ผมเคยวาดฝันอนาคตของตัวเองไว้ว่าต้องมีงานทำ ดูแลพ่อแม่ให้สบายได้ แต่ทุกอย่างพังลงเพราะผมเริ่มติดโรค ผมไม่รู้ว่าติดจากไหน เพราะช่วงมหาลัยผมยอมรับเลยว่าตัวเองก็มั่วเหมือนกันในช่วงเวลานั้นผมได้เข้ารับการผ่าตัด(ตอนนั้นผมไปกับพ่อแม่)ซึ่งหมอเค้าจะต้องทำการเจาะเลือดด้วย หลังผ่าตัดเสร็จก็นอนอยู่โรงพยาบาลสองสามวันพอถึงวันจะออกจากโรงพยาบาลหมอได้เรียกผมเข้าไปคุย หมอบอกว่าผมมีเลือดบวกนะ ณ ตอนนั้นผมอึ้งเลยครับพูดไม่ออก พูดเพียงแค่ว่าครับ ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ น้ำตาไหลตอนไหนไม่รู้ มันเป็นอะไรที่เลวร้ายที่สุด เดินออกจากโรงพยาบาลแบบคนไม่มีเรี่ยวแรง ผมไม่กล้าบอกพ่อแม่ เพราะกลัวว่าท่านจะเสียใจ เลยปิดบังความลับนี้มาโดยตลอด จากนั้นผมก็ใช้ชีวิตอย่างคนปกติทั่วไปโดยที่ยังไม่ได้เข้ารับการรักษายังเรียน ยังทำงานปกติ แล้วอาการป่วยต่างๆเริ่มแสดงชัดเจนขึ้นหลังจากนั้นประมาณ 8ปี เริ่มผอมลง เพื่อนหลายคนเริ่มทักว่าทำไมผอมลงหน้าตอบนะ ผมก็พยายามตอบเลี่ยงๆหรือเปลี่ยนประเด็นไปคุยเรื่องอื่น ปัญหาสุขภาพเริ่มแย่ลง จนมาถึงจุดที่ต่ำที่สุด เมื่อต้นปีนี้เอง ผมป่วยเพราะว่าโรคฉวยโอกาสกำลังรุม งานก็ทำไม่ได้ เขาก็เลยเลิกจ้าง ผมคิดอะไรไม่ออก อย่างเดียวที่ผมคิดตอนนั้นคือต้องตาย ผมพยายามผูกคอตายหลายครั้ง แต่ผมก็ทำไม่ได้ซักที ผมกลัวหมดทุกอย่าง จนที่สุดผมต้องบอกพ่อกับแม่ และเข้ารับการรักษาเนื่องจากปอดติดเชื้ออย่างรุนแรง และเชื้อขึ้นสมอง มันทรมานมากเลยละ คิดว่าถ้าไม่หายก็ต้องตาย พ่อแม่ผมเสียใจมากที่ไม่ยอมบอกตั้งแต่แรก มารู้เอาตอนที่ทรุดแล้ว ผมเข้ารับการรักษาตัวนานเป็นเดือน จนร่างกายผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก สงสารที่บ้านมากต้องมารับผิดชอบตัวผมเอง
เป็นเกย์ ติดเชื้อตกงาน มีอะไรแย่ไปกว่านี้ไหม