เคยถูกคนที่ อ้างตลอดเวลาว่าเป็นซึมเศร้า ทำลายทั้งชีวิต
เราเคยร่วมลงทุนกับรุ่นพี่ ชาย 1 คน รุ่นน้องหญิง 1 คน วันนึงรุ่นพี่ผู้ชายคนนี้ถูกแฟนทิ้งพยายามฆ่าตัวตาย "แต่ไม่ตาย" เราจึงไปเยี่ยม อาการเค้าเศร้าหนัก อาการเศร้าเป็นปีๆ หมอสรุปว่า เค้าเป็นซึมเศร้า คอยรับยาบ่อยๆ ทางบ้านพี่เค้าก็ขอให้เรา เข้าไปเยี่ยมไปพูดคุยเป็นเพื่อนบ่อยๆ ตลอดเวลาเค้าจะดราม่า บีบน้ำตาให้เราเห็นใจบ่อยๆ หลังๆ อาการเริ่มแปลกขึ้น ...
พอเราอยู่กับแฟน เค้าก็จะโทรให้รีบไปหา หนักสุด เราไปเที่ยวต่างประเทศกับแฟน พี่เค้าส่งไลน์มาบอกว่าจะฆ่าตัวตาย ให้เรารีบกลับมา เรารีบบินกลับ พอไปถึงเค้าก็กินยา ระงับประสาทไป 20 เม็ด เรารีบพาไป รพ. สุดท้ายเราทะเลาะกับแฟน เราปรึกษาหมอว่า ทำไมเค้าถึงต้องการเราขนาดนั้น หมอบอกว่า เราเหมือนคนเดียวที่เข้าใจเค้า จึงหวงเรา อาการเค้าหนักจะให้เราอยู่ด้วยตลอดเวลา
ธุรกิจก็เริ่มแย่ ขาดทุนหนัก เพราะเราไปไหนคุยกับลูกค้าเค้าก็อาระวาด แฟนเราก็ต้องเลิก เพราะคิดแค่ว่า แฟนเรายังอยู่ แต่กลัวเค้าตาย สุดท้ายกลายเป็นเราเศร้ามาก พี่เค้าก็เข้ามาปลอบเราบ้าง สุดท้าย เผลอมีอะไรกัน แต่เราไม่ได้รักเค้า เราทรมานมากทั้งรับอารมณ์ ที่เอาแต่ใจสุดๆ ทั้งเสียใจที่ชีวิตพัง เริ่มมีความสัมพันธ์แบบ FWB กับเค้าหลายครั้ง จนเราเริ่มรู้สึกไม่ โอเค เราไม่อยากมีอะไรกับเค้าแล้ว แต่ถ้าไม่ทำเค้าจะโกรธ โมโห โวยวาย จนเราไม่ไหว
วันนึงทางบ้านชวนไปเที่ยวอิสเตรเลีย เราก็อยากลองปรึกษา จิตแพทย์ ที่นั่นดูบ้าง จึงปรึกษาเพื่อรที่นั่น ให้จองนัดหมอให้ สุดท้ายปรึกษาแพทย์ที่ออสเตรเลีย แต่แพทย์กลับพูดคนระแบบกับแพทย์ไทยเลย
ซึมเศร้า ไม่เรียกร้องความสนใจ เพราะจะไม่อยากคุย สื่อสารกับใคร จะไม่เอาการฆ่าตัวตายมาเรียกร้องความสนใจ ผู้ป่วยคิดแล้วเค้าจะทำเลย อาการที่เราเจอคืออาการคนเอาแต่ใจ
ส่วนมากมาจากการเลี้ยงดูที่ถูกตามใจตั้งแต่เด็กๆ พอสูญเสียอะไรไปแล้วรับไม่ได้จึงหาวิธีเรียกร้องความสนใจ พอมันได้ผล จึงทำอีกเรื่อยๆ
เราลองสังเกตุ จริงๆบ้านพี่เค้าตามใจเค้าแบบสุดๆ จริงๆ
เราดูแลเค้าต่อไปสักพัก ก็เริ่มมีคนมาจีบ เราจึงตั้งใจละที่เราจะออกห่างจากเค้า เราบอกเค้าไปตรงๆว่า เราชอบผู้ชายคนนึง อยากจะเริ่มต้นชีวิตกับคนนั้น
เค้าอาระวาดโวยวายหนักมาก เราจึงบอกเค้าว่า ขอโทษ ชีวิตของเราต้องไปต่อ เราตัดการติดต่อจากเค้าทุกช่องทาง และฝากหุ้นธุรกิจให้ น้องหุ้นส่วนอีกคน คือน้องA และฝากน้องเอ ช่วยดูๆดค้าด้วย แต่ก็เตือนว่าอย่าไปอะไรกับเค้ามาก
เราย้ายมาอยู่กับแฟนเรา ผ่านไป 3 เดือน ก็ติดต่อ กลับมาหา A ว่าเค้าเป็นยังไงบ้าง น้องA บอกเราว่าเค้า ปกติทุกอย่าง
ผ่านไป 3 ปี มีโทรศัพท์โทรหาเราจาก น้อง B ซึ่งเป็นน้องสาวของ A ซึ่งน้องค่อนข้างหน้าตาสวย โดย B เล่าว่า Bรู้จัดกับพี่ผู้ชายคนนั้น ผ่าน A ซึ่งเวลาA ไปทานข้าวกับ พี่ผู้ชาย ก็จะชวน B ไปด้วยบางครั้ง
พอเจอกัน 3-4 ครั้ง พี่เค้าก็ขอ Add เฟสบุ๊ค B ไว้ จากนั้นเค้าก็เริ่มขอปรึกษา ชีวิตเล่าเรื่องดราม่าให้ฟัง ว่าชีวิตเค้าเศร้ายังไง "เค้าอยากตาย" จนหลายครั้ง น้องB สงสารต้องออกไปหาเค้าบาอยครั้ง ด้วยความสงสาร และเห็นใจ แล่วน้องB เพิ่งเลิกกับแฟน จึงสงสารเค้า เห็นใจเรื่องที่เค้าถูกแฟนเค้าทิ้ง
สุดท้าย เค้ากับน้อง B มีอะไรกัน และคอยดูแลเค้ามาตลอด 2 ปี อยู่ไปสักพักน้อง B ทนไม่ไหว อยาก เพราะเค้าเอาแต่ใจ และบางครั้งทุบตี ไล่ลบ บล็อคเพื่อนสมัยเรียนน้องจนหมด Bไม่สามารถมีขีวิตของตัวเองได้เลย และสภาพจิตใจย่ำแย่ที่สุด
สุดท้าย B ทนไม่ไหวจึง โทรมาปรึกษาเรา เพราะว่าเค้าบังคับให้ B แต่งงานกับเค้าไม่งั้นจะฆ่าตัวตาย
สุดท้ายเราแนะนำให้ B หนีออกมาและบล็อคเค้าทุกทาง B ต้องหนรไปอยู่ต่างจังหวัด
สุดท้ายเค้าก็ไม่ได้ทำร้ายอะไรตัวเอง และยังใช้อาการซึมเศร้าไปอ้างหายืมเงินคนอื่นบ้าง และไม่มีใครกล้าทวง เอาไปหลอกผู้หญิงคนอื่นๆบ้าง ให้มาอยู่ใกล้ และดูแลเค้า
เราไม่อยากให้มครเป็นแบบเรา กับB อีก เลิกปกป้องคนพวกนี้ที
คนที่ซึมเศร้ากลายเป็นเรา บางทีอยากตาย บางทีไม่อยากเจอผู้คน ไม่มีแรงใจอยากมีชีวิตอยู่ เยื่อหน่ายโลกไปหมด อาการเราเป็นแบบนั้น ในตอนนั้น และ จิตแพทย์ออสเตรเลียบอกออาการของเรานี่แหละคือซึมเศร้าจริงๆ อาการของชายที่เราเล่า หมอบอกมันคืออาการ เอาแต่ใจและเรียกร้องความสนใจ ซึ่งมักเกิดจากการเลี้ยงดูที่ถูกตามใจตั้งแต่เด็ก ประเทศที่พบมากคือ ไทย-จีน ที่มักตามใจลูกจนเกินไป
อยากให้แพทย์ไทยแยกให้ถูกก่อนจะไปสรุป ว่าใครป่วยจริงๆ.... ฝากด้วยค่ะ
ถูกคนที่ "เป็นซึมเศร้า" ทำลายทั้งชีวิต ซึมเศร้าหรือเอาแต่ใจ
เราเคยร่วมลงทุนกับรุ่นพี่ ชาย 1 คน รุ่นน้องหญิง 1 คน วันนึงรุ่นพี่ผู้ชายคนนี้ถูกแฟนทิ้งพยายามฆ่าตัวตาย "แต่ไม่ตาย" เราจึงไปเยี่ยม อาการเค้าเศร้าหนัก อาการเศร้าเป็นปีๆ หมอสรุปว่า เค้าเป็นซึมเศร้า คอยรับยาบ่อยๆ ทางบ้านพี่เค้าก็ขอให้เรา เข้าไปเยี่ยมไปพูดคุยเป็นเพื่อนบ่อยๆ ตลอดเวลาเค้าจะดราม่า บีบน้ำตาให้เราเห็นใจบ่อยๆ หลังๆ อาการเริ่มแปลกขึ้น ...
พอเราอยู่กับแฟน เค้าก็จะโทรให้รีบไปหา หนักสุด เราไปเที่ยวต่างประเทศกับแฟน พี่เค้าส่งไลน์มาบอกว่าจะฆ่าตัวตาย ให้เรารีบกลับมา เรารีบบินกลับ พอไปถึงเค้าก็กินยา ระงับประสาทไป 20 เม็ด เรารีบพาไป รพ. สุดท้ายเราทะเลาะกับแฟน เราปรึกษาหมอว่า ทำไมเค้าถึงต้องการเราขนาดนั้น หมอบอกว่า เราเหมือนคนเดียวที่เข้าใจเค้า จึงหวงเรา อาการเค้าหนักจะให้เราอยู่ด้วยตลอดเวลา
ธุรกิจก็เริ่มแย่ ขาดทุนหนัก เพราะเราไปไหนคุยกับลูกค้าเค้าก็อาระวาด แฟนเราก็ต้องเลิก เพราะคิดแค่ว่า แฟนเรายังอยู่ แต่กลัวเค้าตาย สุดท้ายกลายเป็นเราเศร้ามาก พี่เค้าก็เข้ามาปลอบเราบ้าง สุดท้าย เผลอมีอะไรกัน แต่เราไม่ได้รักเค้า เราทรมานมากทั้งรับอารมณ์ ที่เอาแต่ใจสุดๆ ทั้งเสียใจที่ชีวิตพัง เริ่มมีความสัมพันธ์แบบ FWB กับเค้าหลายครั้ง จนเราเริ่มรู้สึกไม่ โอเค เราไม่อยากมีอะไรกับเค้าแล้ว แต่ถ้าไม่ทำเค้าจะโกรธ โมโห โวยวาย จนเราไม่ไหว
วันนึงทางบ้านชวนไปเที่ยวอิสเตรเลีย เราก็อยากลองปรึกษา จิตแพทย์ ที่นั่นดูบ้าง จึงปรึกษาเพื่อรที่นั่น ให้จองนัดหมอให้ สุดท้ายปรึกษาแพทย์ที่ออสเตรเลีย แต่แพทย์กลับพูดคนระแบบกับแพทย์ไทยเลย
ซึมเศร้า ไม่เรียกร้องความสนใจ เพราะจะไม่อยากคุย สื่อสารกับใคร จะไม่เอาการฆ่าตัวตายมาเรียกร้องความสนใจ ผู้ป่วยคิดแล้วเค้าจะทำเลย อาการที่เราเจอคืออาการคนเอาแต่ใจ
ส่วนมากมาจากการเลี้ยงดูที่ถูกตามใจตั้งแต่เด็กๆ พอสูญเสียอะไรไปแล้วรับไม่ได้จึงหาวิธีเรียกร้องความสนใจ พอมันได้ผล จึงทำอีกเรื่อยๆ
เราลองสังเกตุ จริงๆบ้านพี่เค้าตามใจเค้าแบบสุดๆ จริงๆ
เราดูแลเค้าต่อไปสักพัก ก็เริ่มมีคนมาจีบ เราจึงตั้งใจละที่เราจะออกห่างจากเค้า เราบอกเค้าไปตรงๆว่า เราชอบผู้ชายคนนึง อยากจะเริ่มต้นชีวิตกับคนนั้น
เค้าอาระวาดโวยวายหนักมาก เราจึงบอกเค้าว่า ขอโทษ ชีวิตของเราต้องไปต่อ เราตัดการติดต่อจากเค้าทุกช่องทาง และฝากหุ้นธุรกิจให้ น้องหุ้นส่วนอีกคน คือน้องA และฝากน้องเอ ช่วยดูๆดค้าด้วย แต่ก็เตือนว่าอย่าไปอะไรกับเค้ามาก
เราย้ายมาอยู่กับแฟนเรา ผ่านไป 3 เดือน ก็ติดต่อ กลับมาหา A ว่าเค้าเป็นยังไงบ้าง น้องA บอกเราว่าเค้า ปกติทุกอย่าง
ผ่านไป 3 ปี มีโทรศัพท์โทรหาเราจาก น้อง B ซึ่งเป็นน้องสาวของ A ซึ่งน้องค่อนข้างหน้าตาสวย โดย B เล่าว่า Bรู้จัดกับพี่ผู้ชายคนนั้น ผ่าน A ซึ่งเวลาA ไปทานข้าวกับ พี่ผู้ชาย ก็จะชวน B ไปด้วยบางครั้ง
พอเจอกัน 3-4 ครั้ง พี่เค้าก็ขอ Add เฟสบุ๊ค B ไว้ จากนั้นเค้าก็เริ่มขอปรึกษา ชีวิตเล่าเรื่องดราม่าให้ฟัง ว่าชีวิตเค้าเศร้ายังไง "เค้าอยากตาย" จนหลายครั้ง น้องB สงสารต้องออกไปหาเค้าบาอยครั้ง ด้วยความสงสาร และเห็นใจ แล่วน้องB เพิ่งเลิกกับแฟน จึงสงสารเค้า เห็นใจเรื่องที่เค้าถูกแฟนเค้าทิ้ง
สุดท้าย เค้ากับน้อง B มีอะไรกัน และคอยดูแลเค้ามาตลอด 2 ปี อยู่ไปสักพักน้อง B ทนไม่ไหว อยาก เพราะเค้าเอาแต่ใจ และบางครั้งทุบตี ไล่ลบ บล็อคเพื่อนสมัยเรียนน้องจนหมด Bไม่สามารถมีขีวิตของตัวเองได้เลย และสภาพจิตใจย่ำแย่ที่สุด
สุดท้าย B ทนไม่ไหวจึง โทรมาปรึกษาเรา เพราะว่าเค้าบังคับให้ B แต่งงานกับเค้าไม่งั้นจะฆ่าตัวตาย
สุดท้ายเราแนะนำให้ B หนีออกมาและบล็อคเค้าทุกทาง B ต้องหนรไปอยู่ต่างจังหวัด
สุดท้ายเค้าก็ไม่ได้ทำร้ายอะไรตัวเอง และยังใช้อาการซึมเศร้าไปอ้างหายืมเงินคนอื่นบ้าง และไม่มีใครกล้าทวง เอาไปหลอกผู้หญิงคนอื่นๆบ้าง ให้มาอยู่ใกล้ และดูแลเค้า
เราไม่อยากให้มครเป็นแบบเรา กับB อีก เลิกปกป้องคนพวกนี้ที
คนที่ซึมเศร้ากลายเป็นเรา บางทีอยากตาย บางทีไม่อยากเจอผู้คน ไม่มีแรงใจอยากมีชีวิตอยู่ เยื่อหน่ายโลกไปหมด อาการเราเป็นแบบนั้น ในตอนนั้น และ จิตแพทย์ออสเตรเลียบอกออาการของเรานี่แหละคือซึมเศร้าจริงๆ อาการของชายที่เราเล่า หมอบอกมันคืออาการ เอาแต่ใจและเรียกร้องความสนใจ ซึ่งมักเกิดจากการเลี้ยงดูที่ถูกตามใจตั้งแต่เด็ก ประเทศที่พบมากคือ ไทย-จีน ที่มักตามใจลูกจนเกินไป
อยากให้แพทย์ไทยแยกให้ถูกก่อนจะไปสรุป ว่าใครป่วยจริงๆ.... ฝากด้วยค่ะ