เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่า และเรื่องที่เรากับกลุ่มเพื่อนสนิทได้พบเจอกันมาค่ะ ต้องเล่าเลยว่าเรื่องผีที่จะเล่ามีทั้งที่มาจากปากของครูและประสบการณ์ของเรากับเพื่อนค่ะ โรงเรียนนี้ตั้งอยู่ในตัวเมืองและอยู่มานานมาก(ไม่ได้สร้างทับสุสานเด้อบอกไว้ก่อน) โดยที่โรงเรียนนี้เคยมีแค่ตึกเดียวมาก่อนเป็นตึกไม้และน้องผีทั้งหลายจะไปรวมตัวกันที่นั่น เพื่อแกล้งนักเรียนที่เรียนช่วงค่ำหรือคุณครูที่ต้องกลับบ้านค่ำค่ะ แต่ด้วยความเก่าของอาคาร(ที่ทำจากไม้) จึงได้มีการสร้างตึกใหม่ 4 ตึกและทุบตึกเก่านี้ไป แต่คุณครูทุกท่านก็ยังคงเรียกตึกที่ถูกทุบไปว่าตึก 2 ทั้งที่ในปัจจุบันนี้ตึกที่ว่ากลายเป็นลานหน้าเสาธงไปแล้วค่ะ
ทีนี้จะมาพูดถึงระบบผีในโรงเรียนค่ะ ต้องเล่าก่อนว่าที่โรงเรียนจะมีอาถรรย์ที่จะต้องมีคนตายทุกปีค่ะ ไม่ว่าสาเหตุใดก็ตาม
ขอเริ่มจากตึก 4 ก่อนเลยค่ะกับผีนางรำประจำห้องน้ำชั้น 4 ฝั่งซ้ายมือซึ่งจะอยู่ตรงบันไดระหว่างชั้น 4 กับ 5 ค่ะ โดยเรื่องมีอยู่ว่ามีนักเรียนหญิงคนนึงเธอนั่งรถเมย์มาไกลจากบ้านของเธอดังนั้นเธอจึงมาถึงโรงเรียน ช่วงประมาณตี 5 ค่ะ(จะบอกว่ามาช่วยยามเปิดประตูก็ได้ค่ะ เช้าเกิ๊น!) โดยนักเรียนหญิงคนนี้เธอเกิดปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำค่ะ จึงไปขอภารโรงที่กำลังเปิดประตูเข้าตึกเรียนเพื่อเข้าห้องน้ำ ซึ่งในเวลานั้นห้องน้ำที่อยู่ชั้น 2 มันเสียอยู่ค่ะก็เลยทำให้นักเรียนคนนี้ต้องไปใช้ห้องน้ำชั้น 4 ที่ว่าค่ะ(และช่วยภารโรงเปิดไฟในตึกด้วยน่ารักสุด) ในจังหวะที่กำลังขึ้นบันไดอยู่นั้นเธอก็ได้ยินเสียงดนตรีไทยค่ะ และตึกนี้ไม่มีห้องดนตรีเลยค่ะ เธอเลยค่อยๆ เดินไปที่หน้าห้องน้ำค่ะ พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นภาพสะท้อนจากกระจก(ขออธิบายเพิ่มเติมนะคะ กระจกห้องน้ำของโรงเรียนนี้เป็นแบบยาวต่อเนื่องกันค่ะ) ภาพที่สะท้อนจากกระจกนั้นมีผู้หญิงใส่ชุดไทยกำลังรำไทยอยู่ในห้องน้ำค่ะ เมื่อเห็นดังนั้นแล้วก็ต้องรีบหนีลงมาชั้นล่างเพื่อไปหาภารโรง(ไม่ชงไม่ฉี่แล้ว) หลังจากเรื่องนั้นก็ผ่านมาหลายปีจนมาถึงรุ่นเราและเพื่อนเราคนนึงในกลุ่มก็ได้เจอผีตัวนี้ค่ะ คือตอนนั้นเรากับเพื่อนพึ่งจะเลิกคลาสเรียนกันไป และกำลังจะลงบันไดจากชั้น 6 ของตึกนี้เพื่อไปชั้นต่อไป แต่เพื่อนเรารู้สึกแปลกๆ เลยมองลงไปทางช่องบันได แต่ก็ไม่เจออะไร ทีนี้กลุ่มเราก็เดินกันลงมาปกติค่ะจนมาถึงชั้น 2 ได้ เพื่อนเราคนเดิมยังไม่หายข้องใจเลยหันกลับไปมองย้อนขึ้นข้างบนทางช่องบันได ทีนี้แหละค่ะ! ตาสองตาจ๊ะเอ๋กันพอดีเลย ทีนี้มันก็บอกเราเลยค่ะ "กูเจอผี!" รออะไรละคะก็วิ่งสับตีนแตกลงบันไดเลยค่ะ และมีบางครั้งที่เรากับกลุ่มเพื่อนมานั่งเล่นที่ชั้น 4 ของตึกนี้เพื่อรอเรียนคาบต่อไปหรือหาห้องว่างในคาบว่างก็จะมานั่งกันอยู่ที่ห้องเรียนที่ตั้งอยู่ริมสุดของตึก(และ

ใกล้ห้องน้ำต้นเหตุด้วย) ไม่รู้อะไรดลใจนางนะคะถึงได้มากระแทกโต๊ะเล่นกลางวันแสกๆ เล่นเอาเรากับเพื่อนสะดุ้งทั้งกลุ่มเลยค่ะ และก็พากันวิ่งออกไปนอกห้องเพื่อตั้งสติก่อนที่จะกลับไปนั่งที่เดิมกันต่อ ไม่ใช่อะไรนะ เหนื่อย! ขี้เกียจวิ่งหนีแค่อยากหาที่นั่งเล่นชิลๆ ค่า!!
ต่อมาคือตึก 5 ค่ะตึกนี้จะพีคกว่าหน่อยคือผีจะแบ่งโซนของตัวเองอย่างชัดเจนค่ะ แบบตัวนี้อยู่ชั้น 1 นะ ตัวนี้อยู่ชั้น ส่วนอีกตัวอยู่ชั้น 3 นะ เป็นระบบกันไปค่ะ อย่างผีชั้น 1 ของตึกนี้ดุมากชอบย้ายของบ่อยมากและชอบหาตัวตายตัวแทนทุกปี(เองสินะที่เป็นต้นเหตุ! อีผี!) ซึ่งเป็นผีที่เลี่ยงไม่เรียนชั้นนี้ได้ก็อยากเลี่ยงค่ะ ชอบโผล่มาให้เพื่อนคนที่มองเห็นผีได้ตกใจเล่นบ่อยค่ะ ส่วนผีชั้น 3 นานๆ จะโผล่มาสักทีเลยค่อนข้างไร้ตัวตนเพราะน้องไม่ค่อยหลอกใครค่ะ แค่เดินเป็นเงาๆ ให้เห็นบ้างเท่านั้น(น่าสงสารเหมือนกันนะ)
และก็มาถึงตัวตึงของเรากันค่ะ! น้องผีประจำชั้น 2 นั่นเอง! น้องเป็นกุมารทองประจำห้องสมุดที่ตั้งอยู่ชั้น 2 ค่ะ น้องมีนิสัยขี้แกล้งค่ะ แกล้งแมร่งทุกคนยกเว้นคุณครูที่อยู่ประจำในห้องสมุดค่ะ เริ่มจากครูสอนประวัติศาสตร์ก่อนเลยวันนั้นช่วง 6 โมงเย็นแกพึ่งจะเลิกสอนและเก็บของเสร็จแกก็เดินลงบันไดตามปกติค่ะ พร้อมกับฮัมเพลงที่แกชอบ เพลงกรุณาฟังให้จบค่ะ 55555+ ครูแกกำลังร้องท่อนแร็ปเลยค่ะ จังหวะที่กำลังลงจากชั้น 2 อยู่นั้นก็มีเสียงคอรัส มาร่วมร้องแจมด้วยค่ะ ครูแกก็งงเพราะแถวนี้ไม่มีใครแต่พอมองไปทางห้องสมุดแกก็ อ๋อ! แล้วรีบเดินลงบันได้ให้เร็วลงหน่อยแต่ยังไม่หยุดร้องค่ะ 55555+
ต่อมาค่ะ อันนี้เพื่อนในห้องเราเขาไปถ่ายคลิปในห้องสมุดตอนเย็นแล้วถ่ายติดน้องค่ะ ทีนี้เลยลือกันไปอยู่ช่วงนึงเลยค่ะ อันนี้ยังไม่พีคค่ะยังไม่พีค
พีคที่สุดคือเรื่องสุดท้ายของน้องค่ะ กาลครั้งหนึ่งมีคู่รักนักเรียนวัยกลัดมันมาถึงโรงเรียนแต่เช้ามืดซึ่งเป็นช่วงหลังจากที่ภาคโรงเปิดตึกแล้ว ได้นึกสนุกอยากไปเล่นจ้ำจี้กันที่ห้องซาวด์แลปชั้น 3 ค่ะ อย่างที่เล่าไปชั้นนี้มีผีที่น่าสงสารอยู่ก็ไม่รู้อะไรยังไงนะคะ แต่น้องกุมารค่ะแกไปเร่งเสียงซาวเอคโค่ของการ อื้!! ให้ภารโรงที่อยู่ชั้น 1 ได้ยินทีนี้ภารโรงก็เลยต้องไปตรวจที่ต้นต่อของเสียงค่ะ และเมื่อส่องไฟฉายไปในห้องซาวด์แลปเท่านั้นแหละค่า! ผ่ามผาม! กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลยค่ะ ภารโรงก็กรี้ดด้วยความตกใจ ใจแรกก็คิดว่าผีแต่เปล่าเป็นนักเรียนที่มาจ้ำจี้กัน และก็ได้ทำการไล่นักเรียนทั้งสองให้ออกไปจากห้องนี้ แน่นอนว่าเรื่องนี้ลือไปทั้งโรงเรียนเลยค่ะ ยังไม่นับที่เพื่อนเราคนเดิมได้ยินเสียงน้องหัวเราะอยู่บ่อยๆนะคะ
หลังจากเราจบมาหลายปีอยากกลับไปดูน้องอยู่เหมือนกันนะคะว่าตอนนี้น้องกุมารเป็นยังไงบ้างเราว่าน้องน่ารักดีค่ะ โรงเรียนไหนมีผีฮาๆ มาเล่าสู่กันฟังได้ค่ะ
ระบบผีในโรงเรียนกับน้องกุมารทอง
ต่อมาคือตึก 5 ค่ะตึกนี้จะพีคกว่าหน่อยคือผีจะแบ่งโซนของตัวเองอย่างชัดเจนค่ะ แบบตัวนี้อยู่ชั้น 1 นะ ตัวนี้อยู่ชั้น ส่วนอีกตัวอยู่ชั้น 3 นะ เป็นระบบกันไปค่ะ อย่างผีชั้น 1 ของตึกนี้ดุมากชอบย้ายของบ่อยมากและชอบหาตัวตายตัวแทนทุกปี(เองสินะที่เป็นต้นเหตุ! อีผี!) ซึ่งเป็นผีที่เลี่ยงไม่เรียนชั้นนี้ได้ก็อยากเลี่ยงค่ะ ชอบโผล่มาให้เพื่อนคนที่มองเห็นผีได้ตกใจเล่นบ่อยค่ะ ส่วนผีชั้น 3 นานๆ จะโผล่มาสักทีเลยค่อนข้างไร้ตัวตนเพราะน้องไม่ค่อยหลอกใครค่ะ แค่เดินเป็นเงาๆ ให้เห็นบ้างเท่านั้น(น่าสงสารเหมือนกันนะ)
และก็มาถึงตัวตึงของเรากันค่ะ! น้องผีประจำชั้น 2 นั่นเอง! น้องเป็นกุมารทองประจำห้องสมุดที่ตั้งอยู่ชั้น 2 ค่ะ น้องมีนิสัยขี้แกล้งค่ะ แกล้งแมร่งทุกคนยกเว้นคุณครูที่อยู่ประจำในห้องสมุดค่ะ เริ่มจากครูสอนประวัติศาสตร์ก่อนเลยวันนั้นช่วง 6 โมงเย็นแกพึ่งจะเลิกสอนและเก็บของเสร็จแกก็เดินลงบันไดตามปกติค่ะ พร้อมกับฮัมเพลงที่แกชอบ เพลงกรุณาฟังให้จบค่ะ 55555+ ครูแกกำลังร้องท่อนแร็ปเลยค่ะ จังหวะที่กำลังลงจากชั้น 2 อยู่นั้นก็มีเสียงคอรัส มาร่วมร้องแจมด้วยค่ะ ครูแกก็งงเพราะแถวนี้ไม่มีใครแต่พอมองไปทางห้องสมุดแกก็ อ๋อ! แล้วรีบเดินลงบันได้ให้เร็วลงหน่อยแต่ยังไม่หยุดร้องค่ะ 55555+
ต่อมาค่ะ อันนี้เพื่อนในห้องเราเขาไปถ่ายคลิปในห้องสมุดตอนเย็นแล้วถ่ายติดน้องค่ะ ทีนี้เลยลือกันไปอยู่ช่วงนึงเลยค่ะ อันนี้ยังไม่พีคค่ะยังไม่พีค
พีคที่สุดคือเรื่องสุดท้ายของน้องค่ะ กาลครั้งหนึ่งมีคู่รักนักเรียนวัยกลัดมันมาถึงโรงเรียนแต่เช้ามืดซึ่งเป็นช่วงหลังจากที่ภาคโรงเปิดตึกแล้ว ได้นึกสนุกอยากไปเล่นจ้ำจี้กันที่ห้องซาวด์แลปชั้น 3 ค่ะ อย่างที่เล่าไปชั้นนี้มีผีที่น่าสงสารอยู่ก็ไม่รู้อะไรยังไงนะคะ แต่น้องกุมารค่ะแกไปเร่งเสียงซาวเอคโค่ของการ อื้!! ให้ภารโรงที่อยู่ชั้น 1 ได้ยินทีนี้ภารโรงก็เลยต้องไปตรวจที่ต้นต่อของเสียงค่ะ และเมื่อส่องไฟฉายไปในห้องซาวด์แลปเท่านั้นแหละค่า! ผ่ามผาม! กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลยค่ะ ภารโรงก็กรี้ดด้วยความตกใจ ใจแรกก็คิดว่าผีแต่เปล่าเป็นนักเรียนที่มาจ้ำจี้กัน และก็ได้ทำการไล่นักเรียนทั้งสองให้ออกไปจากห้องนี้ แน่นอนว่าเรื่องนี้ลือไปทั้งโรงเรียนเลยค่ะ ยังไม่นับที่เพื่อนเราคนเดิมได้ยินเสียงน้องหัวเราะอยู่บ่อยๆนะคะ
หลังจากเราจบมาหลายปีอยากกลับไปดูน้องอยู่เหมือนกันนะคะว่าตอนนี้น้องกุมารเป็นยังไงบ้างเราว่าน้องน่ารักดีค่ะ โรงเรียนไหนมีผีฮาๆ มาเล่าสู่กันฟังได้ค่ะ