“จาง ซิน” เจ้าแม่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับพันล้านของจีน เธอเป็นนักธุรกิจชั้นแนวหน้าของประเทศ โดยในปีนี้นิตยสารฟอร์บจัดอันดับให้เธอเป็นเศรษฐีระดับพันล้านอันดับที่ 30 ของประเทศจีน ด้วยทรัพย์สินมูลค่า 2.5 พันล้านเหรียญ (87,500 ล้านบาท) และได้จัดอันดับให้เธอครองอันดับที่ 69 ของทำเนียบสตรีผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกด้วย
สาเหตุสำคัยประการหนึ่ง ที่ฟอร์บสยกย่อหญิงเอเชียคนนี้อย่างมาก เป็นเพราะจุดเริ่มต้นการสู้ชีวิตที่น่านับถือของเธอ เนื่องจากจาง ซิน เกิดมาจากคุณแม่ ผู้เป็นสาวโรงงานที่ยากจน ต้องอาศัยบ้านพักคนงานในโรงงานเป็นที่อยู่ของชีวิต ซึ่งเธอเล่าว่า
“เมืองที่ฉันอยู่ในตอนนั้น มีแต่ความเงียบ ไม่มีรถยนต์ ไม่มีร้านรวง ไม่มีไฟถนน ไม่มีเครื่องจักรอะไรเลย มีแต่คนที่ขี่จักรยานแต็มไปหมดเท่านั้นแหละ”
เมื่อมีแม่เป็สาวโรงงาน เธอจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำงานในโรงงาน แต่ปัญหาก็คือ เธอเริ่มเป็นสาวโรงงานในตอนอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น ความลำบากทำให้ 2 แม่ลูก ดิ้นรนมาหาชีวิตที่ดีกว่า โดยพวกเขาเลือกไปอยู่ที่ฮ่องกง แต่ถึงอย่างนั้น จางก็ต้องยังทำงานหนักในโรงงานถึงวันละ 12 ชั่วโมงอยู่ดี
เธอเป็นคนใฝ่เรียน เพราะความลำบากสอนเธอให้ดิ้นรนสู่ชีวิตที่ดีกว่า เธอไปเรียนภาษาอังกฤษภาคค่ำ หลังจากเลิกงานที่โรงงาน พร้อมๆกับการเก็บออมเงิน ถึง 5 ปี เพื่อซื้อตั๋วเครื่องบินไปประเทศอังกฤษ ซึ่งเป้าหมายเส้นทางการศึกษาของเธออยู่ที่นั่น เธอได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัย Sussex และยังได้ทุนเรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัย Cambridge ซึ่งมีชื่อระดับโลกด้วย
การศึกษาได้เปลี่ยนชีวิตเธอ สร้างโอกาสให้เธอได้เริ่มทำงานที่แรก กับสถาบันการเงินระดับโลกอย่างโกลด์แมน แซกส์ ในนครนิวยอร์คของสหรัฐฯ แต่แทนที่เธอจะเลือกใช้ชีวิต หรูๆ ในฐานะนักการเงินสถาบันชื่อดัง เธอเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในตลาดหุ้น Wall Street ที่เต็มไปด้วยเสือสิงห์กระทิงแรด ไม่กี่ปีก็ตัดสินใจกลับมา สู่ประเทศจีน จุดเริ่มต้นของชีวิตเธอ
เป้าหมายของเธอ คือ การก้าวเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตามคำแนะนำของเพื่อน ซึ่งทั้งคู่มองเห็นว่า ธุรกิจนี้จะต้องยิ่งใหญ่ ตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังเฟื่องฟูอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นไม่นานเธอได้พบกับชายคนหนึ่ง ชื่อว่า “ผาง ซืออี้” ชายหนุ่มผู้มาจากครอบครัวที่แร้นแค้นกว่าเธอเสียอีก ทั้งคู่เกิดความเข้าใจกัน จึงได้ตัดสินใจแต่งงานกัน และเริ่มตั้งต้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วยกันแห่งแรก คือ บริษัท SOHO China ในปี 1995
ประสบการณ์ชีวิตในยุโรปและอเมริกา บวกกับเชื้อสายจีนของเธอ ทำให้เธอผสมผสาน ความคิดทางธุรกิจ สร้างนวัตกรรมอาคาร ที่แหวกแนว ล้ำสมัย ตอบโจทย์การใช้งาน มากกว่าคู่แข่งซึ่งยังคงยึดติดกับการก่อสร้างอาคารแบบเดิมๆ นั่นทำให้บริษัทของเธอโดดเด่น และเติบโตอย่างรวดเร็ว
เวลาผ่านไป 20 ปี จนถึงปัจจุบัน เธอและสามีช่วยกันเปลี่ยนแปลงบริษัทเล็กๆ ที่มีแต่หนี้สิน ให้เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีนอันไพศาล อยู่ในใจกลางมหานครปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศ
ไม่เพียงเท่านั้น SOHO China กลายเป็นที่ทำงานของนักออกแบบอาคารระโลก ที่ต้องการร่วมงานกับยักษ์ใหญ่จากจีนแห่งนี้ เพราะมีโครงการในปักกิ่งมากถึง 18 โครการ และขยายไปยังนครเซี่ยงไฮ้อีกถึง 11 โครงการ
อย่าแปลกใจที่ผู้หญิงคนนี้จะร่ำรวย และทรงอิทธิพลระดับโลก ชื่อเสียงของเธอได้รับการยอมรับอย่างมากอย่างไม่น่าเชื่อ แม้กระทั่งในสหรัฐฯเอง ซึ่งมีปัญหาการเหยียดชนชาติ โดยเฉพาะการมองชาวจีนเป็นคู่แข่ง แต่สำหรับจาง ซินแล้ว เธอทรงอิทธิพลถึงขั้นที่หนังฮอลลีวู้ด อย่าง “Wall Street: Money Never Sleeps” ขอเชิญเธอไปปรากฏตัวในหนัง ร่วมกับพระเอกของเรื่อง!
ที่มา: CNN | Forbes | kittdoo.com
======================================================================
ติดตามข่าวสาร ศูนย์รวมความรู้-บทความเรื่องการลงทุน, อสังหา, และธุรกิจ ได้ที่
https://www.facebook.com/thinkvestment
=== เส้นทางชีวิต “จาง ซิน” จาก “สาวโรงงาน” สู่ “เจ้าแม่อสังหา”หมื่นล้าน ===
“จาง ซิน” เจ้าแม่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับพันล้านของจีน เธอเป็นนักธุรกิจชั้นแนวหน้าของประเทศ โดยในปีนี้นิตยสารฟอร์บจัดอันดับให้เธอเป็นเศรษฐีระดับพันล้านอันดับที่ 30 ของประเทศจีน ด้วยทรัพย์สินมูลค่า 2.5 พันล้านเหรียญ (87,500 ล้านบาท) และได้จัดอันดับให้เธอครองอันดับที่ 69 ของทำเนียบสตรีผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกด้วย
สาเหตุสำคัยประการหนึ่ง ที่ฟอร์บสยกย่อหญิงเอเชียคนนี้อย่างมาก เป็นเพราะจุดเริ่มต้นการสู้ชีวิตที่น่านับถือของเธอ เนื่องจากจาง ซิน เกิดมาจากคุณแม่ ผู้เป็นสาวโรงงานที่ยากจน ต้องอาศัยบ้านพักคนงานในโรงงานเป็นที่อยู่ของชีวิต ซึ่งเธอเล่าว่า
เมื่อมีแม่เป็สาวโรงงาน เธอจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำงานในโรงงาน แต่ปัญหาก็คือ เธอเริ่มเป็นสาวโรงงานในตอนอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น ความลำบากทำให้ 2 แม่ลูก ดิ้นรนมาหาชีวิตที่ดีกว่า โดยพวกเขาเลือกไปอยู่ที่ฮ่องกง แต่ถึงอย่างนั้น จางก็ต้องยังทำงานหนักในโรงงานถึงวันละ 12 ชั่วโมงอยู่ดี
เธอเป็นคนใฝ่เรียน เพราะความลำบากสอนเธอให้ดิ้นรนสู่ชีวิตที่ดีกว่า เธอไปเรียนภาษาอังกฤษภาคค่ำ หลังจากเลิกงานที่โรงงาน พร้อมๆกับการเก็บออมเงิน ถึง 5 ปี เพื่อซื้อตั๋วเครื่องบินไปประเทศอังกฤษ ซึ่งเป้าหมายเส้นทางการศึกษาของเธออยู่ที่นั่น เธอได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัย Sussex และยังได้ทุนเรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัย Cambridge ซึ่งมีชื่อระดับโลกด้วย
การศึกษาได้เปลี่ยนชีวิตเธอ สร้างโอกาสให้เธอได้เริ่มทำงานที่แรก กับสถาบันการเงินระดับโลกอย่างโกลด์แมน แซกส์ ในนครนิวยอร์คของสหรัฐฯ แต่แทนที่เธอจะเลือกใช้ชีวิต หรูๆ ในฐานะนักการเงินสถาบันชื่อดัง เธอเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในตลาดหุ้น Wall Street ที่เต็มไปด้วยเสือสิงห์กระทิงแรด ไม่กี่ปีก็ตัดสินใจกลับมา สู่ประเทศจีน จุดเริ่มต้นของชีวิตเธอ
เป้าหมายของเธอ คือ การก้าวเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตามคำแนะนำของเพื่อน ซึ่งทั้งคู่มองเห็นว่า ธุรกิจนี้จะต้องยิ่งใหญ่ ตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังเฟื่องฟูอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นไม่นานเธอได้พบกับชายคนหนึ่ง ชื่อว่า “ผาง ซืออี้” ชายหนุ่มผู้มาจากครอบครัวที่แร้นแค้นกว่าเธอเสียอีก ทั้งคู่เกิดความเข้าใจกัน จึงได้ตัดสินใจแต่งงานกัน และเริ่มตั้งต้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วยกันแห่งแรก คือ บริษัท SOHO China ในปี 1995
ประสบการณ์ชีวิตในยุโรปและอเมริกา บวกกับเชื้อสายจีนของเธอ ทำให้เธอผสมผสาน ความคิดทางธุรกิจ สร้างนวัตกรรมอาคาร ที่แหวกแนว ล้ำสมัย ตอบโจทย์การใช้งาน มากกว่าคู่แข่งซึ่งยังคงยึดติดกับการก่อสร้างอาคารแบบเดิมๆ นั่นทำให้บริษัทของเธอโดดเด่น และเติบโตอย่างรวดเร็ว
เวลาผ่านไป 20 ปี จนถึงปัจจุบัน เธอและสามีช่วยกันเปลี่ยนแปลงบริษัทเล็กๆ ที่มีแต่หนี้สิน ให้เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีนอันไพศาล อยู่ในใจกลางมหานครปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศ
ไม่เพียงเท่านั้น SOHO China กลายเป็นที่ทำงานของนักออกแบบอาคารระโลก ที่ต้องการร่วมงานกับยักษ์ใหญ่จากจีนแห่งนี้ เพราะมีโครงการในปักกิ่งมากถึง 18 โครการ และขยายไปยังนครเซี่ยงไฮ้อีกถึง 11 โครงการ
อย่าแปลกใจที่ผู้หญิงคนนี้จะร่ำรวย และทรงอิทธิพลระดับโลก ชื่อเสียงของเธอได้รับการยอมรับอย่างมากอย่างไม่น่าเชื่อ แม้กระทั่งในสหรัฐฯเอง ซึ่งมีปัญหาการเหยียดชนชาติ โดยเฉพาะการมองชาวจีนเป็นคู่แข่ง แต่สำหรับจาง ซินแล้ว เธอทรงอิทธิพลถึงขั้นที่หนังฮอลลีวู้ด อย่าง “Wall Street: Money Never Sleeps” ขอเชิญเธอไปปรากฏตัวในหนัง ร่วมกับพระเอกของเรื่อง!
ที่มา: CNN | Forbes | kittdoo.com
======================================================================
ติดตามข่าวสาร ศูนย์รวมความรู้-บทความเรื่องการลงทุน, อสังหา, และธุรกิจ ได้ที่ https://www.facebook.com/thinkvestment