The Moon 7
เช้าวันใหม่ อลิซรู้สึกแว่วเสียงเพลงไกล ๆ
♫Sugar Yes, please Won’t you come and put it down on me? ♬ อลิซฟัง เพลง sugar เพลิน ๆ แต่เอ๊ะ แม่ไม่น่าเปิด Maroon 5
อลิซรีบเบิกตาโพลง เป็นไปไม่ได้ นี่ก็เช้าแล้วทำไมเธอยังอยู่ในห้องนอนของคริส อลิซหลับตาอีกรอบ คราวนี้เป็นเพลงใหม่
♫ So I wonder where were you All the roads you took came back to me So I’m following the map that leads to you ♬ เพลง maps ของ Maroon 5 ก็มาจ้า ชัดละ อลิซตัดสินใจลืมตาตื่น และลุกขึ้นอย่างไว เธอเปิดประตูที่แง้มไว้อยู่แต่แรกแล้ว
อลิซได้กลิ่นกาแฟหอมกรุ่น ฟุ้งไปทั่ว เธอเดินมองหาที่มาของเสียงเพลง พลันเห็นคริส ยืนอยู่ด้านนอกระเบียง เธอจึงตัดสินใจเดินออกไปหาคริส
ทั้งที่ก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะคุยเรื่องอะไร
เป็นครั้งแรกเลยที่อลิซได้สัมผัสบรรยากาศด้านนอก เธอมองไปรอบ ๆ อากาศเย็นยามเช้าช่างสดชื่น เหมือนอยู่ในความฝัน
อลิซสูดหายใจลึกๆ แล้วหันไปมองหน้าคริส เธอสังเกตเห็นคริสดูเครียด ๆ
“คุณมีแผนที่อยู่ในมือแล้ว ทำไมไม่ไปหาเธอหล่ะคะ “ อลิซจับใจความจากเพลง maps มาเริ่มบทสนทนา
คริสหันมามองอลิซและยิ้มปนหัวเราะ
“ถ้า คุณรู้ว่าแผนที่นั้น มันจะพาคุณไปสู่ความเจ็บปวด ซ้ำแล้วซ้ำเล่าหล่ะ คุณจะยังอยากไปอยู่มั้ย” คริสมองหน้าอลิซ เหมือนอยากได้ความเห็นอยู่เหมือนกัน
“ถ้าเป็นฉันหรอคะ ฉันคิดว่าความเจ็บปวดนั้นฉันสามารถควบคุมมันได้และมันจะหายไปในสักวันหนึ่ง แต่ความสุขที่รออยู่ข้างหน้า ถ้ามีโอกาส ฉันก็จะไม่ปล่อยมันไป “ อลิซมองหน้าคริส อย่างมุ่งมั่น โฮะ ๆ นี่ฉันพูดอะไรออกไป อลิซนึกในใจและยังคงทำหน้ายิ้มค้างเอาไว้ เพื่อให้เขามั่นใจในคำตอบของเธอ
“คุณคิดอย่างนั้น จริงๆ หรอ “ คริส ทำหน้านิ่วกับคำตอบของอลิซ ยายนี่แปลก พิลึก คริสคิดในใจ
“แล้วนี่ทำไม ยังไมไม่กลับไปห้องของคุณ เอ่อ ที่ประเทศไทยหน่ะ “ คริสนึกขึ้นมาได้
“ฉันก็ว่าจะถามคุณนี่แหล่ะ ค่ะ ว่าหมุนนาฬิกาไปกี่ครั้ง “อลิซ ยิงคำถามตรง ๆ ทั้งที่เมื่อคืนคริสยังไม่ยอมรับว่าเอาสร้อยไป แต่อลิซค่อนข้างมั่นใจ จึงถามคำถามแบบปิดมันซะเลย ซึ่งคริสเองก็ชอบใช้กับเธออยู่บ่อย ๆ เอาสิ วัดกัน
คริสมองหน้าอลิซ เหมยายนี่ “ ก็แค่สองสามครั้ง “ คริสตอบเสียงเบา
“กี่ครั้ง “ อลิซถามเสียงเข้ม มองหน้าคริสเขม็ง
“ใครจะไปจำได้หล่ะ ก็หมุน ๆ ไป หลายครั้งเหมือนกัน “ คริสทำเสียงเข้มบ้าง
“ตายหล่ะ แล้วที่บ้านฉันจะเป็นยังไง ไม่งัดห้องฉันกันใหญ่แล้วหรอ “ อลิซนึกขึ้นมาได้
“แล้วทำงานหล่ะ คือฉันต้องขาดงานงั้นหรอ ไม่นะพนักงานดีเด่น ไม่ขาด ไม่ลา ไม่มาสาย หมดกัน “ อลิซพึมพำ วิตกจริตอยู่คนเดียว
คริสเห็นท่าไม่ดี เลยเดินหนีเข้าไปในห้องก่อน
“นี่คุณ บอส” อลิซตะโกนและเดิมตามคริสเข้าไป
“ก็จะไปยากอะไรหล่ะ ก็โทรไปบอกที่บ้านว่าออกมาทำงานแล้ว แล้วก็ทำงานมันที่นี่แหล่ะ เดี๋ยวผมโทรไปบอกไบรอันให้ แค่นี้จบมั้ยครับ “ ยายเลขานี่ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี่ไม่ผ่านๆ คริสนึกในใจ
“จบค่ะ เอ่อ ขอยืมโทรศัพท์ด้วยค่ะ “อลิซยิ้มกว้างโล่งอกเลยทีเดียว
**********************************************************************************
อลิซนั่งตอบเมล เช็คงาน จากโน้ตบุ๊คของคริสอยู่พักใหญ่ และเธอก็เริ่มหิว ท้องอลิซร้องเสียงดังแต่คริส ทำเป็นอ่านหนังสือเงียบ
“ บอสคะ คือ ฉันหิวมากเลย “ อลิซมองหน้าคริส เสียงอ้อนวอน
“ ไปดูในตู้เย็น สิว่ามีอะไรกินได้บ้าง “ คริสวางหนังสือลงและชี้ไปที่ตู้เย็น
“ แหะ ๆ ไม่มีค่ะ ฉันดูตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว “ อลิซอธิบาย
“งั้นก็โทรสั่งเอาสิ นั่นโทรศัพท์ “ คริสทำหน้าพยักเพยิด ไปทิศทางที่มีโทรศัพท์วางอยู่
“จะบ้าไงเล่า นี่คุณคิดว่าที่นี่ที่ไหน บ้านฉันหรอ “ อลิซอารมณ์เสีย โมโหหิว หนักมาก จนลืมตัว
“งั้นก็ไปกินข้างนอก “ คริสวางหนังสือลงและลุกขึ้นทันที
“ นี่คุณ แล้วฉันหล่ะ “ อลิซ ชี้ตัวเองให้คริสดู ว่าอยู่ในชุด ที่ไม่สามารถออกไปข้างได้อย่างแน่นอน
คริสหาชุดของนีน่า ที่หลงเหลืออยู่ให้อลิซใส่ อลิซเลือกใส่ชุดสบายที่สุด แน่หล่ะ อลิซใส่ได้แค่เสื้อยืดกางเกงยีนส์เท่านั้น ชุดอื่นอลิซไม่กล้าใส่
มันไม่ใช่แนวของเธอเลย โชคดีที่อากาศด้านนอกตอนนี้ไม่หนาวมากนัก แม้รองเท้าอาจจะดูคับไปสักหน่อยก็เถอะ แต่นี้อลิซ หิวมากจริง ๆ เกินกว่าที่จะอิดออดเรื่องเล็กน้อย
“ พร้อมค่ะ “ อลิซส่งสัญญาณให้คริส อลิซแอบดีใจ ที่จะได้ออกไปข้างนอกบ้าง
“ คุณจะพาฉันไปทานอะไรคะ ไปที่ไหนหรอ “ อลิซเดินตามคริส ถามนู่นนี่นั่น จนคริสเริ่มหงุดหงิด
“ ผมว่าคุณรอที่ห้องดีมั้ย “ คริสหยุดและหันมาถามความเห็นอลิซ
“ไม่เอาค่ะ ไปด้วย จะไม่พูดอะไรเลยค่ะ “ อลิซทำท่ารูดปากตัวเองให้สนิทเงียบ
คริสกำลังจะเปิดประตูรถ พลันก็มีเสียงนีน่าดังมาแต่ไกล
“ คริสค่ะ กำลังไปไหนคะ “นีน่ารีบปิดประตูรถ หิ้วถุงพะรุงพะรัง ปรี่เดินมาหาคริส แต่ไม่วายเหล่มองจิกอลิซ เล็กๆ ที่อลิซใส่เสื้อผ้าของเธอ
“ผมจะไปหาอะไรทานกัน คุณมาทำอะไรครับ “ คริสถามอย่างสุภาพ แต่ก็พอจะเดาความคิดของนีน่าได้
“นีน่าแวะมาหาคุณนั่นล่ะค่ะ จะทำอาหารให้คุณทาน กลัวคุณจะผอม คุณยิ่งทานอะไรยากๆ ด้วย ถ้านีน่าไม่ทำ คุณก็ทานแต่อาหารไม่มีประโยชน์ ใช่มั้ยคะ“ นีน่าพูดพลางชูถุงวัตถุดิบการทำอาหารให้คริสดู หวังให้คริสช่วยเธอถือ
“ ไม่ต้องลำบากหรอกครับ เดี๋ยวผมจะไปทานกันข้างนอก “ คริสไม่สนใจนีน่า เขาเปิดประตูรถและหันมามองหน้าอลิซ
“ อ่อ ค่ะ “อลิซกำลังสับสนว่าจะต้องทำตัวยังไง พอได้สติจึงเปิดประตูเข้าไปในรถ
“ เดี๋ยวสิคะ คริส นีน่าไปด้วย “ นีน่า หันรีหันขวางไม่รู้จะเอาของไปไว้ที่ไหนดี นึกได้จึงรีบเอาถุงไปเก็บไว้ที่รถของตัวเองก่อน แต่หันมาอีกที รถคริสก็ไม่อยู่รอแล้ว
นีน่า ปิดประตูรถเสียงดัง เธออยากจะกรี๊ด แต่ระงับอารมณ์ได้ซะก่อน นีน่ามองไปข้างหน้าอย่างครุ่นคิด และเธอก็ยิ้มเล็กๆที่มุมปาก “ ฉันจะไม่ยอมแพ้ ง่ายๆ แน่ “
**********************************************************************************
คริสพาอลิซไปทานอาหารไทย ไม่ไกลจากที่พักมากนัก อลิซรีบทานด้วยความหิว จนลืมสังเกตไปว่าคริสเงียบๆ ไป
“ อาหารที่นี่ใช้ได้เลยนะคะ “ อลิซพอที่จะคลายความหิวบ้างแล้ว และเริ่มสนใจบรรยากาศรอบข้างมากขึ้น
“ ครับ เจ้าของร้านเป็นคนไทย “ คริสตอบ
“ คุณไม่ทานหล่ะคะ “ อลิซเริ่มสังเกต สีหน้าของคริสไม่ค่อยดีนัก
“ อลิซ นีน่าเค้ายังไม่กลับ ตอนนี้เค้าอยู่ที่ห้องผม “ คริส ตัดสินใจบอกอลิซหลังจากดูกล้องที่ติดไว้ผ่านมือถือ เค้าก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นกังวลมากนัก
อลิซรับฟัง และเข้าใจว่าคริสกำลังคิดอะไรอยู่
“ค่ะ ถ้าคุณจะคืนดีกับเธอ ฉันก็ว่าเราอธิบายเรื่องทั้งหมดได้ “ อลิซรู้สึกเจ็บแปลบเล็กน้อยที่พูดประโยคนี้ นี่เธอเผลอใจไปมากขนาดนี้เชียวหรือ อลิซพยายามเข้าใจและยิ้มให้กำลังใจคริส อีกครั้ง
“ว่าไงคะ บอส สู้มั้ยคะ “ อลิซปลุกใจคริส ด้วยน้ำเสียงสดใส
“ ใช่ ต้องสู้ และเราจะสู้ไปด้วยกัน “ คริสยิ้มมีเลสนัย
“ คะ “ อลิซพูดเสียงสูง คืออะไรสู้ไปด้วยกัน คริสเริ่มจะเพี้ยนตามเธอรึเปล่า
“ ผมมีแผน “ คริสกวักมือเรียกอลิสเข้าไปใกล้ ๆ อลิซมองซ้ายมองขวา ก็ไม่เห็นจะมีใครให้ต้องกลัวความลับจะรั่วไหลเลยจะกระซิบทำไมกัน อลิซจำยอมตามน้ำไป
**********************************************************************************
คริสขับรถมาจอดอยู่ที่หน้าหอนาฬิกา Manchester Town Hall อลิซตื่นเต้นตั้งแต่เห็นหอนาฬิกาอยู่ไกล ๆเลยหล่ะ เธอยิ้มแก้มปริอยู่นานสองนาน
ตั้งแต่รู้ว่าคริสจะพาเที่ยวรอบเมือง เพื่อถ่วงเวลาให้นีน่ายอมแพ้กลับบ้านไป
คริซพาอลิซ ขึ้นไปบนหอนาฬิกา อลิซเห็นทั้งเมืองแมนเชสเตอร์ ช่างเป็นเมืองที่สวยงามมากและเป็นหอนาฬิกาที่น่าทึ่งมากเช่นกัน อลิซมองไปจนสุดทาง
เท่าที่เธอจะมองเห็นได้ คริสเองก็มีความสุขอย่างประหลาดที่ได้เห็นรอยยิ้มของอลิซ ที่เค้าไม่เคยเห็นมาก่อน
“ไปไหนต่อคะ “ อลิซเสียงสดใสเหมือนเด็กๆ
คริสหันมามองอลิซ เขาไม่พูดทำเก็กขรึม แต่ก็แอบอมยิ้มเล็กน้อย
คริสพาอลิซมาเที่ยวจนเริ่มเย็น และคิดว่านีน่าน่าจะกลับแล้ว อีกทั้งดูจากมือถือที่เค้าติดกล้องไว้ที่ห้องก็ไม่เห็นมีนีน่าแล้ว
อลิซเดินนำเหมือนว่าจะจำห้องได้แต่ก็จำไม่ได้นั่นแหล่ะ จึงหยุดหันกลับไปถามคริส ขณะที่คริสเองก็ไม่คิดว่าอลิซจะหยุดและหันมา
ทั้งสองจึงชนกันอย่างจัง อลิซกำลังจะล้มคริสดึงเธอไว้ได้ทัน ทั้งสองค้างอยู่ซักพัก อลิซหายตกใจจึงรีบผลักคริสออก แต่คริสดึงยื้อไว้
“ อะไรอีกล่ะคะ “ อลิซสงสัย
“นีน่า กำลังจ้องเราอยู่นะ “ คริสกระซิบเบา ๆ
“แล้วยังไงหล่ะคะ จะกอดไว้อย่างนี้ ถึงเช้ามั้ย “ อลิซยียวน
“เล่นละคร ไปก่อนซักพักนะ “ คริสกระซิบเบากว่าเดิม แต่ก็แอบยิ้มกรุ้มกริ่ม
คริสและอลิซเข้ามาที่ห้องแต่ก็ไม่พบนีน่าแล้ว อลิซถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่ชอบเลยกับสถานกาณ์ที่ต้องโกหกคนอื่นและโกหกตัวเองแบบนี้ ไม่สิ ไม่ได้
เรียกว่าโกหกตัวเอง นี่แหล่ะ ความฝันที่อลิซอยากให้เป็นต่างหากหล่ะ
“ ฉันว่าฉัน น่าจะกลับห้องได้แล้วหล่ะค่ะ วันนี้ “ อลิซนึกถึงที่บ้านแล้วสิ อลิสเดินเข้าห้องไป กำลังจะปิดประตู คริสกลับเดินตาม
“ เอ้า คุณตามมาทำไมเนี่ย “ อลิซมองหน้าคริส
“เรากำลังเล่นละคร ตบตานีน่า คุณลืมแล้วหรอ วันนี้เราต้องนอนห้องเดียวกัน” คริสทบทวนความจำให้อลิซ
“ค่ะ แต่เธอไม่อยู่แล้ว “อลิซยังไม่เข้าใจ
“คุณไม่รู้จักนีน่าดีพอ ถ้านีน่าเข้าห้องผมได้เธอก็ทำอะไรก็ได้ ที่เราคาดไม่ถึง “คริสให้เหตุผล และไม่สนใจว่าอลิซจะว่ายังไงแต่เขาก็ทิ้งตัวลงนอนในมุมของเขาเรียบร้อยแล้ว
อลิซอาบน้ำเสร็จออกมาเห็นคริสนอนหลับแล้วเลยไม่กล้าปลุก วันนี้คงเหนื่อยมากทั้งวันแล้ว อลิซมองคริสและนึกขอบคุณสร้อยพระจันทร์ที่พาเธอมาที่นี่
เธอมีความสุขมาก แต่เธอก็ไม่อยากสร้างปัญหาให้คริสไปมากกว่านี้ บางทีถ้าไม่มีเธอ คริสกับนีน่าอาจจะเข้าใจกันมากกว่านี้ก็เป็นได้ อลิซลุกเดินไปที่
หน้าต่างมองหาพระจันทร์ แต่แปลกจังวันนี้ทำไม มองไม่เห็นพระจันทร์เอาเสียเลย ท้องฟ้าก็ดูเงียบเหงาไปถนัดตา
ดึกแล้วอลิซเริ่มง่วง เธอไม่กล้าหันหน้ามาหาคริสจึงพลิกตัวหันหลังให้ พลันมือคริสก็ดึงเธอเข้ามาใกล้
“จะนอนห่างไปไหน เดี๋ยวก็โดนจับได้ “ คริสพูดทั้งที่หลับตา แต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือ
“ เธอก็คงนอนแล้วมั้งคะ ฉันว่า ว้าย “ อลิซตกใจที่คริสกอดเธอเข้ามาใกล้กว่าเดิม อลิซไม่ได้ขัดขืน ยอมให้ชายหนุ่มกอดอยู่อย่างนั้น
เธอมองหน้าชายหนุ่มที่แกล้งหลับตาพริ้ม ทำเป็นไม่สนใจเธอ หัวใจของเธอเต้นแรงเหลือเกิน จนกลัวว่าเขาจะได้ยิน หญิงสาวเกร็งตัวอยู่อย่างนั้นจนเมื่อย
และผ่อนคลายในที่สุด เธอค่อยๆ ขยับลดตัวลงเพื่อที่จะได้นอนถนัดขึ้น หญิงสาวนอนซบอกชายหนุ่ม ชายหนุ่มกระชับกอดให้แน่นขึ้น
ค่ำคืนนี้จะยาวนานเพียงใดกัน อลิซหลับตาครุ่นคิด และหลับไป
เมฆหมอกเลื่อนคล้อยเลือนหายไป ปรากฏพระจันทร์กลมโตลอยเด่น ค่ำคืนนี้พระจันทร์ดูสวย และทรงพลัง รายล้อมด้วยหมู่ดาวนับพัน
พระจันทร์ฮัมเพลงหยอกเย้า ดวงดาวสกาวสุกใส ......
**********************************************************************************
The Moon 7
The Moon 7
เช้าวันใหม่ อลิซรู้สึกแว่วเสียงเพลงไกล ๆ
♫Sugar Yes, please Won’t you come and put it down on me? ♬ อลิซฟัง เพลง sugar เพลิน ๆ แต่เอ๊ะ แม่ไม่น่าเปิด Maroon 5
อลิซรีบเบิกตาโพลง เป็นไปไม่ได้ นี่ก็เช้าแล้วทำไมเธอยังอยู่ในห้องนอนของคริส อลิซหลับตาอีกรอบ คราวนี้เป็นเพลงใหม่
♫ So I wonder where were you All the roads you took came back to me So I’m following the map that leads to you ♬ เพลง maps ของ Maroon 5 ก็มาจ้า ชัดละ อลิซตัดสินใจลืมตาตื่น และลุกขึ้นอย่างไว เธอเปิดประตูที่แง้มไว้อยู่แต่แรกแล้ว
อลิซได้กลิ่นกาแฟหอมกรุ่น ฟุ้งไปทั่ว เธอเดินมองหาที่มาของเสียงเพลง พลันเห็นคริส ยืนอยู่ด้านนอกระเบียง เธอจึงตัดสินใจเดินออกไปหาคริส
ทั้งที่ก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะคุยเรื่องอะไร
เป็นครั้งแรกเลยที่อลิซได้สัมผัสบรรยากาศด้านนอก เธอมองไปรอบ ๆ อากาศเย็นยามเช้าช่างสดชื่น เหมือนอยู่ในความฝัน
อลิซสูดหายใจลึกๆ แล้วหันไปมองหน้าคริส เธอสังเกตเห็นคริสดูเครียด ๆ
“คุณมีแผนที่อยู่ในมือแล้ว ทำไมไม่ไปหาเธอหล่ะคะ “ อลิซจับใจความจากเพลง maps มาเริ่มบทสนทนา
คริสหันมามองอลิซและยิ้มปนหัวเราะ
“ถ้า คุณรู้ว่าแผนที่นั้น มันจะพาคุณไปสู่ความเจ็บปวด ซ้ำแล้วซ้ำเล่าหล่ะ คุณจะยังอยากไปอยู่มั้ย” คริสมองหน้าอลิซ เหมือนอยากได้ความเห็นอยู่เหมือนกัน
“ถ้าเป็นฉันหรอคะ ฉันคิดว่าความเจ็บปวดนั้นฉันสามารถควบคุมมันได้และมันจะหายไปในสักวันหนึ่ง แต่ความสุขที่รออยู่ข้างหน้า ถ้ามีโอกาส ฉันก็จะไม่ปล่อยมันไป “ อลิซมองหน้าคริส อย่างมุ่งมั่น โฮะ ๆ นี่ฉันพูดอะไรออกไป อลิซนึกในใจและยังคงทำหน้ายิ้มค้างเอาไว้ เพื่อให้เขามั่นใจในคำตอบของเธอ
“คุณคิดอย่างนั้น จริงๆ หรอ “ คริส ทำหน้านิ่วกับคำตอบของอลิซ ยายนี่แปลก พิลึก คริสคิดในใจ
“แล้วนี่ทำไม ยังไมไม่กลับไปห้องของคุณ เอ่อ ที่ประเทศไทยหน่ะ “ คริสนึกขึ้นมาได้
“ฉันก็ว่าจะถามคุณนี่แหล่ะ ค่ะ ว่าหมุนนาฬิกาไปกี่ครั้ง “อลิซ ยิงคำถามตรง ๆ ทั้งที่เมื่อคืนคริสยังไม่ยอมรับว่าเอาสร้อยไป แต่อลิซค่อนข้างมั่นใจ จึงถามคำถามแบบปิดมันซะเลย ซึ่งคริสเองก็ชอบใช้กับเธออยู่บ่อย ๆ เอาสิ วัดกัน
คริสมองหน้าอลิซ เหมยายนี่ “ ก็แค่สองสามครั้ง “ คริสตอบเสียงเบา
“กี่ครั้ง “ อลิซถามเสียงเข้ม มองหน้าคริสเขม็ง
“ใครจะไปจำได้หล่ะ ก็หมุน ๆ ไป หลายครั้งเหมือนกัน “ คริสทำเสียงเข้มบ้าง
“ตายหล่ะ แล้วที่บ้านฉันจะเป็นยังไง ไม่งัดห้องฉันกันใหญ่แล้วหรอ “ อลิซนึกขึ้นมาได้
“แล้วทำงานหล่ะ คือฉันต้องขาดงานงั้นหรอ ไม่นะพนักงานดีเด่น ไม่ขาด ไม่ลา ไม่มาสาย หมดกัน “ อลิซพึมพำ วิตกจริตอยู่คนเดียว
คริสเห็นท่าไม่ดี เลยเดินหนีเข้าไปในห้องก่อน
“นี่คุณ บอส” อลิซตะโกนและเดิมตามคริสเข้าไป
“ก็จะไปยากอะไรหล่ะ ก็โทรไปบอกที่บ้านว่าออกมาทำงานแล้ว แล้วก็ทำงานมันที่นี่แหล่ะ เดี๋ยวผมโทรไปบอกไบรอันให้ แค่นี้จบมั้ยครับ “ ยายเลขานี่ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี่ไม่ผ่านๆ คริสนึกในใจ
“จบค่ะ เอ่อ ขอยืมโทรศัพท์ด้วยค่ะ “อลิซยิ้มกว้างโล่งอกเลยทีเดียว
**********************************************************************************
อลิซนั่งตอบเมล เช็คงาน จากโน้ตบุ๊คของคริสอยู่พักใหญ่ และเธอก็เริ่มหิว ท้องอลิซร้องเสียงดังแต่คริส ทำเป็นอ่านหนังสือเงียบ
“ บอสคะ คือ ฉันหิวมากเลย “ อลิซมองหน้าคริส เสียงอ้อนวอน
“ ไปดูในตู้เย็น สิว่ามีอะไรกินได้บ้าง “ คริสวางหนังสือลงและชี้ไปที่ตู้เย็น
“ แหะ ๆ ไม่มีค่ะ ฉันดูตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว “ อลิซอธิบาย
“งั้นก็โทรสั่งเอาสิ นั่นโทรศัพท์ “ คริสทำหน้าพยักเพยิด ไปทิศทางที่มีโทรศัพท์วางอยู่
“จะบ้าไงเล่า นี่คุณคิดว่าที่นี่ที่ไหน บ้านฉันหรอ “ อลิซอารมณ์เสีย โมโหหิว หนักมาก จนลืมตัว
“งั้นก็ไปกินข้างนอก “ คริสวางหนังสือลงและลุกขึ้นทันที
“ นี่คุณ แล้วฉันหล่ะ “ อลิซ ชี้ตัวเองให้คริสดู ว่าอยู่ในชุด ที่ไม่สามารถออกไปข้างได้อย่างแน่นอน
คริสหาชุดของนีน่า ที่หลงเหลืออยู่ให้อลิซใส่ อลิซเลือกใส่ชุดสบายที่สุด แน่หล่ะ อลิซใส่ได้แค่เสื้อยืดกางเกงยีนส์เท่านั้น ชุดอื่นอลิซไม่กล้าใส่
มันไม่ใช่แนวของเธอเลย โชคดีที่อากาศด้านนอกตอนนี้ไม่หนาวมากนัก แม้รองเท้าอาจจะดูคับไปสักหน่อยก็เถอะ แต่นี้อลิซ หิวมากจริง ๆ เกินกว่าที่จะอิดออดเรื่องเล็กน้อย
“ พร้อมค่ะ “ อลิซส่งสัญญาณให้คริส อลิซแอบดีใจ ที่จะได้ออกไปข้างนอกบ้าง
“ คุณจะพาฉันไปทานอะไรคะ ไปที่ไหนหรอ “ อลิซเดินตามคริส ถามนู่นนี่นั่น จนคริสเริ่มหงุดหงิด
“ ผมว่าคุณรอที่ห้องดีมั้ย “ คริสหยุดและหันมาถามความเห็นอลิซ
“ไม่เอาค่ะ ไปด้วย จะไม่พูดอะไรเลยค่ะ “ อลิซทำท่ารูดปากตัวเองให้สนิทเงียบ
คริสกำลังจะเปิดประตูรถ พลันก็มีเสียงนีน่าดังมาแต่ไกล
“ คริสค่ะ กำลังไปไหนคะ “นีน่ารีบปิดประตูรถ หิ้วถุงพะรุงพะรัง ปรี่เดินมาหาคริส แต่ไม่วายเหล่มองจิกอลิซ เล็กๆ ที่อลิซใส่เสื้อผ้าของเธอ
“ผมจะไปหาอะไรทานกัน คุณมาทำอะไรครับ “ คริสถามอย่างสุภาพ แต่ก็พอจะเดาความคิดของนีน่าได้
“นีน่าแวะมาหาคุณนั่นล่ะค่ะ จะทำอาหารให้คุณทาน กลัวคุณจะผอม คุณยิ่งทานอะไรยากๆ ด้วย ถ้านีน่าไม่ทำ คุณก็ทานแต่อาหารไม่มีประโยชน์ ใช่มั้ยคะ“ นีน่าพูดพลางชูถุงวัตถุดิบการทำอาหารให้คริสดู หวังให้คริสช่วยเธอถือ
“ ไม่ต้องลำบากหรอกครับ เดี๋ยวผมจะไปทานกันข้างนอก “ คริสไม่สนใจนีน่า เขาเปิดประตูรถและหันมามองหน้าอลิซ
“ อ่อ ค่ะ “อลิซกำลังสับสนว่าจะต้องทำตัวยังไง พอได้สติจึงเปิดประตูเข้าไปในรถ
“ เดี๋ยวสิคะ คริส นีน่าไปด้วย “ นีน่า หันรีหันขวางไม่รู้จะเอาของไปไว้ที่ไหนดี นึกได้จึงรีบเอาถุงไปเก็บไว้ที่รถของตัวเองก่อน แต่หันมาอีกที รถคริสก็ไม่อยู่รอแล้ว
นีน่า ปิดประตูรถเสียงดัง เธออยากจะกรี๊ด แต่ระงับอารมณ์ได้ซะก่อน นีน่ามองไปข้างหน้าอย่างครุ่นคิด และเธอก็ยิ้มเล็กๆที่มุมปาก “ ฉันจะไม่ยอมแพ้ ง่ายๆ แน่ “
**********************************************************************************
คริสพาอลิซไปทานอาหารไทย ไม่ไกลจากที่พักมากนัก อลิซรีบทานด้วยความหิว จนลืมสังเกตไปว่าคริสเงียบๆ ไป
“ อาหารที่นี่ใช้ได้เลยนะคะ “ อลิซพอที่จะคลายความหิวบ้างแล้ว และเริ่มสนใจบรรยากาศรอบข้างมากขึ้น
“ ครับ เจ้าของร้านเป็นคนไทย “ คริสตอบ
“ คุณไม่ทานหล่ะคะ “ อลิซเริ่มสังเกต สีหน้าของคริสไม่ค่อยดีนัก
“ อลิซ นีน่าเค้ายังไม่กลับ ตอนนี้เค้าอยู่ที่ห้องผม “ คริส ตัดสินใจบอกอลิซหลังจากดูกล้องที่ติดไว้ผ่านมือถือ เค้าก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นกังวลมากนัก
อลิซรับฟัง และเข้าใจว่าคริสกำลังคิดอะไรอยู่
“ค่ะ ถ้าคุณจะคืนดีกับเธอ ฉันก็ว่าเราอธิบายเรื่องทั้งหมดได้ “ อลิซรู้สึกเจ็บแปลบเล็กน้อยที่พูดประโยคนี้ นี่เธอเผลอใจไปมากขนาดนี้เชียวหรือ อลิซพยายามเข้าใจและยิ้มให้กำลังใจคริส อีกครั้ง
“ว่าไงคะ บอส สู้มั้ยคะ “ อลิซปลุกใจคริส ด้วยน้ำเสียงสดใส
“ ใช่ ต้องสู้ และเราจะสู้ไปด้วยกัน “ คริสยิ้มมีเลสนัย
“ คะ “ อลิซพูดเสียงสูง คืออะไรสู้ไปด้วยกัน คริสเริ่มจะเพี้ยนตามเธอรึเปล่า
“ ผมมีแผน “ คริสกวักมือเรียกอลิสเข้าไปใกล้ ๆ อลิซมองซ้ายมองขวา ก็ไม่เห็นจะมีใครให้ต้องกลัวความลับจะรั่วไหลเลยจะกระซิบทำไมกัน อลิซจำยอมตามน้ำไป
**********************************************************************************
คริสขับรถมาจอดอยู่ที่หน้าหอนาฬิกา Manchester Town Hall อลิซตื่นเต้นตั้งแต่เห็นหอนาฬิกาอยู่ไกล ๆเลยหล่ะ เธอยิ้มแก้มปริอยู่นานสองนาน
ตั้งแต่รู้ว่าคริสจะพาเที่ยวรอบเมือง เพื่อถ่วงเวลาให้นีน่ายอมแพ้กลับบ้านไป
คริซพาอลิซ ขึ้นไปบนหอนาฬิกา อลิซเห็นทั้งเมืองแมนเชสเตอร์ ช่างเป็นเมืองที่สวยงามมากและเป็นหอนาฬิกาที่น่าทึ่งมากเช่นกัน อลิซมองไปจนสุดทาง
เท่าที่เธอจะมองเห็นได้ คริสเองก็มีความสุขอย่างประหลาดที่ได้เห็นรอยยิ้มของอลิซ ที่เค้าไม่เคยเห็นมาก่อน
“ไปไหนต่อคะ “ อลิซเสียงสดใสเหมือนเด็กๆ
คริสหันมามองอลิซ เขาไม่พูดทำเก็กขรึม แต่ก็แอบอมยิ้มเล็กน้อย
คริสพาอลิซมาเที่ยวจนเริ่มเย็น และคิดว่านีน่าน่าจะกลับแล้ว อีกทั้งดูจากมือถือที่เค้าติดกล้องไว้ที่ห้องก็ไม่เห็นมีนีน่าแล้ว
อลิซเดินนำเหมือนว่าจะจำห้องได้แต่ก็จำไม่ได้นั่นแหล่ะ จึงหยุดหันกลับไปถามคริส ขณะที่คริสเองก็ไม่คิดว่าอลิซจะหยุดและหันมา
ทั้งสองจึงชนกันอย่างจัง อลิซกำลังจะล้มคริสดึงเธอไว้ได้ทัน ทั้งสองค้างอยู่ซักพัก อลิซหายตกใจจึงรีบผลักคริสออก แต่คริสดึงยื้อไว้
“ อะไรอีกล่ะคะ “ อลิซสงสัย
“นีน่า กำลังจ้องเราอยู่นะ “ คริสกระซิบเบา ๆ
“แล้วยังไงหล่ะคะ จะกอดไว้อย่างนี้ ถึงเช้ามั้ย “ อลิซยียวน
“เล่นละคร ไปก่อนซักพักนะ “ คริสกระซิบเบากว่าเดิม แต่ก็แอบยิ้มกรุ้มกริ่ม
คริสและอลิซเข้ามาที่ห้องแต่ก็ไม่พบนีน่าแล้ว อลิซถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่ชอบเลยกับสถานกาณ์ที่ต้องโกหกคนอื่นและโกหกตัวเองแบบนี้ ไม่สิ ไม่ได้
เรียกว่าโกหกตัวเอง นี่แหล่ะ ความฝันที่อลิซอยากให้เป็นต่างหากหล่ะ
“ ฉันว่าฉัน น่าจะกลับห้องได้แล้วหล่ะค่ะ วันนี้ “ อลิซนึกถึงที่บ้านแล้วสิ อลิสเดินเข้าห้องไป กำลังจะปิดประตู คริสกลับเดินตาม
“ เอ้า คุณตามมาทำไมเนี่ย “ อลิซมองหน้าคริส
“เรากำลังเล่นละคร ตบตานีน่า คุณลืมแล้วหรอ วันนี้เราต้องนอนห้องเดียวกัน” คริสทบทวนความจำให้อลิซ
“ค่ะ แต่เธอไม่อยู่แล้ว “อลิซยังไม่เข้าใจ
“คุณไม่รู้จักนีน่าดีพอ ถ้านีน่าเข้าห้องผมได้เธอก็ทำอะไรก็ได้ ที่เราคาดไม่ถึง “คริสให้เหตุผล และไม่สนใจว่าอลิซจะว่ายังไงแต่เขาก็ทิ้งตัวลงนอนในมุมของเขาเรียบร้อยแล้ว
อลิซอาบน้ำเสร็จออกมาเห็นคริสนอนหลับแล้วเลยไม่กล้าปลุก วันนี้คงเหนื่อยมากทั้งวันแล้ว อลิซมองคริสและนึกขอบคุณสร้อยพระจันทร์ที่พาเธอมาที่นี่
เธอมีความสุขมาก แต่เธอก็ไม่อยากสร้างปัญหาให้คริสไปมากกว่านี้ บางทีถ้าไม่มีเธอ คริสกับนีน่าอาจจะเข้าใจกันมากกว่านี้ก็เป็นได้ อลิซลุกเดินไปที่
หน้าต่างมองหาพระจันทร์ แต่แปลกจังวันนี้ทำไม มองไม่เห็นพระจันทร์เอาเสียเลย ท้องฟ้าก็ดูเงียบเหงาไปถนัดตา
ดึกแล้วอลิซเริ่มง่วง เธอไม่กล้าหันหน้ามาหาคริสจึงพลิกตัวหันหลังให้ พลันมือคริสก็ดึงเธอเข้ามาใกล้
“จะนอนห่างไปไหน เดี๋ยวก็โดนจับได้ “ คริสพูดทั้งที่หลับตา แต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือ
“ เธอก็คงนอนแล้วมั้งคะ ฉันว่า ว้าย “ อลิซตกใจที่คริสกอดเธอเข้ามาใกล้กว่าเดิม อลิซไม่ได้ขัดขืน ยอมให้ชายหนุ่มกอดอยู่อย่างนั้น
เธอมองหน้าชายหนุ่มที่แกล้งหลับตาพริ้ม ทำเป็นไม่สนใจเธอ หัวใจของเธอเต้นแรงเหลือเกิน จนกลัวว่าเขาจะได้ยิน หญิงสาวเกร็งตัวอยู่อย่างนั้นจนเมื่อย
และผ่อนคลายในที่สุด เธอค่อยๆ ขยับลดตัวลงเพื่อที่จะได้นอนถนัดขึ้น หญิงสาวนอนซบอกชายหนุ่ม ชายหนุ่มกระชับกอดให้แน่นขึ้น
ค่ำคืนนี้จะยาวนานเพียงใดกัน อลิซหลับตาครุ่นคิด และหลับไป
เมฆหมอกเลื่อนคล้อยเลือนหายไป ปรากฏพระจันทร์กลมโตลอยเด่น ค่ำคืนนี้พระจันทร์ดูสวย และทรงพลัง รายล้อมด้วยหมู่ดาวนับพัน
พระจันทร์ฮัมเพลงหยอกเย้า ดวงดาวสกาวสุกใส ......
**********************************************************************************