เป็นโรคซึมเศร้าหยุดยาเองหวังว่าจะหายด้วยตัวเองแต่สุดท้ายก็ต้องแพ้ให้กับโรคนี้

เรารักษาด้วย Serlift แค่ตัวเดียวร่วมกับยานอนหลับบ้างมานานหลายเดือน หลายเดือนที่กินยาทุกวัน เพื่อหวังว่าจะหายจากโรคนี้ มีบ้างนะคะที่รู้สึกตัวเองหายแล้ว อุปทานไปเองเมื่อได้ไปเที่ยว ไปไกลจากบ้าน อาการป่วยของเราทำให้ต้องลาออกจากที่ทำงานแล้วหวังว่าอยู่บ้านอาการน่าจะดีขึ้น แต่พอหยุดอยู่บ้านได้แค่อาทิตย์เดียว เราก็รู้ว่าเราคิดผิด อยู่ที่บ้านอยู่กับพ่อแม่ ยิ่งทำให้รู้สึกอ่อนไหวง่ายกับคำพูดของพ่อแม่ ปกติจะถูกด่าแรงๆอยู่แล้ว ไม่ให้เก็บมาคิดมันก็ไม่หยุดคิด มันยากมากกับการที่มีคนมาบอกว่าคนอื่นชีวิตยังแย่กว่าเราเค้ายังสู้ ยิ่งทำให้เรารู้สึกไม่มีค่า ร้องไห้บ่อยกว่าเดิม แต่ต้องรับฟัง และหาคนระบายอย่างน้อยก็มีแฟนนะตอนนั้น มีเพื่อนอีกหนึ่งคนโดยที่พ่อแม่ไม่เคยรู้เลยว่าเราป่วย แค่สงสัยว่าทำไมเรานอนมากกว่าเดิม ข้าวไม่กิน  ผอมลงแต่ก็ดีนะกินยาแล้วไม่อ้วน ข้อดีของการเป็นโรคซึมเศร้า 5555555

แต่มาวันหนึ่งแฟนที่เคยจับมือตอนไปพบหมอ แฟนคนแรกจะครบรอบที่คบกัน 26 กันยานี้ สัญญาจะไม่ทิ้งกัน วันนี้กลับบอกว่าหมดรักไปตั้งนานแล้ว อยากอยู่คนเดียว ช็อคจนมือสั่นตัวสั่นแรงมาก ร้องไห้กลางพารากอนที่ๆเราชอบนัดเจอแฟนบ่อยๆ เป็นที่ๆความรักเกิดขึ้นและสลายไป แต่ที่ให้คำสัญญาต่อหน้าหมอ มันเป็นเรื่องโกหกสีขาว อย่างน้อยก็ทำให้เรามีความหวังอยู่ ใครๆก็อยากให้คิดในแง่ดีที่เค้าโกหก อยากต่อสู้กับตัวเอง แต่ตอนนี้คำสัญญานั้นกลับมาทำร้ายเราทุกวัน มีคนบอกว่าอย่างน้อยเค้าก็ยังดีที่ไม่ทิ้งเราตอนแย่ที่สุด ต้องขอบคุณเค้า ^^  ตอนนี้เรามีที่ทำงานใหม่ หมออยากให้โฟกัสกับเรื่ิองที่ทำงาน แต่มัน่ำได้ยากเลยไม่บอกหมอออกไป ไม่อยากบอกว่าคิดเรื่องฆ่าตัวตายทุกวัน การมีชีวิตอยู่มันใช้ความกล้าหาญมากแต่การยอมตายมันต้องใช้ความกล้ามากที่สุด อยากหยุดชีวิตไว้ที่อายุ 25 ไม่ได้อยากให้ใครรู้สึกผิดหวัง หรือเสียใจกับเรา แต่เราอ่อนแอเอง เราคิดงี้นะ ตายไปก็จะไม่ไปหลอกใครด้วย อิอิ

สำหรับเพื่อนสนิทตอนแรกเราว่าเรามีนะ แต่หลังๆเราก็เริ่มหาคำตอบว่า เพื่อนสนิทคืออะไร เพื่อนคืออะไร ทำไมเรารู้สึกเกรงใจที่ต้องเล่าปัญหาให้ฟัง เล่าซ้ำๆ เรื่องเดิมๆ เราก็เห็นเพื่อนเค้ามีความสุขดี ทำไมเรามีเพื่อนเเต่อยู่คนเดียว กินข้าวคนเดียว เรียนรู้ใช้ชีวิตคนเดียว ไม่อยากรบกวนเพื่อน เราไม่มีเพื่อน-มีน้อยมาก ไม่มีสังคมใหม่ๆ ไม่เคยไปเที่ยวกับที่ทำงานในวันหยุด ไม่เคยนัดเจอที่ทำงาน ไม่เคยได้เพื่อนจากฟิตเนส ไม่เคยได้เพื่อนจากคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ ไม่เคยได้อะไรใหม่ๆดีๆจากสิ่งที่เราออกไปทำอย่างที่คนอื่นบอกเลยสักคน

เราหยุดยามาอาทิตย์นึงแล้ว คือตอนแรกๆก็ลืม คิดว่าไม่เป็นไร ลืมมาเรื่อย จนรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้รู้สึกเศร้า ชีวิตหดหู่ ไม่ได้คิดถึงใคร หรืออาจจะคิดถึงแต่รู้ว่าย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว ทำงานทุกวันแต่น้ำตาไหล ช่วงที่แฟนบอกเลิกแรกๆ นอนไม่หลับ เราฝันร้ายว่าเค้ามีแฟนใหม่ ซึ่งเราก็รู้ว่าเค้าไม่แปลกหรอกที่จะมีใหม่ เค้าหน้าที่การงานก็ดี หน้าตาผิวพรรณดี เก่งและฉลาดที่ทำงานเค้าคงจะมีคนชอบเค้าอยู่แล้ว อายุของเค้าก็เริ่มใกล้ที่จะสร้างครอบครัวกับใครสักคนคงไม่ใช่เราแล้วแหล่ะ จริงๆเราควรรู้สึกตัวตั้งแต่เค้าแต่อยากคบไปเรื่อยๆ ไม่ยอมรับเรา ไม่แนะนำเรากับครอบครัวเค้า ไม่ได้มองอนาคตร่วมกับเรา กลับไปเป็นตัวของเค้าเอง  แค่ตอนนี้คงทำใจยากถ้าเค้าจะเปิดตัวคบใคร คงห้ามความรู้สึกเค้าไม่ได้ ขนาดเค้าหมดรักเราเรายังห้ามไม่ได้เลย  สุดท้ายแฟนบอกว่าเราเป็นคนดี แต่มันก็แค่คำปลอบใจอ่ะนะ เราเป็นคนดีมาตลอด อายุ 25 ปีถูกทิ้งไม่เคยสมหวังในความรักเลยอ่ะ  12 ครั้ง ความรักมันขาดตลาดหรือเราพลาดมาตลอดก็ไม่รู้

คนที่ไม่รักตัวเองจะรักคนอื่นได้ยังไง มันใช้ได้จริงกับโรคซึมเศร้าหรอ แต่เรารักตัวเองมากพอจะหยุดทุกอย่างตอนนี้นะ มีชีวิตอยู่ต่อไปจะรู้สึกเจ็บปวด เศร้า หดหู่ไปอีกกี่วันกันใช่มั๊ยล่ะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องบาปบุญคุณโทษ เราไม่สวดมนต์ ทำสมาธิหรืออะไรทั้งนั้น

คนไทยป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเยอะ เราไม่รู้จะบอกอะไรดี ถ้ามีคนใกล้ตัวเป็นโรคนี้ต้องสังเกตเค้าเยอะๆ บางทีที่เงียบๆในสมองมีเรื่องเลวร้าย พูดกับเค้าบ่อยๆย้ำบ่อยๆว่าทุกอย่างจะดีขึ้น  เราไม่รับประกันว่าคนที่หายป่วยจะกลับมาน่ารักเหมือนเดิมรึเปล่า แต่ตอนป่วยน่ะโคตรไม่น่ารักเลย โคตรเป็นคนที่น่ารำคาญ โคตรเป็นคนที่พึ่งพาแต่คนอื่น ขอให้คนที่ป่วยอยู่ตอนนี้ไม่ต้องเสียใจและโชคร้ายเหมือนเราล่ะกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่