The Moon 7



The Moon 7

เช้าวันใหม่ อลิซรู้สึกแว่วเสียงเพลงไกล ๆ

♫Sugar Yes, please   Won’t you come and put it down on me? ♬ อลิซฟัง เพลง sugar เพลิน ๆ แต่เอ๊ะ แม่ไม่น่าเปิด Maroon 5

อลิซรีบเบิกตาโพลง เป็นไปไม่ได้ นี่ก็เช้าแล้วทำไมเธอยังอยู่ในห้องนอนของคริส อลิซหลับตาอีกรอบ คราวนี้เป็นเพลงใหม่

♫ So I wonder where were you  All the roads you took came back to me So I’m following the map that leads to you ♬ เพลง maps ของ Maroon 5 ก็มาจ้า ชัดละ อลิซตัดสินใจลืมตาตื่น และลุกขึ้นอย่างไว เธอเปิดประตูที่แง้มไว้อยู่แต่แรกแล้ว

อลิซได้กลิ่นกาแฟหอมกรุ่น ฟุ้งไปทั่ว เธอเดินมองหาที่มาของเสียงเพลง พลันเห็นคริส ยืนอยู่ด้านนอกระเบียง เธอจึงตัดสินใจเดินออกไปหาคริส

ทั้งที่ก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะคุยเรื่องอะไร

เป็นครั้งแรกเลยที่อลิซได้สัมผัสบรรยากาศด้านนอก เธอมองไปรอบ ๆ อากาศเย็นยามเช้าช่างสดชื่น เหมือนอยู่ในความฝัน

อลิซสูดหายใจลึกๆ แล้วหันไปมองหน้าคริส เธอสังเกตเห็นคริสดูเครียด ๆ

“คุณมีแผนที่อยู่ในมือแล้ว ทำไมไม่ไปหาเธอหล่ะคะ “ อลิซจับใจความจากเพลง maps มาเริ่มบทสนทนา

คริสหันมามองอลิซและยิ้มปนหัวเราะ
“ถ้า คุณรู้ว่าแผนที่นั้น มันจะพาคุณไปสู่ความเจ็บปวด ซ้ำแล้วซ้ำเล่าหล่ะ คุณจะยังอยากไปอยู่มั้ย” คริสมองหน้าอลิซ เหมือนอยากได้ความเห็นอยู่เหมือนกัน

“ถ้าเป็นฉันหรอคะ ฉันคิดว่าความเจ็บปวดนั้นฉันสามารถควบคุมมันได้และมันจะหายไปในสักวันหนึ่ง แต่ความสุขที่รออยู่ข้างหน้า ถ้ามีโอกาส ฉันก็จะไม่ปล่อยมันไป  “ อลิซมองหน้าคริส อย่างมุ่งมั่น โฮะ ๆ นี่ฉันพูดอะไรออกไป อลิซนึกในใจและยังคงทำหน้ายิ้มค้างเอาไว้ เพื่อให้เขามั่นใจในคำตอบของเธอ

“คุณคิดอย่างนั้น จริงๆ หรอ “ คริส ทำหน้านิ่วกับคำตอบของอลิซ ยายนี่แปลก พิลึก คริสคิดในใจ

“แล้วนี่ทำไม ยังไมไม่กลับไปห้องของคุณ เอ่อ ที่ประเทศไทยหน่ะ “ คริสนึกขึ้นมาได้

“ฉันก็ว่าจะถามคุณนี่แหล่ะ ค่ะ ว่าหมุนนาฬิกาไปกี่ครั้ง “อลิซ ยิงคำถามตรง ๆ ทั้งที่เมื่อคืนคริสยังไม่ยอมรับว่าเอาสร้อยไป แต่อลิซค่อนข้างมั่นใจ จึงถามคำถามแบบปิดมันซะเลย ซึ่งคริสเองก็ชอบใช้กับเธออยู่บ่อย ๆ เอาสิ วัดกัน

คริสมองหน้าอลิซ เหมยายนี่ “ ก็แค่สองสามครั้ง “ คริสตอบเสียงเบา

“กี่ครั้ง “ อลิซถามเสียงเข้ม มองหน้าคริสเขม็ง

“ใครจะไปจำได้หล่ะ ก็หมุน ๆ ไป หลายครั้งเหมือนกัน “ คริสทำเสียงเข้มบ้าง

“ตายหล่ะ แล้วที่บ้านฉันจะเป็นยังไง ไม่งัดห้องฉันกันใหญ่แล้วหรอ “ อลิซนึกขึ้นมาได้

“แล้วทำงานหล่ะ คือฉันต้องขาดงานงั้นหรอ ไม่นะพนักงานดีเด่น ไม่ขาด ไม่ลา ไม่มาสาย หมดกัน “ อลิซพึมพำ วิตกจริตอยู่คนเดียว

คริสเห็นท่าไม่ดี เลยเดินหนีเข้าไปในห้องก่อน

“นี่คุณ บอส” อลิซตะโกนและเดิมตามคริสเข้าไป

“ก็จะไปยากอะไรหล่ะ ก็โทรไปบอกที่บ้านว่าออกมาทำงานแล้ว แล้วก็ทำงานมันที่นี่แหล่ะ เดี๋ยวผมโทรไปบอกไบรอันให้  แค่นี้จบมั้ยครับ “ ยายเลขานี่ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้านี่ไม่ผ่านๆ คริสนึกในใจ

“จบค่ะ เอ่อ ขอยืมโทรศัพท์ด้วยค่ะ  “อลิซยิ้มกว้างโล่งอกเลยทีเดียว

**********************************************************************************
อลิซนั่งตอบเมล เช็คงาน จากโน้ตบุ๊คของคริสอยู่พักใหญ่ และเธอก็เริ่มหิว ท้องอลิซร้องเสียงดังแต่คริส ทำเป็นอ่านหนังสือเงียบ

“ บอสคะ คือ ฉันหิวมากเลย “ อลิซมองหน้าคริส เสียงอ้อนวอน

“ ไปดูในตู้เย็น สิว่ามีอะไรกินได้บ้าง “ คริสวางหนังสือลงและชี้ไปที่ตู้เย็น

“ แหะ ๆ ไม่มีค่ะ ฉันดูตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว “ อลิซอธิบาย

“งั้นก็โทรสั่งเอาสิ นั่นโทรศัพท์ “ คริสทำหน้าพยักเพยิด ไปทิศทางที่มีโทรศัพท์วางอยู่

“จะบ้าไงเล่า นี่คุณคิดว่าที่นี่ที่ไหน บ้านฉันหรอ “ อลิซอารมณ์เสีย โมโหหิว หนักมาก จนลืมตัว

“งั้นก็ไปกินข้างนอก “ คริสวางหนังสือลงและลุกขึ้นทันที

“ นี่คุณ แล้วฉันหล่ะ “ อลิซ ชี้ตัวเองให้คริสดู ว่าอยู่ในชุด ที่ไม่สามารถออกไปข้างได้อย่างแน่นอน

คริสหาชุดของนีน่า ที่หลงเหลืออยู่ให้อลิซใส่ อลิซเลือกใส่ชุดสบายที่สุด แน่หล่ะ อลิซใส่ได้แค่เสื้อยืดกางเกงยีนส์เท่านั้น ชุดอื่นอลิซไม่กล้าใส่  

มันไม่ใช่แนวของเธอเลย โชคดีที่อากาศด้านนอกตอนนี้ไม่หนาวมากนัก แม้รองเท้าอาจจะดูคับไปสักหน่อยก็เถอะ แต่นี้อลิซ หิวมากจริง ๆ เกินกว่าที่จะอิดออดเรื่องเล็กน้อย

“ พร้อมค่ะ “ อลิซส่งสัญญาณให้คริส อลิซแอบดีใจ ที่จะได้ออกไปข้างนอกบ้าง

“ คุณจะพาฉันไปทานอะไรคะ ไปที่ไหนหรอ  “ อลิซเดินตามคริส  ถามนู่นนี่นั่น จนคริสเริ่มหงุดหงิด

“ ผมว่าคุณรอที่ห้องดีมั้ย “ คริสหยุดและหันมาถามความเห็นอลิซ

“ไม่เอาค่ะ ไปด้วย จะไม่พูดอะไรเลยค่ะ “ อลิซทำท่ารูดปากตัวเองให้สนิทเงียบ

คริสกำลังจะเปิดประตูรถ พลันก็มีเสียงนีน่าดังมาแต่ไกล

“ คริสค่ะ กำลังไปไหนคะ “นีน่ารีบปิดประตูรถ หิ้วถุงพะรุงพะรัง ปรี่เดินมาหาคริส แต่ไม่วายเหล่มองจิกอลิซ เล็กๆ ที่อลิซใส่เสื้อผ้าของเธอ

“ผมจะไปหาอะไรทานกัน คุณมาทำอะไรครับ “ คริสถามอย่างสุภาพ แต่ก็พอจะเดาความคิดของนีน่าได้

“นีน่าแวะมาหาคุณนั่นล่ะค่ะ จะทำอาหารให้คุณทาน กลัวคุณจะผอม คุณยิ่งทานอะไรยากๆ ด้วย ถ้านีน่าไม่ทำ คุณก็ทานแต่อาหารไม่มีประโยชน์  ใช่มั้ยคะ“ นีน่าพูดพลางชูถุงวัตถุดิบการทำอาหารให้คริสดู หวังให้คริสช่วยเธอถือ

“ ไม่ต้องลำบากหรอกครับ เดี๋ยวผมจะไปทานกันข้างนอก “ คริสไม่สนใจนีน่า เขาเปิดประตูรถและหันมามองหน้าอลิซ

“ อ่อ ค่ะ “อลิซกำลังสับสนว่าจะต้องทำตัวยังไง พอได้สติจึงเปิดประตูเข้าไปในรถ

“ เดี๋ยวสิคะ คริส นีน่าไปด้วย “ นีน่า หันรีหันขวางไม่รู้จะเอาของไปไว้ที่ไหนดี นึกได้จึงรีบเอาถุงไปเก็บไว้ที่รถของตัวเองก่อน แต่หันมาอีกที รถคริสก็ไม่อยู่รอแล้ว

นีน่า ปิดประตูรถเสียงดัง เธออยากจะกรี๊ด แต่ระงับอารมณ์ได้ซะก่อน นีน่ามองไปข้างหน้าอย่างครุ่นคิด และเธอก็ยิ้มเล็กๆที่มุมปาก  “ ฉันจะไม่ยอมแพ้ ง่ายๆ แน่  “

**********************************************************************************
คริสพาอลิซไปทานอาหารไทย ไม่ไกลจากที่พักมากนัก อลิซรีบทานด้วยความหิว จนลืมสังเกตไปว่าคริสเงียบๆ ไป

“ อาหารที่นี่ใช้ได้เลยนะคะ “ อลิซพอที่จะคลายความหิวบ้างแล้ว และเริ่มสนใจบรรยากาศรอบข้างมากขึ้น

“ ครับ เจ้าของร้านเป็นคนไทย “ คริสตอบ

“ คุณไม่ทานหล่ะคะ “ อลิซเริ่มสังเกต สีหน้าของคริสไม่ค่อยดีนัก

“ อลิซ นีน่าเค้ายังไม่กลับ ตอนนี้เค้าอยู่ที่ห้องผม “ คริส ตัดสินใจบอกอลิซหลังจากดูกล้องที่ติดไว้ผ่านมือถือ  เค้าก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นกังวลมากนัก

อลิซรับฟัง และเข้าใจว่าคริสกำลังคิดอะไรอยู่

“ค่ะ ถ้าคุณจะคืนดีกับเธอ ฉันก็ว่าเราอธิบายเรื่องทั้งหมดได้ “ อลิซรู้สึกเจ็บแปลบเล็กน้อยที่พูดประโยคนี้ นี่เธอเผลอใจไปมากขนาดนี้เชียวหรือ อลิซพยายามเข้าใจและยิ้มให้กำลังใจคริส อีกครั้ง

“ว่าไงคะ บอส สู้มั้ยคะ “ อลิซปลุกใจคริส ด้วยน้ำเสียงสดใส

“ ใช่ ต้องสู้ และเราจะสู้ไปด้วยกัน “ คริสยิ้มมีเลสนัย

“ คะ “ อลิซพูดเสียงสูง คืออะไรสู้ไปด้วยกัน คริสเริ่มจะเพี้ยนตามเธอรึเปล่า

“ ผมมีแผน “ คริสกวักมือเรียกอลิสเข้าไปใกล้ ๆ อลิซมองซ้ายมองขวา ก็ไม่เห็นจะมีใครให้ต้องกลัวความลับจะรั่วไหลเลยจะกระซิบทำไมกัน  อลิซจำยอมตามน้ำไป

**********************************************************************************

คริสขับรถมาจอดอยู่ที่หน้าหอนาฬิกา Manchester Town Hall อลิซตื่นเต้นตั้งแต่เห็นหอนาฬิกาอยู่ไกล ๆเลยหล่ะ เธอยิ้มแก้มปริอยู่นานสองนาน

ตั้งแต่รู้ว่าคริสจะพาเที่ยวรอบเมือง เพื่อถ่วงเวลาให้นีน่ายอมแพ้กลับบ้านไป

คริซพาอลิซ ขึ้นไปบนหอนาฬิกา อลิซเห็นทั้งเมืองแมนเชสเตอร์ ช่างเป็นเมืองที่สวยงามมากและเป็นหอนาฬิกาที่น่าทึ่งมากเช่นกัน อลิซมองไปจนสุดทาง

เท่าที่เธอจะมองเห็นได้ คริสเองก็มีความสุขอย่างประหลาดที่ได้เห็นรอยยิ้มของอลิซ ที่เค้าไม่เคยเห็นมาก่อน  

“ไปไหนต่อคะ “ อลิซเสียงสดใสเหมือนเด็กๆ

คริสหันมามองอลิซ เขาไม่พูดทำเก็กขรึม แต่ก็แอบอมยิ้มเล็กน้อย

คริสพาอลิซมาเที่ยวจนเริ่มเย็น และคิดว่านีน่าน่าจะกลับแล้ว อีกทั้งดูจากมือถือที่เค้าติดกล้องไว้ที่ห้องก็ไม่เห็นมีนีน่าแล้ว

อลิซเดินนำเหมือนว่าจะจำห้องได้แต่ก็จำไม่ได้นั่นแหล่ะ จึงหยุดหันกลับไปถามคริส ขณะที่คริสเองก็ไม่คิดว่าอลิซจะหยุดและหันมา

ทั้งสองจึงชนกันอย่างจัง อลิซกำลังจะล้มคริสดึงเธอไว้ได้ทัน ทั้งสองค้างอยู่ซักพัก อลิซหายตกใจจึงรีบผลักคริสออก แต่คริสดึงยื้อไว้

“ อะไรอีกล่ะคะ “ อลิซสงสัย

“นีน่า กำลังจ้องเราอยู่นะ “ คริสกระซิบเบา ๆ

“แล้วยังไงหล่ะคะ จะกอดไว้อย่างนี้ ถึงเช้ามั้ย “ อลิซยียวน

“เล่นละคร ไปก่อนซักพักนะ “ คริสกระซิบเบากว่าเดิม แต่ก็แอบยิ้มกรุ้มกริ่ม

คริสและอลิซเข้ามาที่ห้องแต่ก็ไม่พบนีน่าแล้ว อลิซถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่ชอบเลยกับสถานกาณ์ที่ต้องโกหกคนอื่นและโกหกตัวเองแบบนี้ ไม่สิ ไม่ได้

เรียกว่าโกหกตัวเอง นี่แหล่ะ ความฝันที่อลิซอยากให้เป็นต่างหากหล่ะ

“ ฉันว่าฉัน น่าจะกลับห้องได้แล้วหล่ะค่ะ วันนี้ “ อลิซนึกถึงที่บ้านแล้วสิ อลิสเดินเข้าห้องไป กำลังจะปิดประตู คริสกลับเดินตาม

“ เอ้า คุณตามมาทำไมเนี่ย “ อลิซมองหน้าคริส

“เรากำลังเล่นละคร ตบตานีน่า คุณลืมแล้วหรอ วันนี้เราต้องนอนห้องเดียวกัน” คริสทบทวนความจำให้อลิซ

“ค่ะ แต่เธอไม่อยู่แล้ว “อลิซยังไม่เข้าใจ

“คุณไม่รู้จักนีน่าดีพอ ถ้านีน่าเข้าห้องผมได้เธอก็ทำอะไรก็ได้ ที่เราคาดไม่ถึง “คริสให้เหตุผล และไม่สนใจว่าอลิซจะว่ายังไงแต่เขาก็ทิ้งตัวลงนอนในมุมของเขาเรียบร้อยแล้ว

อลิซอาบน้ำเสร็จออกมาเห็นคริสนอนหลับแล้วเลยไม่กล้าปลุก วันนี้คงเหนื่อยมากทั้งวันแล้ว อลิซมองคริสและนึกขอบคุณสร้อยพระจันทร์ที่พาเธอมาที่นี่

เธอมีความสุขมาก แต่เธอก็ไม่อยากสร้างปัญหาให้คริสไปมากกว่านี้ บางทีถ้าไม่มีเธอ คริสกับนีน่าอาจจะเข้าใจกันมากกว่านี้ก็เป็นได้ อลิซลุกเดินไปที่

หน้าต่างมองหาพระจันทร์ แต่แปลกจังวันนี้ทำไม มองไม่เห็นพระจันทร์เอาเสียเลย ท้องฟ้าก็ดูเงียบเหงาไปถนัดตา


ดึกแล้วอลิซเริ่มง่วง เธอไม่กล้าหันหน้ามาหาคริสจึงพลิกตัวหันหลังให้ พลันมือคริสก็ดึงเธอเข้ามาใกล้

“จะนอนห่างไปไหน เดี๋ยวก็โดนจับได้ “ คริสพูดทั้งที่หลับตา แต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือ

“ เธอก็คงนอนแล้วมั้งคะ ฉันว่า ว้าย “ อลิซตกใจที่คริสกอดเธอเข้ามาใกล้กว่าเดิม อลิซไม่ได้ขัดขืน ยอมให้ชายหนุ่มกอดอยู่อย่างนั้น

เธอมองหน้าชายหนุ่มที่แกล้งหลับตาพริ้ม ทำเป็นไม่สนใจเธอ  หัวใจของเธอเต้นแรงเหลือเกิน จนกลัวว่าเขาจะได้ยิน หญิงสาวเกร็งตัวอยู่อย่างนั้นจนเมื่อย

และผ่อนคลายในที่สุด เธอค่อยๆ ขยับลดตัวลงเพื่อที่จะได้นอนถนัดขึ้น หญิงสาวนอนซบอกชายหนุ่ม ชายหนุ่มกระชับกอดให้แน่นขึ้น

ค่ำคืนนี้จะยาวนานเพียงใดกัน อลิซหลับตาครุ่นคิด และหลับไป


เมฆหมอกเลื่อนคล้อยเลือนหายไป ปรากฏพระจันทร์กลมโตลอยเด่น ค่ำคืนนี้พระจันทร์ดูสวย และทรงพลัง รายล้อมด้วยหมู่ดาวนับพัน  

พระจันทร์ฮัมเพลงหยอกเย้า ดวงดาวสกาวสุกใส ......


**********************************************************************************
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่