Into the Wild - Happiness only real when shared

เราได้ยินชื่อหนังเรื่องนี้มานานมากละ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ดูซักที ซึ่งพอก่อนจะเริ่มดู ผมเห็นว่าหนังมีความยาวถึง 148 นาที ก็เริ่มเกิดความกังวลว่ามันจะน่าเบื่อไหม ซึ่งพอได้ดูจริงๆแล้ว หนังเล่าเรื่องน่าติดตาม จนไม่รู้สึกว่าหนังมันยาวเลย

ผมเพิ่งได้ดูหนังที่มีพล็อตคล้ายๆกันอย่าง Wild ของ Jean-Marc Vallee ซึ่งเป็นหนังที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ซึ่งก็กลัวเหมือนกันกับสิ่งที่จะเจอใน Into the wild แต่เมื่อพอดูจบ ผมก็บอกได้เลยว่า ผมชอบ Into the wild มาก มันทำได้ดีกว่าในการสื่อสาร ผมชอบการเล่าเรื่องแบบง่ายๆ ไม่ได้ซับซ้อน ไม่ได้มีซีนคาดคั้นอารมณ์แบบหนักๆ แต่การเล่าเรื่องผ่านการเดินทางของตัวละคร มันค่อยๆสื่อสารบางอย่างแบบไม่ยัดเยียด และสุดท้ายมันทำให้เราเชื่อได้

ผมค่อนข้างชื่นชม Sean Penn เอามากๆ เพราะเรารู้จักเค้าแค่ในฐานะนักแสดง เลยไม่คาดคิดว่าเค้าจะเป็นผู้กำกับได้ดีขนาดนี้ ผมชอบการแสดงและจังหวะของหนังเรื่องนี้มากๆ

การแสดงของ Emile Hirsch เป็น Chris McCandless ทำได้น่าประทับใจมาก ผมชอบการแสดงแบบเป็นธรรมชาติของเค้า เรารู้สึกถึงการเดินทางของตัวละคร พัฒนาการที่เกิดขึ้นในการเดินทาง และเรารู้สึกความรู้สึกบางอย่างในซีนที่เค้าไม่ได้มีบทพูด เค้าเล่นผ่านทางสีหน้าแววตาและร่างกายได้ดีมาก และที่จะอดชมไม่ได้ คือ ตัวละครรอบข้างของ Chris ไม่ว่าจะเป็นคู่สามี-ภรรยาฮิปปี้ คู่แฟนที่เจอริมแม่น้ำ ตัวละครหญิงสาววัยรุ่นนักกีตาร์ที่เจอที่แคมป์ หรือตัวละครคุณลุงที่เจอตอนท้ายเรื่อง ผมรู้สึกว่าการแสดงของตัวละครเติมเต็มซึ่งกันและกันมากๆ เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้ผมชอบหนังเรื่องนี้

ดนตรีประกอบ คือ อีกสิ่งหนึ่งที่ผมหลงรักในหนังเรื่องนี้ ผมชอบดนตรีแนวนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และผมรู้สึกว่ามันใส่เข้ามาได้ตรงกับจังหวะในหนังมากๆ ดนตรีมันพาอารมณ์เราไปไกลยิ่งกว่าเดิม

หนังเล่าเรื่องการเดินทางของคนหนึ่งคน ที่มีความคิดที่ค่อนข้างขบถมากๆ แต่เราไม่ได้เกิดความรู้สึกคัดค้านในการกระทำหรือความคิดของตัวละครเลย มีหลายคนที่มีปมแบบ Chris แต่ก็ไม่เลือกที่จะทำแบบ Chris ในเรื่องนี้ การที่ตั้งคำถามแบบสุดโต่งและเด็ดขาดของ Chris ทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนตอกหน้าเข้าอย่างจัง เกิดการตั้งคำถามกับตัวเองเช่นกันว่า ทุกวันนี้เราถูกอะไรครอบกรอบอยู่หรือเปล่า

ผมเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการอยู่คนเดียวมากๆ ชอบไปมาไหนคนเดียว ชอบทำอะไรคนเดียว เรียกว่า เสพย์ติดการอยู่คนเดียวมากๆ แต่ไม่ได้ถึงขั้นสุดโต่งแบบพระเอก ยอมรับว่าหลายๆครั้ง ที่เราอยู่คนเดียว เราก็ไม่ได้มีความสุขมากมายนัก แต่หลายครั้งที่เราไปอยู่กับคนหมู่มาก เรากลับรู้สึกไม่มีความสุขยิ่งกว่าซะอีก การได้ไปอยู่ตัวคนเดียว มันไม่ได้มีกฎอะไรมาควบคุมชีวิตเรา เราสามารถทำอะไรก็ได้ที่ใจเราอยาก เหมือนประโยคในหนังที่ว่า “If we admit that human life can be ruled by reason, then all possibility of life is destroyed”

ผมชอบประเด็นครอบครัวในเรื่องนี้มากๆเหมือนกัน เพราะหนังเล่ามุมมองของ 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายตัว Chris ที่มีความเกลียดพ่อแม่ของตัวเอง คิดว่าพ่อแม่ไม่รักเค้า แต่พอเราเห็นในมุมมองพ่อแม่ เราก็จะเห็นได้ว่าพ่อแม่ก็รัก Chris มากๆ เพราะเมื่อ  Chris หายตัวไป พ่อแม่ก็เป็นห่วงมาก พยายามออกตามหา รู้สึกได้ว่าพ่อแม่ก็รัก Chris มากเช่นกัน ผมมองว่า Chris  ค่อนข้างเป็นคนปิดใจ และค่อนข้างหัวดื้อมากเกินไป หากมองกันจริงๆแล้ว ผมก็เห็นว่าครอบครัวของเค้าไม่ได้แย่กว่าครอบครัวอื่นๆขนาดนั้น เพราะหลายๆครอบครัว เค้าก็ไม่ได้มีความสุขมากมายขนาดนั้น แต่พวกเค้ารู้จักวิธีประคับประคอง อะลุ่มอล่วย ให้อภัยต่อกัน จึงอยู่ด้วยกันได้อย่างราบรื่น

ผมไม่แน่ใจซะทีเดียวว่าสิ่งที่ Chris ต้องการคืออะไรกันแน่ การได้ไปอยู่คนเดียวในป่าอลาสก้า มันคือสิ่งที่ Chris คาดหวังจริงหรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่าการได้เรียนรู้และเติบโตของ Chris นั้น มันเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง ไม่ใช่การไปอยู่คนเดียวในป่าอลาสก้า ผมเห็นความสุขในระหว่างการเดินทางของ Chris แม้บางอย่างมันจะไม่ได้ราบรื่น แต่มันเกิดการเรียนรู้และการเติบโต ผมเห็นหลากหลายแววตาของ Chris ในระหว่างเดินทาง มันมีครบทุกอารมณ์จริงๆ

ในตอนท้ายเรื่อง Chris ได้เขียนประโยคหนึ่งที่น่าสนใจมากๆสำหรับผม “Happiness only real when shared” เป็นประโยคที่ติดอยู่ในหัวผมมาหลายวันมากๆ ผมไม่แน่ใจนักในความหมายและความรู้สึกของ Chris ขณะที่เขียนข้อความนี้ แต่สำหรับผมมันเหมือนกับการถามตัวเองบางอย่างเหมือนกันว่า การที่เราคิดว่าเรามีความสุขในการอยู่คนเดียวนั้น มันจริงแท้หรือไม่ หรือการที่เราไม่ชอบอยู่กับคนหมู่มาก มันเพราะอะไร สุดท้ายผมก็คิดสรุปกับตัวเองว่า เราไม่ได้มีความสุขในการอยู่คนเดียวจริงๆหรอก เพียงแค่ตอนนี้เรายังไม่เจอใครที่พร้อมจะแบ่งปันความรู้สึกต่างๆกับเรา หรือว่าบางทีมันอาจจะเป็นเพราะเรายังไม่เปิดใจให้ใครเข้ามาแบ่งปันความรู้สึกกับเราก็เป็นได้

https://www.facebook.com/MyOwnPrivateFilm/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่