[CR] กลับสู่สมัยเก่า ด้วยค่าข้าวแบบ 'เป็นกะตังค์'

อะแฮ่มมมม... สวัสดีตอนบ่ายแก่ๆมาก (แดดนะคะ ไม่ใช่คนเขียน -.-' ....อ่าว เสร็จก็เกือบค่ำพอดี งั้นสวัสดีตอนค่ำนะคะ _/|\_ ) ..พอดีว่าสองวันที่แล้วไปเที่ยวหัวหินชะอำรอบที่ล้านแปดมาค่ะเพิ่งกลับกรุงเทพฯมาก็วันนี้เช้าเอง เที่ยวอยู่ที่นั่นก็ตระเวนชิมและรับประทานอาหารไปทั่วมาก็นานเป็นปีๆ (ไปกลับกทม.-หัวหินบ่อยมากๆจริงๆ) แต่พลาดไปหนึ่งร้านมาแสนนาน!!!! พอได้ไปทานมาแล้วเกิดติดใจมากทั้งรสชาดอาหาร ราคา ปริมาณ และการบริการ (บริกรสองท่านบริการดีมากค่ะ โดยเฉพาะ'พี่อ๊บ' คอยเข้ามาเช็คตลอด อร่อยมั้ย เป็นอย่างไร ใส่ใจดีมากๆค่ะ ไม่แน่ใจเป็นหนึ่งในเจ้าของร้านหรือเปล่านะคะ เจออีกสองท่านก่อนหน้าท่านหนึ่งพี่ผู้ชาย อีกท่านพี่ผู้หญิงน่าจะเป็นภรรยาสองท่านดูใจดีเป็นกันเองมาก  ....แต่ทั้งหมด ยังงัยตำแหน่งไม่สำคัญเท่าไหร่ตราบใดที่ทำให้ลูกค้าประทับใจได้ค่ะ โดยเฉพาะพี่อ๊บใจดีมีแต่รอยยิ้มขัดกับใบหน้าหนวดเฟิ้มๆเลยค่ะ เสียดายลืมขอถ่ายรูป วันหน้าค่อยขอใหม่ หรือใครไปมาก็ถ่ายรูปแกมาด้วยนะคะ ^^) พอติดใจปุ๊ปก็เลยอยากรีวิวให้เพื่อนๆได้ไปลองทานดูบ้างค่ะ

    ร้านที่ว่าถ้าขับรถเร็วๆก็อาจจะผ่านตาจนมองไม่เห็นถ้าไม่สังเกตุเพราะว่าเลยทางโค้งไปทางชะอำ ลองดูตามแผนที่นะคะ เวลาเปิดปิด ที่อยู่ร้าน และเบอร์โทรติดต่อก็ตามรูปเลยค่ะ


    ชื่อร้านนอกจากจะน่ารักแล้ว 'เป็นกะตังค์' ยังมีคอนเซ็ปต์การคิดราคาอาหารชัดเจนเป็นสตางค์เหมือนสมัยโบราญ (เหรียญ ทองแดงไทย 100 เหรียญ เท่ากับ 1 บาท) ดังนั้นการคำณวนราคาจึงง่ายแบบไม่งง แค่ทุกอย่างหารด้วย 100 เท่านั้น (เหตุผลอันนี้ไม่ทราบต้องไปลองทานและถามทางเจ้าของร้านเองเลย!!) ตัวอย่างเมนูนะคะ..


    ตัวร้านค่อนข้างกว้างไม่อึดอัด มีที่จอดเยอะ การตกแต่งออกแนวคันทรีแต่ว่าเป็นอาหารไทย (เท่าที่ดูตามป้ายน่าจะเคยมีพวกสเต็กหรืออาหารตะวันตกด้วย แต่ในเมนูที่ดูเมื่อวานไม่มีค่ะ) โดยปกติมีดนตรีโฟล์คซองสดคอยขับกล่อม ..โชคร้ายไปเมื่อวานเป็นวันหยุดพี่นักร้องนักดนตรีพอดีเลย (ว๊าาา) บรรยากาศดูสบายๆ มีมุมเวที มีทั้งห้องแอร์ใหญ่น้อย เห็นมีหลายห้องสำหรับจัดงานและนั่งทานธรรมดารวมถึงด้านนอกให้เลือกนั่ง พอดีเป็นคนไม่ชอบแอร์ก็เลยนั่งด้านนอก ตอนที่ไปเกือบทุ่มหนึ่งแล้ว ลืมสนิทเรื่องยุง ..มืดปุ๊ปแห่กันมาเต็มหัว (หัวยังไม่เน่านาาาา) ขาพร้อยไปตามๆกันแต่ยังดื้อไม่ลุก ทานต่อไปจนพี่อ๊บต้องบอกให้ทางทีมงานเอาพัดลมมาเป่าให้พร้อมจุดยากันยุง ใครไปทานช่วงเย็นเกือบค่ำแนะนำให้นั่งด้านในนะคะ บรรยากาศก็แนวๆนี้ค่ะ พอดีถ่ายมารูปเดียวเนื่องจากแบตใกล้หมด เลยไม่ได้ถ่ายป้ายร้านมาค่ะ


    เมนูค่อนข้างเป็นเล่มหนาเหมือนแฟ้ม A4 ใหญ่ มีหลายรายการให้เลือก รวมทั้งมีโบรชัวร์แผ่นพับสำหรับแจกลูกค้าแทนนามบัตร ขอลงให้ดูเป็นบางหน้านะคะ

  
    เครื่องดื่มก็มีทั่วไปทั้งน้ำเปล่า น้ำอัดลม น้ำสมุนไพร ได้สั่งกระเจี๊ยบเย็นมาไม่ผิดหวัง ไม่กี่สตางค์และจัดแต่งมาน่ารักสมราคา ไม่มีรสชาดหวานเว่อร์ของน้ำตาลทราย กลมกล่อมหอมกระเจี๊ยบชื่นใจดี


    มาถึงรายการอาหาร นั่งดูจนเลือกไม่ถูก สุดท้ายสั่งมาสี่ห้าอย่าง อาหารที่เราๆคุ้นเคยกันดี ว่าแล้วก็มาดูกันเลยค่าาา ...เริ่มกันที่จานแรก 'หมูนายก' ของขึ้นชื่อเมืองเพชร ที่ร้านไหนๆก็มีได้ แต่อร่อยหรือไม่ก็สูตรใครสูตรมัน (ไม่แน่ใจทำไมชื่อนี้ หนุ่มๆสาวๆชาวชะอำและหัวหิน ใครทราบมาบอกหน่อยค่าาา) ที่นี่ลองชิมแล้วชอบ เพราะหมูทอดกำลังดี เนื้อไม่แห้งแข็ง ใช้หมูสามชั้นค่อนข้างดีเลย มันหมูไม่มากไป ทอดไม่แฉะและไม่อมน้ำมัน สีสันน้ำตาลเข้มซีอิ๊วไม่ดำเกรียม รสชาดไม่ต้องพึ่งซอสพริกเลย ราคาถ้าจำไม่ผิดก็ 9,000!!! ...สตางค์ค่าาาาา หรือก็คือ 90 บาทนั่นเอง!


    ถัดมา เรียบง่ายกับเมนูที่ทานกันตั้งแต่เด็กๆ หนึ่งในเมนูอาหารจีนที่เดี๋ยวนี้ครัวไทยก็ทำ 'วุ้นเส้นผัดมะระและไข่' จานนี้ไม่มีเนื้อสัตว์ ผัดเส้นกำลังนุ่ม ไม่เละไม่แข็ง มะระล้างและผัดได้ดีไม่มีรสขมมากเกินไป (เคล็ดลับก็อยู่ที่ตอนลวก/ต้ม ก่อนเอามาผัดนี่ล่ะค่ะ) จานนี้ให้มาเยอะมาก สุดท้ายห่อกลับบ้าน (แต่ละจานให้เยอะมากๆอยู่แล้ว ถ้าไปไม่กี่ท่าน เวลาสั่งก็ค่อยๆสั่งนะคะ อาหารไม่ช้า ไม่งั้นทานไม่หมดแน่ๆค่ะ) รสชาดกำลังดี เคยเจอบางร้านผัดเค็มจนทานไม่ได้เลย ราคาจำไม่ได้ค่าว่ากี่พันสตางค์ ลองโทรไปถามนะคะ


    จานต่อมาาาาา (หึๆ สั่งจัดเต็มทุกครั้ง ได้อาหารกลับมาทานได้อีกสามวันไม่ก็ไปแจกผู้ยากไร้ตามข้างถนนทุกครั้ง!! ..แอบอิ่มสุขเล็กๆ) จานนี้ก็เมนูที่ใครๆก็มี ราคาถ้าใครๆเห็นแค่ราคาจะบอกว่าโหวววว แค่ 'ปลากระพงนึ่งมะนาว' ทำไมแพงจังตั้ง 35000 สตางค์ หรือ 350 บาท (ทั่วไปเริ่ม 250 ไปจนถึงคิดตามน้ำหนักปลา) แต่เดี๋ยวก่อน!! ...ก่อนจะพูดอย่างนั้นอยากให้ดูก่อนค่าาา ที่นี่จะมีราคาเดียวและปลาที่นอนแอ้งแม้งมาตัวใหญ่มาก! จนต้องลองเอาแขนทาบดูเลยค่ะ เนื้อปลาก็สดเต่งตึงมาก ล้างมาอย่างดีไม่มีกลิ่นคาว น้ำมะนาวที่นึ่งปลามา ออกรสชาดเปรี้ยวมะนาวผสมมะขามนิดๆ ไม่เปรี้ยวมะนาวจ๋า จัดจ้านแต่ไม่เผ็ดมากไป ใครที่พาเพื่อนต่างชาติไปทาน เพื่อนๆน่าจะชอบนะคะ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ถ้ามาหลายคนต้องลองจริงๆค่ะ

    
    ..ยังๆ ยังไม่หมด มาทานอาหารไทยทั้งที จะลืมหนึ่งในเมนูระดับโลกไม่ได้เลย! นั่นก็คือ 'ต้มยำกุ้ง' นั่นเอง (พี่จาไม่เกี่ยวนะคะงานนี้) ตอนแรกคิดว่าจะมาแบบถ้วยเล็กๆ แต่เปล่าเลย มาแบบอ่างย่อมๆ! สี่คนก็ทานได้ค่ะ ราคาจำได้แค่ว่าไม่แพงเลย กุ้งที่ใส่มาตัวใหญ่อยู่นะคะเกือบเท่าช้อนทานข้าว ในต้มยำหนึ่งอ่างเล็กนี้มีกุ้งสดอยู่ 6 ตัว ชอบตรงที่ไม่ใช้กุ้งฟรีซแช่แข็งเหมือนบางร้าน แต่เพราะอาจจะต้มนานไปเนื้อกุ้งเลยเสียรสความสดและเนื้อแข็งไปหน่อย (กุ้งสุกง่ายมากๆค่ะ เจอน้ำเดือดๆลวกๆก็สุกแล้ว จะให้เนื้อเด้งก็ลวกน้ำร้อนเสร็จรีบแช่ลงน้ำเย็นจัด ถ้ามีน้ำแข็งในน้ำจะดีมาก จะทำให้เนื้อเด้งไม่แข็งด้าน) เห็ดล้านใส่มากำลังดี ล้างมาสะอาดไม่มีราสักชิ้น ส่วนรสชาดก็ขาดเปรี้ยวมะนาวอีกนิด และหวานไปนิดสำหรับเจ้าของกระทู้ อาจเป็นเพราะใส่น้ำพริกเผามากไปและตอนต้มก็อาจมีน้ำตาลเข้ามาอีก (แล้วแต่คนชอบ) ถ้าลดๆน้ำตาลและเพิ่มมะนาวหน่อย (ไม่ใช่น้ำมะขาม) จากแซ่บอยู่แล้วจะยิ่งๆแซ่บมากขึ้นค่ะ


    ตามกันมาด้วยเมนูจีนที่คนไทยชอบทำอีกอย่าง 'เต้าหู้ทรงเครื่อง' (แหะๆ สั่งเหมือนมาเป็นหมู่คณะ จริงๆแค่สองคนเท่าน้านนนนน) จานนี้ใครที่ชอบทานเต้าหู้ไข่และหมูสับก็น่าจะถูกใจไม่น้อย รสชาดเค็มกำลังดีแต่หวานไปนิด (ผักและน้ำสต็อกที่เอามาผัดน่าจะหวานอยู่แล้ว พอใส่น้ำตาลเข้ามาเลยทำให้มีรสหวานเพิ่ม) เต้าหู้ชุบแป้งบางเบาไม่หนาเหมือนบางเจ้าที่เคยไปทานซึ่งอันนี้ชอบมาก หมูสับเด้งไม่แข็งด้าน  จานนี้ทานได้กับทั้งข้าวสวยและข้าวต้มกันเลยทีเดียว ทานง่าย ถ้าพาบุตรหลานไปด้วย เด็กๆก็น่าจะชอบเพราะมีข้าวโพดหวานและแครอทเพิ่มสีสันชวนทานอยู่ด้วย


    เอาล่ะจบอาหารคาวกันเสียที (ลิ้นดับท้องเริ่มไม่รับตั้งแต่จานปลาทีเดียว เยอะมากๆ) ระหว่างกำลังนั่งคิดว่าจะทานของหวาน (ทานคาวไม่ทานหวานก็เหมือนทานอาหารไม่จบ..เอิ่ม..ไม่น่าจะเดี่ยวแฮะ) อยู่ๆพี่อ๊บก็ให้พี่บริกรท่านหนึ่งเอาแตงโมหวานฉ่ำมาให้ทานฟรีๆ (ตอนแรกงงเพราะไม่ได้สั่งแต่มือก็หยิบนะ 55) แต่อย่างว่า ผลไม้ยังไม่สะใจแฮะ เท่าที่ดูรอบๆร้าน เห็นตู้ไอศกรีมete ตั้งอยู่ เดินไปดูมีสี่รส (ถ้าจำไม่ผิดนะ แม็คคาเดเมีย สตอร์แบรี่ ช็อกโกแล็ต และมิ้นท์) พร้อมกับสละลอยแก้วในตู้ ก็สั่งแม็คคาเดเมียมาทาน รสชาดก็หวานคาราเมลตามสไตล์ ete (ไอศกรีมมาสกู้ปใหญ่เบ้งแทบเต็มถ้วยกันเลยทีเดียว ถ้าอิ่มๆทานคนเดียวอาจไม่หมด) พร้อมสั่งสละกลับบ้าน (เพิ่งเปิดทาน ควรใส่น้ำแข็งด้วย ไม่งั้นหวานมาก แต่เนื้อสละอร่อยดี)  


    ระหว่างนั้นเรียกคิดเงินไปด้วย รวมๆทั้งหมดทั้งมวลดูเหมือนจะแพงใช่มั้ยคะ ...สรุปคือ 106,000 สตางค์หรือ 1,060 บาทเท่าน้านนนนนนนนน!!! เลยแบบว่าหืมมมมมม พี่เค้าคิดผิดมั้ยอ่ะ 55 ทานไม่หมดแพ็คกลับบ้านก็ไม่คิดค่าถุงเพิ่มด้วยนะ ไปกันหลายๆคนบอกเลยคุ้มมากจริงๆ เพื่อนๆลองไปทานกันดูนะคะ แล้วจะรู้ว่า ...อร่อยคุ้มไม่ได้โม้!!!  (..ขอตัวไปกลิ้ง ..เอ๊ย วิ่งก่อนละ จัดเต็มมาเยอะ) สวัสดีร่ำลาและขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะคะ ยิ้ม



แหล่งอ้างอิง:    http://www.facebook.com/pennkatang
หมายเหตุ:       ทุกรูปถ่ายด้วยมือถือ Samsung J7
ผู้เขียน:           https://instagram.com/jedabella/
ลิงก์เกี่ยวข้อง:  http://pantip.com/topic/34312077
ชื่อสินค้า:   ร้านอาหารเป็นกะตังค์ หัวหิน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่