KEY POINTS
5 แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจีน ได้แก่ ไฮเออร์, ทีซีแอล, ไฮเซ่นส์, ไมเดีย และฉางหง กำลังรุกตลาดไทยอย่างเต็มรูปแบบ
มีการลงทุนครั้งใหญ่เพื่อตั้งโรงงานผลิตในไทย เช่น ไฮเออร์ทุ่ม 1 หมื่นล้านบาท และไมเดียทุ่ม 2,200 ล้านบาท
แต่ละแบรนด์ใช้กลยุทธ์เจาะตลาดเฉพาะทาง เช่น การบุกตลาดสมาร์ททีวีพรีเมียม และการจับมือพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อเจาะตลาดไฮเอนด์
มีเป้าหมายหลักในการใช้ไทยเป็นฐานยุทธศาสตร์ใหม่สำหรับเป็นศูนย์กลางการผลิตและกระจายสินค้าในภูมิภาคอาเซียน
ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าไทยกำลังกลายเป็นสมรภูมิเดือด เมื่อบรรดายักษ์ใหญ่จากจีนทยอยขนทัพสินค้าบุกเข้ามาเสริมแกร่ง ทั้งไฮเออร์ ทีซีแอล ไฮเซ่นส์ ไมเดีย และฉางหง ต่างประกาศเดินเกมเชิงรุก ตั้งโรงงานใหม่ จับมือพันธมิตรท้องถิ่น และเปิดตัวสินค้านวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคไทยที่ต้องการทั้งคุณภาพ ดีไซน์ และเทคโนโลยีอัจฉริยะ
ปีนี้เห็นได้ชัดว่า “บิ๊กแบรนด์จีน” เข้ามาเสริมทัพอย่างพร้อมเพรียง ตั้งแต่ “ไฮเออร์” ที่เร่งขยายโรงงานในชลบุรีและปราจีนบุรี “ไมเดีย” ทุ่มกว่า 2,200 ล้านบาท ตั้งโรงงานเครื่องปรับอากาศที่ระยอง “ไฮเซ่นส์” ที่รุกสมาร์ททีวีและเครื่องใช้ไฟฟ้าพรีเมียมเต็มรูปแบบ ไปจนถึง “ทีซีแอล” ที่เล็งขยายตลาดสมาร์ททีวี และ “ฉางหง” ที่เดินเกมสู่ตลาดไฮเอนด์ผ่านความร่วมมือกับโกลบอลเฮ้าส์
ไฮเออร์ จากรง.ล้มละลายสู่ผู้นำตลาดโลก
ไฮเออร์ เริ่มต้นจากโรงงานตู้เย็นใกล้ล้มละลายในปี 2527 ก่อนพลิกฟื้นธุรกิจด้วยการยึด “คุณภาพ” เป็นหัวใจ จนก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก ปัจจุบันมีมูลค่าธุรกิจกว่า 1.1 ล้านล้านบาท สำหรับประเทศไทย ไฮเออร์มองเป็นยุทธศาสตร์หลัก โดยปลายปี 2567 ได้ลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท สร้างโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศใหม่ที่ชลบุรี บนพื้นที่กว่า 3.24 แสนตารางเมตร กำลังการผลิตปีละ 6 ล้านเครื่อง และจ้างงานกว่า 3,000 ตำแหน่ง เสริมกำลังกับโรงงานที่ปราจีนบุรีซึ่งเป็นฐานผลิตตู้เย็น
นอกจากฐานการผลิต ไฮเออร์ยังเปิด Haier Thailand Training Center ศูนย์ฝึกอบรมและบริการแห่งแรกในไทย เพื่อปักธงเป็นฮับด้านบริการในอาเซียน ซึ่งนายต่ง เจี้ยนผิง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ย้ำว่า ไฮเออร์ตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขายกลุ่มเครื่องปรับอากาศแตะ 1,108 ล้านบาทในปีนี้ โดยเฉพาะในตลาดเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ที่ขยายตัวต่อเนื่องจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้ ไฮเออร์ยังเดินหน้ารุกตลาดเครื่องซักผ้าอย่างจริงจัง ไตรมาสแรกปีที่ผ่านมากวาดยอดขายกว่า 3,500 ล้านบาท เติบโต 27% พร้อมเปิดตัวเครื่องซักผ้าพรีเมียม 3 รุ่นใหม่ที่ผสาน AI เข้ากับดีไซน์สำหรับผู้บริโภคเอเชีย ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเครื่องซักผ้าในไทยเป็น 15% ภายในสิ้นปี
TCL เดินเกมทีวีพรีเมียม
ทีซีแอล ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2524 จากธุรกิจเทปคาสเซ็ต ก่อนพัฒนาเป็นหนึ่งในผู้ผลิตโทรทัศน์รายใหญ่ที่สุดของโลก ปัจจุบันมีฐานการผลิต 38 แห่ง และดำเนินธุรกิจในกว่า 160 ประเทศ ปี 2567 ทำสถิติส่งออกทีวีสูงสุด 29 ล้านเครื่อง โดยทีวี Mini LED พุ่งแรงถึง 194%
ในไทย ทีซีแอลประกาศรุกตลาดสมาร์ททีวีพรีเมียมเต็มตัว ตั้งเป้ายอดขายปี 2568 ที่ 3 แสนเครื่อง พร้อมหวังครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 20% ภายในปี 2571–2575 กลยุทธ์ชูจุดแข็งทีวีจอใหญ่และเทคโนโลยีจอขั้นสูง เพื่อเจาะตลาดกลางถึงบน โดยอาศัยแรงหนุนจากการเป็นพันธมิตรโอลิมปิก ซึ่งจะช่วยสร้างแบรนด์ในสายตาผู้บริโภคทั่วโลก
ไมเดีย ทุ่ม 2,200 ล้าน ปักหมุดรง.ระยอง
ไมเดีย หนึ่งในผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของจีน ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2501 เดินหน้าลงทุนตั้งโรงงานผลิต
“ซีล เจียง” ประธานไมเดีย กรุ๊ป ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ระบุว่า ไทยถือเป็นตลาดยุทธศาสตร์ ด้วยความแข็งแกร่งด้านการผลิต ทำเลที่ตั้ง และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ทำให้บริษัทเลือกไทยเป็นศูนย์กลางสำคัญของภูมิภาค พร้อมเดินหน้าสร้างฐานลูกค้าใหม่ทั้งครัวเรือนและภาคองค์กร เครื่องปรับอากาศที่จังหวัดระยอง ด้วยเม็ดเงินกว่า 2,200 ล้านบาท โดยกว่า 90% ของกำลังการผลิตจะส่งออกไปสหรัฐฯ
บริษัทตั้งเป้าเติบโต 200% ในกลุ่มเครื่องปรับอากาศและระบบปรับอากาศอุตสาหกรรมในปี 2568 พร้อมขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ และเพิ่มบริการหลังการขาย เพื่อผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและกระจายสินค้าของเอเชียแปซิฟิก
ไฮเซ่นส์ รุกหนักสมาร์ททีวี
ไฮเซนส์ (Hisense) แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์สัญชาติจีน เริ่มลุยตลาดไทยอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2559 ด้วยกลยุทธ์โฟกัส “สมาร์ททีวี” ล่าสุดสินค้าในตลาดไทยเติบโตแรง รายงานยอดขายครึ่งปีแรก 2568 โตขึ้นถึง 20% โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องซักผ้าที่นำเป็นเทรนด์ ด้วยยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 61% นอกจากนี้บริษัทยังเปิดตัวทีวีจอยักษ์รูปทรงระดับพรีเมียม Hisense UX Series ขนาด 116 นิ้ว เน้นลูกค้าระดับบน ส่งสัญญาณชัดเจนถึงการวางตนในตลาดระยะยาว
“คลาร่า ชาง” กรรมการผู้จัดการ Hisense (Thailand) ระบุว่า แม้สภาพเศรษฐกิจจะมีความท้าทาย แต่ด้วยคุณภาพสินค้าและบริการหลังการขายที่แข็งแกร่ง พร้อมสร้างภาพพรีเมียม รายได้ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปีนี้ตั้งเป้ารุกตลาดไทยด้วยนวัตกรรมและฟังก์ชันตอบโจทย์ผู้บริโภค พร้อมพัฒนาคุณภาพสินค้าและขยายฐานลูกค้าพรีเมียมเพิ่มขึ้น แม้ปัจจุบันไฮเซนส์ยังไม่มีฐานการผลิตสินค้าในไทย ต้องลงทุนสร้างด้านการผลิตในไทยด้วยเช่นกัน เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขัน
ข้อมูลล่าสุดระบุว่า ไฮเซ่นส์ครองอันดับ 2 ของโลกในยอดจัดส่งทีวีรวมช่วงปี 2565–2567 โดยในปี 2567 ส่งออกกว่า 29.14 ล้านเครื่อง ครองส่วนแบ่งตลาดโลก 14% โดยเฉพาะทีวีจอใหญ่ที่มีส่วนแบ่งเกือบ 60% ในรุ่น 100 นิ้วขึ้นไป
ฉางหง ปั้นแบรนด์ CHiQ เจาะไฮเอนด์
ฉางหง ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าจีนที่มีประวัติยาวนานกว่า 67 ปี และมีมูลค่าแบรนด์กว่า 33,100 ล้านดอลลาร์ เจ้าของแบรนด์ “CHiQ” (ชิค) ที่สนใจตลาดเมืองไทย โดยนำแบรนด์ CHiQ เข้ามาทำตลาดตั้งแต่ปี 2565 โดยเน้นจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อสร้างฐานการตลาดจนปัจจุบันมียอดขายกว่า 1 แสนชิ้น ล่าสุดประกาศเดินเกมใหม่ในไทย ผ่านความร่วมมือกับโกลบอลเฮ้าส์ ผู้ค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้านรายใหญ่ ในการนำแบรนด์ CHiQ (ชิค) ทั้ง แอร์, ตู้เย็น, โทรทัศน์ และ mini-Bar มาวางจำหน่ายผ่านโกลบอลเฮ้าส์ทั่วประเทศตั้งแต่ปลายปี 2568 เป็นต้นไป
โดยชูกลยุทธ์ “Smart with Style” ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะกับดีไซน์หรูหรา ราคาอยู่ระหว่าง 2,590–29,500 บาท ไฮไลต์คือ “ตู้เย็นอัจฉริยะรุ่นใหม่” ซึ่งจะเป็น Hero Product ของแบรนด์ในตลาดไทย ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาสินค้าพรีเมียมในราคาจับต้องได้
การรุกหนักของ 5 แบรนด์จีน ไม่เพียงสะท้อนศักยภาพตลาดของประเทศไทย แต่ยังบ่งชี้ว่าไทยกำลังกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตและกระจายสินค้าของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งอนาคตต้องจับตามองถึงโอกาสในการต่อยอดการส่งออกจากประเทศไทยสู่ตลาดโลกด้วยข้อจำกัดด้านภาษีด้วย
5 ยักษ์จีน เขย่าตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าไทย ปักธงฐานยุทธศาสตร์ใหม่ อาเซียน