สวัสดีครับ เพื่อนๆชาวพันทิป จะบอกว่าเป็นกระทู้แรกก็ไม่ใช่ เพราะตั้งมาหลายกระทู้แล้วเหมือนกัน แต่เป็นกระทู้แรกที่ตั้งเกี่ยวกับเรื่องผี แน่นอนครับครั้งนี้มีเรื่องผีที่ประสพพบเจอมากับตัวเอง สมัยยังเด็กย้อนกลับไปเป็น10กว่าปี ตอนนั้นช่วง ม.2ครับ เรื่องอาจไม่น่ากลัวมากแต่มันเป็นภาพที่ผมยังจำติดตาได้มาจนถึงทุกวันนี้ เข้าเรื่องเลยนะครับ ผมเรียนที่โรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่ง อยู่ย่านกรุงเก่า(สมัยนี้เป็นโรงเรียนสหไปแล้วครับ) วันนั้นผมไปเรียนตามปกติครับ แล้วก็พูดคุยกับเพื่อนๆกันเรื่องผีนี่แหล่ะ แล้วไปๆมาๆก็เลยตกลงกันว่าเย็นวันพรุ่งนี้เล่นผีเหรียญกัน ในตอนแรกบอกว่าจะเล่นผีถ้วยแก้วกัน แต่ตอนนั้นด้วยความเป็นเด็กความรู้สึกคือผีถ้วยแก้วมันฮาร์ดคอร์เกินไป เลยขอซอล์ฟๆเป็นผีเหรียญพอ 555 สมาชิกในครั้งนั้นมี4คนด้วยกันคือ ผม พ. บ.และน. พอเลิกเรียน ผมก็ซื้อกระดาษและเมจิกจากสหกรณ์ เพื่อที่จะมาทำตารางผีเหรียญที่บ้าน
ขออนุญาติใส่ภาพประกอบเพื่อเพิ่มอรรถรส *ภาพประกอบทั้งหมดนี้นำมาจากอินเตอร์เนตนะครับ ไม่ใช่สถานที่จริงแต่มีลักษณะใกล้เคียง
วันต่อมาไปโรงเรียนตามปกติผมก็นำตารางผีเหรียญมาอวดเพื่อนๆ และทุกคนก็คอรเฟิร์มว่าเย็นนี้เล่นแน่ๆ สมัยนั้นเลิกเรียนประมาณบ่าย3โมง พอคาบสุดท้ายเป็นวิชาภาษาอังกฤษ ช่วงนั้นเป็นช่วงเทศกาลคริสมาสตร์ปีใหม่ก็จะมีการจัดบอร์ด อาจารย์ประจำวิชาบอกให้เพื่อนผม2คน คือพ.กับ บ. ไปช่วยอาจารย์เขาจัดบอร์ดที่ห้องพักครูที่ตึก4 เราเลยนัดกันว่า4โมงเย็นเจอกันที่ห้อง1313 นะ น.เตะบอลอยู่ข้างล่าง ส่วนผมก็เนลงไปซื้อขนมกินน้ำอยู่ข้างล่างกับเพื่อนอีกกลุ่มนึง
ห้อง1313 เป็นห้องเรียนที่ผมเรียนประจำครับ อยู่ตึก1 ซึ่งผมอยู่ห้อง6 ส่วนพ.กับ บ. อยู่ห้อง5 ห้องตรงข้ามกัน ที่เลือกห้อง 1313 ก็เพราะตัวเลขครับ ตามประสาเด็กแหล่ะ เลข13 ฝรั่งเขาถือว่าเป็นเลขแห่งความตาย ก็เลยเลือกห้องนี้ ขลังดี อีกทั้งห้องนี้มันมีลักษณะแปลกครับ คือห้องมันมีหลายเหลี่ยมมาก ด้วยความที่มันอยู่มุมตึก มีทั้งหมด6เหลี่ยมด้วยกัน ตามแผนผังที่ผมวาดไว้ครับ

พอใกล้เวลานัดผมเลยขึ้นมารอก่อนผมเดินขึ้นบันไดมา ตึกนี้เป็นตึกเก่าครับ ตอนนั้นเป็นเวลาเกือบ4โมงเย็นแล้วจะมีแค่อาจารย์บางท่านที่นั่งตรวจงานอยู่ในห้องพักครู บันไดนี้เป็นวนๆครับ แล้วบันไดนี้จะอยู่กลางตึกห้องที่ผมขึ้นไปคือชั้น3 พอเดินๆขึ้นไปก็เห็นห้องพักครูเลยเพราะอยู่ตรงหน้าบันได ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่ามีอาจารย์อยูในห้องด้วยหรือไม่ เพราะประตูปิดหมดแล้ว
ตอนนั้นเป็นช่วงโพลเพล้ด้วยมั้ง หน้าหนาวยิ่งมืดเร็ว ผมเดินขึ้นไปถึงขึ้นบนสุด หันไปด้านซ้าย กำลังจะก้าวไปที่ห้อง1313 ผมเห็นเด็กผู้ชาย ใส่ชุดนักเรียน หัวเกรียน สูงพอๆกัน แต่เห็นหน้าไม่ชัด เพราะข้างหลังเด็กคนนั้นเป็นบันไดอีกฝั่งของตึก(บันไดอยู่หน้าห้อง1313) แล้วด้านบนเป็นกระจกใสมีแสงส่องเข้ามา เลยทำให้ผมเห็นเป็นภาพย้อนแสง

เด็กคนนั้น ยืนควักมือเรียก ผมเห็นดังนั้นผมก็พูดขึ้นว่า “อ้าวมากันแล้วเหรอ” แล้วเด็กคนนั้นก็วิ่งเข้าไปทางประตู1 ผมเห็นดังนั้นผมก็รีบวิ่งตามเข้าไปเพราะคิดว่าเพื่อนมาถึงกันหมดแล้ว พอวิ่งไปถึงหน้าห้องพบว่าประตูปิดอยู่ ผมก็เลยเปิดประตู(เป็นประตู2บานพับ) พอเปิด แล้วเดินเข้าไปในห้อง สิ่งที่ผมเห็นคือความว่างเปล่า ไม่มีใครสักคนที่อยู่ในห้องผมรีบหันหลังเพราะคืดว่าเพื่อนแกล้งแล้ววิ่งออกไปทางประตู2 ผมเดินไป พบว่า ประตูปิดอยู่ล็อคไว้อย่างดี และกลอนก็อยู่ด้านใน ผมเริ่มตั้งสติ เดินไปเปิดหน้าต่างออก แล้วยืนดูคนเล่นตรงสนามข้างล่างสักพัก พูดตรงๆตอนนั้นค่อนข้างBLANKเลยครับ คิดอะไรไม่ค่อยออก พอเริ่มตั้งสติกลับมาคิดได้ก็เลยปิดหน้าต่างแต่ปิดไม่สนิท พอหันหลังปุ๊บ หน้าต่างนี่ปิดเองเลยครับ แล้วได้ยินเสียงกลอนมันลง ตอนนั้นพยายามคิดว่าลมๆๆๆๆ ลมพัด แล้วก็ก้ามออกจากห้องไปช้าๆทีละก้าวๆ แต่ด้วยความหลอน เพื่อนๆคงเคยเป็นเวลาเดินในตึกคนเดียวมันจะมีเสียงฝีเท้าที่ก้องทำให้เหมือนมีคนเดินตามเรามา ตอนนั้นผมใส่เกียร์หมา180วิ่งออกจากห้องลงตึกอย่างรวดเร็ว (ครั้งนี้วิ่งลงบันไดตรงมุมตึก)
พอถึงชั้น1 ผมเจอ พ.กับ บ. ซึ่งกำลังเดินมาพอดี แล้วพ.ก็เดินไปเรียกน.ที่สนามกีฬามา แต่ก็มีสมาชิกอีกคนตามมาด้วยคือ ส.พี่ชายแท้ๆของพ.(อยู่ม.3) ซึ่งเขาบอกว่าเขาอยากเล่นด้วย เราก็โอเคเลย คนยิ่งเยอะยิ่งอุ่นใจ (แต่ตอนนั้นผมยังไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย เก็บไว้คนเดียวกลัวเพื่อนกลัวแล้วจะไม่เล่น 5555)

พอถึงห้องพบว่าประตูปิดไว้ ซึ่งผมจำได้ว่าผมออกมาโดยที่ไม่ได้ปิดประตูนะ พอเข้าไปผมเดินไปเช็คตรงหน้าต่าง พบว่ากลอนมันลงไปในรู ตอนนั้นสารภาพว่าใจหวิวๆนะ พี่ชายของพ.เอากระดาษวางไว้ตรงริมห้องระหว่างประตู1กับ2 พอครั้งนี้มีสมาชิก5คนก็มีอีกคนที่เสียสละไม่ได้เล่น คนนั้นก็คือพ. เราจุดธูป แล้วท่องคาถา ตามที่เคยได้ยินมาในเดอะช็อค คือ พุธ โธ ถา ยะ ท่องคนละคำ จนครบ3รอบ

รอไปสักพักก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่แม้แต่ขยับ ผ่านไปเป็นครึ่งชั่วโมงเราเลยถอดใจว่า โอเคไม่เล่นละ แยกย้ายกันกลับ ระหว่างทางที่ทุกคนเดินกลับ สิ่งที่อยู่ในหัวผมตลอดเวลานั้นคือภาพของเด็กผู้ชายคนนั้น ภาพย้อนแสง ที่ผมยังจำติดตาได้มาจนถึงทุกวันนี้
จบPart1ครับ เดี๋ยวมีPart2มาต่อ
ประสบการณ์หลอน โรงเรียนชายล้วน เวลาโพล้เพล้
ขออนุญาติใส่ภาพประกอบเพื่อเพิ่มอรรถรส *ภาพประกอบทั้งหมดนี้นำมาจากอินเตอร์เนตนะครับ ไม่ใช่สถานที่จริงแต่มีลักษณะใกล้เคียง
วันต่อมาไปโรงเรียนตามปกติผมก็นำตารางผีเหรียญมาอวดเพื่อนๆ และทุกคนก็คอรเฟิร์มว่าเย็นนี้เล่นแน่ๆ สมัยนั้นเลิกเรียนประมาณบ่าย3โมง พอคาบสุดท้ายเป็นวิชาภาษาอังกฤษ ช่วงนั้นเป็นช่วงเทศกาลคริสมาสตร์ปีใหม่ก็จะมีการจัดบอร์ด อาจารย์ประจำวิชาบอกให้เพื่อนผม2คน คือพ.กับ บ. ไปช่วยอาจารย์เขาจัดบอร์ดที่ห้องพักครูที่ตึก4 เราเลยนัดกันว่า4โมงเย็นเจอกันที่ห้อง1313 นะ น.เตะบอลอยู่ข้างล่าง ส่วนผมก็เนลงไปซื้อขนมกินน้ำอยู่ข้างล่างกับเพื่อนอีกกลุ่มนึง
ห้อง1313 เป็นห้องเรียนที่ผมเรียนประจำครับ อยู่ตึก1 ซึ่งผมอยู่ห้อง6 ส่วนพ.กับ บ. อยู่ห้อง5 ห้องตรงข้ามกัน ที่เลือกห้อง 1313 ก็เพราะตัวเลขครับ ตามประสาเด็กแหล่ะ เลข13 ฝรั่งเขาถือว่าเป็นเลขแห่งความตาย ก็เลยเลือกห้องนี้ ขลังดี อีกทั้งห้องนี้มันมีลักษณะแปลกครับ คือห้องมันมีหลายเหลี่ยมมาก ด้วยความที่มันอยู่มุมตึก มีทั้งหมด6เหลี่ยมด้วยกัน ตามแผนผังที่ผมวาดไว้ครับ
พอใกล้เวลานัดผมเลยขึ้นมารอก่อนผมเดินขึ้นบันไดมา ตึกนี้เป็นตึกเก่าครับ ตอนนั้นเป็นเวลาเกือบ4โมงเย็นแล้วจะมีแค่อาจารย์บางท่านที่นั่งตรวจงานอยู่ในห้องพักครู บันไดนี้เป็นวนๆครับ แล้วบันไดนี้จะอยู่กลางตึกห้องที่ผมขึ้นไปคือชั้น3 พอเดินๆขึ้นไปก็เห็นห้องพักครูเลยเพราะอยู่ตรงหน้าบันได ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่ามีอาจารย์อยูในห้องด้วยหรือไม่ เพราะประตูปิดหมดแล้ว
ตอนนั้นเป็นช่วงโพลเพล้ด้วยมั้ง หน้าหนาวยิ่งมืดเร็ว ผมเดินขึ้นไปถึงขึ้นบนสุด หันไปด้านซ้าย กำลังจะก้าวไปที่ห้อง1313 ผมเห็นเด็กผู้ชาย ใส่ชุดนักเรียน หัวเกรียน สูงพอๆกัน แต่เห็นหน้าไม่ชัด เพราะข้างหลังเด็กคนนั้นเป็นบันไดอีกฝั่งของตึก(บันไดอยู่หน้าห้อง1313) แล้วด้านบนเป็นกระจกใสมีแสงส่องเข้ามา เลยทำให้ผมเห็นเป็นภาพย้อนแสง
เด็กคนนั้น ยืนควักมือเรียก ผมเห็นดังนั้นผมก็พูดขึ้นว่า “อ้าวมากันแล้วเหรอ” แล้วเด็กคนนั้นก็วิ่งเข้าไปทางประตู1 ผมเห็นดังนั้นผมก็รีบวิ่งตามเข้าไปเพราะคิดว่าเพื่อนมาถึงกันหมดแล้ว พอวิ่งไปถึงหน้าห้องพบว่าประตูปิดอยู่ ผมก็เลยเปิดประตู(เป็นประตู2บานพับ) พอเปิด แล้วเดินเข้าไปในห้อง สิ่งที่ผมเห็นคือความว่างเปล่า ไม่มีใครสักคนที่อยู่ในห้องผมรีบหันหลังเพราะคืดว่าเพื่อนแกล้งแล้ววิ่งออกไปทางประตู2 ผมเดินไป พบว่า ประตูปิดอยู่ล็อคไว้อย่างดี และกลอนก็อยู่ด้านใน ผมเริ่มตั้งสติ เดินไปเปิดหน้าต่างออก แล้วยืนดูคนเล่นตรงสนามข้างล่างสักพัก พูดตรงๆตอนนั้นค่อนข้างBLANKเลยครับ คิดอะไรไม่ค่อยออก พอเริ่มตั้งสติกลับมาคิดได้ก็เลยปิดหน้าต่างแต่ปิดไม่สนิท พอหันหลังปุ๊บ หน้าต่างนี่ปิดเองเลยครับ แล้วได้ยินเสียงกลอนมันลง ตอนนั้นพยายามคิดว่าลมๆๆๆๆ ลมพัด แล้วก็ก้ามออกจากห้องไปช้าๆทีละก้าวๆ แต่ด้วยความหลอน เพื่อนๆคงเคยเป็นเวลาเดินในตึกคนเดียวมันจะมีเสียงฝีเท้าที่ก้องทำให้เหมือนมีคนเดินตามเรามา ตอนนั้นผมใส่เกียร์หมา180วิ่งออกจากห้องลงตึกอย่างรวดเร็ว (ครั้งนี้วิ่งลงบันไดตรงมุมตึก)
พอถึงชั้น1 ผมเจอ พ.กับ บ. ซึ่งกำลังเดินมาพอดี แล้วพ.ก็เดินไปเรียกน.ที่สนามกีฬามา แต่ก็มีสมาชิกอีกคนตามมาด้วยคือ ส.พี่ชายแท้ๆของพ.(อยู่ม.3) ซึ่งเขาบอกว่าเขาอยากเล่นด้วย เราก็โอเคเลย คนยิ่งเยอะยิ่งอุ่นใจ (แต่ตอนนั้นผมยังไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย เก็บไว้คนเดียวกลัวเพื่อนกลัวแล้วจะไม่เล่น 5555)
พอถึงห้องพบว่าประตูปิดไว้ ซึ่งผมจำได้ว่าผมออกมาโดยที่ไม่ได้ปิดประตูนะ พอเข้าไปผมเดินไปเช็คตรงหน้าต่าง พบว่ากลอนมันลงไปในรู ตอนนั้นสารภาพว่าใจหวิวๆนะ พี่ชายของพ.เอากระดาษวางไว้ตรงริมห้องระหว่างประตู1กับ2 พอครั้งนี้มีสมาชิก5คนก็มีอีกคนที่เสียสละไม่ได้เล่น คนนั้นก็คือพ. เราจุดธูป แล้วท่องคาถา ตามที่เคยได้ยินมาในเดอะช็อค คือ พุธ โธ ถา ยะ ท่องคนละคำ จนครบ3รอบ
รอไปสักพักก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่แม้แต่ขยับ ผ่านไปเป็นครึ่งชั่วโมงเราเลยถอดใจว่า โอเคไม่เล่นละ แยกย้ายกันกลับ ระหว่างทางที่ทุกคนเดินกลับ สิ่งที่อยู่ในหัวผมตลอดเวลานั้นคือภาพของเด็กผู้ชายคนนั้น ภาพย้อนแสง ที่ผมยังจำติดตาได้มาจนถึงทุกวันนี้
จบPart1ครับ เดี๋ยวมีPart2มาต่อ