หน้าตาเรียบๆแบบนี้ ดูหรูหราใช้ได้
ซื้อมาใช้งาน กันยายน 2564 จนถึงตอนนี้ก็ 4 ปีเต็มๆ ใช้หุงข้าวก็เกือบจะทุกวัน
อาจจะมีแค่วันหยุด ออกไปกินข้างนอกบ้าง
ที่ผ่านมา ยังไม่มีอาการเสียหรือรวนแต่อย่างใด มีแค่ปุ่มกด เปิดฝาบน มันจะอ่อนแอไปหน่อย
คือลักษณะจะเป็นปุ่มกด แล้วมีก้านยาวๆลงไปง้างสปริงเพื่อเปิดฝาหม้อ ก้านยาวๆนี่แหละ อ่อนแอบางเกิน กดแล้วก้านงอไม่มีแรงไปง้างสปริง
แต่ก็ลองแกะมาเสริมความแข็งแรงแล้วครับ ข้อนี้ผ่านไปได้
อาการเสียที่ต้องปลดระวาง คือ หุงข้าวไม่สุก ความร้อนไม่ร้อนเหมือนเดิม น้ำไม่เดือด
กว่าจะรู้ตัว กินข้าวแข็งๆมาหลายวัน ก็แปลกใจอยู่
จำเป็นต้องซื้อใบใหม่ แต่ สว ที่บ้านบอกว่าอยากได้รุ่นเดิม เพราะเคยชินกับขนาดหม้อและมองระดับน้ำได้ถูก
ตัวใหม่ไม่ใช่ยี่ห้อ Mi แต่ก็คงจะโรงงานเดียวกันหรือผลิตที่เดียวกัน ก็เหมือนกันเป้ะ
สกรีนหน้าจอจากภาษาจีนเป็นอังกฤษ ปุ่มกดเปิดฝาทำมาใหม่เป็นปุ่มกลม ( ไม่รู้ว่าจะแข็งแรงไหม)
ตัวใหม่ไฟหน้าจอสว่างกว่าชัดเจน
Power On สตาร์ทเครื่องช้ากว่าเดิม ของเดิมเปิดไฟเข้า เสียงติ๊งหน่องจะมาทันที อันใหม่มีดีเลย์
ไม่เป็นไร ราคามันถูกกว่าเดิม ตัวนี้ 700 กว่าบาท ตัวเก่าประมาณ 1 พันถ้วนๆ
ส่วนยี่ห้อ Mi ก็มีออกโฉมใหม่ ในขนาดเล็กลงนิดนึงเป็น 1.5 ลิตร
แต่เขาออกแบบเป็นหน้าจอไปอยู่บนฝา ส่วนปุ่มกดเปิด จะอยู่ตรงที่เคยเป็นหน้าจอ
อันนี้ขอไม่เห็นด้วย เพราะฝาหม้อมันคือทางผ่านของไอน้ำร้อน นานๆเข้าแผงดิสเพลย์จะทนไหวหรือเปล่า
หน้าตารุ่นใหม่ Mi 1.5
และราคาแพงขึ้นเยอะ ดีนะที่รับคำสั่งมาว่า ให้เอารุ่นเดิม
ไม่ต้องจ่ายแพง
รีวิวหม้อหุงข้าว Mi 4 ปีผ่านไป พังแล้วครับ
ซื้อมาใช้งาน กันยายน 2564 จนถึงตอนนี้ก็ 4 ปีเต็มๆ ใช้หุงข้าวก็เกือบจะทุกวัน
อาจจะมีแค่วันหยุด ออกไปกินข้างนอกบ้าง
ที่ผ่านมา ยังไม่มีอาการเสียหรือรวนแต่อย่างใด มีแค่ปุ่มกด เปิดฝาบน มันจะอ่อนแอไปหน่อย
คือลักษณะจะเป็นปุ่มกด แล้วมีก้านยาวๆลงไปง้างสปริงเพื่อเปิดฝาหม้อ ก้านยาวๆนี่แหละ อ่อนแอบางเกิน กดแล้วก้านงอไม่มีแรงไปง้างสปริง
แต่ก็ลองแกะมาเสริมความแข็งแรงแล้วครับ ข้อนี้ผ่านไปได้
อาการเสียที่ต้องปลดระวาง คือ หุงข้าวไม่สุก ความร้อนไม่ร้อนเหมือนเดิม น้ำไม่เดือด
กว่าจะรู้ตัว กินข้าวแข็งๆมาหลายวัน ก็แปลกใจอยู่
จำเป็นต้องซื้อใบใหม่ แต่ สว ที่บ้านบอกว่าอยากได้รุ่นเดิม เพราะเคยชินกับขนาดหม้อและมองระดับน้ำได้ถูก
ตัวใหม่ไม่ใช่ยี่ห้อ Mi แต่ก็คงจะโรงงานเดียวกันหรือผลิตที่เดียวกัน ก็เหมือนกันเป้ะ
สกรีนหน้าจอจากภาษาจีนเป็นอังกฤษ ปุ่มกดเปิดฝาทำมาใหม่เป็นปุ่มกลม ( ไม่รู้ว่าจะแข็งแรงไหม)
ตัวใหม่ไฟหน้าจอสว่างกว่าชัดเจน
Power On สตาร์ทเครื่องช้ากว่าเดิม ของเดิมเปิดไฟเข้า เสียงติ๊งหน่องจะมาทันที อันใหม่มีดีเลย์
ไม่เป็นไร ราคามันถูกกว่าเดิม ตัวนี้ 700 กว่าบาท ตัวเก่าประมาณ 1 พันถ้วนๆ
ส่วนยี่ห้อ Mi ก็มีออกโฉมใหม่ ในขนาดเล็กลงนิดนึงเป็น 1.5 ลิตร
แต่เขาออกแบบเป็นหน้าจอไปอยู่บนฝา ส่วนปุ่มกดเปิด จะอยู่ตรงที่เคยเป็นหน้าจอ
อันนี้ขอไม่เห็นด้วย เพราะฝาหม้อมันคือทางผ่านของไอน้ำร้อน นานๆเข้าแผงดิสเพลย์จะทนไหวหรือเปล่า
หน้าตารุ่นใหม่ Mi 1.5
และราคาแพงขึ้นเยอะ ดีนะที่รับคำสั่งมาว่า ให้เอารุ่นเดิม
ไม่ต้องจ่ายแพง