่ายก็จะมีร้านบางร้านที่เปิดขายขนม ขายไก่ทอด เพื่อนๆรวมทั้งเราก็จะพากันไปซื้อและมานั่งคุยกัน ทำแบบนั้นไปเรื่อยๆจน อ้วนขึ้น อ้วนขึ้น
ตอนอยู่ ม.4น้ำหนักประมาน78omg!!!กินดีอยู่ดีมากเกินไปพี่เลี้ยงพากินหมูกะทะ ตามใจทุกอย่าง จนแม่ไม่ไหวต้องจ้างลดน้ำหนักกิโลละ1000บาท เผอิญช่วงนั้นเฮิทหนักเลิกกับแฟนคนแรก นน.เลยลดลงมาเหลือ73 ได้เงินมา5000
แต่หลังจากนั้นเกือบปีเริ่มแฮปปี้ มีแฟนใหม่ พากันกินๆๆ จนน้ำหนักขึ้นมาเท่าเดิม78 พฤติกรรมการกินของเราส่วนใหญ่คือกินของทอดและของมัน รวมทั้งขนมถุง ไม่แปลกที่ไขมันสะสมในร่างกายเยอะมาก
พอตอน ม.6 นน.เริ่มขึ้นมาเป็น79 หลังจากนั้นก็ย้ายมาเรียนมหาลัยในกทม.ยิ่งกินดีอยู่ดีเลิกเรียนแล้วกินๆๆๆๆๆๆๆทุกเย็น เพราะอาหารบางร้านอยู่บ้านนอกหากินบ่ได้ กินแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนน้ำหนัก87 omg!!!!! คืออีก3กิโลก็พิชิต 90 ละ เสื้อผ้าที่ใส่จะไม่มีไซส์แล้วนะ
จนแม่บอกว่าลดน้ำหนักมั้ย อดทนหน่อย ก็ไปชงโปรตีนกินอยู่ช่วงนึง จำได้ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงฝึกงานตอนอยู่ปี 1เทอม2 เรากินโปรตีน เช้ากับเย็นส่วนตอนกลางวัน กินอาหารอะไรก็ได้เต็มที่เลย และแล้ว 3เดือน น้ำหนักเราลงมาเหลือ78
หลังจากนั้นเราก็พยายามลดเรื่อยๆแต่ช่วงนั้นเป็นช่วงเปิดเทอม ต้องใช้สมองตอนเช้าจำเป็นมากที่ต้องกินอาหารเช้า ก็เลยหยุดกินโปรตีน กลับมากินอาหารเช้า กับกลางวัน ส่วนมื้อเย็นทานบ้างไม่ทานบ้าง น้ำหนักก็คงที่...อยู่เกือบปี เพราะปีกิจกรรมเยอะและฝึกงานเยอะคนเรียนการโรงแรมจะเข้าใจว่าเวลาอยู่ในครัวหรือฝึกงานมันจะเหนื่อยและต้องกิน((แต่นี่คือข้ออ้างสำหรับคนขี้เกียจ อิอิ))
จนช่วงปี2ตอนฝึกงานเทอม2 เริ่มหันมาเข้าฟิตเนตหลังเลิกงาน ทำให้น้ำหนักลดไป2 โล ใช้เวลาอยู่เดือนกว่า แต่ก็กินอาหารปกติ ไม่ได้ควบคุมมาก...ปี3 งานเริ่มเยอะเริ่มเรียนหนักขึ้น ทั้งโปรเจค ทั้งงานนู่นนี่นั้น ไม่มีเวลาอีกตามเคย ได้แต่คุม แต่ดีน้ำหนักคงที่ไม่ลดไม่เพิ่ม
ปี3เราต้องไปฝึกงานที่ฝรั่งเศส ช่วงก่อนไปลดน้ำหนักลงมาเหลือประมาน76 ลดลงมา2โล ตอนไปก็กลัวอยู่ว่าจะกลับมาอ้วนเหมือนเดิมมั้ย แต่พอกลับมาไทย น้ำหนักไม่ขึ้น เอาล่ะ พอหลังจากอยู่ไทยได้ประมาน2-3เดือน เป็นช่วงพฤษภาของปีที่แล้วคิดไว้ละคือต้องลด น้ำหนักให้เหลือ65 ช่วงนั้นคือหาวิธีการลดนน. ทำอยุ่หลายวิธีมาก ทั้งสูตรพระเทพ ทั้งอาหารคลีน ทุกๆอย่าง จนมาเลือกทานอาหารคลีนและเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจัง คือต้องออกกำลังกายทุกวันถ้าวันไหนไม่ออกรู้สึกแย่มากเราเลือกปั่นจักรยานเพราะที่บ้านมีเครื่องปั่นจักรยานจะได้ไม่ต่องออกไปไหนที่สำคัญไม่ร้อนไม่ดำ 3เดือนน้ำหนักลดลงมาเหลือ67ว๊าวอีก3โล ละนะ จะถึงเป้าหมาย
ในที่สุด ก็เปิดเทอมปี4 ช่วงเดือนสิงหา เปิดเทอมมามีแต่คนทักว่าผอมลงไปทำอะไรมา ในใจก็คิดว่าเออเห้ยได้ผลจริงๆด้วย หลังจากนั้นมาก็ควบคุมอาหาร ออกกำลังกายบ้างที่ฟิตเนตคอนโด แต่ใครๆก็รู้การที่เป็นนักศึกษาปี4 งานเยอะมากโหดมากเลิกเรียนเย็นทุกวัน ทำให้บางวันไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย ต้องนั่งปั่นรีพอต เราก็ได้แต่กินอาหารคลีนและคุมอาหารไป
จนมาปี4เทอม2เริ่มกลับมาจริงจังอีกครั้ง เพราะเรียนอาทิตย์นึงไม่กี่วัน มีเวลามากขึ้น ไปเปิดเมมเบอฟิตเนตกับเพื่อนเลยจ้าทีนี้ เลิกเรียนนี่เข้าฟิตเนต ว่างเข้าฟิตเนต เสพติดมาก แม้กระทั่งมีเรียนบ่าย ตอนเช้าต้องตื่นมาเล่นฟิตเนต จนเพื่อนบอกว่าแกหายหน้าหายตาเลยนะ สิงสถิตอยู่แต่ฟิตเนต เพื่อนเพิลไม่คบละใช่มั้ย เราก็บอกว่าเออน๊า
น้ำหนักเริ่มลงมาจาก65 ลดมา64...63...62 แหนะ ว๊ายๆๆ แต่ตอนนี้เราเปลี่ยนเป้าหมายละนะ ต้อง เหลือ50 หนทางอีกยาวไกล แต่แล้ว...ก็มีเหตุที่ต้องย้ายไปอยู่หัวหิน ต้องไปฝึกงานที่หัวหิน3เดือนนนน โอ้ ไม่นะ เลิกงานก็เย็นแล้วไม่มีเวลาไปฟิตเนต ได้แต่คลุมอาหาร ต้มไข่ทำอาหารคลีนกินเอง และก็บางอาทิตย์ที่ขึ้นมากรุงเทพ ก็จะซื้ออาหารคลีนไปแช่ฟิตไว้ มีอยู่ช่วงนึงตอนที่อยู่หัวหินป่วยน้ำหนักลดลงมาเหลือ 58 omg แต่ สุดท้ายก็เด้งกลับขึ้นมาที่ 62 อยู่ถึงทุกวันนี้
รวมน้ำหนักที่ลดได้ตั้งแต่ นน 87 ใช้เวลา3ปีครึ่ง ลดๆหยุดๆมา สิริรวมได้ 25กิโล ผลลัพธ์ที่ได้จากการลดน้ำหนักคือ ร่างกายแข็งแรง เวลาเดินเดินคล่องมาขึ้น นน อยู่ที่ 62 ไม่ขึ้นไม่ลง
ปล.จริงๆเราว่าถ้าคนตั้งใจมาก 25 กิโลภายใน1ปีเราเชื่อว่าลดได้ แต่คนเรามีปัจจัยหลาบอย่างที่ส่งผลต่อความตั้งใจ ใจเราอาจจะยังไม่หนักแน่นพอ ติดเพื่อน ติดกิจกรรม มันเลยทำให้ไม่ต้องเนื่อง